NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1213 พบกันแล้ว

บทที่ 1213 พบกันแล้ว

ประโยคนี้ฉินวี่เฟยกล่าวอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เธอไม่อยากจะยืนยันความสัมพันธ์กับจ้าวเทียนหลินเร็วเกินไป หนึ่งคือเธอยังไม่พร้อม สองเธอรู้สึกว่าจ้าวเทียนหลินคนนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นภายนอก

เพราะมีอยู่หลายครั้งที่เธอได้เห็นจ้าวเทียนหลินมองตัวเองด้วยสายตาที่ใช้มองเหยื่อ สายตาแบบนั้นมันทำให้ฉินวี่เฟยรู้สึกขนลุกขึ้นมาภายในใจ

“โอเค ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว ไม่เป็นไร ผมไม่รีบ ยังไงชีวิตนี้ก็ยังอีกยาวนาน ผมจะใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจที่ผมมีต่อคุณ”

ถึงแม้ว่าฉินวี่เฟยจะไม่ได้พูดจบ แต่จ้าวเทียนหลินก็ยังเข้าใจความหมายของฉินวี่เฟย ท่าทางได้รับบาดเจ็บปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า จากนั้นก็ได้ฉีกยิ้มออกมา แสร้งทำเป็นใจกว้างมองฉินวี่เฟยพลางกล่าว

ต้องบอกว่าจ้าวเทียนหลินคนนี้จับความคิดของคนได้เก่งจริง ๆ เดิมทีก็มีหน้าตาที่ดูเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว บวกกับสีหน้าท่าทางเช่นนี้ ช่างดูเป็นผู้ชายที่ลุ่มหลงในความรักจริง ๆ ทำให้ฉินวี่เฟยเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างรุนแรง

“คุณชายเจ้า ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉันแค่……”

“จุ๊……ไม่ต้องอธิบาย ผมเข้าใจ คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด ผมรอได้ พวกเราค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป”

ฉินวี่เฟยกล่าวได้เพียงครึ่งเดียว ก็ถูกจ้าวเทียนหลินใช้นิ้วชี้ปิดริมฝีปากไว้ ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ห่างกันไม่ถึงสิบเซนติเมตร บรรยากาศในห้องส่วนตัวเปลี่ยนไปทันที ฉินวี่เฟยรู้สึกว่าอุณหภูมิโดยรอบได้เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย

“คุณ คุณชายเจ้าฉันอิ่มแล้ว พวกเราไป ไปดูหนังกันเถอะ” ฉินวี่เฟยรู้สึกตื่นตระหนก เธอไม่กล้ามองตาของจ้าวเทียนหลินตรง ๆ หันหน้าหลบหลีกไปอย่างลนลาน เว้นระยะห่างระหว่างทั้งสองคนออกไปอย่างรวดเร็ว

“ฮ่า ๆ เฟยคุณเขินเหรอ?” เป็นธรรมดาที่จ้าวเทียนหลินจะไม่ปล่อยโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป ฉินวี่เฟยขยับไปที่ด้านข้างเล็กน้อย เขาก็ขยับใกล้เข้าไปอีกนิด บีบจนฉินวี่เฟยไม่มีทางให้ถอยได้อีก

“เฟย เวลาคุณเขินช่างน่ารักจริง ๆ แก้มแดงเหมือนแอปเปิลแดงเลย ทำให้ผมอดไม่ได้อยากจะกัดสักคำจริง ๆ” จ้าวเทียนหลินใช้มือค้ำยันเสื่อทาทามิ ปิดล้อมฉินวี่เฟยเอาไว้ในอ้อมแขน ปากก็พูดคำบอกรักที่ชวนอี๋อยู่ไม่หยุด

ฉินวี่เฟยเพียงรู้สึกอึดอัดไปทั่วทั้งกาย ลมหายใจของชายแปลกหน้าทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา จะต้องรู้ว่าภายในห้องส่วนตัวในตอนนี้มีเพียงแค่พวกเขาสองคน ถ้าหากจ้าวเทียนหลินคิดจะทำอะไรจริง ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเธอไม่มีทางที่จะขัดขืนได้

“คุณชายเจ้า พวกเราควรไปกันแล้ว” กล่าวจบ ฉินวี่เฟยก็ลุกขึ้นมาจากเสื่อทาทามิ และคิดที่จะจากไป

แต่ยังไม่ทันที่ฉินวี่เฟยจะจะยืนตัวตรง จ้าวเทียนหลินก็ได้จับเอนานลงไปบนพื้น ทั่วทั้งร่างของฉินวี่เฟยถูกเงาร่างของจ้าวเทียนหลินครอบงำเอาไว้ ท่าทางของทั้งสองคนก็คลุมเครือมากเช่นกัน

“เฟย คุณสวยมากจริง ๆ ผมชอบคุณมากจริง ๆ นะ คุณเป็นแฟนผมเถอะ ผมจะต้องรักทะนุถนอมคุณอย่างแน่นอน!”

ชายหญิงอยู่ในห้องสองต่อสอง จ้าวเทียนหลินหักห้ามนิสัยของสัตว์เดรัจฉานที่อยู่ในใจเอาไว้ไม่อยู่ตั้งนานแล้ว บวกกับที่เขาได้ดื่มเหล้าสาเกลงไปหนึ่งไหเมื่อสักครู่ ตอนนี้รู้สึกเพียงว่าท้องน้อยของตัวเองร้อนเป็นอย่างมาก

เมื่อพูดประโยคนี้จบก็ก้มต่ำลงจะไปจูบริมฝีปากของฉินวี่เฟย ฉินวี่เฟยจะต้องไม่สมยอมเป็นธรรมดา ใช้มือค้ำยันหน้าอกของจ้าวเทียนหลินเอาไว้ คิดจะผลักให้เขาออกไปจากตัวเอง

เธอยิ่งต่อต้าน จ้าวเทียนหลินก็ยิ่งได้ใจใหญ่ ฉินวี่เฟยลองร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนที่อยู่ด้านนอกกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในตอนนี้เธอถึงรู้ว่า ที่แท้จ้าวเทียนหลินได้วางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว อาหารค่ำในวันนี้เป็นกับดักนั่นเอง

ฉินวี่เฟยที่ถูกจ้าวเทียนหลินล็อกแขนล็อกขาเอาไว้รู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมา ทำไมในตอนนั้นเธอต้องไล่ราฟาเอลลงจากรถด้วย ถ้าหากตอนนี้มีราฟาเอลอยู่ เกรงว่าจ้าวเทียนหลินคงแตะต้องไม่ได้แม้แต่ขนของตัวเอง

ในตอนที่ฉินวี่เฟยแทบจะหมดหวังไปแล้วนั่นเอง ก็ได้มีเสียงต่อสู้ดังลอยเข้ามาจากด้านนอก เดิมทีการเคลื่อนไหวไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่เสียงร้องคร่ำครวญก็ได้ค่อย ๆ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

จ้าวเทียนหลินที่กำลังเกิดอารมณ์กระสันเมื่อได้ยินเสียงโกลาหลที่อยู่ด้านนอกก็ได้หยุดการเคลื่อนไหวลง ฉินวี่เฟยถือโอกาสออกแรงเตะเขาที่ตรงกลางระหว่างขอของเขา สลัดหลุดจากการควบคุมแล้ววิ่งออกไปข้างนอก

เธอไม่มีเวลาที่จะมาไตร่ตรองว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ฉินวี่เฟยเพียงแค่ต้องการอาศัยโอกาสนี้สลัดหลุดจากเงื้อมมือของจ้าวเทียนหลิน ต้องการหนีออกไปจากห้องส่วนตัว เช่นตัวเองก็จะได้รับการช่วยเหลือแล้ว

“พี่สะใภ้วี่เฟย? คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” โหจื่อพึ่งหักแขนข้างหนึ่งของนักรบชาวญี่ปุ่นไป หันไปก็เห็นฉินวี่เฟยเสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบวิ่งลงมาจากด้านบน

“โหจื่อ! ช่วยฉันด้วย!” ฉินวี่เฟยที่ขวัญหนีดีฝ่อเมื่อได้ยินเสียงของโหจื่อ ดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา เธอวิ่งโซซัดโซเซเข้าไปทางโหจื่อ

ในตอนนี้โหจื่อก็ไม่มีเวลาไปใส่ใจคนญี่ปุ่นพวกนั้นแล้ว เขารีบถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก และห่อหุ้มฉินวี่เฟยเอาไว้อย่างมิดชิด

นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน! แค่ออกมาทานข้าวเอง ทำไมผู้หญิงของหลี่ฝางทั้งสองคนก็ถูกลวนลามซะแล้ว? นี่ถ้าให้หลี่ฝางรู้เข้า จะต้องลอกหนังของเขาแน่!

“ฉินวี่เฟย! นังสารเลวนี่! กล้าเตะฉันเหรอ วันนี้ฉันจะต้องเอาเธอให้ตายแน่!”

จ้าวเทียนหลินที่ถูกเตะเข้าที่ง่ามขาก็ได้ลงมาจากข้างบนแล้วในตอนนี้ มองฉินวี่เฟยที่หลบอยู่ด้านหลังของโหจื่อก็กัดฟันกรอดตะคอกด่า

“พี่สะใภ้วี่เฟย? คนนั้นใช่ไหมที่รังแกคุณ?” เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวเทียนหลิน โหจื่อก็เข้าใจขึ้นมาทันที สีหน้าที่เดิมทีก็ไม่ค่อยจะน่าดูนักยิ่งเลวร้ายลง

ฉินวี่เฟยยังไม่ทันได้พูดอะไร โหจื่อก็ได้เคลื่อนตัวแวบไปถึงตรงหน้าจ้าวเทียนหลิน และเตะเข้าไปที่ง่ามขาของจ้าวเทียนหลินอย่างแรงอีกครั้ง

เท้านี้ของเขาหนักกว่าฉินวี่เฟยอีกมาก ถูกฉินวี่เฟยเตะหนึ่งครั้ง อย่างมากจ้าวเทียนหลินก็เจ็บอยู่แค่สักพัก แต่ถูกโหจื่อเตะในครั้งนี้ มันทำจ้าวเทียนหลินให้ไร้ผู้สืบสกุลเลยทีเดียว

เสียงร้องโอดครวญดังลั่นร้านอาหารญี่ปุ่น จ้าวเทียนหลินให้มือกุมด้านล่างของตัวเองและเกือบจะเป็นลมไปเพราะความเจ็บปวด

แต่โหจื่อยังคงไม่หายโมโห เขาหยิบเอาดาบซามูไรมาจากด้านข้าง และตัดเส้นเอ็นทั้งแขนและขาของจ้าวเทียนหลินอย่างไม่กะพริบตา

ฉินวี่เฟยดูสภาพน่าอนาถาของจ้าวเทียนหลิน ร่างกายของเธออดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน เธอเบือนหน้าหนีไปอย่างทนดูไม่ได้ และในตอนนั้นเอง ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างกลับปิดปากอาเจียนขึ้นมา

“เสี่ยวฉง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หวางซีเหยามองดูหยางฉงที่เกือบจะอาเจียนจนน้ำดีออกมา และตบหลังให้เธอด้วยความเป็นห่วง หยางฉงอาเจียนไปพลางโบกมือให้กับหวางซีเหยา เป็นเชิงว่าตัวเองไม่เป็นอะไร

“พี่สะใภ้ คุณและหวางซีเหยาไปรอพวกเราที่รถก่อนเถอะ ภาพคาวเลือดแบบนี้คุณท้องอยู่ก็อย่าดูเลย พวกเราจัดการเสร็จเดี๋ยวก็ออกไป

ตอนนี้ไท่ซางกำลังสู้กับนักรบชาวญี่ปุ่นอย่างดุเดือด หันไปเห็นหยางฉงอาเจียนอย่างหนัก จึงรีบให้พวกเขาออกไปจากที่นี่ แต่เพราะกำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้จึงไม่ได้สังเกตเห็นฉินวี่เฟยที่อยู่ด้านข้าง

เดิมทีฉินวี่เฟยคิดว่าหยางฉงเป็นแฟนสาวของโหจื่อ แต่พอได้ยินคำพูดของไท่ซางเธอก็ตะลึงงันไปทันที

ไท่ซางเรียกผู้หญิงคนนี้ว่าพี่สะใภ้ เช่นนั้นก็หมายความว่า ผู้หญิงท้องที่ยืนอยู่ข้างหน้าของตัวเองคนนี้ ก็คือแฟนอีกคนของหลี่ฝาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน