NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1293 มีคุณในบั้นปลายชีวิต

บทที่ 1293 มีคุณในบั้นปลายชีวิต

ส่วนหยางฉงใส่ชุดกระโปรงยาวถึงพื้นสีชมพู เมื่อเทียบกับชุดของฉินวี่เฟย แม้ไม่ได้เซ็กซี่ขนาดนั้นแต่มันดูใสๆมาก เธอที่เพิ่งคลอดลูกรูปร่างดีกว่าเมื่อก่อนอีก ยืนข้างๆฉินวี่เฟยแล้วไม่ได้ดูด้อยกว่าเลยแม้แต่น้อย

หลี่ฝางมองตาค้าง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าฉินวี่เฟยกับหยางฉงจะสวยขนาดนี้

“โห สวยเกินไปแล้ว!”ไท่ซางจอมทะลึ่งมองตาไม่กะพริบ ถ้านี่ไม่ใช่เพราะเป็นผู้หญิงของหลี่ฝาง เขาจะแทะโลมแน่นอน

“เช็ดน้ำลายหน่อย!ตามองตรงไหนห้ะ?ถ้ายังมองมั่วซั่วอีกฉันจะจิ้มให้ตาบอด!”

หลังจากได้ยินคำพูดของไท่ซาง หลี่ฝางก็เกิดหึงหวงขึ้นมาทันที ตบหน้าอกไท่ซางไปทีหนึ่ง พลางพูดกัดฟันขู่

“แหะๆ นั่นเป็นถึงพี่สะใภ้ของผม ผมจะคิดอะไรกับพวกเธอได้ยังไง ผมแค่ชมอย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆ แค่ชม”

ไท่ซางรีบเก็บสายตาตัวเองทันที พลางพูดประจบหลี่ฝาง

หลี่ฝางยิ้มเยาะ สีหน้าดีขึ้นมาเล็กน้อย ภรรยาตัวเองทั้งสวยและหุ่นดี แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมาก แต่ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็หวังว่าความสวยงามเช่นนี้จะเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว

เขาไม่มีการยกเว้น ภรรยาของตนมีเพียงตนที่สามารถชมได้ ถ้าใครกล้าคิดอะไรก็เท่ากับรนหายที่ตาย

ตอนนี้ฉินวี่เฟยและหยางฉงต่างตกตะลึงไปกับภาพตรงหน้า ตอนใกล้ค่ำหลี่ฝางได้สั่งคนมาส่งชุดให้เธอสองชุด บอกว่าตอนค่ำมีงานเลี้ยงสำคัญ ต้องการให้พวกเธอเข้าร่วมด้วยกัน และให้พวกเธอแต่งตัวสวยๆ

ตอนแรกพวกเธอสองคนไม่ได้สงสัยอะไร หลังจากตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษก็ขึ้นรถราฟาเอล จนกระทั่งมาถึงทางเข้าชายหาด พวกเธอถึงจะพบว่าคืนนี้ไม่ได้มีงานเลี้ยงอะไรที่พวกเธอต้องเข้าร่วมเลย ทั้งหมดนี้หลี่ฝางเป็นคนตั้งใจจัดขึ้น

“พี่วี่เฟย ที่นี่สวยมาก!พี่ดูชายหาดนี่สิ มันเป็นสีชมพู!แถมยังมีดอกกุหลาบพวกนี้อีก สวยมากจริงๆ!แล้วก็พี่ดูสิ ทรายพวกนี้ส่องประกายแสงภายใต้แสงไฟ!มหัศจรรย์จริงๆ!”

ตั้งแต่หยางฉงมาถึงหาด ก็ชื่นชมความสวยงามของชายหาดอย่างไม่ลดละ สถานที่ที่เธอไปตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่ใช่น้อยๆ เห็นวิวที่สวยงามมานับไม่ถ้วน แต่ภาพสวยงามเช่นนี้เธอเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกในชีวิต

ฉินวี่เฟยพอรู้อะไรเกี่ยวกับชายหาดแห่งนี้บ้าง เธอรู้ว่าทุกวันที่15ของทุกเดือน จะมีสิ่งมหัศจรรย์ปรากฏขึ้นบนชายหาดสีชมพูนี้ แต่เพราะงานยุ่งตลอดจึงไม่มีโอกาสมาที่นี่

เห็นชายหาดที่ตั้งใจจัดอย่างดี มันคงเป็นคำโกหกถ้าฉินวี่เฟยพูดว่าไม่ซึ้ง ที่จริงที่เธอบอกให้หลี่ฝางจัดพิธีขอแต่งงานแบบใหญ่ๆนั้นเธอล้อเล่น คิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางจะคิดจริง

เห็นสองสาวคุยเล่นกันตรงหาด หลี่ฝางก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาส่งสายตาให้ไท่ซาง ทันใดนั้นไฟบนชายหาดก็มืดสลัวลงทันที และขณะเดียวกันก็มีเสียงเพลงเบาๆดังขึ้น ทำให้เกิดบรรยากาศอบอุ่นและคลุมเครือ

ฉินวี่เฟยและหยางฉงต่างตกใจกับสถานการณ์ที่จู่ๆก็เปลี่ยนไปนี้ ขณะยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เห็นในมือหลี่ฝางถือช่อดอกไม้ขนาดใหญ่สองช่อ เดินมาทางพวกเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“โห!พี่หลี่ฝาง พี่เตรียมทั้งหมดนี่เลยเหรอ?ฉันซาบซึ้งมากจริงๆ!”

เมื่อหยางฉงเห็นคนรักของตนมาปรากฏตรงหน้าตัวเองราวกับเจ้าชายม้าขาว ก็ตื้นตันจนน้ำตาคลอเบ้า

ฉินวี่เฟยที่อยู่อีกด้านแม้ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ดูจากมุมปากของออกว่าตอนนี้เธอมีความสุขมาก

“วี่เฟยที่รัก เสี่ยวฉง การขอแต่งงานครั้งก่อนรีบเร่งเกินไป วันนี้ผมหลี่ฝางขอพวกคุณแต่งงานที่นี่อย่างเป็นทางการ พวกคุณยอมแต่งงานกับผมไหม?ผมสาบาน ผมจะดีกับพวกคุณไปตลอดชีวิต รักพวกคุณ ปกป้องพวกคุณ ไม่ให้พวกคุณได้รับอันตรายอะไรแม้แต่นิดเดียว”

หลี่ฝางกอดดอกไม้สองช่อในมือพลางเดินไปหาฉินวี่เฟยและหยางฉง จากนั้นคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เงยหน้ามองผู้หญิงที่ตนรักที่สุดทั้งสองอย่างจริงใจพลางพูด

ตอนนี้หยางฉงอึ้งจนเอามือปิดปากพูดไม่ออกแล้ว พลางพยักหน้าเป็นการแสดงว่าตนตกลง

เมื่อเห็นว่าเธอตกลง หลี่ฝางก็หันไปมองฉินวี่เฟยด้วยใจเต้นรัว ในใจเป็นกังวล กลัวว่าฉินวี่เฟยจะไม่ตอบรับคำขอแต่งงานของตน“หลี่ฝาง คุณต้องจำคำพูดที่คุณพูดวันนี้ให้ได้นะ บั้นปลายชีวิตของฉันมอบให้คุณแล้ว”

ฉินวี่เฟยสบสายตาที่ทั้งรอคอยและจริงใจของหลี่ฝาง พลางพูดยิ้มๆ

ได้ยินเช่นนั้นหลี่ฝางก็น้ำตาไหลโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาพยักหน้าพลางพูดเสียงสะอื้น

“ผมสาบาน ผมจะดูแลพวกคุณอย่างดีแน่นอน”

ฉินวี่เฟยและหยางฉงรับดอกไม้ในมือหลี่ฝาง ทั้งสองเผยรอยยิ้มที่มีความสุขและสดใส

ทันใดนั้นดอกไม้ไฟอันวิจิตรงดงามก็ปะทุขึ้นบนท้องฟ้า และส่องสะท้อนภาพความสวยงามบนชายหาดไปด้วยกัน ฉากที่สวยงามเช่นนี้ตราตรึงอยู่ในจิตใจของทั้งสามคน

พวกเขารอคอยภาพการขอแต่งงานเช่นนี้มานาน ไม่ว่าจะเป็นฉินวี่เฟยหรือหยางฉง พวกเธอสมควรได้รับการขอแต่งงานที่สวยงามเช่นนี้

“ฮือๆๆ……มันซึ้งมากจริงๆ ในที่สุดลูกพี่ก็ได้กอดสาวกลับบ้านแล้ว”ไท่ซางที่อยู่ในมุมมืดมองพวกเขาสามคนกอดกัน พูดชื่นชมแกมร้องไห้ออกมา

“ได้ยินว่านายจะเป็นพ่อคนแล้ว?”

ในช่วงเวลาที่น่าประทับใจเช่นนี้ เสียงไร้ความรู้สึกของราฟาเอลก็ดังเข้าหูไท่ซาง ทำเอาไท่ซางหน้าถอดสี หันไปมองรอราฟาเอลที่พูดอยู่อย่างดุๆ

“แกแม่งอย่าปากเสียได้มั๊ยวะ จะพูดอะไรที่ไม่ควรพูดให้ได้เลยใช่ไหม?ไม่ได้มีเรื่องนานแล้ว คันไม้คันมือเหรอ?”

เห็นไท่ซางขู่ ราฟาเอลก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรแม้แต่น้อย สีหน้ายังคงเรียบเฉย

“เรื่องนี้คนทั้งสถานตากอากาศรู้กันหมดแล้ว ฉันแค่ถามมันจะทำไม?ใครใช้ให้แกเที่ยวเล่นไปทั่ว ตอนนี้หนี้รักมาถึงตัวแล้วใช่ไหมล่ะ”

คำเย้ยหยันพวกนี้ทำเอาไท่ซางหน้าดำคร่ำเครียด เสียงกัดฟันกรอดๆดังขึ้น เดิมที่เขากับราฟาเอลก็เป็นคู่แค้นกันอยู่แล้ว เจ้าหมอนี้ยังจะมาหัวเราะเยาะเขาอีก

เรื่องแบบนี้ไท่ซางทนไม่ได้ เขาทำเสียงต่ำทีหนึ่ง แล้วพุ่งเข้าใส่ราฟาเอล

เห็นไท่ซางพาลโกรธ ราฟาเอลก็ยิ้มเยาะออกมา พุ่งเข้าใส่อย่างไร้ความขี้ขลาด ทางด้านหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยและหยางฉงทั้งสามหวานกันปานจะกลืนกิน แต่ด้านนี้ไท่ซางกับราฟาเอลตีกันฟ้าถล่มดินทลาย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท