NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1259 จับตัวตงฟางเย่น

บทที่ 1259 จับตัวตงฟางเย่น

“หยุดนะ! หลอซ่า!” ตงฟางเย่นไม่คิดเลยว่าหลี่ต๋าคางจะเก่งกาจได้ถึงเพียงนี้ เมื่อสักครู่เธอแทบไม่ได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ หลี่ต๋าคางก็ผ่านเธอไป และหยุดอยู่ตรงหน้าผู้ดูแลบ้าน

เมื่อจ้องมองใบหน้าของผู้ดูแลบ้านที่กลายเป็นสีเลือดหมู ตงฟางเย่นขยับกาย คิดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

หลี่ต๋าคางกวาดสายตามองคนของตระกูลตงฟาง น้ำหนักที่มือเพิ่มมากขึ้น

“ถ้าพวกแกกล้าเดินเข้ามาอีก ชีวิตของไอ้หมอนี่จบสิ้นแน่”

“หยุด! หยุดให้หมด!” ตงฟางเย่นจ้องมองความพิฆาตของหลี่ต๋าคาง รู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น จึงยกมือขึ้นโบกให้กับทุกคน เพื่อให้พวกเขาอย่าวู่วาม

“หลอซ่า ฉันยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตระกูลตงฟางมีเรื่องเข้าใจผิดกับตระกูลหลี่นิดหน่อย แต่สิ่งเหล่านั้นได้ผ่านไปแล้ว ตระกูลตงฟางของเราเสียลูกศิษย์ไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เราไม่สู้แต่ก่อนแล้ว”

“และหลังจากที่น้องชายของฉันตงฟางจัวเสียไป ตระกูลตงฟางของเราก็ไม่เคยหาเรื่องตระกูลหลี่อีก วันนี้คุณบุกเข้ามากะทันหัน บีบบังคับเราเรื่องความเคลื่อนไหวของท่านจัว คุณคิดจะทำอะไร?”

แม้อำนาจของตระกูลตงฟางจะถูกถอดถอนไปมาก แต่เกียรติของความเป็นตระกูลใหญ่ยังอยู่ การถูกคนอื่นบุกเข้ามาโต้งๆ หากแพร่สะพัดออกไป ชื่อเสียงของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ก็ต้องสูญสิ้น

“ครั้งสุดท้าย เอาตัวท่านจวนออกมา ฉันจะปล่อยพวกแกไป!” ตงฟางเย่นพูดไปตั้งมากมาย หลี่ต๋าคางราวกับไม่ได้ยิน สายตาไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย ยืนยันจะให้ตระกูลตงฟางเอาตัวท่านจวนออกมาท่าเดียว

ตงฟางเย่นไม่คิดเลยว่าหลี่ต๋าคางจะดื้อด้านถึงเพียงนี้ เมื่อเห็นผู้ดูแลบ้านที่ใกล้สิ้นใจ จึงกัดริมฝีปากล่างแน่นพูดต่อไป

“ฉันไม่รู้ว่าระหว่างคุณกับท่านจวนเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องนี้ฉันขอสาบานด้วยคนเหนือหัวฉัน เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลตงฟางแม้แต่น้อย แม้ท่านจวนจะเป็นผู้นำของตระกูลตงฟาง แต่เขาแทบจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลตงฟางเลย เขามักจะอยู่คนเดียวเสมอ เราเองก็ไม่ได้เจอเขาหลายเดือนแล้ว”

ทีแรกคิดว่าเธอพูดไปตั้งเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยหลี่ต๋าคางก็ต้องใจอ่อนบ้าง แต่ใครจะไปคิด ว่าต่อมาหลี่ต๋าคางจะหักคอของผู้ดูแลบ้านทันที เมื่อจ้องมองผู้ดูแลบ้านที่สิ้นลมหายใจ ตงฟางเย่นกรีดร้องเสียงดังอย่างอนาถ

“ไม่!”

แม้ชายชราผู้นี้จะเป็นเพียงผู้ดูแลบ้านของตระกูลตงฟาง แต่เขามองตงฟางจัวและตงฟางเย่นเติบโตมา สำหรับตงฟางเย่น เขาเป็นคนในบ้านที่เธอเคารพนับถือ ต้องทนเห็นผู้ดูแลบ้านตายไปต่อหน้าต่อตา ตงฟางเย่นขาดสติแตก

“หลอซ่า! ฉันจะสู้ตายกับแก!” แม้จะรู้ว่าความสามารถของเธอและหลี่ต๋าคางห่างกันมาก แต่ตงฟางเย่นในตอนนี้กลับพุ่งเข้าใส่หลี่ต๋าคางอย่างบ้าคลั่ง

“รนหาที่ตาย!” หลี่ต๋าคางเหลือบมองตงฟางเย่นที่พุ่งไปทางเขาอย่างรวดเร็ว พ่นคำสองคำออกจากปากอย่างเย็นชา

ความสามารถของตงฟางเย่นในสามารถคนอื่นถือว่าไม่เลวเลย ความเร็วของเธอเทียบได้กับเสือชีตาห์ แต่สำหรับหลี่ต๋าคาง ก็ไม่ต่างอะไรกับการสโลโมชัน

เขาหลบการโจมตีของตงฟางเย่นได้ทั้งหมด อย่างง่ายดาย และจับตัวตงฟางเย่นเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

“คุณหนูใหญ่!” เมื่อคนของตระกูลตงฟางคนอื่นๆ เห็นตงฟางเย่นโดนจับกุม ต่างตะโกนร้องเสียงดังก่อนคิดที่จะจู่โจม

“พวกแกใครกล้าลงมือ!” ในเวลานี้เอง ไท่ซางและราฟาเอลทั้งคู่พาลูกน้องบุกเข้ามา

เรียงเป็นกำแพงอยู่หน้าหลี่ต๋าคาง ขวางกั้นตระกูลตงฟางเอาไว้

“ลุงหลี่ ตาแก่นั่นไม่อยู่ที่นี่หรือ? ให้เรากำจัดคนของตระกูลตงฟางเลยไหม ผมไม่เชื่อว่าตาแก่นั่นจะไม่ออกมา!” ไท่ซางหันหลังให้กับตระกูลตงฟางตะโกนเสียงดัง

ราฟาเอลที่อยู่อีกด้านได้ยินเข้าสีหน้าหม่นหมอง ไอ้หมอนี่คงจะลืมเป้าหมายที่พวกเขามาที่ตระกูลตงฟางสินะ

พวกเขามาเพื่อหยุดยั้งไม่ให้หลี่ต๋าคางสังหารตระกูลตงฟางไม่ใช่หรือไง? หากใครสังหารตระกูลตงฟางขึ้นมา มันต่างอะไรกับการฆ่ายกโคตร?

แม้อำนาจของตระกูลตงฟางในตอนนี้จะต่างจากในอดีต แต่สี่ตระกูลใหญ่ยังคงช่วยเหลือกันและกัน

ไม่มีหนึ่งในนี้ใครจะถูกกำจัด ก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น สถานการณ์ในตอนนี้ เรื่องน้อยเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น

“ลุงหลี่ เราพาตัวตงฝางเย่นไปด้วยก็พอแล้ว คนอื่นๆ ของตระกูลตงฟางสำหรับเราแล้วก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ตงฟางเย่นเป็นคนรุ่นหลังที่มีอำนาจมากที่สุด เราจับตัวเขามา ผมไม่เชื่อว่าตาแก่ท่านจวนนั่นจะไม่ปรากฏตัวขึ้น”

เมื่อเทียบกับไท่ซางแล้วราฟาเอลทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของตระกูลตงฟางในตอนนี้อย่างละเอียด เมื่อหลี่ต๋าคางได้ยินคำของเขาสีหน้าเปลี่ยนไป ขมวดคิ้วเล็กน้อย ท้ายที่สุดก็พยักหน้าเห็นด้วยกับราฟาเอล

“ฝากบอกผู้นำตระกูลของพวกแกด้วย อยากให้เธอมีชีวิตอยู่ พรุ่งนี้ก่อนฟ้าสางเอาหลานของฉันมาเปลี่ยนตัวที่บ้านพักตากอากาศ”

หลี่ต๋าคางทิ้งท้ายประโยคเอาไว้ก่อนที่จะกระชากตงฟางเย่นจากไป

“ให้ตาย คุณแน่ใจหรือว่าจะไม่กำจัดตระกูลตงฟางทิ้ง? ตาแก่นั่นมันทำให้น้าเมี๋ยวบาดเจ็บเชียวนะ ผมทนไม่ได้จริงๆ”

ไท่ซางจ้องมองลูกกระจ๊อกที่เหลือของตระกูลตงฟาง ด้วยความโกรธแค้น ท่านจวนทำให้เมี๋ยวชุ่ยและฉินวี่เฟยเกือบตาย เพียงแค่สังหารผู้ดูแลคนเดียวก็หายขาดกันได้แล้วงั้นหรือ?

“เรื่องนี้ไม่รีบคิดบัญชีกับพวกแก สิ่งที่ตระกูลตงฟางติดค้างเราไม่ช้าก็เร็วเราจะมาทวงคืน ไม่ใช่ว่าไม่แก้แค้นเพียงแต่เวลายังไม่ถึง”

ราฟาเอลเหลือบมองคนของตระกูลตงฟาง ก่อนฉีกยิ้มมุมปากอย่างกระหายเลือด

ก่อนดึงไท่ซางสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ พาลูกน้องออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลตงฟาง

“เร็วเข้า! ไปโทรหาท่านจวน! บอกเขาว่าคุณหนูใหญ่ถูกหลอซ่าจับตัวไป! ถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่! ทำไมถึงยังต้องไปหาเรื่องพวกตระกูลหลี่ที่เป็นปีศาจฆ่าคนไม่กะพริบตาอยู่อีก!”

เมื่อราฟาเอลออกไป ชายวัยกลางคนหนึ่งรายก็ตะคอกใส่ลูกน้อง

แม้ตระกูลตงฟางจะยังมีการติดต่อกับท่านจวนอยู่ แต่สำหรับเขาจะไปมีความข้องเกี่ยวกับใครด้านนอกบ้าง ทำอะไรบ้างกลับไม่รู้อะไรเลย

ตอนนี้เพราะเขาทำให้คนที่มีความสามารถที่จะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลตงฟางถูกจับตัวไป เรื่องนี้หากท่านจวนไม่ให้ข้อแก้ตัวมีสมเหตุสมผล ตระกูลตงฟางไม่ยอมง่ายๆ แน่

“โหจื่อ ผู้หญิงคนนี้แกจัดการแล้วกัน อย่าให้เธอตายก็พอ” หลี่ต๋าคางพาตงฟางเย่นกลับมาที่สถานตากอากาศ โยนตงฟางเย่นที่ถูกสกัดจุดให้กับโหจื่อ

“วางใจได้เลยพี่ใหญ่ ผมจะดูแลเธอเป็นอย่างดี” โหจื่อจ้องมองตงฟ่งเย่นที่กองกับพื้น กล่าวอย่างเย้ยหยัน

ตอนนี้เกิดเรื่องกับเมี๋ยวชุ่ยและคนอื่นๆ โหจื่อกำลังทำฟื้นฟูกำลัง ครั้งก่อนเขาบาดเจ็บหนัก ระบบและประสาทอื่นๆ ได้รับการกระทบกระเทือน พลังของเขาลดลงไปมาก

หลายเดือนมานี้โหจื่อทำการฟื้นฟูกำลังตลอด แม้แต่ส้าวส้วยพาคนไปที่ซากปรักหักพังเพื่อค้นหาหลี่ฝางเขาก็ไม่ได้ไปด้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท