NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1246 ชายลุ่มหลงในความรัก

บทที่ 1246 ชายลุ่มหลงในความรัก

“ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น แกคิดว่าเราจะใส่ใจอย่างงั้นหรือ?” หลี่ฝางและคนอื่นๆ โมโหจนกัดฟันแน่น หลี่ต๋าคางกล่าวทันที

สายตาของเขาเย็นชาขณะกล่าวประโยค ในน้ำเสียงเองก็ไร้เยื่อใยแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าตัดสินใจที่จะฆ่าแคทเธอรินจริงๆ

“แกไม่สนใจความเป็นความตายของนางนี่จริงๆ งั้นหรือ? ฉันไม่ได้ล้อเล่น! แกคิดดูให้ดี!”

แม่มดไม่คิดเลยว่าหลี่ต๋าคางจะให้คำตอบอย่างงั้น เธอทำอะไรไม่ถูก ถึงกับต้องใช้ความสามารถ คิดที่จะไปเสาะหาความคิดจริงๆ ในใจของหลี่ต๋าคาง

แค่สิ่งที่เธอต้องตกใจ หลี่ต๋าคางไม่แยแสความเป็นความตายของแคทเธอรินเลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้ทำให้เธอลนลาน

“เหอะ เธอก็แค่วิญญาณเร่ร่อนที่ตายไปแล้วเป็นพันปี อุตส่าห์ได้โอกาสเกิดใหม่ คงเห็นค่าร่างใหม่ที่ได้มาอย่างยากเย็นมากกว่าใคร เธอจะยอมให้เธอตายไปง่ายๆ อย่างงั้นหรือ?”

“คำพูดพวกนี้หลอกลวงเจ้าลูกชายโง่ของฉันอย่างเดียวก็พอแล้ว คิดที่จะหลอกฉันงั้นหรือ? และต่อให้เธอไม่สนใจว่าจะเป็นจะตายจริงๆ ฉันก็ไม่สนใจ ยังไงเราก็ไม่ได้สนิทกับแม่หนูนี่ ตายก็ตายไปสิ”

เมื่อหลี่ต๋าคางเปิดโปงความคิดของเธอ สีหน้าของแม่มดบูดบึ้ง

หากไม่ใช่ว่าการสอดแนมสมองของคนอื่นมีเพียงแค่แม่มดเท่านั้นที่ทำได้ เธอแทบจะสงสัยว่าผู้ชายคนนี้เองก็เข้าใจวิชาอ่านใจคนด้วย

แน่นอน ดวงจิตของเธอหลับใหลนับพันปี ตอนนี้อุตส่าห์รอให้ลูกหลานของเทพอ้านมาที่นี่จนได้ อุตส่าห์ได้ร่างที่สมบูรณ์แบบมา ไม่มีทางที่เธอจะตายไปง่ายๆ แน่

เมื่อเห็นว่าการข่มขู่ใช้ไม่ได้ผล แม่มดจึงเริ่มวางแผนในใจอีกครั้ง เธอไม่สนใจในความบาดหมางของคนพวกนี้กับอาซาโทส ไม่สนใจคริสทัลแม้แต่น้อย

เธอคิดแค่ว่าทำยังไงถึงจะฟื้นคืนชีพเทพอ้านได้ แบบนั้นเธอก็จะสามารถสานสัมพันธ์ในชาติที่แล้วต่อกับเทพอ้านได้

“อย่าจ้องฉันอำมหิตแบบนั้น ฉันไม่ได้คิดที่จะทำร้ายพวกแก ฉันก็แค่อยากฟื้นคืนชีพคนที่ฉันรักเท่านั้น พวกแกอยากได้คริสทัลก็ไปแย่งชิงสิ ฉันไม่สนใจหรอก”

สายตาที่จ้องเขม็งตนอย่างเหี้ยมโหด แม่มดยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกล่าว

“เลิกพูดมากได้แล้ว! ไสหัวออกจากร่างของแคทเธอรินซะ!”

อยากจะฟื้นคืนชีพคนรักอะไรกัน ไร้สาระทั้งเพ!

ให้ตายปีศาจที่ตายไปแล้วเป็นพันปีสองตัว ตอนนี้คิดที่จะฟื้นคืนชีพโดยการแย่งชิงร่างของคนอื่น แถมเธอยังมีหน้ามาบอกว่าไม่คิดจะทำร้ายคนอื่นอีก

ตลกสิ้นดี!

หลี่ฝางไม่อยากจะพูดพร่ำกับแม่มดมากไปกว่านั้น พลันก่นด่าก่อนเริ่มโจมตี

“หยุด!” แต่ในตอนนี้เอง ประตูห้องลับถูกเปิดออกอีกครั้ง เงาร่างสีขาวร่างหนึ่งลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าของแม่มด รับกระบวนท่าของหลี่ฝางแทนเธอ

“ท่านผู้อาวุโสป๋าย ท่านหมายความว่ายังไง?” หลี่ฝางจ้องมองท่านชายป๋ายยู่ที่อยู่ตรงหน้าของตน ขมวดคิ้วกล่าวถามอย่างไม่พอใจ

“ฉันหมายความว่ายังไงงั้นหรือ? ฉันอยากจะถามแกมากกว่าว่าหมายความว่ายังไง! เปิดประตูออกมาก็เห็นแกจู่โจมนางฟ้าของฉัน! ทำไม อยากมีเรื่องหรือไง?”

ท่านชายป๋ายยู่จ้องเขม็งหลี่ฝางอย่างไม่อ่อนข้อ พลังในร่างแผ่ซ่าน

แม่มดอ่านใจท่านชายป๋ายยู่ เมื่อรู้ว่าเขามีใจให้แคทเธอริน สายตาของเธอเป็นประกายทันที ร่างกายอ่อนยวบทิ้งตัวพิงกับไหล่ของท่านชายป๋ายยู่

“ท่านชายป๋าย ดีที่มีท่าน พวกเขาคิดจะฆ่าฉัน! ท่านต้องช่วยฉันนะ!”

“คะ แคทเธอริน เธอ เธอวางใจเถอะ ผมจะปกป้องคุณเป็นอย่างดี!”

แคทเธอรินไม่เฉยชากับเขากลับสนิทสนมขึ้นมา ท่านชายป๋ายยู่ขาดสติไปในทันที ใบหน้าของเขาดีใจจนเบ่งบาน

“ให้ตาย แม่มดเฒ่าอย่างเธออย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงจะได้ไหม! ท่านผู้อาวุโสป๋าย ดูให้ดีสิ เธอไม่ใช่แคทเธอริน เธอเป็นแม่มดเฒ่าเท่านั้น!”

เสือขาวที่ขี้โมโหไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ก้าวออกมาชี้หน้าแม่มดตวาดเสียงดัง

“หุบปาก!” นางฟ้าของเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดเฒ่า ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ไม่สามารถทนอยู่ได้ แถมนี่ยังเป็นท่านชายป๋ายที่ถูกความรักครอบเงาอยู่

เขาฟาดใบมีดที่แหลมคมไปยังเสือขาว หากไม่ใช่หงส์แดงที่อยู่ข้างๆ ลาดเขาออกมาได้ทันท่วงที เสือขาวคงจะเป็นสองท่อนไปแล้ว

“ท่านผู้อาวุโสป๋าย! ดวงจิตในร่างนี้ไม่ใช่แคทเธอรินอีกแล้ว! ท่านตั้งสติ อย่าถูกภายนอกล่อลวงเอาได้!”

หลี่ฝางไม่คิดเลยว่าป๋ายเจินเจินจะบ้าคลั่งได้ขนาดนี้ จับจ้องเขาด้วยใบหน้าโหดเหี้ยม เตือนอย่างเย็นชา

“แคทเธอริน ที่พวกเขาพูดเป็นเรื่องจริงไหม?” ท่านชายป๋ายยู่จ้องหลี่ฝางอย่างจริงจัง ด้วยความลังเล หันหน้ากลับไปถาม

“ท่านชายป๋าย ท่านบอกว่าไม่ว่าฉันจะเป็นยังไงก็จะรักฉันไม่ใช่หรือ? หรือว่าเพราะนิสัยของฉันเปลี่ยนไปจากแต่ก่อน ท่านก็ไม่รักฉันแล้วงั้นหรือ? ดูเหมือนว่า ฉันจะมองท่านผิดไป”

แม่มดกล่าวพร้อมบีบน้ำตา ทีท่าน่าสงสารของเธอทำให้ท่านชายป๋ายยู่ขาดสติไปโดยสิ้นเชิง

“ฉันต้องรักเธอตลอดอยู่แล้ว! แคทเธอริน อย่าร้องไห้ ฉันรักเธอจริงๆ ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ฉันก็จะรักเธอตลอด!”

ท่านชายป๋ายยู่โอบแคทเธอรินอย่างระแวดระวัง น้ำเสียงเบาแผ่ว ราวกับว่าดังหน่อยเดียวก็จะทำให้หญิงสาวในอ้อมกอดตื่นตระหนกอย่างไรอย่างงั้น

“สวรรค์! ป๋ายเจินเจิน ช่วยมีสติหน่อยจะได้ไหม! เธอไม่ใช่แคทเธอรินจริงๆ!”

เสือขาวแทบคลั่ง เขาเห็นท่านชายป๋ายยู่ถูกประโยคเพียงไม่ที่คำของแม่มดล่อลวง โมโหจนตับแทบแตก

“หุบปาก! เธอใช่แคทเธอรินหรือไม่ฉันตัดสินเองได้! หากพวกแกกล้าแตะต้องเธอ ฉันจะไม่เกรงใจอีกต่อไปแล้ว!”

ราวกับเปลี่ยนไปในพริบตา แสดงความลึกซึ้งต่อหน้าแคทเธอริน ท่านมองท่านชายป๋ายยู่ที่แสนอ่อนโยนสลับกับเหล่าเสือขาว สีหน้ามืดมน สายตาคมกร้าวราวกับใบมีด

“แม่งเอ๊ย……” เสือขาวคิดที่จะกล่าวเสริม แต่กลับถูกหงส์แดงที่อยู่อีกด้านขัดขึ้นเสียก่อน

“ป๋ายเจินเจิน ฉันจะให้เกียรติแก ไม่แตะต้องผู้หญิงคนนี้ แต่ทางที่ดีแกจับตาดูเธอเอาไว้ให้ดี ถ้าเธอกล้าลงมือกับลูกชายของฉัน ฉันจะทำให้เธอต้องนึกเสียใจทีหลังที่ได้เกิดใหม่บนโลกใบนี้!”

หลี่ต๋าคางเหลือบมองท่านชายป๋ายยู่และแม่มดอย่างเย็นชา ทิ้งท้ายประโยคก่อนที่จะเดินไปบังหน้าประตูห้องลับ

ผู้ชายที่ตกอยู่ในบ่วงแห่งความรัก ต่อให้พูดยังไงก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อกู่ไม่กลับ ถ้างั้นก็ต่างคนต่างไป ทางใครทางมัน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท