NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1237 บีบให้ตื่นขึ้น

บทที่ 1237 บีบให้ตื่นขึ้น

ในขณะที่หัวของหลี่ฝางเต็มไปด้วยคำถาม ประตูห้องลับเปิดออกกะทันหัน บุคคลสามคนค่อยๆ เดินเข้ามาจากข้างนอก

“แคทเธอริน อาคาอู ปันปู ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้? มาช่วยผมหน่อยสิ ผมขยับไม่ได้เลย!” เมื่อมองเห็นผู้ที่มาใหม่ชัดเจน หลี่ฝางรู้สึกดีใจ เขาไม่คิดเลยว่าจะเป็นพวกแคทเธอริน

แต่ดีใจได้ไม่กี่เท่าไหร่ รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่ฝางก็ต้องแข็งทื่อ จับจ้องทั้งสามที่สีหน้าไร้ปฏิกิริยาใด หัวใจของเขาหล่นวูบ

“แคทเธอริน ทำไมเธอต้องทำแบบนี้ด้วย?”

หากเดาไม่ผิด การที่เกิดการหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อสักครู่นี้ เป็นฝีมือของแคทเธอริน อาคาอู และปันปู

สาเหตุที่พวกเขาทำแบบนี้ เป็นไปได้สูงมากว่าหลี่ฝางจะเป็นลูกหลานของเทพอ้าน

ทีแรกหลี่ฝางปฏิเสธการรับพลังของเทพอ้าน ต่อหน้าแคทเธอรินยอมรับ แต่ความเป็นจริงเธอไม่เคยล้มเลิกความคิดนี้เลย ตอนนี้การที่พาเขามาที่สถานที่แห่งนี้โดยลำพัง คงจะบีบบังคับด้วยกำลัง ให้เขารับการสืบทอดพลังของเทพอ้าน

“หลี่ฝาง ฉันรู้ว่าการทำแบบนี้มันขี้โกง แต่ทุกสิ่งนี้ก็เพื่อตัวนายเอง ท่านเทพอ้านมีพลังแห่งสวรรค์ หากนายสืบทอดต่อพลังของเขา ต่อให้ไม่มีหินคริสทัล นายก็จะมีชีวิตดั่งเทพสว่าง”

แคทเธอรินเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของหลี่ฝาง เอื้อมมือลูบไล้ใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยนพร้อมกล่าว

การกระทำของเธอทำให้หลี่ฝางอึดอัด โดยเฉพาะสายตาที่แคทเธอรินมองเขา ที่แฝงไปด้วยความรักใคร่ ราวกับว่าหลี่ฝางเป็นคนรักของเธออย่างไรอย่างงั้น

“แคทเธอริน เธอตั้งสติหน่อย ผมคือหลี่ฝาง ไม่ใช่เทพอ้าน ผมรู้ว่าเธอมีเจตนาที่ดี ผมไม่โทษเธอหรอกนะ เธอปลดมนต์สะกดในตัวของผมก่อน เราแก้แค้นอาซาโทสก่อนได้ไหม?”

แม้จะไม่รู้ว่าแคทเธอรินเป็นอะไรไป แต่ลางสังหรณ์ของหลี่ฝางบอกเขาว่า จิตใต้สำนึกของแคทเธอรินเป็นไปได้สูงมากว่าจะถูกคนอื่นครอบงำแล้ว ส่วนคนที่ควบคุมเธอ คงจะเป็นแม่มดที่ตายไปตั้งแต่เมื่อพันปีก่อน

และบ่อน้ำเลือดนั่นทำให้หลี่ฝางรู้สึกไม่สบายใจ พลังของเทพอ้านจะตื่นขึ้นไม่ได้ หากตื่นขึ้นมา จะเกิดภัยพิบัติขึ้นอีกระลอก

“อือ……หลี่ฝาง……ฉัน ร่างกายของฉันควบคุมไม่ได้แล้ว ทำไม……หุบปาก! แกรู้ไหมว่าฉันรอวันนี้มานานแค่ไหน? เพื่อฟื้นคืนชีพให้เทพอ้านฉันยอมขายดวงวิญญาณให้กับจอมมาร ตอนนี้เหลือเพียงก้าวสุดท้ายเท่านั้น ใครก็อย่าคิดที่จะขัดขวางฉัน!”

เมื่อแคทเธอรินได้ยินเสียงเรียกของหลี่ฝางสายตาของเธอส่ายอย่างมึนมัว ใบหน้าเล็กเผยความเจ็บปวด แต่ได้สติเพียงแค่ชั่ววูบเท่านั้น ไม่ทันที่เธอจะได้กล่าวจบสมบูรณ์ดี สติสัมปชัญญะของเธอถูกแม่มดครอบงำอีกครั้ง

แม่มดจ้องมองหลี่ฝางอย่างดีใจ ก่อนที่จะออกคำสั่งกับอาคาอูและปันปูที่อยู่อีกด้าน “พวกแกสองคนจับมันโยนลงไปที่บ่อเลือด!”

เมื่อจ้องมองปฏิกิริยาที่แข็งกระด้างของทั้งสอง หลี่รู้ได้ทันทีว่าอาคาอูและปันปูถูกแม่มดควบคุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ที่ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้ หลี่ฝางนอกจากยอมรับชะตากรรมแล้วดูเหมือนว่าจะไร้หนทางอื่นอีกแล้ว

“เดี๋ยวก่อน! แม่มดผมมีเรื่องจะพูด!” ในขณะที่หลี่ฝางกำลังจะถูกจับโยนลงบ่อเลือด เขาพลันนึกวิธีอะไรขึ้นมาได้กะทันหัน

“ทำไม? แกมีคำสั่งเสียอะไร!” แม่มดมองหลี่ฝางอย่างเหยียดหยามพร้อมกล่าว

“เอ่อ……ท่านว่าผมเป็นถึงลูกหลานเทพอ้าน ถูกคนอื่นบีบบังคับให้ตื่นขึ้น ไม่ค่อยดีใช่รึเปล่า? เอาอย่างงี้ไหม ท่านให้พวกเขาสองคนออกไปก่อน ท่านช่วยให้ผมตื่นขึ้นเองเป็นไง?”

หลี่ฝางเพียงแค่อยากยื้อเวลาก่อนตายเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าแม่มดจะให้อาคาอูและปันปูออกไปจริงๆ เขาเก็บความดีใจเอาไว้ไม่แสดงออกมา เริ่มแผนล่อลวง

“ท่านไม่อยากให้เทพอ้านเห็นหน้าของท่านเป็นคนแรกหรือเมื่อตื่นขึ้นมา? เพื่อเขาท่านรอมาหลายพันปี! หากมีผู้หญิงสักคนที่ยอมทำเพื่อผมขนาดนี้ ผมต้องซาบซึ้งใจมากแน่ๆ”

เมื่อเห็นแม่มดเริ่มหวั่นไหว หลี่ฝางเริ่มปลอบหนักกว่าเก่า เป็นไปตามคาด ผู้หญิงมักใช้ความรู้สึก ต่อให้มีชีวิตอยู่มาหลายพันปีแล้วยังไง เมื่อเจอเรื่องของความรู้สึกเข้าไปก็ไร้หนทางเช่นเดิม

“พวกแกสองคนออกไปก่อน ไม่มีคำสั่งของฉันห้ามเข้ามา” แม่มดไตร่ตรอง ก่อนที่จะทำตามคำของหลี่ฝางจริงๆ ไล่อาคาอูและปันปูออกไปด้านนอก

หลี่ฝางกำลังคิดที่จะล่อลวงแม่มดให้ปลดมนต์สะกดเขาออก ไม่คิดเลยว่าแม่มดจะอุ้มเขากระโดดลงไปในบ่อน้ำเลือด

ไม่ทันระวัง หลี่ฝางสำลักบ่อน้ำเลือด กลิ่นคาวที่น่าสะอิดสะเอียนแทบจะทำให้เขาอาเจียนออกมา แถมบ่อน้ำเลือดนี้ลึกสุดลูกหูลูกตา เขาที่ขยับร่างไม่ได้เมื่อล้มลงแล้วจึงค่อยๆ จมลงไปด้านล่าง

ในขณะที่หลี่ฝางคิดว่าเขากำลังจะสำลักตาย ปากของเขากลับสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้าปอดของเขา ทำให้หลี่ฝางที่กำลังจะสิ้นลมค่อยๆ ได้สติกลับคืนมา

เมื่อคนเราตกลงก็จะกลายเป็นขี้เหร่อยู่แล้ว แถมนี่ยังเป็นบ่อน้ำเลือด ต่อให้แคทเธอรินสวยมากแค่ไหน ในตอนนี้ในสายตาของหลี่ฝางก็ขี้เหร่มากผิดปกติ

ไม่รู้ว่าบ่อน้ำเลือดเกิดปฏิกิริยาขึ้นหรือยังไง หลี่ฝางค้นพบว่าร่างกายของเขาพอจะขยับได้บ้างแล้ว เขาคิดว่าผลักแคทเธอรินออกตามสัญชาตญาณ ทว่ากลับดูดเข้าที่ปากของแคทเธอรินอย่างแรง

ไม่รู้ว่ากัดจนเลือดออกหรือไม่ เมื่อแม่มดรับรู้ถึงความเจ็บปวดเธอยกแขนขึ้นบีบคอของหลี่ฝาง ลากของออกจากบ่อเลือดด้วยมือข้างเดียว

“แกรนหาที่ตาย!” แม่มดลูบไล้ริมฝีปากร่างที่ถูกกัดจนเลือดออก ดวงตาจ้องเขม็งหลี่ฝางอย่างดุร้าย

“เห้ๆ เอาเปรียบผมต้องชดใช้บ้างสิ” หลี่ฝางจ้องมองแม่มดด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน กล่าวอย่างปากเก่ง

เขารู้สึกว่าพลังในร่างของเขาค่อยๆ ฟื้นฟู ตอนนี้ขอเพียงแค่ยื้อเวลาหน่อย รอให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติ หลี่ฝางก็จะสามารถตอบโต้ได้

แต่ใครจะไปคิดว่าแม่มดคนนี้ไม่เดินไปตามแนวทางของคนปกติ ไม่รู้ว่าเขาใช้มนต์อะไร มือข้างซ้ายปรากฏยันต์แสงเรืองรอง แปะเข้ากับอกของหลี่ฝาง

ต่อมาหลี่ฝางเจ็บปวดจนกรีดร้องโอดครวญ เขารู้สึกว่าในบ่อน้ำเลือดมีงูที่เย็นเฉียบมากมายนับไม่ถ้วนชอนไชเข้าในร่างของเขา หน้าอกเจ็บปวดจนแทบระเบิด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท