NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1244 ลาก่อนฉินวี่เฟย

บทที่ 1244 ลาก่อนฉินวี่เฟย

เสียงขู่ของฝูงงูด้านหลังนั้น กับเสียงเลื้อยขึ้นมานั้นมันทำให้ขนลุกขึ้น หลี่ฝางแทบจะรู้สึกว่างูเหล่านั้นมันเลื้อยอยู่ที่หลังของตัวเอง

“ทางนี้!” แคทเธอรินวิ่งไปที่ด้านหน้าสุดของทีม เมื่อไปถึงที่ประตูของห้องลับนั้นก็รีบเปิดประตูออก เวลาการเปิดและเข้าไปในห้องลับนั้นมันใช้เวลาไม่ถึงห้าวินาที แม้จะรวดเร็ว แต่ก็ยังมีงูแดงที่ลอดเข้าไปได้

แต่เพราะมันมีจำนวนไม่มาก เพียงไม่นานก็ถูกหลี่ฝางจัดการหมดแล้ว

ห้องลับนี้ดูเหมือนจะปลอดภัยกว่าแต่ก่อนหน่อย อย่างน้อยก็เป็นห้องลับธรรมดา ที่นี่โล่งว่างไม่มีอะไรเลย มีเพียงไฟดิสโก้อยู่จุดสูงสุดของห้องลับเท่านั้นเอง ที่ส่องแสงเยือกเย็นออกมา

หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าห้องลับนั้นไม่มีอะไรผิดปกติ ถึงจะผ่อนคลายลงเล็กน้อย

“เห้อ……” เมื่อถอนหายใจยาวๆ หลี่ฝางก็พิงกำแพงหินก่อนจะพูดกับคนอื่นๆ “ที่บ้าๆ นี่ฉันไม่อยากจะมาอีกแล้ว”

เสือขาวที่วิ่งมาด้วยความเหนื่อยนั้นก้มหน้าเหนื่อย ก่อนจะพูดชมหลี่ฝาง “ฉันเอง……”

แต่ยังไม่ทันพูดจบ เสือขาวก็เป็นลมล้มลงกับพื้น จากนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้นมาก จนคนอื่นๆ ตกใจยกใหญ่ หลี่ฝางกำลังอยากจะเข้าไปดูสถานการณ์ ในหูกลับมาเสียงแหลมดังขึ้น ก่อนจะมีโลกหมุน ส่วนแคทเธอรินกับหงส์แดงก็ค่อยๆ ล้มลงตามๆ กัน

หลี่ฝางใช้แรงกัดปลายลิ้นของตัวเอง เพราะอยากจะใช้ความเจ็บในการตั้งสติตัวเอง แต่เมื่อมีสติกลับมา ก็มืดไปหมดไม่เห็นอะไรเลย

“เอ้อ……ที่นี่ที่ไหน?ทำไมฉันกลับมาได้ล่ะ?” หลี่ฝางมองไปที่บรรยากาศรอบๆ ก่อนจะมีสีหน้าแปลกใจไป

เขาจำได้ว่าตัวเองกับพวกหลี่ต๋าคางถูกฝูงงูไล่ล่า เมื่อหลบเข้ามาในห้องลับ จากนั้นก็เป็นลมไป เพียงพริบตากลับกลับมาที่เมืองตงไห่ที่ห้องเล็กๆ ของตัวเองกับฉินวี่เฟยงั้นเหรอ?

“หลี่ฝาง!คุณฟื้นแล้วเหรอ!”

ตอนที่หลี่ฝางยังคิดอะไรไม่ครบครันนั้น ฉินวี่เฟยก็ใส่ชุดกระโปรงสุดยั่วยวนออกมา เธอเห็นหลี่ฝางที่ฟื้นขึ้นมาบนเตียงแล้ว เลยเอาถาดในมือมาวางที่ตู้ข้างเตียง จากนั้นก็ปรี่เข้าไปในอ้อมกอดของหลี่ฝางทันที

“วี่ วี่เฟยงั้นเหรอ?คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?คุณ คุณให้อภัยฉันเหรอ?” หลี่ฝางกอดคนในอ้อมกอด ก่อนจะได้ไออุ่นจากเธอ พลางถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินวี่เฟยก็ยืดตัวขึ้น ก่อนจะเบิกตามองหลี่ฝาง “นี่มันเป็นบ้านของฉันกับคุณนะ ทำไมฉันจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะ?เรื่องก่อนหน้านี้ฉันไม่ว่าอะไรแล้วล่ะ ขอแค่คุณกลับมาอย่างปลอดภัย จากนี้จริงใจต่อฉันเพียงคนเดียวก็พอแล้ว”

หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยอย่างอึ้งไปอยู่นาน จากนั้นก็มีสติกลับมา ความยินดีบนใบหน้านั้นมันแทบจะเก็บเอาไว้ไม่อยู่ เลยก้มลงจุ๊บเธอ ใครๆ ก็รู้ว่าเขาอยากให้ฉินวี่เฟยให้อภัยตัวเองมากแค่ไหน และอยากจะกอดคนที่ตัวเองรักมากเท่าไหร่

ตอนแรกหลี่ฝางเองก็ไม่ได้คิดอะไร แต่จากนั้นเมื่อฉินวี่เฟยเริ่มขยับ หลี่ฝางก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่

เมื่อผ่านไป หลี่ฝางก็โอบกอดฉินวี่เฟยที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ก่อนจะถามเรื่องหลังจากที่ตัวเองสลบมึนไป

“วี่เฟย ฉันกลับมาได้อย่างไร?อาซาโทสล่ะ เขาตายหรือยัง?พ่อฉันล่ะ?ส้าวส้วยกับพวกกู่ยี่เทียนออกมาหรือยัง?”

“อั้ยหยา คุณถามฉันมากขนาดนี้ ฉันไม่รู้จะตอบอย่างไรดี แล้วก็ คุณเอาแต่ห่วงพวกเขา ทำไมคุณไม่ถามบ้างว่าฉันเป็นอย่างไรบ้าง”

ฉินวี่เฟยเบ้ปาก พลางเอานิ้วไปชี้วนรอบหน้าอกของหลี่ฝาง จากนั้นจึงพูดด้วยความไม่พอใจ

ความออดอ้อนของฉินวี่เฟยนั้นไม่ค่อยได้เจอ

แต่หลี่ฝางก็มีสติขึ้นมามาก แต่ถึงอย่างไรตัวเองกลับมาตอนนี้ ก็ไม่กลัวแล้วว่าจะไม่มีเวลาอยู่กับฉินวี่เฟย ตอนนี้ต้องรีบจัดการภายในซากปรักหักพังให้ชัดเจนก่อน

“ทำไมฉันจะไม่แคร์คุณล่ะ เด็กดี คุณบอกฉันหน่อยว่าหลังจากที่ฉันสลบไปมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้ไหม?”

“อื้อ จะให้ฉันบอกคุณก็ได้ แต่คุณต้องสาบานก่อนว่าชีวิตนี้จะไม่จากฉันไป แล้วอยู่กับฉันที่นี่”

ฉินวี่เฟยเงยหน้ามองหลี่ฝาง จากนั้นก็มีแววตาสีฟ้าเป็นประกายออกมา

หลี่ฝางที่สบตาในตอนนั้นดวงตาทั้งสองข้างก็ไร้แวว เหมือนกับไม่ได้สังเกตเห็น “ฉันสาบานว่าฉันจะ……”

“เสี่ยวฝาง!ตั้งสติหน่อย!นี่มันเป็นภาพลวงตานะ!”

ขณะที่หลี่ฝางกำลังจะสาบาน เสียงของหลี่ต๋าคางก็เข้ามาอยู่ในหูของเขา ตอนแรกที่เขาไร้แววตาแล้วก็มีแววตาประกายขึ้นมาอีกครั้ง

ฉินวี่เฟยที่ยิ้มอยู่ก็มีแววตาเปลี่ยนไป กลายเป็นแววตาที่มีความอาฆาต แววตาสีฟ้านั้นเต็มตามากเข้าไปใหญ่ ริมฝีปากบางนั้นขยับเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้เล่ห์มนต์หลอกหลี่ฝางต่อ

“อื้อ~คุณรีบพูดสิ หรือว่าคุณไม่อยากอยู่กับฉันไปตลอดชีวิตเลยเหรอ?”

เมื่อได้ยินเสียงของฉินวี่เฟยที่เต็มไปด้วยความยั่วยวน หลี่ฝางที่มีแววตาชัดเจนแล้วก็มืดดำลง

“ฉันสาบานว่าจากนี้ฉันจะอยู่กับคุณตลอดไป……”

เมื่อได้ฟังคำพูดของหลี่ฝาง ใบหน้าของฉินวี่เฟยก็มีความตื่นเต้นขึ้นมา แถมยังมีความร้ายกาจมากขึ้นด้วย

แต่ตอนที่ยังพูดไม่จบนั้น ก็มีเสียงดังจะโกนเข้ามา เหมือนกับฟ้าถูกฉีกออก หลี่ต๋าคางร่วงลงมาจากฟ้า จากนั้นก็เอามือฟาดฟันไปที่ฉินวี่เฟยทันที

“ปีศาจสาว!ออกไปจากตัวของลูกชายฉันนะ!”

ตอนแรกที่คิดว่าเมื่อปีศาจสาวนี้เห็นตัวเองแล้วจะตกใจจนหนีไป แต่สิ่งที่ทำให้หลี่ต๋าคางคิดไม่ถึงก็คือเธอไม่เพียงไม่หลบหนีไป แต่ยังเข้ามาใกล้หลี่ฝางมากขึ้นอีกด้วย

“หลี่ฝาง ช่วยฉันหน่อย!”

หลี่ฝางงงเป็นไก่ตาแตกเลยในตอนนี้ ก่อนจะพาฉินวี่เฟยไปหลบด้านหลังของตัวเอง

“ไอ้กระจอก แยกจริงเท็จไม่ออกหรือไง?นี่มันปีศาจสาว!แกตั้งสติหน่อย!”

หลี่ต๋าคางมองหลี่ฝางที่ยังมึนงง พลางพูดด้วยความไม่พอใจเสียงดัง

เสียงของเขาเหมือนเครื่องแจ้งเตือนที่ทำให้จิตของหลี่ฝางถูกปลุก เมื่อมีเสียงโป๊ะดังขึ้น หลี่ฝางก็รู้สึกเหมือนกับว่าในหัวของตัวเองมีอะไรแตกสลาย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท