NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1261 ที่กบดาน

บทที่ 1261 ที่กบดาน

“อะแฮ่มๆ นี่มันเป็นเรื่องอะไรที่นานมาแล้ว คุณยังจะพูดถึงทำไม อีกอย่าง ฉันอธิบายไปแล้ว ตอนนั้นยังวัยรุ่น ไม่รู้เรื่องราวอะไร อันที่จริงฉันกับยินยินนั้นก็มีคามรู้สึกต่อกันเป็นเหมือนพี่น้อง”

“อีกอย่าง ตอนนี้ฉันกับภรรยาก็รักกันดี คุณท่านโกอย่าพูดไปเรื่อยนะ ถ้าเกิดภรรยาของฉันรู้เข้า แล้วเธอไม่พอใจจะว่าอย่างไร”

หลี่ต๋าคางกระแอมเบาๆ เพื่อปกปิดความทำตัวไม่ถูกของตัวเอง คำพูดด้านหลังนั้นเหมือนกำลังพูดกับคุณท่านโก แต่อันที่จริงนั้นกลับกำลังพูดให้ส้าวส้วยฟังอยู่

ส้าวส้วยมองหลี่ต๋าคางด้วยแววตาแอบๆ พลางเข้าใจอยู่ในใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแกล้งทำเป็นคุยไป

คุณท่านโกเองก็รู้แต่ก็ยังไว้หน้า เขาเอามันมาเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของตัวเองกับหลี่ต๋าคางนั้นสนิทสนมกันมากขึ้น ถึงอย่างไรนี่มันก็ยังมีเรื่องต้องร้องขอกัน

“คุณท่านโก ในเมื่อคุณมาแล้ว งั้นยาฟื้นวิญญาณเม็ดนี้ก็คืนให้คุณก็แล้วกัน ตอนนี้ฉันไม่ต้องการมันแล้วล่ะ”

หลี่ต๋าคางนั้นพูดพลางเอากล่องไม้ยื่นมาตรงหน้าคุณท่านโก

แต่อีกคนนั้นกลับไม่รับเอาไว้ แต่กลับยิ้มพลางดันกล่องนั้นกลับคืน “พวกพ้องต๋าคาง คุณอย่าเพิ่งรีบคืนฉันเลย เปิดใจกันไปเลย วันนี้ฉันมีเรื่องอยากจะมาขอร้อง ถ้าคุณไม่เก็บยาฟื้นวิญญาณเอาไว้ ฉันคงไม่มีหน้ามาขอให้คุณช่วยอะไร”

หลี่ต๋าคางได้ฟังคำพูดของคุณท่านโกดังนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าตกใจเท่าไหร่ ถ้าเกิดคุณท่านโกไม่มีเรื่องอยากร้องขอ เขาคงไม่ถ่อมาที่เมืองตงไห่เพื่อมาหาหรอก

เพียงแต่ตอนนี้หลี่ต๋าคางเจอเรื่องวุ่นวายมากมาย เลยไม่อยากจะสนใจเรื่องของคนอื่นเท่าไหร่

“คุณท่านโก ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยคุณ ตอนนี้ฉันเองก็ยุ่งมากพอแล้ว ฉันคิดว่าตามความเคารพนพน้อมของคุณท่านโกที่แดนนักรบนั้น ถ้าเกิดพูดออกไป จะต้องมีคนมากมายพร้อมจะช่วยคุณแน่นอน”

เมื่อพูดจบ หลี่ต๋าคางไม่ถามด้วยซ้ำว่าคุณท่านโกอยากให้ตัวเองช่วยอะไร ก็อยากจะเดินจากไปแล้ว ตอนนี้เขาเลยต้องพลิกแผ่นดินหาท่านจวนที่เมืองตงไห่ให้ได้

ก่อนที่จะเกิดระเบิดเมื่อครู่นั้น อันที่จริงหลี่ต๋าคางสามารถแย่งเด็กมาจากมือของท่านจวนได้ แต่เพราะเด็กนั่นเกิดก่อนกำหนด เลยต้องอยู่ในตู้อบ แถมยังอ่อนแอมากด้วย

ถ้าเกิดต่อสู้รุนแรงเกินไป อาจจะทำให้เด็กบาดเจ็บได้ ดังนั้นหลี่ต๋าคางเลยได้แต่มองท่านจวนพาเด็กไปเท่านั้น

อีกอย่างการที่ท่านจวนแย่งเด็กไปในครั้งนี้ เป้าหมายนั้นไม่ธรรมดาเลย เพราะเขาระเบิดที่เอามาระเบิดโรงพยาบาลนั้น เป็นอาวุธแบบใหม่

ระเบิดลูกเล็กแบบนี้มันขนาดเท่ากระดุมเท่านั้นเอง แต่พลังทำลายล้างนั้นกลับไม่แพ้ขีปนาวุธเลย ไม่อย่างนั้นคงจะไม่สามารถทำให้ตึกของโรงพยาบาลนั้นราบเป็นหน้ากลองได้

หลี่ต๋าคางนั้นมั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าท่านจวนนั้นมีคนบงการอยู่เบื้องหลัง เขานั้นไม่ใช่บอสที่ใหญ่ที่สุด

เมื่อเป็นแบบนี้ก็เหมือนมีศัตรูหลบอยู่ในความมืด ทำให้หลี่ต๋าคางไม่พอใจเป็นอย่างมาก หลายปีมานี้ เขาไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อน

“พวกพ้องต๋าคาง เรื่องของคุณนั้นฉันเข้าใจบ้างแล้ว ฉันรู้ว่าหลานชายคุณถูกท่านจวนแย่งไปแล้ว เอาแบบนี้ ฉันจะช่วยคุณแก้แค้นท่านจวน แล้วคุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”

“อีกอย่างข้อมูลของท่านจวนที่อยู่ในมือฉันนั้น ไม่รู้ว่าพวกพ้องต๋าคางจะสนใจหรือเปล่า”

ก่อนที่จะมาโรงพยาบาลเพื่อหาหลี่ต๋าคาง คุณท่านโกก็ให้คนมาตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ของตระกูลหลี่ก่อน

หลังจากที่รู้ว่าหลานชายของหลี่ต๋าคางถูกขโมยไปแล้ว เขาก็รีบจัดคนไปตรวจสอบท่านจวน เพราะรู้ว่าเขาเป็นเจ้าบ้านของตระกูลตงฟาง แถมก่อนหน้านี้ยังเคยมีพันธะกับตระกูลหลี่ด้วย

แต่เรื่องนี้มันไม่ได้ตรวจสอบยากเมื่ออยู่ในแดนนักรบ คุณท่านโกเลยมั่นใจได้ว่าหลี่ต๋าคางจะช่วยเหลือตัวเอง เพราะเขายังตรวจสอบเรื่องอื่นๆ มาได้บ้าง

ทั้งวิธีการและเส้นสายที่คุณท่านโกมีนั้นหลี่ต๋าคางต่างรู้แล้ว อย่าคิดว่าเขาซ่อนตัวหลายสิบปี เมื่อตอนนั้นถือเป็นคนที่ขยับเพียงเล็กน้อยก็สะเทือนไปทั้งแดนนักรบได้แล้ว

แม้ตอนนี้ลี่ต๋าคางจะมีทางมากมาย แต่เมื่อเทียบกับสัตว์ประหลาดที่มีชีวิตมาสองร้อยกว่าปี ก็ยังอ่อนอยู่มาก

เขาบอกว่าในมือของเขานั้นมีข้อมูลของท่านจวนอยู่ มันคงไม่ใช่เรื่องโกหกแน่นอน

“คุณท่านโก มีอะไรก็รีบพูดมาเถอะ ว่าคุณสืบอะไรมาได้บ้าง?”

เมื่อมองท่าทีร้อนใจของหลี่ต๋าคาง คุณท่านโกเองก็ไม่อ้อมค้อม ก่อนจะพูดออกมาตรงๆ “ท่านจวนคนนี้มีพันธมิตรเป็นคนญี่ปุ่น เรื่องในครั้งนี้เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นความคิดของประเทศญี่ปุ่นเหมือนกัน และก็มีความเป็นไปได้มากที่หลานชายของคุณจะถูกพาไปที่ญี่ปุ่นแล้วล่ะ”

“ฉันไม่รู้ว่าทำไมคนประเทศญี่ปุ่นต้องมาแย่งหลานชายของคุณ แต่ฉันมั่นใจว่าพวกเขามีแผนร้ายแน่ๆ อีกอย่างหลังจากที่ซากปรักหักพังลึกลับนั้นระเบิดแล้ว ประเทศญี่ปุ่นก็จัดคนให้แอบลักลอบเข้าไปในประเทศจีน ตามที่สายข่าวของฉันบอกมา ครั้งนี้ประเทศญี่ปุ่นจัดคนอย่างน้อยสิบกว่าคนมาที่ตงไห่”

ช่วงนี้หลี่ต๋าคางตามหาที่อยู่ของหลี่ฝางมาตลอด สำหรับการกระทำของประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจมากมาย เขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองยังไม่ทันไปคิดบัญชีกับพวกเขา คนของประเทศญี่ปุ่นกลับเข้ามาหาตัวเองเองเลย

“ประเทศญี่ปุ่น ดี ดีมาก ในเมื่อพวกเขากล้ามาทำอะไรคนของตระกูลหลี่ ก็หมายความว่าเตรียมตัวตายเอาไว้แล้ว”

แม้คุณท่านโกเขาจะเดาว่าเด็กนั้นอยู่ที่สถานทูตของประเทศญี่ปุ่น แต่หลี่ต๋าคางในตอนนี้นั้นยังตายยังดีกว่าปล่อยไป

ในแววตามาความอาฆาตออกมาอีกครั้ง เลยเอามือหนึ่งไปจับหน้าต่างของโรงพยาบาลก่อนจะกระโดดออกไป

ส้าวส้วยเพิ่งจะโทรหาโหจื่อไป เลยกำชับเล็กน้อย ก่อนจะหันหัวไปเห็นเงาของหลี่ต๋าคางกระโดดออกไปจากหน้าต่าง

“ลุงหลี่ คุณกำลังจะไปไหน?” เมื่อมองเงาของหลี่ต๋าคางลอยไปไกล ส้าวส้วยก็ถามเสียงดัง

เมื่อครู่หลี่ต๋าคางเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลตงฟางคนเดียว เรื่องที่บังคับจับตงฟางเย่นไปนั้นก็แพร่ออกไปแล้ว เรื่องนี้เลยทำให้แดนนักรบเกิดการเคลื่อนไหวไม่น้อยเลย

ยังดีที่ท่านผู้อาวุโสนั้นปิดเรื่องเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้หลี่ต๋าคางเลยจากไปก่อน ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นอีก

“น้องชายคนนี้ คุณรีบติดต่อท่านผู้อาวุโสคนนั้นเถอะ เรื่องในครั้งนี้เกรงว่ามันจะใหญ่โตแล้ว”

หลังจากที่คุณท่านโกพูดกับส้าวส้วยแบบนี้แล้ว ก็กระโดดลงไปจากหน้าต่างของโรงพยาบาลตามหลี่ต๋าคาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท