NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1201 การยอมรับของหลี่ต๋าคาง

บทที่ 1201 การยอมรับของหลี่ต๋าคาง

มองดูภาพอัลตราซาวด์ที่เมี๋ยวชุ่ยถือในมือแผ่นนั้น หลี่ต๋าคางพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ทารกพึ่งจะเป็นรูปร่าง มีขนาดเท่ากำปั้นเอง เธอดูออกได้อย่างไรว่าเหมือนหลี่ฝางมาก?

“เหอะ ๆ สมกับที่ภรรยาฉันจริง ๆ ตาดีไม่เบา เล็กขนาดนี้ยังสามารถดูออกว่าเหมือนใคร” ถึงแม้หลี่ต๋าคางจะแอบแขวะอยู่ในใจ แต่กลับไม่กล้าพูดออกมา แถมยังต้องทำเป็นยิ้มยกยอเมี๋ยวชุ่ยอีก

หยางฉงมองดูท่าทางรักใคร่กันของว่าที่คุณพ่อคุณแม่สามี ในแววตามีความอิจฉาปะปนอยู่

เมี๋ยวชุ่ยรู้ว่าหลี่ต๋าคางกำลังเอาอกเอาใจตัวเอง จึงอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใสเข่าด้วยความโมโห: “คุณนี่น่าเบื่อจริง ๆ ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว ลูกสะใภ้ ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันพาหนูไปเดินเล่นที่วิลล่าของเสี่ยวฝาง”

กล่าวจบ เมี๋ยวชุ่ยก็ดึงแขนของหยางฉงเตรียมจะออกไปข้างนอก แต่พึ่งจะเดินไปไม่กี่ก้าว จู่ ๆ เมี๋ยวชุ่ยก็เป็นลมล้มหน้ามืด และกำลังจะล้มลงไปบนพื้น ทำเอาหยางฉงตกใจไม่เบา รีบร้อนจะไปพยุงเมี๋ยวชุ่ย

มือของเธอยังไม่ทันจะสัมผัสถึงตัวเมี๋ยวชุ่ย หลี่ต๋าคางที่อยู่ด้านหลังก็ได้พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และรับเมี๋ยวชุ่ยเอาไว้ด้วยการอุ้มท่าเจ้าหญิง

“คุณลุงคะ คุณป้าเป็นอะไรไปเหรอคะ? พวกเราต้องไปโรงพยาบาลไหมคะ?” มองดูเมี๋ยวชุ่ยที่เป็นลไปอย่างกะทันหัน หยางฉงจึงเอ่ยถามอย่างร้อนรน

เมื่อเทียบกับความกระวนกระวายของเธอแล้ว พวกหลี่ต๋าคางและส้าวส้วยกลับดูสงบมาก ราวกับได้คุ้นชินกับเหตุการณ์ฉุกละหุกแบบนี้ไปแล้ว

หลี่ต๋าคางอุ้มเมี๋ยวชุ่ยขึ้นมาและวางลงไปบนโซฟา ไม่นานส้าวส้วยก็หยิบเอาผ้าห่มออกมาจากในห้องและยื่นใส่มือให้กับหลี่ต๋าคาง

“ไม่เป็นอะไรหรอก เธอแค่นอนหลับไป ให้เธอนอนหลับเงียบ ๆ สักตื่นก็ไม่เป็นไรแล้ว” หลี่ต๋าคางห่มผ้าห่มให้กับเมี๋ยวชุ่ยอย่างอ่อนโยน พลางกล่าวอธิบาย

“เอ่อ……คุณลุงคะ คุณป้าท่านไม่สบายเหรอคะ?” ต่อให้หลี่ต๋าคางบอกว่าเมี๋ยวชุ่ยไม่เป็นอะไร แต่ภายในใจของหยางฉงนั้นก็ยังคงเป็นห่วงอยู่เหมือนเดิม

คุณแม่ของหลี่ฝางคงไม่ได้เป็นโรคนอนเกินหรอกนะ? ถึงแม้โรคแบบนี้จะพบได้น้อย แต่อาการไม่ต่างจากเมี๋ยวชุ่ยนัก ผู้ป่วยจะผล็อยหลับไปอย่างกะทันหัน

“ก็ไม่นับว่าป่วยหรอก เมื่อก่อนมีอยู่ครั้งหนึ่งพวกเราได้ออกไปปฏิบัติภารกิจด้วยกัน เสี่ยวชุ่ยได้รับบาดเจ็บหนัก พึ่งจะพื้นขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้เอง นับจากนั้นเป็นต้นมา เธอก็จะหลับไปอย่างไปเป็นเวลา ฉันเคยให้คนตรวจร่างกายให้เธอ แต่ว่าแม้แต่หมอเองก็บอกสามเหตุไม่ได้ นานวันเข้าพวกเราก็ชินไปแล้ว”

เดิมทีภารกิจกลับไปที่ซากปรักหักพังลึกลับในครั้งนี้ หลี่ต๋าคางเองก็ต้องไปด้วย แต่ตอนนั้นเมี๋ยวซุ่ยพึ่งจะฟื้นขึ้นมา สภาพร่างกายยังไม่คงที่ ดังนั้นหลี่ต๋าคางถึงได้ปฏิเสธผู้อาวุโสใหญ่ไป และอยู่เป็นเพื่อนเมี๋ยวชุ่ยพักฟื้นร่างกายที่เมืองตงไห่

“พวกคุณลุงเองก็เป็นนักรบเหรอคะ?” หยางฉงมองหลี่ต๋าคางด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เธอรู้เรื่องของหลี่ฝางน้อยมากจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานะลูกหลานคนรวยของเขา หรือจุดที่ว่าเขาเกิดในตระกูลนักรบ หยางฉงต่างก็ไม่ทราบเลยสักเรื่อง

“ครอบครัวของเราไม่ชอบทำตัวเป็นจุดเด่น เวลาอยู่ข้างนอกก็ไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดา เธอไม่รู้ก็ไม่เป็นไรหรอก” หลี่ต๋าคางมองความหดหู่ในดวงตาหยางฉงออก จึงกล่าวปลอบใจอย่างเงียบ ๆ

“คุณลุงคะ ในเมื่อพี่หเหตุการณ์ฝางยังไม่กลับมา งั้นฉันก็ไม่รบกวนคุณลุงคุณป้าแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวฉันไปหาพักที่โรงแรมในตัวเมือง รอพี่หลี่ฝางกลับมา ฉันค่อยมาคุยกับเขา”

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหยางฉงคิดมากไปเองหรือว่ายังไง เธอมักรู้สึกว่าเธอเป็นส่วนเกินของที่นี่

เธอรู้สึกแม้กระทั่งว่าเธอตัดสินใจผิดไปที่มาหาหลี่ฝางที่ตงไห่ในครั้งนี้ ที่นี่นอกจากไท่ซางที่รู้จักเธอแล้ว คนอื่น ๆ ไม่รู้แม้แต่การมีตัวตนอยู่ของเธอด้วยซ้ำ

แฟนสาวของหลี่ฝางในสายตาของพวกเขานั้น ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนมีเพียงฉินวี่เฟย

“รอก่อน เสี่ยวฉง เธออย่าพึ่งรีบไป ลุงมีอะไรจะคุยกับเธอหน่อย” เมื่อเห็นเธอจะจากไป หลี่ต๋าคางรีบหยุดเธอไว้ทันที

พวกส้าวส้วยได้ถอยออกไปอย่างรู้ตัว แค่พริบตาเดียวในห้องรับแขกก็เหลือเพียงเมี๋ยวชุ่ย หลี่ต๋าคางและหยางฉงเพียงสามคน เดิมทีหวางซีเหยาไม่อยากจะออกไป แต่ถูกไท่ซางลากดึงออกไป

“เสี่ยวฉง ฉันคิดว่าเธอก็น่าจะรู้เรื่องของเสี่ยวฝางและวี่เฟย เสี่ยวฝางและวี่เฟยพวกเขาผ่านเรื่องราวมาด้วยกันมากมาย คิดจะแยกพวกเขาออกจากกันนั้นยากมาก เธอ……”

ความจริงแล้วสิ่งที่หลี่ต๋าคางอยากจะบอกกับหยางฉงนั้นคือ ถ้าหากเธออยากจะอยู่ด้วยกับหลี่ฝาง เกรงว่าค่อนข้างจะลำบาก แต่เขายังไม่ทันจะพูดจบ หยางฉงก็ได้ตัดบทไป แถมยังเข้าใจความหมายของหลี่ต๋าคางผิดไปอีกด้วย

“คุณลุงคะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น ที่ฉันมาตงไห่ในครั้งนี้ไม่ได้มีความหมายอื่น แล้วก็ไม่คิดจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพี่หลี่ฝางและฉินวี่เฟย ฉันก็แค่อยากได้คำตอบจากพี่หลี่ฝาง ต่อให้ต้องเลิกรากัน ก็ต้องพูดกับฉันให้ชัดเจน จากไปแบบไม่ชัดเจนแบบนี้ ฉันยอมรับมันไม่ได้จริง ๆ ค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่ต๋าคางก็รู้สึกสงสารหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้ทำผิดอะไร แต่โชคชะตากลับเล่นตลก จ้องมองหยางฉงที่น้ำตาคลอเบ้า หลี่ต๋าคางทอดถอนใจแล้วกล่าว

“ลุงไม่ได้หมายความแบบนั้น ลุงแค่อยากจะบอกว่า ความสัมพันธ์ของเสี่ยวฝางและวี่เฟยค่อนข้างลึกซึ้ง เธอต้องเตรียมใจไว้ ลุงดูออกว่าเธอเป็นเด็กดี เรื่องนี้ไม่โทษเธอ เพราะยังไงใคร ๆ ก็นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวฝางจะสูญเสียความทรงจำ”

“นอกจากนี้เด็กที่อยู่ในท้องของเธอ ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นสายเลือดของตระกูลหลี่ของเรา ฉันก็หวังว่าเธอจะคลอดเขาออกมาเป็นธรรมดา แต่ถ้าหากเด็กคนนี้จะทำร้ายหรือนำความวุ่นวายมาให้เธอในอนาคต ฉันก็หวังว่าเธอจะปล่อยมือจากเขา เสี่ยวฝางได้ทำร้ายเธอมากพอแล้ว ลุงไม่อยากให้เธอถูกทำร้ายไปมากกว่านี้”

คำพูดเหล่านี้เกินความคาดหมายของหยางฉง เดิมทีเธอคิดว่าที่หลี่ต๋าคางเรียกเธอเอาไว้ เพราะต้องการให้เธอไปจากหลี่ฝาง คิดไม่ถึงว่าหลี่ต๋าคางจะไม่ได้ทำแบบนั้น แล้วยังคิดแทนเธออีก

หยางฉงน้ำตาคลอ จนแทบจะร้องไห้ออกมา ยังดีที่เธอกลั้นเอาไว้ได้

“คุณลุงคะ ขอบคุณที่คุณลุงเข้าใจฉันนะคะ ฉันจะไม่ทิ้งเด็กคนนี้ไปหรอกค่ะ สำหรับฉันแล้วเขาเป็นของขวัญที่สวรรค์มอบให้ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วพี่หลี่ฝางจะเลือกฉันหรือไม่ ฉันก็จะคลอดเด็กคนนี้ออกมา และเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่”

หลี่ต๋าคางได้ถูกหยางฉงทำให้ประทับใจจริง ๆ ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ผู้หญิง ไม่เคยท้องมาก่อน แต่ตอนที่เมี๋ยวชุ่ยท้องหลี่ฝางนั้น เขาก็ได้สัมผัสถึงความรักที่หญิงใหญ่ของแม่ได้อย่างแท้จริง

ในเมื่อหยางฉงพูดถึงขนาดนี้แล้ว หลี่ต๋าคางก็ไม่อยากจะพูดเกลี้ยกล่อมว่า “เสี่ยวฉง ถ้าเธอคิดดีแล้ว งั้นลุงก็ไม่เกลี้ยกล่อมอะไรเธออีก ไม่ว่าเสี่ยวฝางจะเลือกใคร ลุงและคุณป้าของเธอก็ไม่มีทางที่จะไม่สนใจเด็กในท้องของเธอ พวกเธอจะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลี่ตลอดไป”

คำสัญญานี้หลี่ต๋าคางไม่ได้กล่าวขึ้นเพียงเพราะเด็กที่อยู่ในท้องของหยางฉงเท่านั้น เขาชื่นชมหยางฉงจริง ๆ ถ้าหากหลี่ฝางไม่ได้เคยคบหากับฉินวี่เฟยมาก่อน เขาจะต้องให้หลี่ฝางแต่งงานกับหยางฉงย่างแน่นอน

“เสี่ยวฉง เธออย่าไปพักข้างนอกเลย เธอผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งแล้วยังท้องอีกมันลำบาก ถึงยังไงที่สถานตากอากาศก็มีห้องตั้งมากมาย เดี๋ยวลุงสั่งให้คนไปทำความสะอาดสักตึกให้เธอและแม่สาวน้อยคนนั้นพัก พอดีกับที่คุณป้าของเธอค่อนข้างถูกชะตากับเธอ ถือว่าเธอช่วยคุณลุงสักเรื่อง อยู่ที่เป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับคุณป้าที่นี่ต่อเถอะนะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน