NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1253 ยันต์ช่วยชีวิตชิ้นสุดท้าย

บทที่ 1253 ยันต์ช่วยชีวิตชิ้นสุดท้าย

ออกแรงที่เอว เด้งกายลุกยืนขึ้นจากพื้น ก่อนที่ร่างของหลี่ฝางจะหมุนอย่างรุนแรง เข็มพิษสองเล่มปรากฏขึ้นที่มือของเขา ถือโอกาสที่อาซาโทสไม่ระวัง เขวี้ยงไปยังหน้าของเขา

อาซาโทสโน้มเอวลง เข็มพิษลอยผ่านดั้งจมูกของเขาอย่างฉิวเฉียด แม้จะไม่ถึงกับชีวิต แต่เข็มพิษก็สัมผัสกับผิวหนังของเขา จมูกของอาซาโทสกลายเป็นสีแดงช้ำอย่างรวดเร็ว

หลี่ฝางจ้องมองจมูกที่ราวกับตัวตลกของเขา อดกระตุกยิ้มมุมปากไม่ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะหัวเราะ แม้พิษของงูแดงจะไม่ส่งผลร้ายแรงต่ออาซาโทส แต่ก็มีผลบ้าง หาโอกาสเหมาะ เขาพลิกมือ ปล่อยเข็มพิษสองเล่มอีกครั้ง

หลังจากที่อาซาโทสได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของเข็มพิษพวกนี้ จึงไม่กล้ารุ่มร่าม ร่างกายหลบหลีกอย่างกระฉับกระเฉง

หลี่ฝางเองก็ไม่คิดว่าเข็มพิษสองเล่มนี้จะถูกอาซาโทสอีกครั้ง เขาเพียงแค่หลอกล่อคู่ต่อสู้เท่านั้น เมื่ออาซาโทสหลบเข็มพิษได้ เงาร่างของหลี่ฝางก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าอาซาโทส

หลี่ฝางหดหมัดกลับ ก่อนที่จะเหวี่ยงออกไปอย่างรุนแรง อาซาโทสไม่ทันได้ตั้งตัวถูกอัดเข้าไปสามที แก้มซ้ายที่เป็นตุ่มน้ำหมองอยู่แล้วถูกอัดจนเลือดเนื้อเละไม่เป็นท่า

“ฉันจะฆ่าแก!” อาซาโทสคำรามร้องลั่นด้วยความโกรธ พลังอันกล้าแกร่งของเขาแผ่ซ่านออกมาทำให้หลี่ฝางต้องถดถอยไปข้างหลังครึ่งก้าว

อาซาโทสที่จ้องมองประตูเทพที่เปิดกว้าง หน้าผากของหลี่ฝางเหงื่อผุด ไม่คิดเลยว่าความสามารถของอาซาโทสจะน่ากลัวถึงขนาดนี้

หากก่อนหน้า หลี่ฝางใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีอาจจะสู้กับอาซาโทสได้บ้าง แต่เพิ่งดูดพลังของนักรบเข้าไปสิบกว่าคน เขาในตอนนี้ห่างจากแดนเทพเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น หลี่ฝางเองหลังจากที่ดูดพลังของหินเฮยสวนเข้าไปถึงได้ผลักประตูเทพออกได้เพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น ความสามารถของทั้งสองห่างกันระดับหนึ่ง

อาซาโทสลูบแก้มซ้ายที่เสียโฉมไปแล้ว ถอนหายใจอย่างแรง สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ หมัดกำแน่น กล่าวอย่างน่ากลัว “หลี่ฝาง วันนี้คนที่อยู่ในสุสานทุกคนอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไป! ครอบครัวของแก สิ่งที่แกรักทั้งหมดฉันจะทำลายมันให้สิ้นซาก!”

เมื่อได้ยินอย่างงั้น หางตาของหลี่ฝางกระตุกอย่างแรง ต่อมาลมพัดที่ข้างหูของเขาอย่างแรง หมัดของอาซาโทสก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าของเขาเสียแล้ว

ราวกับตั้งใจหัวเราะเยาะหลี่ฝาง อาซาโทสเก็บพลังการเขมือบกลืน ใช้พลังของตนเองล้วนๆ ในการต่อสู้กับหลี่ฝาง

หลี่ฝางคิดที่จะหลบเลี่ยงแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว “ปัง” เกิดเสียงดังลั่น ร่างของเขาลอยออกไปสิบกว่าเมตร กระแทกกับหิน เศษหินกระจัดกระจาย เลือดสดพ่นออกมาจากปากของเขา

อวัยวะภายในของเขาแทบแหลกสลาย หลี่ฝางไม่กล้าหละหลวมแม้แต่น้อย แม้ประสาทของเขาจะคร่ำเครียดกว่าเมื่อสักครู่ก็ตามที

กัดฟันแน่นกลิ้งไปด้านข้าง หลบหลีกหมัดที่สองของอาซาโทสได้ ก่อนที่จะโดดหนีสามหนติด ลากระยะห่างของทั้งสอง

เขาใช้หลังมือเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก สายตาของหลี่ฝางฉายแววอาฆาตอย่างดุเดือด กล่าวอย่างเย็นชา “เข้ามาเลย วันนี้ไม่ใช่แกตาย ก็ฉันดับ”

ฝ่าเท้ากระแทกกับพื้นอย่างหนัก เงาร่างไปอยู่ตรงหน้าอาซาโทสอย่างประหลาด ในทางเดินอันคับแคบ การคู่แลกกันคนละหมัด

แต่ความแตกต่างความสามารถของทั้งคู่ ส่วนมากหลี่ฝางอัดเขาหนึ่งหมัด ตัวเองเองได้รับบาดเจ็บสองเท่า

“ตายซะ หลี่ฝาง” อาซาโทสแสยะยิ้มใส่หลี่ฝาง ปฏิกิริยาบนใบหน้าน่ากลัว ถอนหายใจอย่างโล่งอก ความสามารถเองก็เพิ่งมากขึ้นหลายขุม

หลี่ฝางรู้สึกสายตาพร่ามัว อาซาโทสที่ใบหน้าน่ากลัวมาอยู่ตรงหน้าของเขากะทันหัน หมัดใหญ่และหนักเหวี่ยงไปที่หัวของเขา

กระบวนท่าที่แกร่งกล้าขนาดนี้ สีหน้าของหลี่ฝางเปลี่ยนไปอย่างแรง โน้มตัวลงอย่างว่องไว เกลือกกลิ้งกับที่ คิดที่จะลากระยะห่างของทั้งคู่

“แกหนีพ้นงั้นหรือ?” จ้องมองร่างที่ถอยกรูดของหลี่ฝาง อาซาโทสหัวเราะอย่างเย็นชา ไม่มีโอกาสหลี่ฝางได้หนีแม้แต่น้อย พลันก้าวฝีเท้าไปอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางอย่างรวดเร็ว

“ไปตายซะ!” อาซาโทสฉีกรอยยิ้มกระหายเลือด กำปั้นเหวี่ยงไปที่หัวของหลี่ฝางอีกครั้ง

“แม่ง มึงบังคับกูเองนะ!” เมื่อเห็นว่าไร้หนทางหนี หลี่ฝางคำรามลั่น ยอมแลกด้วยการแผดเผาชีวิต ผลักประตูเทพออกอีกนิดอีกครั้ง ก่อนที่จะพุ่งไปยังอาซาโทสโดยตรง

เขารัดแขนของอาซาโทสแน่น ในปากท่องมนต์ที่ฟังไม่ได้ศัพท์ ไม่ทันที่อาซาโทสจะได้เข้าใจว่าเขาคิดจะทำอะไร ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าพลังในร่างของเขาระบายออกราวกับเขื่อนแตก

“อ้า! แกจะทำอะไร!” ในที่สุดอาซาโทสก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ใช้แขนอีกข้างทุบตีหลี่ฝางอย่างบ้าคลั่ง เพื่อหลุดพ้นจากการพันธนาการของเขา

“เหอะ” เสียงอุทานทุ้มต่ำลั่นออกจากลำคอของหลี่ฝาง กลิ่นคาวเลือดพุ่งเข้าสู่ลำคอ แต่ต่อให้เป็นอย่างงั้น เขาก็ยังคงรัดอาซาโทสแน่น

เหตุการณ์นี้ดำเนินอยู่ราวครึ่งนาที หลี่ฝางถึงได้คลายมือออก กระอักเลือดออกจากปากคำโต

“ทำอะไรของแก! แกทำอะไรกับร่างกายของฉัน!”

ดวงตาของอาซาโทสแทบจะถลนออกจากเบ้า จับจ้องฝ่ามือของตนเองอย่างยากที่จะเชื่อ ในเวลาครึ่งนาทีสั้นๆ เขาที่อยู่ในแดนครึ่งเทพตกไปอยู่ที่สูงสุดของแดนเต๋า หลี่ฝางที่อยู่ในแดนครึ่งเทพ กลับไปอยู่ที่จุดสูงสุด

“ฮ่าๆ แกคิดว่าวิธีการดูดพลังของคนอื่นมีเพียงแค่พลังแห่งการเขมือบกลืนเท่านั้นงั้นหรือ?” หลี่ฝางแบฝ่ามือออกพร้อมกับหัวเราะ หินเฮยสวนปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา

เมื่อสักครู่หลี่ฝางแผดเผาชีวิตให้พลังของเขาไปอยู่ที่จุดเดียวกับอาซาโทสในพริบตา ก่อนที่จะใช้หินเฮยสวนขโมยพลังของอาซาโทสมากว่าครึ่ง

“หินเอยสวน! ทำไมของพันธุ์นั้นถึงได้อยู่กับแก!” จ้องมองก้อนสีดำที่อยู่ในฝ่ามือของหลี่ฝาง สายตาของอาซาโทสแทบลุกเป็นไฟ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าใกล้จะตายอยู่แล้ว หลี่ฝางยังมียันต์ช่วยชีวิตแบบนั้นติดตัว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท