NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1306 พลังกลืนที่ไร้ผล

บทที่ 1306 พลังกลืนที่ไร้ผล

“ร่างนี้ของคุณถ้าหากยังมีพลังครึ่งเทพอยู่ล่ะก็ บางทีผมอาจจะเอายาถอนพิษให้คุณก็ได้ แต่ตอนนี้?ฮึ ในสายตาของผมคุณมันก็แค่ขยะเท่านั้นแหละ”

อูหลิงมองหลี่ฝางอย่างดูถูก ภายในแววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ แต่เมื่อได้ยินแบบนี้ อารมณ์ของหลี่ฝางก็ยิ่งโมโหมากยิ่งขึ้น จนบริเวณร่างมีไอหมอกสีดำปกคลุมเต็มไปหมด

“ระวัง!อย่าให้หมอกดำนั่นโดนตัวเด็ดขาด!ไม่อย่างนั้นจะถูกเขาสูดเอาพลังจนร่างเหี่ยวแห้ง!”

ทั้งส้าวส้วยและกู่ยี่เทียนที่เคยได้เห็นพลังกลืนมาก่อน ทันทีที่ได้เห็นหมอกดำนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที ส้าวส้วยตะโกนเตือนทุกคน ทั้งยังรีบทิ้งช่องว่างระหว่างตัวเองกับหลี่ฝางให้ห่างออกไปอีก

ส่วนเสี่ยวหลินตังและสองพี่น้องไขจี๋เออถึงแม้จะไม่รู้ว่าหมอกดำนี่คืออะไร แต่เมื่อเห็นท่าทีระมัดระวังของส้าวส้วยและกู่ยี่เทียนแล้ว ต่างก็พากันถอยหลังออกไปหลายก้าว

ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังหลบเลี่ยงตัวจากหลี่ฝาง อูหลิงกลับเดินมุ่งหน้าเข้าไปหาเขาแทน

“อูหลิง!นี่นายไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไง?!” กู่ยี่เทียนที่อยู่อีกด้านเบิกตาค้างขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมร้องตะโกนออกมา หวังจะเข้าไปห้ามอูหลิงที่กำลังเดินไปข้างหน้า

ทางด้านหลี่ฝางเองก็รู้สึกนิ่งอึ้งกับการกระทำที่ผิดปกตินี้ของเขาด้วยเหมือนกัน แต่เพียงชั่วขณะก็สามารถเรียกสติกลับมาได้ แล้วมองไปยังอูหลิงด้วยรอยยิ้มกระหายเลือดที่ปรากฏขึ้นมา “แดนเต๋าระดับกลาง พลังนับว่าไม่เลว ในเมื่อนายรีบร้อนอยากจะสังเวยมันให้กับฉัน อย่างนั้นฉันก็จะขอรับไว้อย่างไม่เกรงใจแล้วกัน”

หลังจากที่พูดจบประโยคนี้ หมอกดำรอบตัวของหลี่ฝางก็พุ่งทะยานขึ้น ร่างของเขาเหมือนกับลูกศรที่ทะยานอย่างรุนแรงรวดเร็วพุ่งเข้าหา อูหลิงในทันที

“เหอะ คิดจะขโมยความสามารถของผมงั้นหรอ ?คงต้องดูแล้วว่าคุณจะมีความสามารถนั้นไหม” หลังจากหัวเราะออกมาเบาๆ อูหลิงก็ราวกับเสกเอาขวดเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมา ก่อนจะสะบัดมือออกไป แล้วมีผงสีขาวจำนวนมากโพยพุ่งออกมาจากด้านใน

เมื่อมองเห็นของบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายแป้งข้าวอยู่ตรงหน้า หลี่ฝางก็ชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ด้วยความที่ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาจึงทะลุผ่านผงสีขาวนั้นเข้ามา พร้อมกับมือที่เปลี่ยนสภาพกลายเป็นกรงเล็บอินทรีย์คว้าคอของ อูหลิงเอาไว้

เมื่อเห็นว่าอูหลิงยืนเป็นท่อนไม้ให้หลี่ฝางจัดการอยู่ตรงนั้น ไม่แม้แต่ที่จะขัดขืนเลยแม้แต่น้อย ส้าวส้วยและคนอื่นๆ ก็ต่างพากันโกรธจัด

ถึงแม้ว่าพลังกลืนจะเป็นปัญหาอย่างมาก แต่ตอนนี้หลี่ฝางมีพลังเหลือเพียงแค่กำลังภายในตอนต้นเท่านั้น เขาที่เป็นนักรบแดนเต๋า ไม่น่าที่จะถูกจับได้ง่ายดายขนาดนี้สิ !

ไอ้คนโง่นี่คิดจะทำอะไรกันแน่ !

“เอายาถอนพิษมาให้ฉัน!ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้นายรู้สึกเสียใจที่เกิดมาอยู่ในโลกใบนี้ !” หลังจากที่หลี่ฝางได้จับตัวอูหลิงเอาไว้กลับยังไม่ได้สูบกินพลังของเขาในทันที แต่กลับใช้สิ่งนี้มาชี้ในการข่มขู่ อูหลิงให้เอายาถอนพิษออกมา

แต่ใบหน้าของคนที่ใกล้จะถึงเวลาตายอย่างอูหลิงกลับไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันท่าทีของเขากลับยิ่งฌอหังยิ่งกว่าก่อนหน้าเสียอีก “กำลังรอดูอยู่ว่าคุณจะมีความกล้านั้นไหม”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของอูหลิง พวกส้าวส้วยถึงกับหมดคำด่า เจ้าหมอนี่มันเบื่อชีวิตแล้วหรือยังไง ?ทำไมถึงต้องจงใจไปยั่วโมโหหลี่ฝางด้วย!

“ดี ดีมาก !งั้นนายก็ไปตายซะเถอะ!” และก็เป็นอย่างที่คิด ขีดจำกัดของหลี่ฝางถูกคำพูดนี้กระตุ้นจนเดือดจัด จิตสังหารในตาของเขาล้นทะลักออกมา มือบีบแน่น เริ่มสูบกินพลังของ อูหลิง

หลังจากที่นิ่งเงียบไปสักพัก เดิมทีต่างคิดว่าอูหลิงจะกลายเป็นซากศพในชั่วพริบตา แต่ต่างก็ต้องตะลึงเมื่อเขาไม่เป็นอะไรเลยสักนิด

คนที่นิ่งค้างไม่ได้มีแค่พวกส้าวส้วยเท่านั้น แม้แต่หลี่ฝางเองก็ยังต้องแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นออกมา

พอมองอูหลิงที่มีท่าทีเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไร เขาก็บีบมือออกแรงอีกครั้ง แต่ผ่านไปสักพัก เขาก็อย่างไม่สามารถสูดเอาพลังมาได้เลยแม้แต่นิดเดียว

จากนั้นเขาถึงค่อยตั้งสติได้ว่าผงสีขาวเขาเมื่อกี้นี้มีปัญหา

“พลังกลืนของเขาไม่มีผลแล้ว !ทุกคนร่วมมือกันให้เขายอมจำนนซะ!”

ส้าวส้วยเป็นคนแรกเลยที่ตั้งสติกลับมาได้ และหลังจากที่พูดจบประโยคนี้เขาก็รีบทะยานเข้าไปหาหลี่ฝางอย่างรวดเร็ว

หลี่ฝางที่ตระหนักได้ว่าตัวเองได้สูญเสียพลังกลืนไปแล้วในใจก็เกิดเสียงเตือนดังขึ้นมา ไม่ง่ายเลยกว่าที่เขาจะสามารถหาโอกาสในตอนที่หลี่ฝางนอนหลับแล้วยึดครองร่างนี้ หากถูกพวกเขาจับได้ในเวลานี้ เกรงว่าต่อไปคงจะไม่มีโอกาสที่จะสามารถสลับร่างได้อีกแล้ว

“คิดจะหนี?คุณคิดว่าคุณจะหนีพ้นจากมือของผมไปได้งั้นหรอ?” ทันทีที่เห็นว่าหลี่ฝางชักมือกลับ พร้อมหันหลังหวังจะหลบหนีเข้าไปในป่าทึบ อูหลิงก็หัวเราะเยาะออกมา พลางเอื้อมมือไปจับไหล่ของเขาเอาไว้

เมื่อไม่มี พลังกลืน พลังของหลี่ฝางที่อยู่เพียงกำลังภายในตอนต้น เมื่ออยู่ต่อหน้าอูหลิงก็ไม่ต่างอะไรกับปลาที่นอนนิ่งอยู่เขียงเพื่อรอเชือดเลย

เช่นเดียวกับตอนนี้ที่ อูหลิงใช้มือข้างเดียวก็สามารถจับหลี่ฝางไว้ได้อย่างแน่นไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะให้เขาได้ขัดคืนเลย

“กลับไปนอนดีๆ เถอะ” ในตอนที่หลี่ฝางกำลังเตรียมจะตัดแขนข้างหนึ่งทิ้งเพื่อจะหนีเอาตัวรอด อูหลิงก็โปรยผงสีขาวออกมาลงบนหน้าของเขา ร่างของหลี่ฝางสั่นอยู่ครู่หนึ่งก็จะล้มโครมลงไปนอนกับพื้น

“นี่……เขาไม่เป็นไรใช่ไหม?” ส้าวส้วยมองไปยังหลี่ฝางที่นอนสลบแน่นิ่งอยู่กับพื้น ก็ขมวดคิ้วถาม

อูหลิงสะบัดเอาผงขาวที่อยู่ในมือออกจนสะอาด ก่อนจะชำเลืองตามองไปยังหลี่ฝางด้วยสีหน้าที่ราบเรียบแล้วตอบกลับอย่างเฉยชา “ไม่ตายหรอก”

“ผงขาวเมื่อกี้นี้คืออะไรกัน?ทำไมถึงทำให้พลังกลืนบนร่างของหลี่ฝางไม่มีผลอะไร?”

กู่ยี่เทียนพอจะสังเกตได้ว่าที่พลังของอูหลิงไม่ได้ถูกสูบกินไปนั้น คาดว่าเป็นเพราะผงขาวที่ถูกโปรยออกมาก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ยังสงสัยจริงๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ถึงได้สามารถสะกดพลังกลืนได้

“เคล็ดลับเผ่ากู่” อูหลิงเหมือนว่าจะไม่อยากอธิบายอะไรมากนัก หลังจากที่พ่นสี่คำนี้ออกมา เขาก็เดินกลับเข้าไปในเต็นท์ของตัวเอง

หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกันมาถึงสองวัน พวกกู่ยี่เทียนก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกับลักษณะนิสัยแบบนี้ของอูหลิงแล้ว เวลาที่เห็นว่าเขาไม่สนใจตัวเอง ต่างก็ไม่คิดที่จะไปพูดอะไรกับเขาอีก

“ลูกพี่คงจะไม่เป็นไรแล้วมั้ง?” ไขจี๋เออมองไปยังหลี่ฝางที่นอนอยู่บนพื้น ไม่กล้าที่เข้าไปใกล้เขา กลัวว่าหลี่ฝางจะลุกขึ้นมาจากพื้นลงไม้ลงมือกับตัวเอง

“ดูจากสภาพแล้วน่าจะไม่เป็นไรแล้วหล่ะ พวกนายพาเขาเข้าไปในเต็นท์ เหนื่อยกันมาเยอะ ทุกคนก็คงจะเหนื่อยมาแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ”

ส้าวส้วยถอนหายใจโล่งอกออกมา พูดกับสองพี่น้องไขจี๋เออ

พอมีเรื่องคืนนี้เกิดขึ้น พวกเขาก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมอูหลิงถึงได้ตั้งใจที่จะสะกดพลังของพวกเขาเอาไว้

ถ้าหากว่าคืนนี้พลังของหลี่ฝางไม่ได้ถูกสะกดเอาไว้ อย่างนั้นคืนนี้พวกเขาทุกคนก็คงจะไม่ได้เห็นอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้อีกแล้ว

“เอาล่ะๆ ไม่เป็นไรแล้ว ทุกคนกลับไปนอนเถอะ” หลังจากที่นำเอาเต็นท์ที่ถูกทำลายกลับมาตั้งใหม่อีกครั้ง กู่ยี่เทียนก็หาวพร้อมกับเร่งร้าวให้ทุกคนกลับไปนอน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน