NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1231 กลับมาอย่างปลอดภัย

บทที่ 1231 กลับมาอย่างปลอดภัย

“ท่านกัว ผู้อาวุโสซา พวกท่านอายุมากขนาดนี้ คนที่พบเจอมากกว่าเกลือที่ผมทานเข้าไปอีก จะจำทุกคนได้ยังไง เราอย่ามัวหารืออยู่เลยว่าเขาเป็นใคร ผมว่านะ คนพวกนี้ก็คงจะไปที่โลกใต้พิภพหมดนั่นแหละ ถ้าเราไม่เร่งกว่านี้ แม้แต่เงาของหินคริสทัลก็คงจะไม่ได้พบเห็น”

ท่านชายป๋ายยู่ไม่สนใจเงาร่างของหลี่ต๋าคางมากนัก การที่เขาออกจากฌานครั้งนี้เพื่อหินคริสทัล สิ่งที่ทำให้คนเราก้าวผ่านครึ่งเทพ ของวิเศษที่ทำให้กลายเป็นเทพได้ เขาไม่อยากจะถูกคนอื่นแย่งชิงไป

“เหล่าป๋าย แกชักช้าอยู่ตรงนั้นต่อไป ฉันไปก่อน แกคอยดู คนที่เป็นเทพต้องเป็นฉัน” นักพรตเต้าฝ่าไม่ได้ฟังประโยคของคนอื่นแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าพวกหลี่ต๋าคางไปแล้ว จึงไล่ตามไป กระทั่งลอยออกไปไกล ถึงได้โอ้อวดกับท่านชายป๋ายยู่

“บัดซบ ไอ้หมาจางแกมันขี้โกง!” เมื่อได้ยินเสียงของนักพรตเต้าฝ่า ท่านชายป๋ายยู่ถึงได้พบว่าเขาได้ไปลับขอบฟ้าแล้ว คำรามอย่างโกรธเคือง ก่อนที่จะใช้พลังไล่ตามไป

คนอื่นๆ เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้า ต่างคนต่างแสดงความสามารถมุ่งไปที่ซากปรักหักพังลึกลับ

“คุณลุงหลี่ นี่เป็นเอกสารที่ผู้อาวุโสมอบให้กับผม ในนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัยการเปลี่ยนยีนของประเทศญี่ปุ่นอยู่ มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ประหลาดตัวนั้น ท่านดูก่อนเถอะ”

ระหว่างการเดินทางส้าวส้วยไม่ลืมที่จะยื่นเอกสารที่ผู้อาวุโสให้ไว้กับเขากับหลี่ต๋าคาง เอกสารนี้เขายังไม่ได้ดู ก่อนหน้านี้ยุ่งอยู่กับการเดินทาง แม้แต่ซองเอกสารเองก็ยังไม่ถูกแกะออก

หลี่ต๋าคางรับซองเอกสารมาไว้ ยิ่งดูสีหน้าของเขายิ่งดูไม่ได้ ท้ายที่สุดเอกสารนั้นถูกเขากำจนยับ

ในเอกสารฉบับนี้มีการรายงานการค้นพบเซลล์งูยักษ์กลืนฟ้าของประเทศญี่ปุ่น และกระบวนการเพาะพันธุ์ทั้งหมด แถมข้างในยังบอกอีกด้วยว่า งูยักษ์กลืนฟ้านี้หากถูกเพาะพันธุ์ผ่านร่างกายของมนุษย์ที่ยังมีชีวิต ขณะที่งูยักษ์กลืนฟ้ายังเป็นเพียงตัวอ่อน เหล่านักวิจัยจะฝังเซลล์ของมันเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์

ตัวอ่อนแบบนี้ต้องอาศัยการเลี้ยงดูในร่างกายมนุษย์กว่ายี่สิบปีถึงจะโตเต็มวัย นั่นเท่ากับว่า คิดว่าเพาะงูยักษ์กลืนฟ้าหนึ่งตัว ต้องฝังตัวอ่อนตั้งแต่ผู้ทดลองยังเป็นทารก

ในเวลายี่สิบปีมานี้ งูยักษ์กลืนฟ้าจะค่อยๆ กลืนกินเจ้าของร่าง กระทั่งวันที่มันโตเต็มวัย เจ้าของร่างก็จะเหลือเพียงผิวหนังเท่านั้น

วิธีการเพาะพันธุ์แบบนี้ช่างโหดร้ายนัก!

ไม่คิดเลยว่าคนญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาความสามารถของตนเอง ถึงกับขั้นใช้วิธีที่โหดร้ายเพียงนี้

เมื่องูยักษ์กลืนฟ้าโตเต็มวัย ขอเพียงแค่ทานเนื้อของมันเข้าไป ก็จะเกิดใหม่ได้ คนธรรมดาได้เป็นนักรบ นักรบสามารถพัฒนาไปอีกขั้นได้

และชาวต่างชาติสามคนเมื่อสักครู่ คงทานเนื้อของงูยักษ์กลืนฟ้าเข้าไปถึงได้เป็นมนุษย์กลายพันธุ์

นี่มันไม่ใช่เพียงการกินเนื้อของปีศาจประหลาดแล้ว แต่มันเป็นการกินเนื้อของทางอ้อมต่างหาก!

เมื่อหลี่ต๋าคางนึกถึงเด็กมากมายที่ต้องจบชีวิตลงเพราะเรื่องนี้ ในใจของเขาก็เกิดไฟแค้นขึ้นมา คราวนี้หลังจัดการอาซาโทสได้ ดูเหมือนว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก

“คุณลุงหลี่ เราจะถึงค่ายอยู่แล้ว ฉินวี่เฟยจะทำยังไงดี? จะพาเธอเข้าไปด้วยหรือจะสั่งให้คนไปส่งเธอที่ตงไห่?”

เมื่อจ้องมองฉินวี่เฟยที่นอนฟุบอยู่บนร่างของราฟาเอล ส้าวส้วยจึงกล่าวถาม

“ให้ราฟาเอลกับไท่ซางพาเธอกลับไปที่ตงไห่เถอะ พอดีกับที่เขาสองคนกลับไปดูแลความปลอดภัยที่ตงไห่ด้วย กำลังของพวกเขาอ่อนกว่า หากเข้าไปด้วยกัน ถ้าสู้กันขึ้นมาจริงๆ คงดูแลไม่ทั่วถึง”

ส้าวส้วยพยักหน้าเมื่อได้ยินประโยคของหลี่ต๋าคาง อันที่จริงเขาเองก็คิดแบบเดียวกัน เมื่อสักครู่คนที่ห้องล้อมอยู่ตรงนั้นเขาพอได้สังเกตการณ์บ้าง

ส่วนใหญ่แล้วไปถึงแดนครึ่งเทพแล้ว ด้อยที่สุดก็ไปถึงแดนสุด เมื่อคนเหล่านี้เข้าไปที่ซากปรักหักพังทั้งหมด เมื่อถึงเวลาหากแย่งชิงหินคริสทัลขึ้นมา อาจจะดูแลราฟาเอลและไท่ซางทั้งสองไม่ได้

ราฟาเอลไม่มีข้อขัดข้องอะไรอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งเสมอ เมื่อสักครู่ไท่ซางถูกท่านชายป๋ายยู่อัดจนน่วมก็ว่านอนสอนง่ายขึ้นมาเช่นเดียวกัน แม้ในใจจะไม่พอใจอยู่บ้าง แค่ก็ไม่กล้าแสดงออกมา

พวกเขาพักที่ค่ายอยู่สักพัก ราฟาเอล ไท่ซางและฉินวี่เฟยจึงแยกจากเหล่าหลี่ต๋าคาง กลุ่มหนึ่งกลับไปที่ตงไห่ อีกหนึ่งหนึ่งมุ่งไปที่ซากปรักหักพัง

สถานการณ์ทางด้านเมี๋ยวชุ่ยเองก็ดีขึ้นมาก ผ่านการดูแลอย่างใกล้ชิดมาทั้งคืน อาการของโหจื่อเริ่มคงที่ แม้ว่าจะยังไม่ได้สติ แต่หมอได้รับประกันแล้วว่าจะฟื้นภายในสามวัน

ส่วนหยางฉงเมื่อผ่านการยื้อชีวิตตอนนี้ได้พ้นขีดอันตรายแล้วเช่นเดียวกัน แม้จะตกเลือดมาก แต่ก็ได้รักษาเด็กเอาไว้ แต่หลังจากนี้อีกนานเธอต้องอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องฉีดยารักษาครรภ์ทุกวัน

“น้าเมี๋ยว พวกไท่ซางได้ข่าวคราวแล้วหรือยัง? ช่วยพี่วี่เฟยกลับมาได้ไหม?” เมี๋ยวชุ่ยออกจากห้องไปรับสายของหลี่ต๋าคาง เมื่อเข้ามาที่ห้องผู้ป่วย หยางฉงก็ถามขึ้นอย่างอดใจไม่ไหว

หลังจากที่เธอฟื้น ได้ถามคำถามนี้ไม่น้อยกว่าสิบหน ทุกครั้งเมี๋ยวชุ่ยจะบอกให้เธอไม่ต้องเป็นกังวล รออีกสักเดี๋ยว ครั้งนี้ในที่สุดก็มีคำตอบให้กับเธอเสียที

“วางใจเถอะ วี่เฟยไม่เป็นอะไรแล้ว ราฟาเอลกับไท่ซางกำลังพาเธอกลับมา”

“ดีจังเลย!” เมื่อหยางฉงได้ยินว่าฉินวี่เฟยไม่เป็นอะไรเธอดีใจจนน้ำตาไหล สวรรค์รู้ดีว่าเธอเป็นห่วงและรู้สึกผิดมากแค่ไหน

หยางฉงโทษเรื่องที่ฉินวี่เฟยถูกลักพาตัวเป็นความผิดของเธอมาตลอด หากวันนั้นเธอไม่พูดคำที่ยั่วยุเธอ พวกเขาสองคนก็จะไม่วิ่งออกไป หากไม่วิ่งออกไป ทั้งสองก็จะไม่ถูกลักพาตัว ยิ่งไม่เกิดเรื่องหลังจากนั้นขึ้น

หรือแม้แต่หลังผ่านเรื่องราวเหล่านี้ หยางฉงตัดสินใจที่จะกลับไปที่จิงซานไม่รอหลี่ฝางอีกต่อไปแล้ว ความสัมพันธ์นี้เธอเลือกที่จะปล่อยมือเอง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท