NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1251 ร่างกายเป็นหยางบริสุทธิ์

บทที่ 1251 ร่างกายเป็นหยางบริสุทธิ์

หลี่ฝางจ้องมองคนที่ถูกโจมตีจนรับมือไม่ไหว ไม่เข้าใจว่าทำไมเขามียันต์แต่กลับไม่เอาออกมาใช้ แค่ยันต์สองใบก็ทำให้ใบหน้าของอาซาโทสเสียโฉมไปกว่าครึ่ง หากโปรยยันต์พวกนั้นออกไปแบบไม่คิดเงินดั่งเช่นเมื่อสักครู่ ต่อให้มีอาซาโทสสิบคนก็ไม่กลัว

“ไอ้หนู แกจะไปรู้อะไร! แกคิดว่ายันต์พวกนั้นแค่วาดสองสามขีดก็พอแล้วหรือไง? ยันต์นั่นต้องใช้เลือดที่ปลายนิ้วของกายร่างกายเป็นหยางบริสุทธิ์ถึงจะสร้างขึ้นได้ สองใบเมื่อกี้นี้ฉันเก็บสะสมมานาน ใช้แล้วก็ไม่มีแล้ว แกลองคิดดูสิที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายอกสามศอกกันทั้งนั้น แกจะให้ฉันไปหาร่างกายเป็นหยางบริสุทธิ์จากไหนกัน?”

นักพรตเต้าฝ่าถลึงตาใส่หลี่ฝางอย่างโมโห ตอบอย่างไม่พอใจ

ยันต์สองใบนั้นอันที่จริงเมื่อตอนที่เขาอายุสิบขวบ ยังไม่เข้าใจเรื่องราวระหว่างชายหญิง ถูกอาจารย์ของเขาบีบบังคับให้เขียน บอกว่าเมื่อสถานการณ์คับขันสามารถช่วยชีวิตได้ เมื่อสักครู่นักพรตเต้าฝ่ารู้ว่าใช้ไม่ได้ผลดีแต่ก็ยังโยนออกไปพยายามสุดความสามารถ ใครจะไปรู้ว่าจะมีประโยชน์จริงๆ

เมื่อได้ยินอย่างนั้น หลี่ฝางกระตุกมุมปาก แม้เขาจะไม่บำเพ็ญ แต่ก็รู้ว่าร่างกายเป็นหยางบริสุทธิ์คืออะไร พูดให้เข้าใจง่ายก็คือยังเป็นกายบริสุทธิ์อยู่ อย่างเช่นนั้น ก็ไม่มีใครที่เหมาะสมจริงๆ

“แค่กๆ ฉันว่าเลือดของฉันสามารถใช้เขียนยันต์ได้” ในขณะที่หลี่ฝางกำลังว่าจะจัดการกับอาซาโทสยังไงดีนั้น กู่ยี่เทียนที่อยู่อีกด้านกระแอมไออย่างลำบากใจ น้ำเสียงเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน

“อะไรนะ? เหล่ากู่อายุปูนนี้แล้ว แต่กลับยัง……” ประโยคหลังหลี่ฝางไม่ได้พูดออกมา คนที่เข้าใจต่างก็รู้ว่าเขาหมายความว่ายังไง คนอื่นไม่ได้มีการแสดงออกมากนัก อย่างมากก็แค่ตกใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่ผู้หญิงหนึ่งเดียวที่อยู่ที่นี่ แถมยังเป็นคนที่รักเขามากที่สุดอย่างหงส์แดงได้ยินเข้า ใบหน้าเล็กแดงไปถึงใบหู เขาคิดไม่ถึงเลยว่ากู่ยี่เทียนจะยังบริสุทธิ์ ก่อนหน้านี้กู่ยี่เทียนบอกว่าเขายังไม่เคยมีแฟน หงส์แดงและคนอื่นๆ ไม่เชื่อ ตอนนี้ดูเหมือนว่ากู่ยี่เทียนจะโสดมานานจริงๆ

“จะแปลกใจอะไรกัน มังกรฟ้าก็ยังไม่เคยผ่านไอ้นั่นมาก่อนไม่ใช่หรือไง? ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวสักหน่อย” เมื่อเห็นทุกคนจ้องเขาอย่างแปลกประหลาด กู่ยี่เทียนรู้สึกลำบากใจเป็นครั้งแรก ถึงกับเพื่อเบี่ยงความสนใจของทุกคน จึงขายลูกน้องของตนเองอย่างไม่ลังเล

“เห้ พี่ใหญ่! พี่!” มังกรฟ้าที่กำลังทำแผลให้กับอาคาอูและปันปูอยู่อีกด้านแทบจะกัดลิ้นตัวเอง อะไรก็การที่อยู่เฉยๆ ก็โดนลูกหลงเข้า! เขาอยู่อีกด้านไม่พูดอะไรสักคำ แต่อยู่ดีๆ ก็ถูกลากเข้าไปเป็นใจความสำคัญจนได้

“มีกายร่างกายเป็นหยางบริสุทธิ์ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น! สหายหลี่ สหายทั้งสอง รบกวนพวกคุณล่อไอ้ญี่ปุ่นนี่ไว้ก่อน ผมเขียนยันต์ต้องใช้เวลาสักหน่อย”

หลังจากที่รู้ว่ามังกรฟ้าและกูยี่เทียนยังเป็นกายร่างกายเป็นหยางบริสุทธิ์ นักพรตเต้าฝ่าดีใจอย่างมาก กำชับให้หลี่ฝาง และส้าวส้วยจัดการกับอาซาโทสก่อน ส่วนเขาลากกู่ยี่เทียนและมังกรฟ้าหลบอยู่อีกด้านเพื่อเขียนยันต์

บทสนทนาของพวกเขาอาซาโทสได้ยินทั้งหมด เมื่อรู้ว่านักพรตเต้าฝ่าคิดจะเขียนยันต์เพื่อต่อกรกับเขา ฝ่าเท้าเตะลงที่ผืนดิน ร่างของเขาราวกับสายฟ้า ปรากฏกายขึ้นที่ด้านหลังนักพรตเต้าฝ่า

ความโกรธบนใบหน้าที่เสียโฉมทำให้เขาดูน่าหวาดผวามากขึ้นไปอีก หมัดถูกกำแน่น หมอกทมิฬสีดำห่อหุ้มกำปั้นเอาไว้ ปะทะเข้าที่ด้านหลังของนักพรตเต้าฝ่าด้วยความเร็วที่ยากจะหยั่งถึง

“อาซาโทส วันนี้จะเป็นวันตายของแก!” ในเวลาคับขัน หลี่ต๋าคางบังอยู่ที่ข้างหน้าของอาซาโทสด้วยความเร็วแสง รับหมัดของเขาเอาไว้ด้วยมือเดียว

“ท่านพ่อ!” มองจากมุมของหลี่ฝาง หลี่ต๋าคางราวกับรับหมัดของอาซาโทสที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการเขมือบกลืนด้วยมือเปล่า นึกถึงภาพที่ถูกสูบจนแห้ง หลี่ฝางอดที่จะคำรามออกมาอย่างเสียงดังไม่ได้

ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหลี่ต๋าคางกำลังจะตายนั้น สิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกคนก็ได้เกิดขึ้น อาซาโทสที่อวดดีอย่างมากในทีแรกกลับถูกอาซาโทสโจมตีจนต้องถอยหลังไปสองก้าว หลี่ต๋าคางที่จะกลายเป็นร่างแห้งกรังในทีแรกกลับยืนอยู่ที่เดิมไร้บาดแผลแม้แต่น้อย

“เกราะสีทอง!” คำตะโกนของเสือขาว ทุกคนถึงได้พบว่าตอนนี้ร่างของหลี่ต๋าคางมีชั้นบรรยากาศสีทองอร่ามบางๆ ครอบเอาไว้อยู่ มีความรู้สึกของเกราะสีทองจริงๆ

หลังจากที่อาซาโทสเห็นร่างของหลี่ต๋าคางเกิดมีเกราะสีทองครอบเอาไว้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตระหนก ราวกับคนที่เห็นผี ตกใจจนเขาต้องถอยหลังไปสองก้าว เว้นระยะห่างของตนกับหลี่ต๋าคาง

“เกราะอาทิตย์! แกมีความสามารถนี้ด้วยหรือ! ตระกูลหลี่นี่มันแตกต่างจริงๆ” อาซาโทสจับจ้องหลี่ต๋าคางด้วยความเคร่งเครียด ใบหน้าขมวดจนย่นเล็กน้อย ในสายตามีความระมัดระวังมากขึ้น

อันที่จริงเขาได้เช็กประวัติของหลี่ฝางมาแล้ว รู้ว่าหลี่ฝางและตระกูลหลี่อาจจะมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกัน แต่ไม่คิดเลยว่าหลี่ฝางจะสืบเชื้อสายโดยตรงของตระกูลหลี่

การที่จะนำคริสทัลหนีออกจากตระกูลหลี่อย่างราบรื่นคงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ในเมื่ออย่างงั้น ถ้างั้นก็ดูดซับซะที่นี่เลยแล้วกัน!

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ร่างของอาซาโทสดำดิ่งลง พื้นดินแยกเป็นร่องลึกสองหลุม ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเขาจะจู่โจมอย่างเกรี้ยวกราดอีกครั้ง อาซาโทสกลับหนีไปอย่างเหนือความคาดหมาย

“ตามไปเร็ว! เขาคิดจะดูดซับคริสทัลที่นี่!” หลี่ต๋าคางนิ่งไปสองวินาที ถึงได้ไหวตัวได้ว่าอาซาโทสคิดที่จะทำอะไร หลังจากตะโกนกับทุกตนที่ยังคงงงเป็นไก่ตาแตก ฝ่าเท้ากระทืบลงกับพื้น ออกแรงวิ่งไล่ตามอาซาโทสไป

“ให้ตาย! ไอ้ญี่ปุ่นนี่สู้ไม่ได้ก็คิดจะหนีเลย! อ่อนหัดชะมัด!” หลี่ฝางจ้องมองอาซาโทสที่วิ่งหนีจนไร้ร่องรอย ก่นด่าชุดใหญ่

เมื่อเห็นว่าสลัดพวกหลี่ฝางทิ้งไปได้ชั่วคราว อาซาโทสรีบควักคริสทัลออกมาอย่างไม่รอช้า พลางทะลุผ่านทางเดินอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมือที่ถือคริสทัลเอาไว้ท่องคาถาที่ยากจะเข้าใจไปด้วย

ต่อให้หลี่ฝางไล่ล่าด้วยความเร็วทั้งหมด แต่ก็ยังคงห่างจากอาซาโทสกว่าสิบเมตร แย่งยื้อทุกวินาที หลี่ต๋าคางคุกเข่ากับพื้น ให้แขนเป็นกระดานกระโดดให้กับหลี่ฝาง ดุจดั่งโยนลูกระเบิดโยนหลี่ฝางไปยังด้านหลังของอาซาโทส

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน