NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1238 ควบคุมได้ชั่วคราว

บทที่ 1238 ควบคุมได้ชั่วคราว

ร่างของหลี่ฝางลอยขึ้นมายังผิวน้ำอย่างเสียการควบคุม พลังงานสีดำที่ราวกับดวงจิตปะทุเข้าสู่ร่างของเขาจากทุกทิศทาง

ผมที่ยาวเท่าหูของหลี่ฝางในทีแรกพริบตายาวถึงเอว รูปร่างก็แข็งแรงกว่าแต่ก่อนไม่น้อย หว่างคิ้วตรงกลางมีรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเพิ่มขึ้นมา แถมยังมีรอยแตกแยกสีดำแดงมากมายกระจายออกมาจากรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน

ในหัวของหลี่ฝางกึกก้องไปด้วยน้ำเสียงของคนอีกคน เขาต้องการยึดครองร่างนี้ตลอดเวลา ในขณะที่สติของหลี่ฝางกำลังล่องลอย ในที่สุดเขาก็ฟื้นฟูพลังมาได้

เขาใช้แรงกัดลิ้นของตนเองอย่างแรง ความเจ็บปวดทำให้เขามีสติขึ้นมาก ปล่อยพลังของตนเอง รั้งให้พลังงานหมอกสีดำอยู่ข้างนอก

หลี่ฝางรีบสกัดจุดในร่างของเขาหลายจุด เพื่อกีดกันการตื่นขึ้นมาของเทพอ้าน ก่อนนั่งสมาธิอยู่ที่เดิม พยายามควบคุมพลังในร่างของตนเองในเป็นหนึ่งเดียว

“ไม่! หยุดนะ!” แม่มดไม่คิดเลยว่าหลี่ฝางจะขัดการตื่นขึ้นช่วงเวลาที่สำคัญขนาดนี้ ต้องการเข้าไปยังเขาแทบคลั่ง

ทว่าเมื่อแขนของแม่มดอยู่ห่างจากหลี่ฝางสิบกว่าเมตร ร่างกายของเธอก็ถูกพลังของหลี่ฝางดีดออก กระแทกเข้ากับผนังอย่างแรง

หลี่ฝางใช้พลังมหาศาลในการบีบเค้นเอาพลังงานปราณสีดำมาไว้ที่แขนด้านซ้าย และผนึกจุดที่แขนด้านซ้ายเอาไว้ทั้งหมด ไม่ให้โอกาสเทพอ้านได้ตื่นขึ้น และทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ แขนซ้ายของเขาก็จะใช้ไม่ได้

“แคทเธอริน? เธอโอเคไหม?” หลี่ฝางอาเจียนเอาพลังงานที่ไม่ดีออกมา กล่าวถามแคทเธอรินที่ล้มลงกับพื้นสลบไม่รู้ตื่น

ตอนนี้เขาเริ่มอ่อนล้าหมดพลัง อยากหลับพักผ่อนซะเดี๋ยวนี้ แต่เมื่อนึกถึงส้าวส้วยและหลี่ต๋าคางที่ถูกแม่มดแยกออกไปคนละทิศละทาง เขาอดที่จะตั้งสติไม่ได้

อาจเป็นเพราะเทพอ้านถูกผนึก แม่มดในร่างของแคทเธอรินก็หลับใหลไปด้วย เมื่อเธอได้ยินเสียงของหลี่ฝางก็ค่อยๆ ได้สติตื่นขึ้น พยายามประคองร่างที่แทบแหลกสลายให้ลุกขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ

“หลี่ฝาง ขอโทษ ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากที่ฉันเข้ามาที่โลกใต้พิภพก็ควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายทุกคน”

แม้เธอจะควบคุมร่างกายของตนเองไม่ได้ แต่แคทเธอรินรู้เรื่องราวทุกอย่างที่แม่มดได้ทำลงไป เธอเห็นแม่มดแอบแตะต้องกลไกของป่า อยากจะเตือนหลี่ฝางและคนอื่นๆ แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย

มองดูแม่มดพาตัวหลี่ฝางไปต่อหน้าต่อตา เพื่อทำการฟื้นคืนชีพเทพอ้าน อยากจะขัดขวางแต่ทำอะไรไม่ได้

ความรู้สึกไร้ทางเลือกทำให้แคทเธอรินเจ็บปวดแสนสาหัสเพราะความรู้สึกผิด เมื่อนึกถึงคนอื่นต้องตกอยู่ในอันตรายเพราะเธอ เธอไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้

“แคทเธอริน เธอไม่ต้องโทษตัวเองหรอก ผมรู้ว่าทุกสิ่งนี้เธอไม่ได้เป็นคนทำ” หลี่ฝางจ้องมองแคทเธอรินที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ไม่สามารถโทษได้ลงจริงๆ

ไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่ตายไปแล้วกว่าพันปี ยังมีแผนการนี้เก็บซ่อนเอาไว้ ตอนนี้เรื่องราวได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่ให้เทพอ้านชิงร่างไปได้ ถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายอย่างมากแล้ว

ตอนนี้หลี่ฝางไม่สนอะไรแล้ว เขาเพียงอยากหาหลี่ต๋าคางและคนอื่นๆ ให้พบ แล้วหาหินคริสทัลพร้อมหาตัวอาซาโทสไปด้วย

“ฉันรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ฉันพาคุณไปหาพวกเขาได้ วางใจเถอะ หินคริสทัลยังไม่ถูกค้นพบ”

เพราะความสามารถพิเศษ แคทเธอรินไม่ต้องถามก็รับรู้ความคิดของหลี่ฝาง แม้เมื่อสักครู่นี้เธอควบคุมร่างกายของตนเองไม่ได้ แต่ก็พอสังเกตการณ์ แอบจำสถานที่ตั้งของคนอื่นเอาไว้

เทพเธอในตอนนี้ยังพบว่าเธอรับรู้ได้ถึงทุกสิ่งในสุสานเทพอ้าน แม้แต่หินคริสทัลเองก็ชัดเจนอย่างมาก

ส่วนเพราะเหตุใดเธอถึงได้มีพลังพิเศษ อาจเป็นเพราะเธอเป็นแม่มดชาวอูข่า มีการเชื่อมโยงหลากประการกับเทพอ้าน เพราะงั้นเมื่อแคทเธอรินเข้ามาที่สุสานเทพอ้าน จึงมีพลังแบบนี้เกิดขึ้น

เสียเวลาไปนาน ในที่สุดหลี่ฝางก็ได้ยินข่าวดีบ้าง “แคทเธอริน เธอรู้ไหมว่าตอนนี้พ่อของผมเขาอยู่ที่ไหน”

ตอนนี้แขนข้างซ้ายของเขาถูกผนึก ความสามารถไม่เท่าแต่ก่อน ตอนนี้เขาต้องหาคนที่เหลือและรวมตัวกัน ไม่เช่นนั้นหากเจออาซาโทสในตอนนี้ ความสามารถของหลี่ฝางในตอนนี้ต้องตายอย่างแน่นอน

“สุสานของเทพอ้านเป็นวงกลมขนาดใหญ่ วงกลมตรงกลางเป็นจุดศูนย์กลาง ด้านนอกยังมีอีกสี่วง แต่ละวงมีจำนวนห้องลับที่แตกต่างกัน เล็กและใหญ่รวมกันกว่าพันห้อง และห้องลับเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกกำหนดแน่นอน จะหมุนเปลี่ยนทุกครึ่งชั่วโมง ไร้กฎเกณฑ์ใดๆ”

“เพราะงั้นที่ตั้งของพ่อคุณไม่ได้อยู่ตรงนั้นเสมอ ตอนที่คุณเพิ่งตื่นฉันพอสังเกตบ้าง เขาอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อกี้ยันตอนนี้ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เรารออีกหน่อยเถอะ รอเขากำหนดจุดก่อนแล้วเราค่อยออกเดินทาง”

อันที่จริงแคทเธอรินเองก็เพิ่งเข้ามาที่โลกใต้พิภพเป็นครั้งแรก แต่ไม่รู้เพราะอะไร เรื่องราวของสุสานเทพอ้านราวกับว่าอยู่ในหัวของแคทเธอรินก่อนแล้ว เธอจำได้อย่างแม่นยำ แถมยังบอกได้อย่างคล่องแคล่ว

หากต้องหาสักเหตุผล อาจเพราะตอนที่เธอถูกแม่มดครอบงำ ความทรงจำเกี่ยวกับสุสานเทพอ้านของแม่มดก็ทิ้งร่องรอยเอาไว้ในหัวของแคทเธอรินด้วยเช่นกัน

แม้ตอนนี้หลี่ฝางจะใจร้อนมาก แต่ก็ไร้หนทาง แต่ก็มีเพียงแต่ต้องรอให้สุสานนี้หมุนเปลี่ยนก่อนค่อยวางแผน

“แคทเธอริน เธอรู้ไหมสิ่งที่อยู่ในร่างกายของฉันคืออะไร? ไอ้สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกมีลางร้าย”

หลี่ฝางจ้องมองแขนข้างซ้ายที่ดำมะเมื่อม กล่าวถามอย่างสงสัย

แคทเธอรินมองแขนด้านซ้ายของหลี่ฝาง สีหน้าคร่ำเครียดเช่นเดียวกัน “ก่อนหน้านี้ฉันบอกกับคุณแล้ว เทพอ้านฝึกวิชาที่ค่อนข้างพิเศษ บรรพบุรุษของฉันเรียกว่าการกลืน และพลังแห่งการกลืนนี้ ตามตำนานเล่าขานบอกว่าเทพอ้านได้มาจากการแลกเปลี่ยนกับหลอซ่าแห่งนรกขุมที่สิบแปด”

“เทพอ้านที่มีพลังแห่งการกลืนสามารถเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน เมื่อศัตรูเข้าใกล้ ก็จะถูกเขาใช้พลังแห่งหารกลืนดูดจนแห้ง สงครามเทพอ้านเมื่อพันปีก่อน เทพหมิงใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์ลบล้างพลังแห่งการกลืนในร่างของเทพอ้าน ถึงได้รับชัยชนะ”

“และน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เอามาลบล้างเทพอ้าน ก็กลายเป็นบ่อน้ำเลือดไปแล้ว พลังแห่งการกลืนพวกนั้นวนเวียนอยู่ข้างบ่อน้ำเลือด กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่หมดไป ที่แขนซ้ายของคุณ เป็นส่วนหนึ่งของพลังแห่งการกลืน”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท