NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1292 เตรียมขอแต่งงาน

บทที่ 1292 เตรียมขอแต่งงาน

เมื่อนึกถึงลูกสาวตน สายตาของหยางฉงก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดทันที เธอคิดมาตลอดว่าตัวเองไม่ได้ดูแลผิงอันให้ดี เป็นเพราะตนที่ทำให้ผิงอันต้องคลอดก่อนกำหนด

ได้ยินหยางฉงพูดเสียงสะอื้น หลี่ฝางจึงกอดเธออย่างเป็นห่วง“จะโทษคุณได้ยังไง แม่เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ความรักที่คุณมีให้ผิงอัน ไม่มีใครสามารถให้หรือทดแทนได้ ฉันคิดว่าเขาต้องภูมิใจในความยิ่งใหญ่ของคุณแน่นอน”

เห็นหลี่ฝางและหยางฉงหวานกัน หยูหลิงฮุ่ยก็มีสายตาอิจฉาขึ้นมาทันที คิดในใจถ้าเธอกับไท่ซางรักกันแบบนี้ได้คงดี

เวลาผ่านไปเร็วมาก แป๊บเดียวก็ค่ำแล้ว หลี่ฝางจัดให้คนมารับหยูหลิงฮุ่ยมาสถานตากอากาศตั้งแต่บ่ายแล้ว และเรื่องที่เขาสั่งหลี่ฝางก็จัดการเกือบเสร็จแล้ว

“ไท่ซาง ฉันว่าหยูหลิงฮุ่ยผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร นายไม่ลองคุยดีๆกับเธอหน่อยล่ะ นายก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว จะเที่ยวเตร่ด้านนอกตลอดไปไม่ได้หรอก”

หลี่ฝางจัดชุดสูทตัวเองพลางพูดกับไท่ซาง ไท่ซางก็อยู่กับหลี่ฝางมานานแล้ว หลี่ฝางคอยมองดูเขาที่ลุ่มหลงไปกับผู้หญิง โดยไม่เคยพูดอะไรมาตลอด

แต่ในเมื่อตอนนี้มีลูกแล้ว เขาก็หวังว่าไท่ซางจะสงบใจลง เป็นพ่อเป็นสามีที่ดีได้

“พอแล้ว ลูกพี่ เรื่องของผมเดี๋ยวผมจัดการเอง พี่รีบไปตามนัดกับพี่สะใภ้เถอะ!”

เห็นได้ชัดว่าไท่ซางไม่อยากคุยกับหลี่ฝาง ไม่อยากฟังคำพูดของหลี่ฝาง ที่พูดเกี่ยวกับหยูหลิงฮุ่ยและลูกเลย เลยรีบไล่ให้หลี่ฝางออกไป

หลี่ฝางมองนาฬิกา ตอนนี้ใกล้2ทุ่มแล้ว เขาจึงทำได้เพียงถอนหายใจอย่างจนปัญญา

คืนนี้เป็นวันที่สำคัญมากสำหรับเขา ไม่อาจให้เกิดความผิดพลาดใดๆเด็ดขาด

เพราะยังไงหยูหลิงฮุ่ยก็ต้องอยู่ที่สถานตากอากาศอีกยาว ตนสามารถค่อยๆโน้มน้าวไท่ซางได้ เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือขอฉินวี่เฟยและหยางฉงแต่งงาน

ตั้งแต่มั่นใจในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามคน หลี่ฝางก็ให้ไท่ซางแอบเตรียมเรื่องขอแต่งงานแทนตัวเอง รีบจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยในคืนนี้

สถานที่ขอแต่งงานคือที่บนชายหาดส่วนตัวในเมืองตงไห่ ชายหาดนี้เมื่อก่อนเป็นถิ่นของท่านจวน จากนั้นถูกหลี่ฝางรับช่วงต่อ สร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์แห่งหนึ่งในเมืองตงไห่

ความพิเศษของหาดแห่งนี้ คือหาดทรายเป็นสีชมพูทั้งหาด โดยเฉพาะวันน้ำลดในทุกๆวันที่15ของเดือน ทั่วทั้งชายหาดจะส่องแสงดาวระยิบระยับภายใต้แสงจันทร์

นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวมีจำนวนมากทุกวัน ทำให้หลี่ฝางได้ผลกำไรไม่น้อย และวันนี้เป็นวันน้ำลงของเดือนพอดี หลี่ฝางได้สั่งคนปิดหาดแล้วเรียบร้อย

เพื่อเป็นการขอแต่งงานอันน่าจดจำของฉินวี่เฟยกับหยางฉง

“ไท่ซาง นายคิดว่าฉันใส่ชุดสูทนี้ดูดีไหม?มันดูแก่ไหม?”หลี่ฝางจ้องตัวเองในกระจก พลางถามด้วยสีหน้ากังวล

“ลูกพี่ พี่เปลี่ยนมา5-6ชุดแล้ว ไม่พอใจสักชุด ถ้าพี่ยังไม่รีบจะพลาดเวลาที่ดีที่สุดของการขอแต่งงานแล้วนะ!”

ไท่ซางกลอกตามองบนอย่างจนปัญญา พลางคิดในใจแค่ขอแต่งงานต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?

“ช่างเถอะ เอาชุดนี้แหละ!ดอกไม้ที่ฉันสั่งให้นายเตรียมไว้ได้เตรียมรึยัง?แล้วก็แหวน เอามารึยัง?”

รู้ว่าถ้ายังชักช้าอยู่ จะพลาดเวลาที่ดีที่สุดของการขอแต่งงานแล้วจริงๆ หลี่ฝางจัดผมตัวเองเล็กน้อย หาดอกไม้กับแหวนอย่างวุ่นวาย

“เอามาแล้วๆ พวกเรารีบไปกันเถอะ”ไท่ซางหอบดอกกุหลาบสีแดงสีชมพูอย่างละช่อไว้ในอ้อมแขน แล้วใช้ตัวดันหลี่ฝางให้เดินออกไป

จากสถานตากอากาศไปชายหาดไม่ได้ไกลมาก ขับรถประมาณ10กว่านาที ไม่นานนักหลี่ฝางกับไท่ซางก็มาถึงทางเข้าชายหาด จนถึงวินาทีจะลงจากรถ หลี่ฝางยังวุ่นอยู่กับการจัดเสื้อผ้าตัวเอง

จากนั้นได้ไท่ซางเร่ง ถึงจะเดินอืดอาดไปยังชายหาด เพราะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง บนชายหาดจึงจัดตกแต่งได้ไม่เลว

ไท่ซางไม่ได้ใช้ความพยายามในการตกแต่งนัก แค่ให้ปูดอกกุหลาบให้เต็มชายหาดสีชมพูนั่น และมีแสงไฟหลากสีสันมากมายกระจายอยู่ตามชายหาด

แสงไฟหลากสีผสานกับแสงจันทร์อันสุกสกาว ทำเอาทั้งชายหาดเป็นฉากที่สวยงามชวนฝัน

“วี่เฟยกับเสี่ยวฉงพวกเขาถึงไหนแล้ว?จะถึงรึยัง?”หลี่ฝางหลบตรงที่ซ่อนตัวที่ตนหาไว้ก่อนหน้านี้ พลางถามอย่างตึงเครียด

“ใกล้ถึงแล้ว ราฟาเอลบอกว่าอีก3นาทีพวกเขาจะถึงทางเข้าหาด ลูกพี่ พี่เล่นใหญ่เกินไปแล้ว ก็แค่ขอแต่งงาน ต้องตื่นเต้นจนเหงื่อตกแบบนี้เลยเหรอ?”

ไท่ซางมองหน้าผากหลี่ฝางที่เต็มไปด้วยเหงื่อ จึงหยอกล้อออกมาอย่างอดไม่ได้

หลี่ฝางหูแดงเล็กน้อย เตะก้นไท่ซางอย่างไม่พอใจไปทีหนึ่ง“นายจะไปเข้าใจอะไร รอถึงคราวนายขอหยูหลิงฮุ่ยแต่งงานก็จะรู้แล้วว่าตื่นเต้นแค่ไหน”

“โอเค ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรล้อพี่ พี่อย่าพูดเรื่องผมกับหยูหลิงฮุ่ยอีกเลย”ไท่ซางรู้สึกตัวเองปากเสีย แม้จะติดปากไปแล้ว แต่ตนก็ถูกสกัดเอาไว้

“เจ้าหมอนี่ เปลี่ยนเรื่องทันทีที่ฉันพูดถึงเรื่องหยูหลิงฮุ่ย ทำตัวเป็นลูกผู้ชายหน่อยได้ไหม?ไม่รู้ว่าหยูหลิงฮุ่ยชอบนายเข้าไปได้ยังไง”

หลี่ฝางจ้องไท่ซางอย่างไม่พอใจ คิดจะตำหนิอีกสองสามคำ ไท่ซางที่อยู่อีกด้านก็เกิดตื่นตระหนกขึ้นมา

“มาแล้วๆ!ลูกพี่เตรียมตัวเร็วเข้า!”

ได้ยินที่เขาพูด หลี่ฝางที่เพิ่งสงบสติอารมณ์ได้ก็ตื่นเต้นขึ้นมา ตรงจุดซ่อนลับๆตรงนี้ เขารู้สึกฝ่ามือชื้นเหงื่อ

เห็นฉินวี่เฟยกับหยางฉงค่อยๆเดินมาไม่ไกล

วันนี้ฉินวี่เฟยใส่ชุดกี่เพ้าเพรียวสีม่วง ดีไซน์เอวสูงเผยให้เห็นขาที่เล็กเรียวยาวทั้งสองข้าง ส่วนดีไซน์ทรงโลว์คัทเผยให้เห็นรูปร่างน่าประทับใจของเธอนั้นดูดีเข้าไปอีก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท