NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1275 เขากลับมาแล้ว

บทที่ 1275 เขากลับมาแล้ว

ในขณะที่หลี่ต๋าคางคิดว่าจะต้องตายอย่างแน่นอน น้ำหนักที่ทับอยู่บนร่างของเขากลับหายไปในพริบตา

“เฮัย! โอเคไหม!” ส้าวส้วยจ้องมองหลี่ต๋าคางที่นอนอยู่กับพื้นทั้งร่างเต็มไปด้วยบาดแผล ตะโกนถามร้อนรน

เมื่อได้ยินเสียงของส้าวส้วย หลี่ต๋าคางถึงได้ค่อยๆ ลืมตาขึ้น จ้องมองส้าวส้วยที่ใจร้อน กล่าวถามอย่างยากเย็น

“แกมาได้ยังไง? ฉันให้แกเฝ้าบ้านพักตากอากาศไม่ใช่เหรอไง? เร็วเข้า! เด็กยังอยู่ที่ทาเคชิตะ มัตสึซากะ!”

ต่อให้เมื่อสักครู่หลี่ต๋าคางเกือบตาย สิ่งแรกที่หลี่ต๋าคางนึกได้ก็ยังเป็นความปลอดภัยของเมี๋ยวชุ่ยและเด็ก

ต่อให้เสียงของหลี่ต๋าคางในตอนนี้จะอ่อนแรงมาก แต่ก็รักษาชีวิตเอาไว้ได้ ส้าวส้วยเผยรอยยิ้มแห่งความยินดี

“ไม่เป็นไรแล้ว หลี่ฝางกลับมาแล้ว” ส้าวส้วยประคองหลี่ต๋าคางให้ลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกล่าว

“แกว่าไงนะ? หลี่ฝางกลับมาแล้ว? !” หลี่ต๋าคางคิดว่าตนเองหูฝาด กล่าวถามอย่างไม่มั่นใจ

ส้าวส้วยรู้อยู่แล้วว่าเขาจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ พลางชี้ไปทางทาเคชิตะ มัตสึซากะด้วยรอยยิ้ม

“เขาอยู่นั่น”

หลี่ต๋าคางหันหน้ากลับไปมอง ก็ได้พบกับหลี่ฝางที่อุ้มตู้ทารกไว้ในมือ มืออีกข้างกระชากทาเคชิตะ มัตสึซากะขึ้นจากพื้น

เมื่อเห็นลำคอที่โค้งงอผิดรูปของทาเคชิตะ มัตสึซากะ เขาเกรงว่าคงจะถูกหลี่ฝางจัดการไปแล้ว

“หลี่ หลี่ หลี่ฝาง!” ท่านจวนที่แอบอยู่อีกทางเมื่อเห็นหลี่ฝางราวกับเห็นผี ดวงตาคู่นั้นถลึงตาโต ตกใจจนก้นกระแทกนั่งลงกับพื้น

“ท่านจวน เจอกันอีกแล้ว” เมื่อหลี่ฝางได้ยินเสียงของท่านจวน จึงโยนร่างของทาเคชิตะ มัตสึซากะไปอีกทาง ค่อยๆ หันหน้าไปทางเขาช้าๆ ทักทายท่านจวนด้วยรอยยิ้ม

“แกตายในซากปรักหักพังแล้วไม่ใช่เหรอไง? แกจะมีชีวิตรอดออกมาได้ยังไง! นี่มันเป็นไปไม่ได้”

ทีแรกคิดว่าวันนี้จะสามารถกำจัดหลี่ต๋าคางไปได้อย่างสิ้นซาก แต่ใครจะไปรู้ว่าหลี่ฝางจะปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้

“ฮ่าๆ โทษที ผมดวงแข็ง ก็ยังมีชีวิตกลับจริงๆ นั่นแหละ” เมื่อเห็นทีท่าโมโหของท่านจวน หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้มตาหยี

“ฆ่าแกซะ! ฉันจะฆ่าแกสิ!” ท่านจวนรู้สึกว่าเขาแทบจะบ้า คนที่เขาอยากจะกำจัดต่างก็ยังมีชีวิตอยู่จนครบ

เขาแย่งปืนของทาเคชิตะ มัตสึซากะที่ทิ้งเอาไว้อย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ยิงลูกกระสุนที่เหลือในกระบอกจนหมด

ตามหลักแล้ว ระยะห่างของเขาและหลี่ฝางเพียงแค่สามเมตรเท่านั้น ระยะห่างที่สั้นแค่นี้หลี่ฝางไม่มีทางที่จะหลบกระสุนไปได้

แต่นาทีที่กระสุนถูกยิง หลี่ฝางก็ได้หายไปจากตรงหน้าของท่านจวน

กระสุนเหล่านั้นอัดเข้าไปในผนังที่อยู่ไกลออกไปทั้งหมด ท่านจวนจ้องมองพื้นที่ว่างเปล่า อึ้งทึ่งไปโดยปริยาย

“แกทำให้ลูกชายของฉันตื่น สมควรตาย” ในขณะที่ท่านจวนหาร่างของหลี่ฝางอย่างบ้าคลั่ง เสียงเด็กร้องดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงของหลี่ฝางตามมาติดๆ

หลี่ฝางกล่องทารกอย่างผิงอันที่อยู่ในตู้อย่างอ่อนโยน พลางประชิดแนบที่ข้างหูของท่านจวน “ท่านจวน เพื่อกำจัดตระกูลหลี่ของเราวางแผนชั่วร้าย แล้วยังกล้าใช้ลูกของผมเป็นตัวประกัน วันนี้ บัญชีเก่าและบัญชีใหม่ผมจะคิดพร้อมกันเลย”

จบประโยคเหล่านั้น หลี่ฝางใช้เสื้อคลุมห่อตู้ทารกเอาไว้อย่างใส่ใจ ภาพบางอย่างอำมหิตเกินไป เด็กไม่สามารถเห็นได้

ท่านจวนรู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง พลางตะโกนอย่างบ้าคลั่งคิดจะหนีออกไปด้านนอก แต่เพียงก้าวเดียวของเขา มือของหลี่ฝางก็อยู่ที่ไหล่ของเขาเสียแล้ว

นาทีที่หันหน้ากลับมากลุ่มไอควันสีเทาก็ปกคลุมหัวของท่านจวนเอาไว้ ก่อนที่ร่างของเขาจะแห้งกรังอย่างเห็นได้ชัดทันทีอย่างรวดเร็ว

หลี่ต๋าคางและส้าวส้วยที่อยู่อีกด้านต่างก็ตกใจอึ้ง สายตาที่จ้องมองหลี่ฝางเต็มไปด้วยความสับสน

พวกเขาที่เคยต่อสู้กับอาซาโทสมาก่อนก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าไอควันสีดำนั่นคืออะไร

พลังแห่งการเขมือบกลืนของเทพอ้าน

เมื่อพวกเขาหลุดออกจากภวังค์ หลี่ฝางก็กลืนพลังของท่านจวนหมดสิ้น โดยปกติแล้วคนที่ถูกพลังเขมือบกลืนดูดกลืนพลังจะตายในทันที แต่หลี่ฝางราวกับว่าตั้งใจ ปล่อยให้ท่านจวนเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายเอาไว้

ท่านจวนในตอนนี้ชราดุจดั่งมัมมี่ ร่างกายของเขาไร้พลังการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย กองอยู่กับพื้นดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดผวา

“ไม่……ไม่……ไม่……ปีศาจ! ปีศาจ!” เขาถอยไปข้างหลังอย่างบ้าคลั่ง พลางตะโกนด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า

หลี่ฝางอุ้มตู้ทารกเอาไว้ค่อยๆ เดินตามหลังของท่านจวน “ท่านจวน ความรู้สึกที่ถูกกลืนพลังเป็นยังไงบ้าง? ผมว่าคุณต้องนึกเสียใจทีหลังมากแน่ที่เป็นศัตรูกับตระกูลหลี่?”

เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ฝาง ท่านจวนขัดขืนหนักกว่าเก่า จนพูดไม่เป็นภาษา ได้แต่โหยหวนด้วยเสียงที่ประหลาด

“ฮ่าฮ่า วางใจเถอะ ผมไม่ฆ่าคุณหรอก ผมจะให้คุณมีชีวิตต่อไป อยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ด้วยสภาพแบบนี้ น่าสนใจกว่าฆ่าแกทิ้งเป็นไหนๆ”

หลี่ฝางเหยียบเท้าของท่านจวนอย่างเฉยชา เท้าที่ผอมแห้งจนเหลือเพียงกระดูกอยู่แล้วถูกเหยียบจนหัก

หลี่ต๋าคางจ้องมองหลี่ฝางที่เต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด หัวใจหนักอึ้ง หลี่ฝางในแบบนี้ผิดปกติไป แม้ก่อนหน้านี้หลี่ฝางก็ไร้ปรานีต่อศัตรู แต่ก็ไม่ถึงกับใช้วิธีที่โหดเหี้ยมเช่นนี้

“ส้าวส้วย เสี่ยวฝางเขาผิดปกติ” หลี่ต๋าคางกระซิบบอกส้าวส้วย

“ฉันรู้สึกว่าดวงจิตในร่างของเขาเปลี่ยนไป” ส้าวส้วยเห็นด้วย ขมวดคิ้วแน่นมองหลี่ฝาง

ท่านจวนที่ร่างกายเหมือนกับถูกกระตุ้นอย่างหนักตกใจจนตายเพราะหลี่ฝาง เมื่อจ้องมองท่านจวนที่กองกับพื้นตายอย่างสนิท หลี่ฝางเบะปากอย่างไร้อารมณ์

“น่าเบื่อชะมัด แบบนี้ก็ตายแล้วหรือ”

หลังบ่นอุบหลายคำ หลี่ฝางอุ้มเด็กไปตรงหน้าหลี่ต๋าคาง ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

“พ่อ ท่านใช้ไม่ได้เอาซะเลย ถูกไอ้พวกกระจอกนั่นเล่นงานจนมีสภาพแบบนี้”

“หลี่ฝาง นายพูดกับเฮียยังไง!” ส้าวส้วยไม่คิดเลยว่าหลี่ฝางจะพูดแบบนี้ออกมาได้ เขาโกรธจะตวาดเสียงดังลั่น

แต่เพิ่งจบประโยค ก็ถูกหลี่ฝางเตะปลิวกะทันหัน ส้าวส้วยไม่ได้ป้องกันตัว เขากระอักเลือดออกมา เจ็บหน้าอกจนแทบลุกไม่ขึ้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน