NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1200 สามีภรรยาหลี่ซื่อที่ตกอยู่ในความงุนงง

บทที่ 1200 สามีภรรยาหลี่ซื่อที่ตกอยู่ในความงุนงง

ไท่ซางถูกเมี๋ยวชุ่ยและคนอื่นๆ รายล้อมอยู่ตรงกลางจับจ้องอย่างดุดัน ทุกคนต่างรอคำอธิบายของเขา

“ว้าว พี่สะใภ้! ช่วยผมหน่อยสิ!” ไท่ซางรู้สึกว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด พลางขอความช่วยเหลือผ่านกำแพงคน

หยางฉงที่ถูกเขาชี้ตัวจ้องมองเมี๋ยวชุ่ย หลี่ต๋าคางและคนอื่นๆ อย่างประหม่า อ้ำอึ้งอยู่ครึ่งค่อนวันไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไงดี

ตอนนี้หยางฉงราวกับแกะน้อยที่อ่อนแอ เมี๋ยวชุ่ยและคนอื่นๆ ราวกับหมาป่าที่หิวโหยมานาน สายตานั้นแทบจะกลืนกินหยางฉงอย่างไรอย่างงั้น

หวางซีเหยาไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป ลุกขึ้นยืนบังหยางฉงเอาไว้ข้างหลัง เล่าเรื่องราวของหลี่ฝางและหยางฉงอย่าเรียบง่าย

“พอได้แล้ว ฉันจะพูดเอง ฉันชื่อว่าหวางซีเหยา ส่วนเธอชื่อว่าหยางฉง หลายเดือนก่อน เราได้ช่วยเหลือหลี่ฝางที่เสียความทรงจำไปโดยบังเอิญ หลังจากนั้นหลี่ฝางและหยางฉงเกิดความรักต่อกัน ก็เลยอยู่ด้วยกันไปโดยปริยาย”

“แน่นอน ว่าเด็กในท้องของหยางฉงคือลูกของหลี่ฝาง เพียงแค่หนึ่งเดือนก่อนหลี่ฝางกลับมาที่เมืองตงไห่แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย ฉันกับเสี่ยวฉงก็เลยมาตามหา”

หลังหวางซีเหยาพูดจบ เมี๋ยวชุ่ยนิ่งอยู่นานถึงได้ใจใจความในคำพูดของเธอจงได้

เรื่องที่หลี่ฝางความจำเสื่อมพวกเขาไม่รู้จริงๆ หากเพราะความจำเสื่อมจึงอยู่กับหยางฉงละก็ เรื่องราวก็จะซับซ้อนขึ้นไปอีก

“คือว่า คุณน้า คุณอา พวกท่านรู้ไหมว่าหลี่ฝางจะกลับมาเมื่อไหร่?” เมื่อจ้องมองสายตาที่ซับซ้อนของเมี๋ยวชุ่ยและหลี่ต๋าคาง หยางฉงกล่าวถามอย่างอับอายเล็กน้อย

เป็นไปได้สูงมากว่าพวกเขาจะเป็นพ่อตาและแม่ยายของตนในอนาคต บอกตามตรงหยางฉงรู้สึกตื่นเต้นจริงๆ นั่นแหละ

“เสี่ยว เสี่ยวฉง อย่ายืนอยู่เลย นั่งลงก่อนเราค่อยๆ คุยกัน” ในตอนนี้เมี๋ยวชุ่ยรู้สึกสับสน เธอจับจ้องหยางฉงที่ตั้งครรภ์แล้วอย่างชัดเจน ในใจเธอทั้งดีใจและลังเล

หลี่ฝางก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอกับหลี่ต๋าคางอยากอุ้มหลานมานานแล้ว และเคยได้บอกให้หลี่ฝางและฉินวี่เฟยแต่งงานมีลูกแล้วทางอ้อม แต่หลี่ฝางกลับใช้ข้ออ้างงานยุ่งเป็นเหตุ ไม่ยอมจดทะเบียนกับฉินวี่เฟยเสียที

ตอนนี้หลานคนโตที่มาหาถึงที่ จะให้ไม่รับได้ยังไงกัน

“คุณน้า ท่านก็นั่งสิคะ” ถูกเมี๋ยวชุ่ยประคองเอาไว้แบบนี้ หยางฉงรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความสำคัญอย่างไม่คาดฝัน เธอลากเมี๋ยวชุ่ยเอาไว้อย่างเคอะเขินให้นั่งลงที่โซฟาด้วยกัน

แม้เมี๋ยวชุ่ยจะอายุใกล้ห้าสิบแล้ว แต่เธอดูแลตัวเองดีมาก รูปร่างก็ยังดีไม่เสียทรง ดูแล้วเหมือนกับคนอายุสามสิบกว่าเท่านั้น แถมน้ำเสียงของเธอก็อ่อนโยนมาก หยางฉงรู้สึกถูกชะตาอย่างน่าประหลาด

“เสี่ยวฉง เด็กในท้องของเธอเป็นของหลี่ฝางจริงหรือ? ท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ กี่เดือนแล้ว?” เมี๋ยวชุ่ยเก็บซ่อนความดีใจไม่ได้ ถึงกับทนไม่ไหวเอื้อมมือลูปท้องน้อยของเธอ

ดูออกได้ชัดเจนว่าเมี๋ยวชุ่ยไม่ได้คิดร้าย หยางฉงจึงค่อยๆ ผ่อนคลายได้ เมื่อพูดถึงเด็ก บนใบหน้าของเธอพอมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

“เป็นของหลี่ฝาง สามเดือนแล้ว หมอบอกว่าเด็กแข็งแรงมาก แต่ดื้อมากไปหน่อย หลายวันนี้ทำให้ฉันลำบากอยู่ไม่น้อย”

“เฮ้อ ผู้หญิงตั้งท้องก็แบบนี้แหละ นึกถึงตอนที่ฉันตั้งท้องหลี่ฝาง ฉันเองก็ลำบากมากพอเลยล่ะ ทานอะไรเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมดเลย ตอนนั้นฉันพูดกับพ่อของหลี่ฝางด้วยว่าไม่อยากมีลูกแล้ว”

เมื่อพูดถึงตั้งครรภ์ ในฐานะที่ผ่านมาก่อนเมี๋ยวชุ่ยได้หัวข้อเดียวกับหยางฉงในทันที ทั้งคู่คนละประโยคจึงเริ่มเป็นบทสนทนา

หลี่ต๋าคางจ้องมองสาวทั้งสองที่นั่งคุยกันอย่างออกรสชาติที่โซฟา จึงแอบลากส้าวส้วยและไท่ซางไปอีกด้าน

“ไท่ซาง ตอนนี้เสี่ยวฝางเขาฟื้นความจำแล้วใช่ไหม? หยางฉงนี่ เขาคิดยังไง?”

เพราะงั้นในเรื่องของความสัมพันธ์ สิ่งที่ผู้ชายคิดกับสิ่งที่ผู้หญิงคิดนั้นต่างกัน ฝ่ายชายมักจะมีสติมากกว่า ไม่ตัดสินใจด้วยความรู้สึก

“ลูกพี่ใหญ่ฟื้นความจำแล้ว ก่อนหน้านี้เขาตัดสินใจเลิกกับหยางฉง แล้วอยู่กับวี่เฟยพี่สะใภ้ แต่ตอนนี้หยางฉงท้องแล้ว ไม่รู้ว่าลูกพี่ใหญ่เขาจะเลือกยังไง” ไท่ซางกล่าวตอบตามความจริง

เมื่อได้ยินอย่างงั้น หลี่ต๋าคางคิ้วขมวดแน่นขึ้นกว่าเก่า นิ่งอยู่สักพัก เขาหันไปพูดกับส้าวส้วย “เสี่ยวส้วย ตอนนี้ราฟาเอลยังอยู่กับวี่เฟยใช่ไหม? แกโทรหาราฟาเอล ถามเขาว่าวี่เฟยกับราฟาเอลเป็นยังไงบ้าง”

ส้าวส้วยพยักหน้า ต่อสายหาราฟาเอลทันที

ราฟาเอลในตอนนี้กำลังรับการสอบปากคำของตำรวจ เมื่อเห็นว่าส้าวส้วยติดต่อมา จึงทิ้งตำรวจทั้งสองนายเอาไว้อีกด้าน

“มีอะไร?”

น้ำเสียงของราฟาเอลยังคงเย็นชาเฉกเช่นเดิม ส้าวส้วยชินแล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลง พลันเล่าเรื่องราวที่หยางฉงมาหาหลี่ฝางที่ตงไห่ให้เขาฟังคร่าวๆ ก่อนถามเรื่องราวของหลี่ฝางและหยางฉง

เมื่อรู้ว่าหยางฉงเดินทางมาที่ตงไห่ ราฟาเอลที่นิ่งขรึมเสมอก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเช่นเดียวกัน แต่เขาไม่ได้ถาม เพียงเล่าเรื่องราวของหลี่ฝางกับฉินวี่เฟยให้เขาฟังเท่านั้น

“เลิกแล้ว ฉินวี่เฟยไม่ยอมพบลูกพี่ใหญ่เลย ลูกพี่ใหญ่บอกว่ากลับมาจะจีบใหม่ บอกให้ฉันปกป้องฉินวี่เฟยให้ดี”

“ก็ได้ ฉันรู้แล้ว งั้นแกอยู่ข้างฉินวี่เฟยคอยปกป้องเธอเถอะ ทางด้านหยางฉงฉันจะจัดการเอง” เมื่อรับรู้สถานการณ์ของฉินวี่เฟย ส้าวส้วยจึงวางสาย แล้วรายงานเรื่องราวกับหลี่ต๋าคาง

“ดูเหมือนว่าทางด้านวี่เฟยจะรู้เรื่องของหลี่ฝางกับหยางฉงแล้ว ไม่งั้นพวกเขาก็คงจะไม่เลิกกัน ถ้าอย่างงั้น เรื่องนี้คงจะยากแล้วล่ะ”

เมื่อรับรู้สถานการณ์ของทั้งสามฝ่าย หลี่ต๋าคางก็ยากลำบากใจเช่นเดียวกัน

แม้หลี่ฝางจะบอกว่าเขาจะเลิกกับหยางฉง อยู่กับฉินวี่เฟยต่อไป แต่ตอนนี้หยางฉงไม่เพียงแค่ตั้งท้อง แถมยังตามมาถึงเมืองตงไห่ ก็คงต้องหาทางออกใหม่

แถมดูความหมายของหยางฉง เป็นไปได้ว่าจะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้สูงมาก แถมตระกูลหลี่ ไม่มีทางทิ้งเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลแน่ การรับเข้าตระกูลเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว ถึงตอนนั้น คงจะเก็บเด็กแล้วทิ้งแม่ไม่ได้

“พ่อ เรารอลูกพี่ใหญ่กลับมาแล้วค่อยว่ากันเถอะ ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครรู้ว่าท้ายที่สุดลูกพี่ใหญ่จะเลือกใครกันแน่” ส้าวส้วยรู้สึกว่ามันบ้ามาก ความจำเสื่อมไปรักคนอื่น พอฟื้นฟูความจำก็พบว่าตัวเองมีแฟนสาวอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกันแน่?

“เฮ้อ ตอนนี้คงต้องแบบนี้แล้วล่ะ เดี๋ยวแกติดต่อไปทางต้าเซี่ยหลงเช่ว ลองติดต่อเขาว่าหลี่ฝางจะกลับมาเมื่อไหร่กันแน่ นี่ไปตั้งเดือนกว่าแล้ว เรื่องราวก็คงจะใกล้คลี่คลายแล้ว?”

หลี่ต๋าคางถอนหายใจ ตอนนี้เขาหวังว่าหลี่ฝางจะกลับมาโดยเร็วที่สุด เรื่องที่ก่อขึ้นเอง ก็ต้องให้เขาแก้ไขปัญหาเอาเอง

“เห้ๆ ต๋าคาง คุณมาดูหลานคนโตของเราเร็วเข้า! คุณดูสิ เหมือนกับหลี่ฝางเป๊ะเลย”

เมื่อเห็นว่าหลี่ต๋าคางและคนอื่นๆ คุยกันเสร็จแล้ว เมี๋ยวชุ่ยจึงกวักมือให้กับพวกเขาอย่างดีใจ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน