NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1193 หยางฉงรู้ความจริง

บทที่ 1193 หยางฉงรู้ความจริง

ต่อให้ ไท่ซางกล่าวเสียงแผ่วมากแค่ไหน แต่หยางฉงก็ได้ยินอยู่ดี ไม้ปัดขนไก่ร่วงลงกับพื้น ยืนนิ่งอยู่กับที่

“โอ๊ย! พี่สะใภ้ เมื่อกี้ผมพูดผิด ลูกพี่ใหญ่เขาไปทำภารกิจจริงๆ พี่อย่าคิดมากเลย! ลูกพี่ใหญ่เขารักพี่มาก จะไปมีคนอื่นได้ยังไง”

ไท่ซางที่รู้ตัวว่าหลุดปากไปแทบจะตบบ้องหูตนเอง รีบแก้ตัวกับหยางฉง แต่หยางฉงเองก็ไม่ได้โง่ บางครั้งคำพูดที่ไม่ได้เจตนานี่แหละจริงที่สุด

เมื่อเธอนึกถึงหลี่ฝางตอนนี้อยู่กับผู้หญิงอื่น หัวใจของเธอบีบรัดแน่นอย่างเจ็บปวด น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่สนใจไท่ซางที่ถูกมัดกับเก้าอี้ พลางร้องไห้วิ่งออกไป

ไท่ซางอยากจะไล่ตามไป แต่กลับไม่สามารถขยับได้ เมื่อเขาออกจากการพันธนาการได้ หยางฉงก็ได้รับรถของตนเองออกไปแล้ว

“ให้ตาย ทำไมฉันถึงห้ามปากตัวเองไม่อยู่กัน!” ไท่ซางทุบกำปั้นกับกำแพงของตระกูลหยาง ผนังของสวนพลันถล่มลง

คนของตระกูลหยางต่างตกใจจนไม่กล้าร้องสักแอะ ยืนตัวสั่นเทาที่มุม บทสนทนาของหยางฉงและไท่ซางพวกเขาไม่ได้อยู่แต่อย่างใด รู้เพียงคุณหนูของพวกเขาร้องไห้วิ่งออกมา หลังจากนั้นปรมาจารย์ฉินก็ออกไปอย่างอารมณ์เสีย

คนใช้จนต้องรีบเรียกลุงสามของหยางฉงอย่างหยางเทียนลี่ หากไท่ซางทำแบบนี้ต่อไป ไม่นาน ตึกเก่าของตระกูลหยางก็จะกลายเป็นเศษซาก

“ฉิน ปรมาจารย์ฉิน ท่าน ท่านใจเย็นก่อน หยางฉงถูกคุณปู่ตามใจตั้งแต่เด็ก เอาแต่ใจตัวเอง ท่านใจกว้างอย่าไปถือสาเธอเลยนะ รอเธอกลับมา ผมจะสั่งสอนเธอเอง! ผมจะมัดเธอบ้าง แล้วแต่ปรมาจาย์ฉินจัดการเลย!”

หยางเทียนลี่เพิ่งเจรจาเซ็นสัญญาหนึ่งได้ กลับมาถึงบ้านยังนั่งไม่เท่าไหร่ ก็มีคนมารายงาน บอกว่าหยางฉงกลับมาก็จับปรมาจารย์ฉินมัดเอาไว้ไต่สวน ตอนนี้ปรมาจารย์ฉินโมโหหนัก

ทำให้หยางเทียนลี่โมโหอย่างมาก พลางก่นด่าหยางฉงในใจ หยางเอาอกเอาใจ ไท่ซางไปด้วย

นางบ้าหยางฉง คิดว่ามีหลี่ฝางเอื้อหนุนแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นหรือ ไม่ว่ายังไงไท่ซางก็เป็นถึงระดับปรมาจารย์ เพียงขยับนิ้วนิดเดียวก็ทำลายตระกูลหยางได้ แต่กลับกล้าไปหาเรื่องเขา! ยัยโง่ไร้สมองชะมัด!

“คุณพูดอะไรอยู่? นั่นพี่สะใภ้ผมนะ แกกล้าสั่งสอนเธองั้นหรือ? สมองแกน้ำเข้าใช่ไหม!”

หยางเทียนลี่กำลังด่าหยางฉงในใจอย่างโมโห ประโยคของ ไท่ซางทำให้เขางงเป็นไก่ตาแตก

หากไม่ใช่เพราะความสามารถไม่ถึง เขาต้องไปลูปหน้าผากไท่ซางแน่ ดูว่าเขาเป็นไข้ใช่ไหม หยางฉงจับเขามัดเอาไว้ แต่ ไท่ซางกลับแก้ตัวให้เธอ?

“พวกแกจะยืนนิ่งอยู่ทำไม? รีบไปตามพี่สะใภ้ผมกลับมาซะสิ! ถ้าพี่สะใภ้ผมเป็นอะไรไป ผมจะเอาชีวิตพวกคุณ!”

เมื่อเห็นคนของตระกูลหยางยืนมองเขาอยู่ในสวน ไท่ซางโมโหหนักกว่าเก่า พลันถีบชายฉกรรจ์ที่อยู่ใกล้กับเขาเต็มแรง

เหล่าที่ที่ถูกถีบต่างไม่กล้าพูดสักแอะ ได้แต่รีบออกไปหาตัวหยางฉง

เมื่อหยางฉงขับรถออกมาจากตระกูลหยาง เธอมาที่บ้านของหวางซีเหยา

“เสี่ยวฉง! เธอเป็นอะไร? ทำไมถึงได้ร้องไห้? ใครทำเธอร้องไห้ เธอบอกฉันมา ฉันจะไปสั่งสอนมัน!”

เมื่อหวางซีเหยาเปิดประตู หยางฉงก็โถมเข้าอ้อมกอดของเธอ หยางฉงที่กอดเธอร้องไห้หอบอย่างหนัก หวางซีเหยากล่าวอย่างร้อนรน

ตอนนี้หยางฉงร้องไห้อย่างอนาถ พูดไม่รู้เรื่อง เมื่อเห็นเธอเสียใจขนาดนี้ หวางซีเหยาเองก็ไม่รู้ว่าควรที่จะทำยังไงดี ได้แต่ลูปหลังของเธออย่างแผ่วเบา ช่วยให้เธอหายใจได้คล่องขึ้น

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หยางฉงถึงได้หยุดร้องไห้ เมื่อจ้องมองหยางฉงที่จมูกดวงตาบวมแดง หวางซีเหยารู้สึกสงสารเธออย่างมาก

“เสี่ยวฉง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ไอ้หลี่ฝางนั่น ไปตายอยู่ที่ไหน เธอร้องไห้ขนาดนี้เขาก็ไม่สนใจงั้นหรือ?”

หวางซีเหยาเพียงแค่พูดถึงหลี่ฝางเท่านั้น ใครจะไปรู้เมื่อหยางฉงได้ยินชื่อนี้ น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วในคราแรกเกิดไหลเอ่อออกมาอีกครั้ง ถึงกระทั่งร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดมากกว่าเมื่อสักครู่นี้อีก

“เสี่ยวฉง เธอบอกความจริงฉันมา ไอ้หลี่ฝางหมอนั่นมันทำให้เธอเสียใจใช่ไหม? โมโหจะแย่! ไอ้บ้าหลี่ฝาง ก่อนหน้านี้สัญญาแล้วแท้ๆ บอกว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจ จะรักเธอ ดูแลเธอ เขาทำแบบนี้งั้นหรือ? ไม่ได้ ฉันต้องไปสั่งสอนเขาแทนเธอให้สาสม!”

เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอก็รู้ทันทีว่าใครเป็นสาเหตุที่ทำให้หยางฉงสะอื้นทันที เธอโมโหหนัก เธอโกรธพลันก่นด่าหลี่ฝาง พลางควักโทรศัพท์ออกมาติดต่อหาหลี่ฝาง

“เหยาเหยา ไม่ต้องโทรหรอก เขา เขาไม่รับหรอก หือหือ……เขา เขาไม่สนใจฉันมาครึ่งเดือนแล้ว”

เมื่อหยางฉงเห็นว่าหวางซีเหยาจะโทรหาหลี่ฝาง พลางสะอื้นพร้อมกล่าวบอก

“อะไรนะ? เขาไม่สนใจเธอมาครึ่งเดือนแล้วงั้นหรือ? หลี่ฝางนี่! ฉันจะอัดเขาให้ตายไปเลย!” หวางซีเหยาที่โกรธมากอยู่แล้วเมื่อได้ยินประโยคของหยางฉงระเบิดลงทันที ไม่แยแสการหักห้ามของเธอ โทรหาหลี่ฝาง

แต่เธอโทรอยู่สามสี่ครั้ง ก็ไม่มีคนรับสาย คราวนี้กระตุ้นหวางซีเหยาเข้าให้เต็มๆ ติดต่อหาหลี่ฝางครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับจะมีเรื่องกับหลี่ฝาง

“เหยาเหยา เธอ เธอไม่ต้องโทรแล้ว เขา เขาไม่เอาฉันแล้ว ไม่ต้องโทรแล้ว” ทีแรกหยางฉงยังพอมีหวังบ้าง ไม่แน่หลี่ฝางอาจจะรับสายของหวางซีเหยา แต่หวางซีเหยาโทรตั้งเจ็ดแปดสาย แต่ก็โทรไม่ติด เธอตายใจกับหลี่ฝางโดยสิ้นเชิง

“โทสิ! ทำไมถึงจะไม่โทรละ! แน่ใจไอ้หมอนี่ไม่ต้องรับโทรศัพท์ไปตลอดชีวิตสิ!”

หวางซีเหยาไม่ใช่คนที่จะยอมง่ายๆ วันนี้ต่อให้เธอโทรจนแบตหมด เธอก็ต้องรอให้หลี่ฝางรับสายให้ได้

จบประโยค โทรศัพท์เกิดโทรติดขึ้นมาอย่างประหลาด ไม่รอให้ฝ่ายตรงข้ามได้พูดอะไร หวางซีเหยาก็ก่นด่าเข้าให้เต็มประดา

“หลี่ฝางไอ้สารเลว แกทำอะไรให้เสี่ยวฉงร้องไห้กันแน่? ถ้าวันนี้แกไม่อธิบายให้รู้เรื่อง ฉันไม่จบแน่!”

หงส์แดงที่รับสายเมื่อได้ยินประโยคของหวางซีเหยาไร้คำพูด หลี่ฝางก่อนที่จะเข้าไปในซากปรักหักพังลึกลับ เขาทิ้งโทรศัพท์ข้าวของเอาไว้ด้านนอก ให้พวกหงส์แดงช่วยดู หากมีคนมีเรื่องด่วนหาเขา ก็ให้พวกเขาช่วยรับสาย

อันที่จริงสายที่ชื่อว่าหวางซีเหยาเธอตัดสินใจที่จะไม่รับสาย แต่อีกฝ่ายโทรอยู่อย่างนั้น หงส์แดงได้แต่รับสายอย่างไร้หนทาง แต่ใครจะไปรู้ไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกก่นด่าเสียก่อน

“คุณผู้หญิง คุณด่าผิดคนแล้ว ฉันไม่ใช่หลี่ฝาง ตอนนี้เขามีธุระรับสายไม่ได้ รอเขากลับมาฉันจะให้เขาติดต่อกลับไปโอเคไหม?”

หงส์แดงที่ถูกด่าไม่สบอารมณ์นัก แต่เพราะมารยาทเธอก็ยังอธิบายกับหวางซีเหยาไปอย่างดี

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท