NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1301 คนเผ่ากู่

บทที่ 1301 คนเผ่ากู่

“เสี่ยวหลินตัง? ทำไมเธอถึงมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?มาแล้วก็ไม่บอกกันหน่อยสักคำ ฉันจะได้ไปรับเธอ”

กู่ยี่เทียนมองไปที่เสี่ยวหลินตังที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา พลางถามด้วยรอยยิ้ม

ทั้งด้านเสี่ยวหลินตังไม่ได้ถือตัวว่าเป็นคนนอกเลยแม้แต่น้อย จึงตอบกลับพร้อมกับหยิบขนมที่วางอยู่บนโต๊ะมากินไปด้วย “ต่อให้อยู่บ้านฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ก็เลยมาเร็วหน่อย จะว่าไปผู้ชายอย่างพวกคุณนี่ก็ขี้เกียจใช่ย่อยเลยนะ สายขนาดนี้แล้วยังจะนอนอยู่อีก ถ้าเป็นฉันปกติเวลานี้ก็ตื่นมาฝึกวิชาตั้งนานแล้ว”

เมื่อมองดูเสี่ยวหลินตังที่ไม่มีการรักษาภาพลักษณ์ผู้หญิงของตัวเองเลย ทำเอากู่ยี่เทียนถึงกับต้องยิ้มพร้อมส่ายหน้า

ส่วนตัวของเขาและเสี่ยวหลินตังนับได้ว่าเป็นคนสนิทกัน ปู่ของเธอเป็นเจ้าของต้าเซี่ยหลงเช่วแห่งตะวันตกเฉียงใต้ ในโลกของนักบู๊ก็นับว่าเป็นคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เพียงแค่ว่าหลายปีมานี้เขาใช้ชีวิตแบบสันโดษมาโดยตลอด จึงทำให้คนที่รู้จักชื่อเสียงของเขามีไม่มากนัก

ส่วนพ่อแม่ของเสี่ยวหลินตังเป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านนักรบที่ได้รับมาจากคุณปู่ของเลย แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงกลับเป็นว่าพรสวรรค์นี้กลับได้ตกทอดไปสู่รุ่นหลานแทน เพราะในตอนที่ เสี่ยวหลินตังอายุได้หกขวบเธอก็ได้กลายเป็นนักรบที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแล้ว

ถึงแม่ว่าตอนนี้จะมีอายุเพียงสิบแปดปี แต่ความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเขตสุดกำลังภายในแล้ว เมื่อเป็นอย่างนี้คุณปู่ของเธอจึงประคบประหงมเธออย่างมากๆ ทั้งยังพูดมาตลอดว่าจะให้เธอเป็นคนรับการสืบทอดความสามารถทั้งหมดของเขา

“ใช่ เสี่ยวหลินตังขยันที่สุดแล้ว ดูแล้วพลังของเธอจะพัฒนาขึ้นมาไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?”

กู่ยี่เทียนจงใจทดสอบพลังของเสี่ยวหลินตังอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พบว่าเพียงระยะเวลาเพียงหนึ่งปีครึ่งสั้นๆ นี้เจ้าเด็กคนนี้สามารถพัฒนาจากเขตสุดกำลังภายนอกเข้าสู่เขตสุดกำลังภายในแล้ว แถมตอนนี้ก็ยังมีความก้าวหน้าอย่างลับๆ อีกด้วย

นักรบเขตสุดกำลังภายในวัยสิบแปดปี ความสามารถนี้ทำเอากู่ยี่เทียนรู้สึกชื่นชมไม่น้อยเลยทีเดียว

“หยุดอวยกันเกินไปได้แล้ว ต่อให้ฉันจะขยันแค่ไหนก็สู้คุณไม่ได้หรอก ทั้งที่คุณโตกว่าฉันแค่ไม่กี่ปีเอง แต่ตอนนี้เป็นครึ่งเทพไปแล้ว”

คำพูดประโยคนี้ของเสี่ยวหลินตังพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์และความอิจฉา

อันที่จริงเธอนั้นมีความแข็งแกร่งมากๆ เธอเป็นคนมีวินัยและขยันอย่างมากเพื่อที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง หลายปีมานี้เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น เธอใช้เวลานอนเพียงแค่สี่ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ส่วนเวลาที่เหลือก็จะใช้ในการฝึกฝนทั้งหมดเลย

แต่ถึงแม่ว่าเธอจะพยายามขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถล้ำหน้ากู่ยี่เทียนได้เลย สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกเคืองใจอย่างมาก

“อะแฮ่ม……จะพูดแบบนี้ได้ยังไง ฉันเป็นผู้ชาย เธอเป็นผู้หญิง ผู้หญิงเวลาฝึกฝนมีความยากลำบากกว่าผู้ชายตั้งเยอะ ถ้าฉันเป็นผู้หญิง ก็คงจะไม่มีความสุดยอดได้เท่าครึ่งหนึ่งของเธอด้วยซ้ำ”

เมื่อเห็นใบหน้าขมขื่นของเสี่ยวหลินตัง กู่ยี่เทียนก็ถึงกับต้องลูบท้ายทอยของตัวเองพร้อมกับพยายามพูดปลอบใจ

สิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย นักรบหญิงในเวลาที่ต้องฝึกฝนนั้นมีความยากลำบากกว่าผู้ชายหลายเท่าจริง สำหรับความแข้งแกร่งระดับนี้ของเสี่ยวหลินตัง สามารถบอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่หายากในรอบร้อยปีเลยก็ว่าได้

“ชิ คุณก็แค่แสร้งทำเป็นพูดให้มันฟังดูดีเองสิไม่ว่า” ถึงแม้คำพูดของเสี่ยวหลินตังจะยังมีความไม่พอใจ แต่ใบหน้าของเธอกลับมีความดีใจเกิดขึ้นมาไม่น้อย

เมื่อเห็นท่าทีปากไม่ตรงกับใจของเธอ กู่ยี่เทียนก็ไม่คิดที่จะไปขัดอะไร พลางหัวเราะออกมาก่อนจะเอื้อมไปลูบผมของเสี่ยวหลินตัง

“ยัยเด็กน้อยคนนี้ ไม่เจอกันปีกว่าเอง เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ อย่างที่เขาว่ากันเลยว่าผู้หญิงจะเปลี่ยนไปตอนสิบแปด เพราะเมื่อกี้นี้ฉันเกือบจะจำเธอไม่ได้”

เมื่อได้ยินคำพูดของกู่ยี่เทียน หน้าของเสี่ยวหลินตังก็แดงระเรื่อขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก่อนจะเอียงหัวของตัวเองด้วยความเขินอาย ไม่ให้กู่ยี่เทียนลูบผมของตัวเอง

“ออกไปเลย!เจอกันทีไรก็ชอบมาจับหัวกันอยู่ได้ นี่คุณไม่รู้หรอว่าจับหัวทำให้ไม่สูงได้หน่ะ?อีกอย่าง ตอนนี้ฉันก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว รบกวนอย่ามาทำเหมือนฉันยังเป็นเด็กคนหนึ่งอีกได้ไหม ?”

“ได้ๆๆ เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต่อไปฉันจะไม่จับหัวเธออีก พอใจแล้วสินะ” กู่ยี่เทียนยิ้มพลางชักมือกลับ เขาที่เห็นท่าทางนี้ของ เสี่ยวหลินตังก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงคิดแค่ว่าเธอเข้าสู่ช่วงวัยเขินอายของหญิงสาวแล้ว จึงเกิดความเขินเท่านั้น

โดยที่กู่ยี่เทียนที่ไม่ใส่ใจกลับไม่เห็นความเคอะเขินของเด็กสาวที่ประกายในแววตาของ เสี่ยวหลินตัง และยิ่งไม่ได้รู้สึกความรักของเสี่ยวหลินตังที่มีต่อเขาด้วย

และเพียงไม่นานพวกของหลี่ฝางก็พากันเดินมารวมตัวในห้องของกู่ยี่เทียน เพราะว่าเป็นห้องเพรสซิเดนสูท ดังนั้นจึงมีพื้นขนาดใหญ่ เพียงแค่ห้องโถงก็มีพื้นที่กว่าห้าสิบหกสิบตารางเมตรแล้ว

“ตาคนโรคจิต ไปนั่งตรงนั้นเลยนะ อย่ามาเข้าใกล้ฉัน” เสี่ยวหลินตังที่พอเห็นหลี่ฝางก็เหน็บแนมขึ้นมาทันที พลางชี้ไปยังที่นั่งตรงข้ามของตัวเองพร้อมกับพูดอย่างรังเกียจ

หลี่ฝางที่เดิมทีอยากจะอยู่ห่างกับ เสี่ยวหลินตังสักหน่อย แต่พอได้ยินคำพูดประโยคนี้ เขาจึงจงใจนั่งลงยังที่นั่งข้างๆ ของเสี่ยวหลินตัง

“ฉันไม่นั่งตรงนั้น นี่ก็ไม่ใช่บ้านของเธอด้วย เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่ง”

“คุณ!” เสี่ยวหลินตังจ้องมองหลี่ฝางที่หย่อนก็ลงนั่งยังที่นั่งข้างๆ ของตัวเอง ก็ถึงกับโกรธจนมือสั่น

“เอาล่ะๆ พวกเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะ พวกนายอย่าทะเลาะกันเลย” กู่ยี่เทียนที่เห็นทั้งสองกำลังจะจิกกัดกันอีกครั้ง ก็รีบลุกขึ้นมาเป็นทูตแห่งสันติภาพอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเขา หลี่ฝางกับเสี่ยวหลินตังทั้งสองถึงยอมเงียบ แล้วหันไปสบตากันด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนจะหันหน้าหนีไปคนละทาง

“เสี่ยวหลินตัง เหตุผลที่พวกเรามาเมืองชีหนันครั้งนี้คุณปู่ของเธอก็คงจะได้บอกเธอไปแล้วนะ ฉันได้ยินมาว่าเธอรู้จักเพื่อนร่วมห้องที่เป็นคนเผ่ากู่ เธอพอจะบอกให้เขาช่วยพาพวกเราเข้าไปในหมู่บ้านได้หรือเปล่า ?”

ข้อมูลนี้กู่ยี่เทียนเองได้รู้มาจากปากคุณปู่ของ เสี่ยวหลินตัง ซึ่งตามหลักแล้วกลุ่มคนที่ไม่ติดต่อกับโลกภายนอกเลยย่างเผ่ากู่ไม่มีทางที่จะออกมาเรียนอยู่ด้านนอกหมู่บ้าน และยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเป็นเพื่อนกับคนจากโลกภายนอกเลย

แต่คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวหลินตังไม่ได้กลายเป็นเพียงแค่เพื่อนกับคนเผ่ากู่ แต่ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีมากเลยด้วย

“ฉันได้โทรไปบอกกับเขาแล้ว อีกเดี๋ยวเขาก็น่าจะมาถึงแล้ว” เสี่ยวหลินตังตอบกลับพร้อมก็มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง

ทันทีที่พูดจบ เสียงโทรศัพท์ของเสี่ยวหลินตังก็ดังขึ้นมา บนหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นชื่อของใครบางคนที่มีชื่อว่า อูหลิงขึ้นมา

“เสี่ยวหลิงหลิง มาถึงแล้วหรอ?งั้นก็ขึ้นลิฟท์มาได้เลย ฉันอยู่ห้อง101รออยู่”

เสี่ยวหลินตังรับสายอย่างรวดเร็วพร้อมกับบอกเลขห้องให้กับคนที่ชื่ออูหลิงคนนั้น และเพียงผ่านไปไม่นานนัก เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น

หลี่ฝางที่เดิมทีคิดว่า อูหลิงเป็นผู้หญิง ทันทีที่เปิดประตูออกแล้วได้เห็นชายหนุ่มส่วนสูงราวสองเมตร ความแตกต่างนี้ต่างจากสิ่งที่คิดไว้ค่อนข้างเยอะ จึงทำให้เขาไม่มีการตอบสนองใดๆ

“พวกนายยืนอยู่หน้าประตูทำอะไรกัน?รีบเข้ามาสิ” เสี่ยวหลินตังไม่รู้ตัวเลยว่าเสี่ยวหลิงหลิงคำนั้นของตัวเองจะทำให้หลี่ฝางเข้าใจผิดเรื่องเพศของอูหลิง ดังนั้นเมื่อเห็นว่าทั้งสองเอาแต่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู จึงร้องบ่นออกไป

“เอ่อ……ขอโทษที เข้ามาสิ” เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวหลินตัง หลี่ฝางถึงค่อยตั้งสติกลับมาได้ พร้อมกับหลีกทางให้ด้วยความเขินอายเล็กน้อย

อูหลิงก้มหน้าเดินเข้ามาในห้อง จากนั้นก็หันไปสำรวจกลุ่มคนที่อยู่ภายในห้อง ก่อนที่จะเดินไปข้างๆ ของเสี่ยวหลินตังด้วยสีหน้าราบเรียบ พร้อมกับนั่งลงยังที่นั่งเดิมของหลี่ฝาง

หลี่ฝางอ้าปากค้างหวังจะบอกอูหลิงว่านั่นเป็นที่นั่งของตน แต่พอคิดไปคิดมาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ก่อนจะเดินไปนั่งลงยังที่นั่งว่างที่อยู่ตรงข้ามของเสี่ยวหลินตัง

“พวกคุณอยากเข้าไปในเขตของเผ่ากู่นั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเผ่าของผมนั้นต่อต้านผู้คนภายนอกอย่างมาก หากพบว่ามีคนแอบเข้าไป คนคนนั้นจะต้องถูกฆ่าตายแน่นอน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน