NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1298 ลูกศิษย์ที่ได้มาฟรีๆ

บทที่ 1298 ลูกศิษย์ที่ได้มาฟรีๆ

“ที่พี่ผมพูดล้วนเป็นความจริง!ถ้าคุณไม่เชื่อมาดูวีซ่าของเราได้!พี่หลี่ฝาง พวกเราเห็นพี่ที่ศึกบนสะพานสายรุ้งในญี่ปุ่นครั้งนั้นหล่อเท่มากจริงๆ!ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมกับพี่ชายผมจึงเอาคุณเป็นไปดอล”

ไขบู๊เกอเห็นหลี่ฝางไม่เชื่อ จึงรีบล้วงวีซ่าของทั้งคู่ออกมาจากกระเป๋าทันที แล้วยื่นให้หลี่ฝางด้วยความตื่นเต้น

ได้ยินเช่นนั้นหลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว พลางหยิบพาสปอร์ตในมือไขบู๊เกอมาดู รู้สึกหมดคำจะพูดสุดๆ ในญี่ปุ่นครั้งก่อนที่เขาวิ่งไปบนสะพานสายรุ้งเพราะไม่มีทางเลือกอื่น คิดไม่ถึงว่าจะได้ลูกศิษย์มาอย่างปุบปับเช่นนี้

“พวกนายสองคนคงไม่ได้สมองมีปัญหาหรอกใช่ไหม?ถ้าเมื่อกี้ฉันเหี้ยมกว่านี้อีกหน่อย เกรงว่าพวกนายคงตายไปแล้ว”

หลี่ฝางโยนพาสปอร์ตคืนให้ไขบู๊เกอพลางพูดอย่างไม่พอใจ เมื่อกี้เขารู้สึกได้ว่าบนตัวสองคนนี้ไม่มีไออำมหิต จึงไม่ได้ฆ่า

“ฮ่าๆ พวกเราไม่คิดว่าลูกพี่จะเก่งขนาดนี้”ไขบู๊เกอและไขจี๋เออเกาหัวอย่างอายๆ ทำตัวไม่ถูกสุดๆ

หลี่ฝางกลอกตามองบน และขณะที่กำลังจะพูดอะไรต่อ กู่ยี่เทียนก็เดินเข้ามา

“หลี่ฝาง ทำไมเข้าห้องน้ำนานจังวะ?พวกเราต้องขึ้นเครื่องแล้ว!”

กู่ยี่เทียนกับส้าวส้วยรอหลี่ฝางตรงสนามบินรอแล้วรอเล่าก็ยังไม่กลับมา เห็นคนเริ่มเช็คอินขึ้นเครื่องแล้ว เขาจึงรีบวิ่งมาตาม

“เอ๋?สองคนนี้เป็นใคร?นายรู้จักงั้นเหรอ?”บ่นเสร็จกู่ยี่เทียนก็เพิ่งเห็นสองพี่น้องไขบู๊เกอและไขจี๋เออยืนอยู่ข้างๆ จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ไม่รู้จัก เราไปกันเถอะ”หลี่ฝางไม่อยากเสียเวลากับสองพี่น้องปัญญาอ่อนนี่ หลังจากพูดแบบนั้นเสร็จก็ลากกู่ยี่เทียนเดินไปด้านนอก

“ลูกพี่!พี่รอพวกเราด้วย!พี่จะไปที่ไหน?พาพวกเราไปด้วยได้ไหม?”

ไขจี๋เออเห็นหลี่ฝางเดินออก ก็รีบตามหลังหลี่ฝางไป จะหน้าด้านตามพวกเขาไปด้วย

เมื่อได้ยินไขจี๋เออตะโกนเรียกหลี่ฝางว่าลูกพี่ สายตาของกู่ยี่เทียนก็เปลี่ยนไปทันที ใช้ข้อศอกกระทุ้งหลี่ฝางเบาๆ พลางกระซิบถาม

“นายบอกว่าไม่รู้จักไม่ใช่เหรอ?แล้วทำไมชาวต่างชาตินี่ถึงเรียกนายว่าลูกพี่?”

“ไม่รู้จักจริงๆ เจ้างี่เง่าสองคนนั้นเห็นฉันต่อสู้โดยบังเอิญ แล้วเอาฉันเป็นไอดอล เมื่อกี้ยังจะประมือกับฉันโดยไม่ดูกำลังตัวเองอยู่เลย จัดการไปทีหนึ่งก็ปราบได้แล้ว”

หลี่ฝางอธิบายอย่างจำใจ

ได้ยินเช่นนั้นกู่ยี่เทียนก็ตลก ใช้มือจิ้มๆหลี่ฝางอย่างเจ้าเล่ห์“เจ้าหมอนี่ใช่ได้นี่หว่า เมื่อกี้ส้าวส้วยยังบอกให้นายหาลูกศิษย์เพิ่มอยู่เลย คิดไม่ถึงว่ามาให้ถึงที่ทีเดียวสองคนเลย”

หลี่ฝางหัวเราะเจื่อนๆ ไม่รู้จะพูดว่าตัวเองโชคดีหรือโชคร้ายดี หันไปมองไขจี๋เออสองพี่น้องที่ยังตามหลังเขามายิกๆพลางพูด

“พวกนายไม่ต้องตามฉันมาแล้ว ในเมื่อมาเที่ยวประเทศจีน งั้นก็ไปเที่ยวให้สนุก ครั้งนี้ฉันไปทำธุระสำคัญ พวกนายไม่ต้องมายุ่งวุ่นวาย”

สำหรับคนที่ไม่ใช่ศัตรู ท่าทีของหลี่ฝางยังถือว่าดีมาก เขาไปเผ่ากู่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะเจออันตรายอะไรบ้าง ไขจี๋เออสองพี่น้องนี้เป็นแค่คนแปลกหน้าสำหรับเขา ไม่จำเป็นต้องลากผู้บริสุทธิ์เข้ามาด้วย

“ไม่ๆๆ!แม้จุดประสงค์แรกของเราคือมาเที่ยว แต่ตอนนี้ได้เจอลูกพี่แล้ว ดังนั้นจุดประสงค์ของเราคือเดินตามรอยเท้าลูกพี่ พี่ไปไหมผมไปนั่น”

“ใช่!เราสาบานให้ตายว่าจะติดตามลูกพี่!”

เมื่อเห็นหลี่ฝางไล่ตน ไขจี๋เออกับไขบู๊เกอจึงตะโกนคำพูดเหล่านี้ออกมา

ทันใดนั้น คนในเกทรอขึ้นเครื่องต่างหันมามองหลี่ฝางพวกเขาด้วยสายตาแปลกๆ ดูพี่น้องโง่เง่าสองคนนี้สิ หลี่ฝางรู้สึกขายหน้าจริงๆจึงกุมขมับอย่างไร้เรี่ยวแรง

“พวกนายเลิกเรียกฉันลูกพี่ได้แล้ว ไปที่ชอบที่ชอบเถอะ ฉันไม่อยากรับพวกนายสองคนเป็นศิษย์”

แม้ตอนนี้หลี่ฝางขาดกำลังคน แต่ไม่ใช่จะเอาใครก็ได้ แม้ไขจี๋เออกับไขบู๊เกอมีฝีมือไม่เลว แต่สมองหน่ะไม่ได้เรื่อง หลี่ฝางคิดว่าหากรับสองคนนี้เป็นศิษย์ ไม่ช้าก็เร็วเขาคงเป็นบ้าตายกับความโง่เง่าของพวกเขาแน่ๆ

ตอนแรกคิดว่าตนพูดแบบนี้แล้ว พวกเขาสองคนจะล้มเลิกความคิดที่จะเป็นลูกศิษย์ของตน แต่หลี่ฝางประเมินความคิดพวกเขาต่ำไป

ไขจี๋เออและไขบู๊เกอคุกเข่าลงดังฟุบตรงหน้าหลี่ฝาง พลางตะโกนอย่างห้าวหาญองอาจ

“ลูกพี่!ถ้าพี่ไม่รับพวกเราเป็นศิษย์ พวกเราจะคุกเข่าอยู่ตรงนี้ไม่ลุกไปไหน!”

“วู้!”กู่ยี่เทียนข้างๆขำหนักมาก ค้ำไหล่หลี่ฝางแทบจะยืนตรงๆไม่ได้“ฉันว่านะหลี่ฝาง นายรับสองคนนี้เป็นศิษย์เถอะ ถ้านายไม่ตอบตกลงพวกเขา ฉันเกรงว่าคนทั้งสนามบินจะมามุงดูกันหมด”

คนเริ่มมามุงดูกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นมีบางคนหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปถ่ายวิดีโอ หลี่ฝางหน้าดำคร่ำเครียด ในใจทั้งรู้สึกโกรธและจนปัญญา

“พอแล้วๆ!ลุกขึ้นให้หมด ฉันรับพวกนายเป็นศิษย์แล้วโอเคยัง?”

หลี่ฝางไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อน คนอื่นเวลารับคนเป็นศิษย์สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆไม่ใช่เหรอ มีแต่เขาคนเดียวนี่แหละที่รับคนเป็นศิษย์แล้วรู้สึกขายหน้าแบบนี้

“ลูกพี่ผู้สูงส่ง กรุณารับการคารวะของศิษย์ด้วย!ผมไขจี๋เออ(ไขบู๊เกอ)ขอให้คำปฏิญาณไว้ ณ ที่นี้ ว่าจะบุกน้ำลุยไฟ ขึ้นเขาลงห้วยเพื่อลูกพี่โดยไม่ปฏิเสธ!”

เมื่อได้ยินหลี่ฝางตอบตกลงรับตนเป็นศิษย์ ไขจี๋เออและไขบู๊เกอก็โขกหัวคารวะให้เขาสามครั้ง และได้ปฏิญาณตนเป็นเสียงเดียวกัน

กู่ยี่เทียนเพิ่งกลั้นขำได้ แต่ก็ขำขึ้นมาอีกทันใด นั่งยองกุมท้องอยู่กับพื้น หัวเราะเสียงดังพลางตบพื้นแรงๆ

หลี่ฝางตากระตุกแรงมาก แทบอยากมุดแผ่นดินหนี นี่มันโคตรจะน่าอายเลย!เจ้างี่เง่าสองคนนี้คงไม่ใช่สู้ชนะตนไม่ได้ แล้วใช้วิธีนี้มาโจมตีตนหรอกนะ?

“พวกนายรีบลุกขึ้นมาเลย!ลูกผู้ชายไม่คุกเข่าพร่ำเพรื่อไม่รู้เรื่องหรือไง?ถ้าต่อไปพวกนายคุกเข่าตามอำเภอใจแบบนี้อีก ก็อย่าพูดออกไปว่าเป็นลูกน้องของฉัน!”

ถูกหลี่ฝางขู่ไป ไขจี๋เออกับไขบู๊เกอจึงยืนขึ้น

“ลูกพี่ พี่นั่งเครื่องไปที่ไหนเหรอ?ผมกับไขจี๋เออจะไปเปลี่ยนไฟล์ทเดี๋ยวนี้เลย!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท