NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1226 เจอตัวฉินวี่เฟย

บทที่ 1226 เจอตัวฉินวี่เฟย

“รนหาที่ตาย!” นิคหรี่ตา พลังงานในตัวของเขาเปลี่ยนไปทันที

ฉินวี่เฟยรู้สึกว่าเธอเสมือนกับตกเป็นเป้าของงูพิษตัวหนึ่ง แผ่นหลังของเธอเหงื่อแตกโชก ลำคอของเธอราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบรัดเอาไว้ อากาศในปอดน้อยลงทุกที ใบหน้าแดงก่ำ แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้นเธอก็ยังคงยั่วโทสะนิคด้วยคำพูด

“เหอะ แน่จริงก็ฆ่าฉันเลยสิ ถ้าแกไม่ฆ่าฉันตอนนี้ แกก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย”

จบคำ ฉินวี่เฟยรู้สึกได้ถึงมือที่มองไม่เห็นนั้นรัดแน่นขึ้นกว่าเก่า ลำคอเสมือนจะถูกบีบจนหัก น้ำตาไหลเอ่อไม่หยุด แรงเริ่มอ่อนลงทุกที ร่างกายสั่นเทาตามสัญชาตญาณ

“นิค พอได้แล้ว!”

ในขณะที่ฉินวี่เฟยรู้สึกใกล้ตาย เสือดำสีหน้าบึ้งตึงคำรามหยุดรั้งเขาเอาไว้

สายตาของนิคเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็ผ่อนแรงของตนเองลง

ฉินวี่เฟยที่สติเริ่มพร่ามัวเมื่อรู้สึกได้ถึงลำคอถูกคลายออก อากาศบริสุทธิ์ปะทุเข้าปอด ทำให้เธอทรุดนั่งลงกับพื้นสำลักไออย่างหนักไม่หยุดอย่างควบคุมไม่ได้

“แค่กๆ ……หึหึ แกอวดดีนักไม่ใช่หรือไง? ทำ ทำไมไม่ฆ่าฉันเลยล่ะ? อ่อนหัด!”

ฉินวี่เฟยไอไม่หยุดพลางหัวเราะยั่วยุนิค

เธอในตอนนี้อยากจะตายไปให้พ้นๆ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของหลี่ฝาง

นิคสีหน้าหม่นหมอง พลังงานรอบกายของเขารุนแรงจนน่ากลัว ปล่อยหมัดใส่ต้นไม่ใหญ่ข้างๆ ต้นไม้ที่ใหญ่เท่ากับสองคนกอดรัดเละไม่เป็นท่า ฉินวี่เฟยสะดุ้งตกใจ

“นางแพศยา เธออยากจะยั่วโมโหฉันไม่ใช่หรือไง ให้ฉันฆ่าเธอซะ จะได้ไม่เป็นตัวถ่วงของหลี่ฝางสินะ? ฉันจะไม่ให้เธอได้สมหวัง ฉันจะเฉือนเนื้อของมันทีละชิ้น ต่อหน้าเธอ ทรมานมันจนตาย”

นิคที่ผ่านการระบายอารมณ์หันกลับไปมองฉินวี่เฟยด้วยรอยยิ้มกระหายเลือด ดวงตาสีฟ้ากลายเป็นสีแดงเลือดที่น่าหวาดหวั่น

ฉินวี่เฟยที่ไม่เคยกลัวมาก่อนในตอนนี้เธอตกสู่ห้องน้ำแข็งใต้ดิน ในใจปกคลุมไปด้วยความหวาดผวาอย่างถึงที่สุด

“จอห์น นิคจะกำเริบแล้ว ฉีดยาระงับให้เขาเร็ว”

เมื่อเสือดำเห็นดวงตาของนิคเปลี่ยนไปสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เผยสีหน้าตื่นตระหนก เพียงส่งสายตาให้กับชาวต่างชาติอีกคน ส่วนเขาควักเอาปืนพกขนาดเล็กออกมาหนึ่งกระบอก จ่อไปที่ลำคอของนิค

ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง สายตาของนิคถึงได้กลับมาเป็นปกติ เขาที่กระฉับกระเฉงเมื่อถูกฉีดยาเข้าไปเริ่มรู้สึกอ่อนล้า แม้แต่สายตาเอวก็เสียแววไปด้วย

“พี่ใหญ่เหยสง จอห์น นี่ผมกำเริบอีกแล้วหรือ?” นิคยกมือขึ้นกุมหน้าผากของตนเองเอาไว้อย่างอ่อนล้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

“อืม ตอนนี้สถานการณ์ของแกไม่ดีเลย เราพักผ่อนสักเดี๋ยวแล้วค่อยเดินทาง”

จากปฏิกิริยาของเหยสง การกำเริบของนิคดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

“ไม่ต้อง เราต้องไปรวมตัวกับฝ่าบาทโดยเร็ว คนของตระกูลหลี่คงจะอยู่ระหว่างทางไล่ตามมา แม้แต่นาทีเดียวก็เสียไม่ได้แล้ว”

นิคหายใจหอบ ปฏิเสธข้อเสนอการพักผ่อนของเหยสง คิดจะเดินทางต่อ

“ขึ้นมา ฉันแบกนายเอง” จอห์นที่อยู่อีกด้านเหลือบมองนิค แม้เขาจะมีสีหน้าเย็นชา ก็กลับโน้มเอวลงเล็กน้อย

“อะไรนะ? นายแน่ใจหรือ?” เมื่อได้ยินคำของจอห์น นิคเบิกตากว้าง ตอกกลับอย่างไม่มั่นใจ

“พูดมากอะไรอยู่อีก ขึ้นมาเร็วเข้า ถ้าไม่ใช่เพราะไม่อยากเสียงานของฝ่าบาท ฉันไม่มีทางแบกนายแน่” จอห์นที่หันหลังให้กับนิคน้ำเสียงแข็งกระด้างในพริบตา กล่าวด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง

“ฮ่าฮ่า ที่รักคุณน่ารักจังเลย” นิคส่งเสียงหัวเราะ ก่อนกระโดดขึ้นหลังของจอห์น โอบรอบลำคอขอจอห์นเอาไว้อย่างสนิทสนม

ทว่าอีกฝ่ายกลับไร้ความโมโหเลยแม้แต่น้อยอย่างผิดปกติ หรือแม้แต่ใบหูของเขาเกิดแดงระเรื่อซะอย่างงั้น

ฉินวี่เฟยจ้องมองการคุยกันกระหนุงกระหนิงของชายฉกรรจ์ทั้งสองอย่างตระหนก เกิดรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมา เธอคาดไม่ถึงเลยว่านิคและจอห์นจะมีความสัมพันธ์เช่นนี้

“แม่สาว ฉันว่าเธอควรจะว่าง่ายหน่อยนะ ผลลัพธ์ที่ยั่วโมโหเราเธอรับมือไม่ไหวแน่”

เพราะจอห์นต้องแบกนิค เพราะงั้นจึงต้องให้เสือดำดูฉินวี่เฟย พลังงานในร่างของเขาแรงกว่านิคมาก คำพูดคำจาก็เย็นชาและแข็งกระด้างกว่านิคมาก

ฉินวี่เฟยเบะปาก ได้แต่ปล่อยให้พวกเสือดำพาเธอไปที่ซากปรักหักพังลึกลับอย่างว่าง่าย

พวกเขาเดินทางอยู่ราวสามชั่วโมง ก็ได้พบกับเหล่าหลี่ต๋าคางและมังกรฟ้า

ทั้งสองฝ่ายมีระยะห่างราวหนึ่งร้อยเมตร หลี่ต๋าคางจ้องไปที่เสือดำอย่างดุดัน “เสือดำ แกปล่อยเธอซะ ฉันก็จะไว้ชีวิตแก”

“เหอะ หลี่ต๋าคาง ปล่อยเธอได้อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าแกมีปัญหารึเปล่า” เสือดำเองก็ไม่อ่อนข้อ ประจันสายตาของหลี่ต๋าคาง เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

“แกรนหาที่ตาย!” เมื่อได้ยินอย่างน้อยหลี่ต๋าคางไม่เสียเวลาอีกต่อไป ปราณในร่างปะทุ โจมตีไปที่เสือดำ

“พี่เสือดำระวัง!” นิคและจอห์นที่อยู่อีกด้านเป็นกังวลเล็กน้อย ความสามารถของหลี่ต๋าคางไม่ด้อยเลย หากสู้กับเสือดำด้วยพลังทั้งหมดละก็ ใครแพ้ใครจะชนะนั้นไม่แน่นอน

เสือดำกลับไม่รีบไม่ร้อน เขาลากฉินวี่เฟยที่อยู่อีกด้านเข้ามาบังหน้าของเขา

ตอนนี้ฉินวี่เฟยเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของเขา ขอเพียงแค่มีฉินวี่เฟยอยู่ ถ้างั้นหลี่ต๋าคางก็ไม่สามารถใช้พลังได้เต็มร้อย

ตอนนี้หลี่ต๋าคางไปตรงหน้าของฉินวี่เฟย คิดจะเบรกตอนนี้ไม่ทันเสียแล้ว เขาได้แต่พยายามเปลี่ยนทิศทางของร่างเขา ปล่อยหมัดเฉียดผ่านเส้นผมของฉินวี่เฟย

เสือดำไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ไปอยู่แล้ว ถือโอกาสที่หลี่ต๋าคางเสียการทรงตัวพุ่งเข้าใส่

“คุณลุงหลี่ระวัง!” ขณะที่มือของเสือดำถูกตัวหลี่ต๋าคาง มังกรฟ้าขยับร่างไปที่ด้านหลังของหลี่ต๋าคาง ดึงเขาเอาไว้กระโดดไปด้านหลังสองก้าว หลบหลีกการโจมตีของเสือดำได้อย่างฉิวเฉียด

“ขอบใจ” หลี่ต๋าคางแสดงความขอบคุณต่อมังกรฟ้า ก่อนปรับตัวเอง จู่โจมเสือดำอีกครั้ง

มังกรฟ้าเองก็รีบตามหลังไป ร่วมมือกับหลี่ต๋าคางโจมตีซ้ายขวา ต่อให้เสือดำๆ มีไพ่ใบเด็ดอย่างฉินวี่เฟย การเผชิญหน้าต่อการโจมตีของยอดฝีมือทั้งสองก็กินแรงอย่างมาก

ฉินวี่เฟยที่เสือดำนำมาเป็นกำบังในคราแรกตอนนี้กลับกลายเป็นตัวถ่วง เขาไม่เพียงแต่ต้องหลบการโจมตีของหลี่ต๋าคางและมังกรฟ้าที่จู่โจมพร้อมกัน แถมยังต้องปกป้องความปลอดภัยของฉินวี่เฟยอีกต่างหาก

“นายไปพักผ่อนตรงนั้นก่อน ฉันไปช่วยเขา” จอห์นวางนิคที่อยู่บนหลังลง คิดที่จะเข้าไปช่วยเสือดำ

ขณะที่เขาคิดที่จะจู่โจม เสือขาว หงส์แดงและเต่าดำสามคนก็ล้อมเขาเอาไว้เสียก่อน แม้จอห์นจะเหนือกว่าหน่อย แต่เมื่อเผชิญหน้าต่อพวกเขาสามคน ก็ไม่กล้าไว้วางใจแม้แต่น้อย

เป็นถึงทีมปฏิบัติการพิเศษของประเทศจีน ที่มีชื่อเสียงในใต้หล้าอย่างมาก

พริบตาทั้งสี่ต่อสู้กันกระหน่ำอย่าดุเดือด ทันใดนั้นป่าทึบถูกพวกเขาทำลายจนเป็นพื้นที่เรียบ

พลังทำร้ายล้างที่แรงกล้าดึงดูดนักรบคนอื่นๆ อย่างรวดเร็ว ในนั้นมีคนอยู่ไม่น้อยที่จำหลี่ต๋าคางและเหล่ามังกรฟ้าได้ ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์อยู่อีกด้าน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน