ได้ยินกู่ยี่เทียนพูดเช่นนั้น หลี่ฝางก็กลอกตามองบนอย่างอดไม่ได้ ทำไมเขาไม่เคยรู้มาก่อนนะว่าคนคนนี้ชอบเอาเปรียบขนาดนี้?
“ลูกพี่ เรื่องโรงแรมอะไรพวกนั้นเราจัดการเรียบร้อยแล้ว เป็นห้องดีลักซ์ทั้งหมด ถ้าคืนนี้รู้สึกเหงาละก็ พวกเราสามารถช่วยจัดสาวสวยมาคลายความเบื่อให้ได้”
ไขจี๋เออทำขั้นตอนการเข้าพักเสร็จ ก็หันไปมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์พลางพูด
“ฟู่”ได้ยินเช่นนั้นหลี่ฝางสมองอื้อไปทันที แล้วปฏิเสธไปอย่างไม่คิดแม้แต่น้อย“ฉันมีลูกมีเมียแล้ว นายอย่าทำเรื่องบ้าๆบอๆอะไรให้ฉัน”
ตนนั้นมีผู้หญิงถึงสองคนแล้ว แถมยังสวยดั่งดอกไม้ ดั่งเทพเจ้า จะทำเรื่องต่ำตมกว่าสัตว์เดรัจฉานแบบนี้ได้ยังไง
“ฮ่าๆ นายทำเกินความจำเป็นแล้ว ลูกพี่ของพวกนายมีผู้หญิงถึงสองคนเลยนะ แถมยังสวยคนละแบบ เขาจะอยากได้ผู้หญิงอื่นทำไมกัน”
กู่ยี่เทียนตบไหล่ไขจี๋เออเบาๆ พลางอธิบายอย่างยิ้มๆ
ไขจี๋เออได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งไป จากนั้นตบหน้าอกตัวเองแรงๆ พลางพูดอย่างนึกขึ้นได้
“อ้อ!ผมนึกออกแล้ว!ตอนอยู่บนสะพานสายรุ้ง ลูกพี่ได้ช่วยผู้หญิงคนหนึ่งไว้ หรือว่าเธอคนนั้นคือพี่สะใภ้ของเรา?”
เมื่อนึกถึงเรื่องที่หลี่ฝางต่อสู้บนสะพานสายรุ้งวันนั้น สายตาไขจี๋เออเปลี่ยนเป็นเลื่อมใสศรัทธาทันที เดิมทีที่พวกเขาสองพี่น้องไปญี่ปุ่นก็เพื่อท้าสู้โทชิโอะ คามิยะแห่งญี่ปุ่น ไม่คิดว่าหลี่ฝางจะไปถึงก่อน
พวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นหลี่ฝาง จึงได้เกิดเหตุการณ์ในห้องน้ำเมื่อครู่นั่นเอง
แต่ที่ทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือ นี่แค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ฝีมือของหลี่ฝางนั้นแกร่งขึ้นมาก แดนเต๋าระดับกลางอย่างพวกเขาสู้กับหลี่ฝางคงไม่พ้นสามกระบวนท่า
“แค่กๆ เธอเป็นหนึ่งในภรรยาของฉัน ทั้งหมดมีสองคน เมื่อกลับจากเมืองชีหนันแล้วฉันจะแนะนำพวกเธอให้พวกนายรู้จัก”
ที่จริงหลี่ฝางยังปรับตัวไม่ค่อยได้กับการมีผู้หญิงสองคน เมื่อได้ยินที่กู่ยี่เทียนพูด ก็รู้สึกไอออกมาเบาๆอย่างเขินอาย
ไขจี๋เออและไขบู๊เกอกลับไม่ได้ตกใจมากนัก ชาวต่างชาติมีความคิดเปิดกว้างกว่าคนจีนมาก
จากนั้นพวกเขาคุยเล่นกันสักพัก แล้วกลับห้องไปพักผ่อน รุ่งสางของวันต่อมา หลี่ฝางที่กำลังหลับฝันอยู่ก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตู
“ใคร?มาเคาะประตูฉันแต่เช้า”หลี่ฝางเดินไปเปิดประตูตาปรือๆพลางหาววอดๆ
“เห้ย!”วินาทีที่ประตูเปิดออก ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเสียงแหลมจนแทบจะทะลุแก้วหูหลี่ฝาง ทำเอาเขาที่ยังสะลึมสะลืออยู่ตื่นขึ้นมาทันที
“ไอ้โรคจิต!ทำไม่ใส่เสื้อผ้า!”เห็นผู้หญิงหน้าตาน่ารัก แต่งตัวเรียบร้อยยืนอยู่หน้าประตูของหลี่ฝาง มือข้างหนึ่งปิดตาตัวเอง อีกข้างชี้ด่าหลี่ฝาง
หลี่ฝางเอานิ้วก้อยไปเขี่ยหูที่รู้สึกชาๆของตน ขมวดคิ้วมองผู้หญิงคนนั้นพลางถามขึ้น
“นี่คุณ เราสองคนรู้จักกันเหรอ?คุณมาเคาะประตูห้องชายแปลกหน้าแต่เช้าแบบนี้ ยังมาโทษคนอื่นว่าเป็นโรคจิต?สมองคุณมีปัญหาเหรอ”
แม้หลี่ฝางพูดไม่ค่อยน่าฟัง แต่ใครใช้ให้ผู้หญิงคนนี้ มารบกวนการนอนหลับคนอื่นแต่เช้าแบบนี้ล่ะ
อีกอย่างเขาไม่ได้ไม่ใส่อะไรเลย ด้านล่างพันผ้าเช็ดตัวอยู่ไม่ใช่เหรอ?ผู้หญิงคนนี้จะตกใจอะไร
“มีอะไรๆ?เกิดอะไรขึ้น?”เสียงกรีดร้องของผู้หญิง ปลุกคนที่อยู่ห้องใกล้ๆให้ตื่นทันที กู่ยี่เทียนหวีจัดทรงผมตัวเอง พลางโผล่หน้าออกมาถาม
“เสี่ยวหลินตัง!ทำไมคุณมาเช้าขนาดนี้?”
เมื่อเห็นผู้หญิงที่อยู่หน้าประตูหลี่ฝางชัดๆ กู่ยี่เทียนก็พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ
เสี่ยวหลินตัง?อะไรวะ?ผู้หญิงคนนี้รู้จักกับกู่ยี่เทียน?
ขณะหลี่ฝางกำลังจะถามกู่ยี่เทียน ผู้หญิงคนนั้นถลึงตาโตใส่หลี่ฝาง จากนั้นออกแรงถึบน่องหลี่ฝางไปทีหนึ่ง
“หลี่ฝาง!ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นโรคจิต!”
“ซี้ด……”หลี่ฝางพับน่องตนที่ถูกถีบ ยืนขาเดียวกระโดดไปมาอยู่กับที่ จากนั้นมองเสี่ยวหลินตังด้วยความเจ็บปวดพลางด่าทอ“คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?ผมเป็นโรคจิตตั้งแต่เมื่อไหร่?”
กู่ยี่เทียนเห็นเขาสองคนทะเลาะกัน จึงรีบออกมาปราม“โถ่ คนกันเองทั้งนั้น อย่าโมโหกันๆ”
“เหอะ ถ้าไม่ใช่โรคจิตแล้วทำไมคุณไม่ใส่เสื้อผ้า”แต่เสี่ยวหลินตังราวกับไม่ได้ยินที่กู่ยี่เทียนพูดอย่างไรอย่างนั้น ทำเสียงออกมาอย่างทะนงตัว
เมื่อหายปวด หลี่ฝางก็เอาขากลับลงไปอย่างกลั้นโมโหสุดๆ จ้องเสี่ยวหลินตังพลางพูดกลับไป
“ผมแม่งนอนอยู่ในห้องตัวเองดีๆ คุณมาเคาะประตูแต่เช้า แล้วมาโทษผมว่าไม่ใส่เสื้อผ้า?”
“งั้นเวลาคนอื่นเคาะประตู คุณไม่ใส่เสื้อผ้าให้ดีก่อนแล้วค่อยเปิดล่ะ?เป็นโรคจิตชัดๆ ยังไม่ให้คนอื่นพูด!”
เสี่ยวหลินตังจะเถียงกับหลี่ฝางให้ได้เลย ไม่มีท่าทีว่าจะยอม กู่ยี่เทียนเห็นทั้งคู่เถียงกันไปเถียงกันมา ไม่รู้จะหันไปฝั่งไหนดี
“พอแล้วๆ พวกคุณหยุดทะเลาะกันได้แล้ว หลี่ฝางนายก็พูดให้น้อยๆหน่อย เสี่ยวหลินตังเธอเป็นคนนำทางของเรา”
กู่ยี่เทียนเข้าไปแทรกระหว่างสองคนนั้น พูดโน้มน้าวด้วยสีหน้าขมขื่นเสี่ยวหลินตังเป็นคนในพื้นที่เมืองชีหนัน และเป็นหลานสาวของเพื่อนเก่าของผู้อาวุโสใหญ่
พวกเขามาเมืองชีหนันครั้งนี้ เดิมทีให้พ่อของเสี่ยวหลินตังเป็นคนนำทาง แต่พ่อเธอมีเรื่องจวนตัว จึงเปลี่ยนเป็นเสี่ยวหลินตังแทน
ไม่คิดว่าจะทะเลาะกับหลี่ฝางทันทีที่มาถึงโรงแรม นี่ทำให้กู่ยี่เทียนปวดหัวมากๆ
“เหอะ ฉันหน่ะเป็นคนใจกว้าง ไม่คิดหยุมหยิมกับคุณหรอก!”เสี่ยวหลินตังทำเสียงออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ แล้วพูดอย่างเย่อหยิ่ง
หลี่ฝางรู้สึกตัวเองโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว ยกนิ้วชี้หน้าเสี่ยวหลินตังอยู่พักใหญ่แต่พูดอะไรไม่ออก
“แฮะแฮ่ม เอาล่ะๆ ทุกคนไปเก็บของเถอะ แล้วมารวมตัวที่ห้องผม เสี่ยวหลินตัง คุณก็เลิกโกรธหลี่ฝางได้แล้ว มานั่งในห้องผมก่อน”
เมื่อเห็นว่าในที่สุดพวกเขาเลิกทะเลาะกันแล้ว กู่ยี่เทียนก็โล่งอกสักที ดันเสี่ยวหลินตังให้เดินไปห้องของตน