NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่1289 ดีใจที่ได้เป็นพ่อ

บทที่1289 ดีใจที่ได้เป็นพ่อ

พูดจบ หลี่ฝางก็กดแขนไท่ซางไปชุดนึง จู่ๆ ทั้งโรงพยาบาลก็มีแต่เสียงร้องลั่นของไท่ซาง

ผ่านไปครึ่งค่อนวัน หลี่ฝางถึงจะหายโกรธ ไท่ซางในตอนนี้ก็นอนราบอยู่ที่พื้นพูดได้ว่าทุกข์จนพูดไม่ออก

“พี่สะใภ้ หลังจากที่พี่สะใภ้มีเรื่องอะไรก็ไปหาราฟาเอลเถอะ ฉันนี่เป็นคนดีมันยากจริงๆ !”

ไท่ซางนอนราบอยู่บนพื้น ร้องแบบไร้น้ำตาพลางมองหยางฉง ถ้ารู้ว่าจะทำให้หลี่ฝางมาเล่นงานเขาละก็ ให้ตายยังไงเขาก็จะไม่พูดคำนี้กับหยางฉง

“อุ๊บ……” หยางฉงมองไท่ซางอย่างสงสาร พลางยืนขดตัวหัวเราะอยู่ด้านข้าง

“เอ่อ……หยางฉง วี่เฟย พวกเธอคิดดีแล้วจริงๆ เหรอ?” หลังจากได้ระบายอารมณ์หลี่ฝางก็นับว่าใจเย็นลงแล้ว และหันไปถามฉินวี่เฟยกับหยางฉงอย่างเกรงใจเล็กน้อย

ที่จริงที่ไท่ซางพูดก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล มีผู้ชายคนไหนไม่อยากกอดซ้ายคนขวาคน กินข้าวในชามมองข้าวในหม้อบ้าง

ถ้าหากฉินวี่เฟยกับหยางฉงทั้งสองคนยอมรับจากมีอยู่ของอีกฝ่ายได้จริงๆ งั้นนี้ก็เป็นบทสรุปที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“อื้ม พวกเราคิดดีแล้ว” ฉินวี่เฟยกับหยางฉงสบตากัน จากนั้นก็มองหลี่ฝางพยักหน้าและพูดขึ้น

“เป็นแบบนี้แล้ว งั้นวี่เฟย หยางฉง พวกเธอยินดีแต่งงานกับฉันมั้ย?” หลังจากได้รับความยินยอมจากทั้งสอง หลี่ฝางก็ลงไปคุกเข่าข้างนึง มองพวกเธอด้วยสีหน้าจริงใจพลางพูด

หยางฉงกับฉินวี่เฟยตกใจสุดๆ ที่จู่ๆ ก็ถูกขอแต่งงาน โดยเฉพาะหยางฉง ตื่นเต้นจนจะร้องไห้แล้ว

“ฉันยิน……”

“นายจะขอแต่งงานแบบนี้น่ะเหรอ? ไม่มีดอกไม้ ไม่มีแหวน ไม่ได้บรรยากาศเลยสักนิด อยากให้พวกเราแต่งกับนาย คิดง่ายไปมั้ยไม่มีทางหรอก!”

หยางฉงใช้สองมือปิดปากตัวเองไว้ตอนที่กำลังคิดที่จะตอบตกลง แต่ก็ถูกฉินวี่เฟยที่อยู่ด้านข้างหยุดเอาไว้ก่อน เมื่อเห็นฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางด้วยหน้าเย่อหยิ่ง และตอบปฏิเสธคำขอแต่งงานครั้งนี้ของหลี่ฝาง

หลี่ฝางก็ชะงักอยู่ครู่ สุดท้ายก็ขำลั่น เขาลุกขึ้นจากพื้น พูดพลางมองฉินวี่เฟยกับหยางฉง “ได้ ฉันรู้แล้ว พวกเธอรอก่อน ฉันจะต้องทำเซอร์ไพรส์ให้พวกเธอแน่”

หลังจากได้ยินที่หลี่ฝางพูด ฉินวี่เฟยถึงได้พยักหน้าอย่างพอใจ ความรักจะต้องมีความ ความรักต้องการความโรแมนติคแบบพอเป็นพิธี การขอแต่งงานแบบขอไปทีแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉินวี่เฟยฝันเอาไว้

และนี่ก็เป็นคำสัญญาที่หลี่ฝางให้กับเธอไว้ เมื่อก่อนนานมาแล้ว ตอนที่หลี่ฝางขอแต่งงานจะต้องโรแมนติคสุดๆ แบบนี้ถึงจะทำให้เธอหวั่นไหว

ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามที่ยุ่งเหยิงในที่สุดก็ได้บทสรุป แต่เดิมจะเป็นโลกของคนสองคนก็กลายมาเป็นครอบครัวเล็กๆ สี่คนทันที

ฐานะที่เป็นผู้ชายในครอบครัวเล็กๆ นี้ หลี่ฝางมองไปที่ผู้หญิงสองคนที่สนิทสนมกันมากนั่งอยู่ตรงนั้นและถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อก่อนหยางฉงนั้นตัวติดเขาจะตาย แต่ตอนนี้ทั้งวันกลับตามฉินวี่เฟยไม่ห่าง ทั้งสองคุยเรื่องเสื้อผ้า กระเป๋า ไอดอลที่ชอบ ลูก ทั้งวันแม้แต่หลี่ฝางก็ไม่มีโอกาสได้พูดแทรกขึ้น

“ลูกพี่ ทำไมฉันถึงได้คิดว่านายเป็นส่วนเกินกัน?” ไท่ซางมองหลี่ฝางอยู่ด้านข้างอย่างอึดอัดสุดๆ และพูดอย่างเห็นใจ

“ไสหัวไป!เรื่องที่ฉันให้นายไปทำเป็นยังไงบ้างแล้ว?” หลี่ฝางมองแรงใส่ไท่ซาง และด่าอย่างไม่สบอารมณ์

“ฮี่ๆ ลูกพี่วางใจ ฉันจะต้องทำให้ลูกพี่ขอแต่งงานพวกพี่สะใภ้ได้อย่างไม่มีวันลืมเลย” เห็นหลี่ฝางโมโห ไท่ซางก็ยิ้มประจบขึ้นมาทันที ดวงตาคู่นั้นมีประกายความเจ้าเล่ห์ออกมา

ได้ยินเขาบอกว่าทุกอย่างเตรียมเรียบร้อยแล้ว ท่าทีของหลี่ฝางก็ดีเล็กน้อย “ถ้าครั้งนี้ทำดี ฉันจะให้นายพักครึ่งเดือน”

“จริงดิ? !ลูกพี่ นายพูดเองนะ!พอถึงเวลาอย่ามาเสียใจนะ!” เมื่อได้ยินหลี่ฝางบอกว่าจะให้ตนพัก ไท่ซางก็ดีใจจนแทนจะกระโดดโลดเต้น

ผียังรู้ว่าตลอดทั้งปีมานี้เขาผ่านวันยังไงมา เพื่อที่จะปกป้องฉินวี่เฟยกับหยางฉง ตลอดทั้งปีเขาไม่ได้แตะผู้หญิงเลย!

เขารู้สึกว่าถ้าตัวเองไม่ไปปลดปล่อยอารมณ์ซะบ้าง ตรงนั้นก็จะพิการแล้ว

เมื่อคิดว่าหลังจากนี้ไม่กี่วันเขาจะได้ไปหาพวกสาวๆ สีหน้าของไท่ซางก็เปลี่ยนเป็นหื่นกระหายขึ้นมา

เมื่อเห็นท่าทีสายตาหรี่ๆ ของเขา หลี่ฝางก็เบะปากอย่างรังเกียจสุดๆ “นายรีบเช็กน้ำลายเถอะ นายเป็นแบบนี้เหนี่ยนะ จะมีผู้หญิงคนไหนยอมคบกับนาย”

“ลูกพี่ไม่เข้าใจหรอก ตอนนี้บนโลกนี้ ขอแค่นายมีความสามารถพอ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตกสาวสวยไม่ได้ ขอแค่ฉันเอาฐานะของปรมาจารย์ขึ้นมา ผู้หญิงเป็นโขยงก็มาหาถึงที่ ดูฉัน……”

ไท่ซางเชิดหน้าด้วยความภาคภูมิใจสุดๆ และเริ่มโม้ถึงประสบการณ์ของตนที่เคยผ่านผู้หญิงมา

หลี่ฝางมองบน เห็นได้ชัดว่าไม่อยากฟังเขาโม้ ขณะที่กำลังจะเตรียมหาเหตุผลบอกปัด จู่ๆ ประตูของห้องพักผู้ป่วยก็เปิดออก เงาร่างร่างนึงที่หลี่ฝางกับไท่ซางคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้น

หยูหลิงฮุ่ยมือนึงเท้าเอว อีกมีก็อุ้มท้องที่ใหญ่อย่างกับลูกบอล หลังจากกวาดสายตามองในห้องพัก จากนั้นสายตาก็หยุดลงที่หลี่ฝางกับไท่ซาง

“ฉันท้อง นี่คือลูกของนาย” ขณะที่หลี่ฝางอยากจะถามหยูหลิงฮุ่ยว่าทำอะไรที่นี่ ประโยคนึงของเธอก็ทำให้คนในห้องพักผู้ป่วยทั้งสี่คนแข็งทื่อเป็นหิน

แต่เดิมฉินวี่เฟยกับหยางฉงที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยยิ้มอย่างมีความสุขเพียงครู่เดียวสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ทั้งสองมองหลี่ฝางด้วยสายตาเย็นชา หลี่ฝางมองพวกเธอสองคนที่มีสายตาราวกับจะกินคน จึงตกใจและรีบอธิบาย

“วี่เฟย หยางฉง พวกเธออย่าเข้าใจผิดนะ!ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันสักนิด เธอเป็นผู้หญิงของไอ้หมอนี่!”

หลี่ฝางใช้นิ้วชี้ไปทางไท่ซางที่ยังไม่ได้สติอยู่ด้านข้าง จากนั้นก็รีบวิ่งไปทางฝั่งพวกฉินวี่เฟย เพื่อที่จะขีดเส้นแบ่งระหว่างตัวเขากับไท่ซางอย่างชัดเจน

“เธอพูดอะไร? ผู้หญิงอย่างเธอนี่เกรงว่าจะบ้าไปแล้วมั้ง?” ผ่านไปสามนาทีเต็มๆ ไท่ซางก็พูดคำนี้ขึ้น

ดวงตาของเขาเบิกกว้างสุดๆ พลางมองหยูหลิงฮุ่ยด้วยสีหน้าหวาดกลัว และดูเหมือนว่าพอจะเดาออกว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างนี้ ใบหน้าไม่มีความโกรธใดๆ

และเดินพยุงท้องใหญ่ๆ ไปหน้าไท่ซาง และพูดอย่างนิ่งมากๆ “ฉันไม่ได้บ้า ลูกที่อยู่ในท้องฉันเป็นลูกของนาย ถ้าหากนายไม่เชื่อรอเด็กคลอดออกมาแล้วจะตรวจดีเอ็นเอก็ได้”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท