NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1224 พาฉินวี่เฟยไป

บทที่ 1224 พาฉินวี่เฟยไป

“คุณคิดว่าคุณมีสิทธิ์มาต่อรองกับฉันเหรอ?” มือของนิคนั้นไม่มีท่าทีจะปล่อยเพราะคำพูดของฉินวี่เฟยเลย ก่อนจะมองพลางถามฉินวี่เฟยกลับ

ฉินวี่เฟยคิดไม่ถึงว่าเขาจะตอบตัวเองแบบนี้ เลยพูดอะไรไม่ออก แต่เมื่อมองสีหน้าของหยางฉงที่ขมขื่น เธอก็กัดฟันก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป

“ไม่ว่าพวกคุณจะเชื่อหรือไม่ ถ้าเกิดว่าวันนี้พวกคุณกล้าฆ่าหญิงคนนี้ ฉันจะไม่มีทางรอดไปคนเดียว ก่อนได้เจอหลี่ฝาง ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะหาโอกาสในการตายไม่ได้หรอก”

เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังของฉินวี่เฟย นิคก็สนใจขึ้นมา ก่อนจะปล่อยมือจากคอของหยางฉง พลางเดินมาตรงหน้าฉินวี่เฟย แล้วก็เอานิ้วชี้ลูบแก้มของเธอ

“คิดไม่ถึงว่าหญิงประเทศจีนจะนิสัยรุนแรงขนาดนี้ เอาอย่างนี้ ฉันให้โอกาสเธอหนีสิบนาที หลังจากนี้สิบนาทีถ้าเกิดว่าเธอไม่ถูกฉันไล่ตาม ฉันจะปล่อยเธอไป เอาไหม?”

“ไม่ได้!ถ้าเธอรอด ฉันก็ต้องรอด เธอตาย ฉันก็จะตาย ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว” การหนีสิบนาทีนั้นมันนานมากสำหรับคนธรรมดา แต่ระยะทางการหนีสิบนาทีนั้น สำหรับนักรบมันเหมือนเวลาเพียงสิบวินาทีเท่านั้น หยางฉงกำลังท้องอยู่ จะหนีจากเงื้อมมือของปีศาจได้อย่างไร

“นิค อย่าเล่นเลย ผู้หญิงคนเดียวเอง ปล่อยก็ปล่อยไปเถอะ เรื่องนี้ต้องรีบหน่อยแล้ว” เสือดำทนอยู่ด้านนอกต่อไปไม่ไหวแล้ว หลังจากที่ปล่อยข่าวที่เกี่ยวกับหินคริสทัลออกไปแล้ว ก็มีนักรบมากมายรีบมาที่ซากปรักหักพังลึกลับ ถ้าเกิดพวกเขาพาฉินวี่เฟยไปไม่ทัน เกรงว่ามันจะไม่ดีต่ออาซาโทส

“เห้อ ในเมื่อพี่เสือดำพูดแบบนี้แล้ว งั้นฉันจะปล่อยคุณไปแล้วกัน ถ้าไม่ใช่ว่าไม่มีเวลา ฉันก็อยากจะเล่นเกมแมวจับหนูแบบนี้สักหน่อย”

เมื่อได้ยินคำของเสือดำ นิคก็ยักไหล่อย่างทำอะไรไม่ได้ พลางมองหยางฉงด้วยความเสียดาย จากนั้นก็จับข้อมือของฉินวี่เฟยพลางเดินออกไปด้านนอก

“พี่วี่เฟย!” หยางฉงคิดไม่ถึงว่าฉินวี่เฟยจะใช้ชีวิตของตัวเองมาแลกแบบนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เมื่อเห็นฉินวี่เฟยที่ถูกนิคพาไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะปรี่เข้าไป

“อย่าเข้ามานะ!ไป!มีชีวิตให้ดีเถอะ!” ฉินวี่เฟยเห็นหยางฉงตามออกมา ก็รีบตะโกนเพื่อหยุดเธอ แต่ตอนที่หยางฉงเพิ่งจะวิ่งเข้าไปก็ต้องหยุดเพราะแววตาจริงจังของเธอ พลางมองเงาของฉินวี่เฟยที่ห่างไกลออกไป

ราฟาเอลนั้นใช้ความสัมพันธ์กับส้าวส้วยทั้งหมด ให้เอาที่อยู่ของหยางฉงกับฉินวี่เฟยหามาให้ได้ แต่เมื่อพวกเขาเพิ่งไปถึงทางเข้าของท่าเรือตงกั่งนั้น ก็เห็นหยางฉงที่เดินออกมาอย่างขวัญหนีดีฝ่อ

ส้าวส้วยนั้นเหยียบเบรกก่อนจะมาหยุดตรงหน้าของหยางฉง เมื่อมองแววตาของหยางฉงก็พูดเสียงดัง “หยางฉง!เกิดอะไรขึ้นเหรอ?ฉินวี่เฟยล่ะ?พวกคุณทั้งสองคนไม่ได้ถูกจับตัวไปด้วยกันเหรอ?ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

ราฟาเอลเห็นหยางฉงอยู่คนเดียว ในใจก็เต้นแรงร้อนรนเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าฉินวี่เฟยเกิดเรื่องขึ้นแล้วเหรอ?

หลังจากที่หยางฉงได้ฟังเสียงของส้าวส้วยก็เงยหน้าขึ้น หลังจากที่เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยแล้ว เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

“ฮือๆ ……พี่วี่เฟยถูกจับไปแล้ว!เขา พวกเขาจะ จะเอาพี่วี่เฟยไปเพื่อ เพื่อต่อกรกับพี่หลี่ฝาง ส้าวส้วย คุณ คุณรีบตามพี่วี่เฟยไปเถอะ!”

เมื่อเห็นหยางฉงที่ร้องห่มร้องไห้ แล้วได้ฟังสิ่งที่เธอพูดอย่างติดขัด ส้าวส้วยก็รู้ความรุนแรงของเรื่องนี้ ดูเหมือนไม่ใช่การจับตัวไปอย่างธรรมดา มันยิ่งวุ่นวายมากขึ้นไปใหญ่

“หยางฉง!คุณเลือดไหลแล้ว!” ราฟาเอลกำลังอยากจะถามหยางฉงว่าเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้น แต่พบว่าที่ต้นขาของหยางฉงนั้นมีเลือดไหลออกมาอย่างมาก

เมื่อได้ยินเสียงร้องของราฟาเอลอย่างตกใจ หยางฉงก็จับท้องของตัวเองพลางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของส้าวส้วย “แค่กๆ ไม่เป็นไร แท้งไปก็ได้ แบบนี้ พี่วี่เฟยก็จะไม่ต้องคิดมากแล้ว”

อันที่จริงหลังจากที่หยางฉงถูกลักพาตัวไปได้ไม่นานก็รู้สึกว่าท้องน้อยเริ่มเจ็บขึ้นมา แต่สถานการณ์แบบนี้เธอทำได้เพียงอดทน และพยายามทำให้อารมณ์ตัวเองนิ่งเอาไว้

แต่คิดไม่ถึงว่าตอนท้ายจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ หลังจากที่ฉินวี่เฟยถูกพาไปหยางฉงก็พยายามเดินลงมาจากตึกโสโครกนั่น ก่อนจะเห็นพวกส้าวส้วย แล้วเธอก็เลือดไหลออกมา

“พูดอะไรบ้าๆ !เด็กนั่นไร้เดียงสานะ!หยางฉง คุณทนก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะส่งคุณไปที่โรงพยาบาลเอง!” ส้าวส้วยอุ้มหยางฉงจากพื้นไปที่รถ จากนั้นก็รีบขับไปที่โรงพยาบาล

“ส้าว ส้าวส้วย คนที่พาพี่วี่เฟยไปคือ ชาว ชาวต่างชาติสามคน มีสองคนที่ผิวขาว ส่วนอีกคนผิวดำ คนผิวสีคนนั้นชื่อว่าเสือดำ เป็น เป็นหัวหน้าของพวกเขา พวกเขาจะ จะเอาตัวของพี่วี่เฟย ไปที่ซากปรักหักพังลึกลับ คุณรีบ รีบให้คนตามไป จะต้อง ต้องรีบช่วยพี่วี่เฟยกลับมาให้ได้!”

หยางฉงเหงื่อแตกเต็มหน้าผากพลางพิงอยู่กับเบาะข้างคนขับ จากนั้นก็พูดกับส้าวส้วยด้วยสติเลอะเลือน

เมื่อเห็นว่าเลือดนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ส้าวส้วยก็เหงื่อแตกในมือ เขาพยายามทำให้ตัวเองนั้นใจเย็นลง พลางปลอบหยางฉง แล้วก็รีบเหยียบคันเร่งให้มิด

จากท่าเรือตงกั่งไปถึงโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอย่างน้อยต้องใช้เวลาห้าสิบนาที บนถนนนั้นส้าวส้วยฝ่าไฟแดงเจ็ดถึงแปดครั้ง เลยมาถึงภายในเวลายี่สิบนาที

ภายในเวลาสั้นๆ นั้น หมอและพยาบาลของเมืองตงไห่เหมือนกำลังต่อสู้ พวกเขาแข่งกับเวลา สู้กับเทพแห่งความตาย

“ตรวจสอบ!ฉันกลับอยากจะรู้ว่าใครที่มันกล้าทำกับคนของตระกูลหลี่!ฉันจะต้องให้เขาชดใช้!” ข่าวร้ายมากมายตามมาติดๆ ทำให้เมี๋ยวชุ่ยโกรธ

เธอพูดคำร้ายๆ ออกไป คนที่กล้ามาเป็นศัตรูกับคนของตระกูลหลี่นั้น กล้ามาลงมือกับคนตระกูลหลี่ ถ้าเกิดเป็นคนฉายเดี่ยว ร่างจะแหลกสลาย ถ้าเป็นตระกูลหรือองค์กร จะต้องทำให้ตายคละคลุ้งกลิ่นเลือด ถ้าเกิดเป็นประเทศไหนก็ตาม จะต้องทำให้ไม่เกิดความสงบสุขในบ้านเมืองอีก!

คนชั้นสูงของต้าเซี่ยหลงเช่วนั้นไม่เห็นด้วยกับวิธีของเมี๋ยวชุ่ย พลางคิดว่าในสถานการณ์คับขันแบบนี้ถ้าเกิดก่อเรื่องมีแต่จะทำให้หน่วยการต่อสู้นั้นวุ่นวาย แต่ผู้อาวุโสกลับเห็นดีเห็นงามกับการกระทำที่มากเกินไปของเมี๋ยวชุ่ย แถมยังบอกว่า ยิ่งเวลาวุ่นวายมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องทำให้คนที่ทำอะไรแบบโง่ๆ นั้นได้เห็นความเก่งกาจของพวกเขา

ถึงอย่างไรตอนนี้พวกต้าเซี่ยหลงเช่วกับหน่วยการต่อสู้ ก็เป็นหนึ่งเดียวกับตระกูลหลี่แล้ว ถ้าเกิดเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตระกูลหลี่ล่ะก็ พวกต้าเซี่ยหลงเช่วจะไม่สนใจ แล้วรอให้ตระกูลหลี่ฟื้นกลับมาดังเดิมนั้น พวกเขาคงจะไต่เต้าขึ้นไปไม่ได้แล้ว

เมื่อรับคำสั่งจากผู้อาวุโสแล้ว ลูกน้องของเขาถึงจะยอมไปกับคนตระกูลหลี่เพื่อตรวจสอบคนที่สั่งการเรื่องราวเบื้องหลัง

“เสี่ยวส้วย ราฟาเอล ไท่ซาง พวกคุณสามคนกลับไปเก็บกวาดก่อนเถอะ จากนั้นก็รีบตามไปที่ซากปรักหักพังลึกลับ ฉันโทรหาพ่อของเสี่ยวฝางแล้ว เขาจะเข้าไปที่ทางเข้าเพื่อหยุดพวกชาวต่างชาติที่พาวี่เฟยไป พวกคุณไปถึงที่นั่นแล้ว ให้รีบเก็บพวกไอ้พวกนั้น ความแค้นนี้พวกเราจะทนเก็บไว้ไม่ได้!”

ในฐานะที่เป็นตระกูลหลี่ในตอนนี้และเป็นหัวหน้าของบ้านเพียงคนเดียวในเมืองตงไห่ เมี๋ยวชุ่ยมองพวกส้าวส้วยด้วยความจริงจังพลางพูด ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายของเธอมันไม่ถนัดนั้น เรื่องในครั้งนี้เธอคงไปลงมือทำเอาแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท