NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1300 รบกวนการนอนหลับ

บทที่ 1300 รบกวนการนอนหลับ

ได้ยินกู่ยี่เทียนพูดเช่นนั้น หลี่ฝางก็กลอกตามองบนอย่างอดไม่ได้ ทำไมเขาไม่เคยรู้มาก่อนนะว่าคนคนนี้ชอบเอาเปรียบขนาดนี้?

“ลูกพี่ เรื่องโรงแรมอะไรพวกนั้นเราจัดการเรียบร้อยแล้ว เป็นห้องดีลักซ์ทั้งหมด ถ้าคืนนี้รู้สึกเหงาละก็ พวกเราสามารถช่วยจัดสาวสวยมาคลายความเบื่อให้ได้”

ไขจี๋เออทำขั้นตอนการเข้าพักเสร็จ ก็หันไปมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์พลางพูด

“ฟู่”ได้ยินเช่นนั้นหลี่ฝางสมองอื้อไปทันที แล้วปฏิเสธไปอย่างไม่คิดแม้แต่น้อย“ฉันมีลูกมีเมียแล้ว นายอย่าทำเรื่องบ้าๆบอๆอะไรให้ฉัน”

ตนนั้นมีผู้หญิงถึงสองคนแล้ว แถมยังสวยดั่งดอกไม้ ดั่งเทพเจ้า จะทำเรื่องต่ำตมกว่าสัตว์เดรัจฉานแบบนี้ได้ยังไง

“ฮ่าๆ นายทำเกินความจำเป็นแล้ว ลูกพี่ของพวกนายมีผู้หญิงถึงสองคนเลยนะ แถมยังสวยคนละแบบ เขาจะอยากได้ผู้หญิงอื่นทำไมกัน”

กู่ยี่เทียนตบไหล่ไขจี๋เออเบาๆ พลางอธิบายอย่างยิ้มๆ

ไขจี๋เออได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งไป จากนั้นตบหน้าอกตัวเองแรงๆ พลางพูดอย่างนึกขึ้นได้

“อ้อ!ผมนึกออกแล้ว!ตอนอยู่บนสะพานสายรุ้ง ลูกพี่ได้ช่วยผู้หญิงคนหนึ่งไว้ หรือว่าเธอคนนั้นคือพี่สะใภ้ของเรา?”

เมื่อนึกถึงเรื่องที่หลี่ฝางต่อสู้บนสะพานสายรุ้งวันนั้น สายตาไขจี๋เออเปลี่ยนเป็นเลื่อมใสศรัทธาทันที เดิมทีที่พวกเขาสองพี่น้องไปญี่ปุ่นก็เพื่อท้าสู้โทชิโอะ คามิยะแห่งญี่ปุ่น ไม่คิดว่าหลี่ฝางจะไปถึงก่อน

พวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นหลี่ฝาง จึงได้เกิดเหตุการณ์ในห้องน้ำเมื่อครู่นั่นเอง

แต่ที่ทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือ นี่แค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ฝีมือของหลี่ฝางนั้นแกร่งขึ้นมาก แดนเต๋าระดับกลางอย่างพวกเขาสู้กับหลี่ฝางคงไม่พ้นสามกระบวนท่า

“แค่กๆ เธอเป็นหนึ่งในภรรยาของฉัน ทั้งหมดมีสองคน เมื่อกลับจากเมืองชีหนันแล้วฉันจะแนะนำพวกเธอให้พวกนายรู้จัก”

ที่จริงหลี่ฝางยังปรับตัวไม่ค่อยได้กับการมีผู้หญิงสองคน เมื่อได้ยินที่กู่ยี่เทียนพูด ก็รู้สึกไอออกมาเบาๆอย่างเขินอาย

ไขจี๋เออและไขบู๊เกอกลับไม่ได้ตกใจมากนัก ชาวต่างชาติมีความคิดเปิดกว้างกว่าคนจีนมาก

จากนั้นพวกเขาคุยเล่นกันสักพัก แล้วกลับห้องไปพักผ่อน รุ่งสางของวันต่อมา หลี่ฝางที่กำลังหลับฝันอยู่ก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตู

“ใคร?มาเคาะประตูฉันแต่เช้า”หลี่ฝางเดินไปเปิดประตูตาปรือๆพลางหาววอดๆ

“เห้ย!”วินาทีที่ประตูเปิดออก ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเสียงแหลมจนแทบจะทะลุแก้วหูหลี่ฝาง ทำเอาเขาที่ยังสะลึมสะลืออยู่ตื่นขึ้นมาทันที

“ไอ้โรคจิต!ทำไม่ใส่เสื้อผ้า!”เห็นผู้หญิงหน้าตาน่ารัก แต่งตัวเรียบร้อยยืนอยู่หน้าประตูของหลี่ฝาง มือข้างหนึ่งปิดตาตัวเอง อีกข้างชี้ด่าหลี่ฝาง

หลี่ฝางเอานิ้วก้อยไปเขี่ยหูที่รู้สึกชาๆของตน ขมวดคิ้วมองผู้หญิงคนนั้นพลางถามขึ้น

“นี่คุณ เราสองคนรู้จักกันเหรอ?คุณมาเคาะประตูห้องชายแปลกหน้าแต่เช้าแบบนี้ ยังมาโทษคนอื่นว่าเป็นโรคจิต?สมองคุณมีปัญหาเหรอ”

แม้หลี่ฝางพูดไม่ค่อยน่าฟัง แต่ใครใช้ให้ผู้หญิงคนนี้ มารบกวนการนอนหลับคนอื่นแต่เช้าแบบนี้ล่ะ

อีกอย่างเขาไม่ได้ไม่ใส่อะไรเลย ด้านล่างพันผ้าเช็ดตัวอยู่ไม่ใช่เหรอ?ผู้หญิงคนนี้จะตกใจอะไร

“มีอะไรๆ?เกิดอะไรขึ้น?”เสียงกรีดร้องของผู้หญิง ปลุกคนที่อยู่ห้องใกล้ๆให้ตื่นทันที กู่ยี่เทียนหวีจัดทรงผมตัวเอง พลางโผล่หน้าออกมาถาม

“เสี่ยวหลินตัง!ทำไมคุณมาเช้าขนาดนี้?”

เมื่อเห็นผู้หญิงที่อยู่หน้าประตูหลี่ฝางชัดๆ กู่ยี่เทียนก็พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ

เสี่ยวหลินตัง?อะไรวะ?ผู้หญิงคนนี้รู้จักกับกู่ยี่เทียน?

ขณะหลี่ฝางกำลังจะถามกู่ยี่เทียน ผู้หญิงคนนั้นถลึงตาโตใส่หลี่ฝาง จากนั้นออกแรงถึบน่องหลี่ฝางไปทีหนึ่ง

“หลี่ฝาง!ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นโรคจิต!”

“ซี้ด……”หลี่ฝางพับน่องตนที่ถูกถีบ ยืนขาเดียวกระโดดไปมาอยู่กับที่ จากนั้นมองเสี่ยวหลินตังด้วยความเจ็บปวดพลางด่าทอ“คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?ผมเป็นโรคจิตตั้งแต่เมื่อไหร่?”

กู่ยี่เทียนเห็นเขาสองคนทะเลาะกัน จึงรีบออกมาปราม“โถ่ คนกันเองทั้งนั้น อย่าโมโหกันๆ”

“เหอะ ถ้าไม่ใช่โรคจิตแล้วทำไมคุณไม่ใส่เสื้อผ้า”แต่เสี่ยวหลินตังราวกับไม่ได้ยินที่กู่ยี่เทียนพูดอย่างไรอย่างนั้น ทำเสียงออกมาอย่างทะนงตัว

เมื่อหายปวด หลี่ฝางก็เอาขากลับลงไปอย่างกลั้นโมโหสุดๆ จ้องเสี่ยวหลินตังพลางพูดกลับไป

“ผมแม่งนอนอยู่ในห้องตัวเองดีๆ คุณมาเคาะประตูแต่เช้า แล้วมาโทษผมว่าไม่ใส่เสื้อผ้า?”

“งั้นเวลาคนอื่นเคาะประตู คุณไม่ใส่เสื้อผ้าให้ดีก่อนแล้วค่อยเปิดล่ะ?เป็นโรคจิตชัดๆ ยังไม่ให้คนอื่นพูด!”

เสี่ยวหลินตังจะเถียงกับหลี่ฝางให้ได้เลย ไม่มีท่าทีว่าจะยอม กู่ยี่เทียนเห็นทั้งคู่เถียงกันไปเถียงกันมา ไม่รู้จะหันไปฝั่งไหนดี

“พอแล้วๆ พวกคุณหยุดทะเลาะกันได้แล้ว หลี่ฝางนายก็พูดให้น้อยๆหน่อย เสี่ยวหลินตังเธอเป็นคนนำทางของเรา”

กู่ยี่เทียนเข้าไปแทรกระหว่างสองคนนั้น พูดโน้มน้าวด้วยสีหน้าขมขื่นเสี่ยวหลินตังเป็นคนในพื้นที่เมืองชีหนัน และเป็นหลานสาวของเพื่อนเก่าของผู้อาวุโสใหญ่

พวกเขามาเมืองชีหนันครั้งนี้ เดิมทีให้พ่อของเสี่ยวหลินตังเป็นคนนำทาง แต่พ่อเธอมีเรื่องจวนตัว จึงเปลี่ยนเป็นเสี่ยวหลินตังแทน

ไม่คิดว่าจะทะเลาะกับหลี่ฝางทันทีที่มาถึงโรงแรม นี่ทำให้กู่ยี่เทียนปวดหัวมากๆ

“เหอะ ฉันหน่ะเป็นคนใจกว้าง ไม่คิดหยุมหยิมกับคุณหรอก!”เสี่ยวหลินตังทำเสียงออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ แล้วพูดอย่างเย่อหยิ่ง

หลี่ฝางรู้สึกตัวเองโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว ยกนิ้วชี้หน้าเสี่ยวหลินตังอยู่พักใหญ่แต่พูดอะไรไม่ออก

“แฮะแฮ่ม เอาล่ะๆ ทุกคนไปเก็บของเถอะ แล้วมารวมตัวที่ห้องผม เสี่ยวหลินตัง คุณก็เลิกโกรธหลี่ฝางได้แล้ว มานั่งในห้องผมก่อน”

เมื่อเห็นว่าในที่สุดพวกเขาเลิกทะเลาะกันแล้ว กู่ยี่เทียนก็โล่งอกสักที ดันเสี่ยวหลินตังให้เดินไปห้องของตน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท