ส้าวส้วยฟังเพื่อนว้ายร้ายสองคนอย่างไร้คำพูด ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าในสายตาของพวกเขาตนเหมือนกับสินค้าที่ขายไม่ออก อยากจะโละล้างสต๊อกเขาออกไปซะอย่างไรอย่างงั้น?
“หลี่ฝาง กู่ยี่เทียน พวกนายไม่ต้องปลอบใจฉัน ฉันไม่ใช่คนที่จะบีบบังคับคนอื่น ในเมื่อหลี่ฝางเขาไม่มีความรู้สึกอย่างงั้นต่อฉัน ฉันก็ไม่ทำให้เขาลำบากใจ สำหรับฉัน เรื่องของความรักเป็นที่ต้องตกลงปลงใจกันทั้งสองฝ่าย”
ไป๋หลินดูออกว่าหลี่ฝางและกู่ยี่เทียนกำลังปลอบใจตนเองอยู่ เธอหัวเราะอย่างขมขื่น ก่อนที่จะจ้องมองพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นเธอพูดอย่างงั้น กู่ยี่เทียนและหลี่ฝางนั่งไม่ติดที่
“ส้าวส้วย! แกคิดยังไงกันแน่? คู่หมายที่สวยแบบนี้แกแน่ใจนะว่าจะไม่เอา? ฉันจะบอกอะไรให้ ต่อไปถ้าคุณไป๋หลินไปเป็นแฟนของคนอื่นขึ้น แกอย่าได้มาเสียใจทีหลังนะ!”
กู่ยี่เทียนหันหน้ากลับไปมองหลี่ฝาง กล่าวด้วยความหวังดี
หากไม่ใช่เพราะไป๋หลินใช้ชีวิตอยู่บนภูเขาหลินละก็ คนที่ไล่จีบเธอต้องล้นหลามแน่ ส้าวส้วยได้ของดีแท้ๆ แต่ตอนนี้แดนนักรบไม่สงบ ส้าวส้วยไม่มีอารมณ์ที่จะคิดเรื่องราวความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวจริงๆ
ที่มากไปกว่านั้น ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่า ฐานะของไป๋หลินไม่ใช่คนธรรมดา ต่อให้เขาอยู่กับไป๋หลิน ก็จะต้องมีอุปสรรคมากแน่
“โทษที คุณไป๋หลิน ตอนนี้ผมยังไม่อยากโฟกัสเรื่องชู้สาว ทำให้คุณต้องผิดหวัง เป็นความผิดของเอง หวังว่าคุณจะได้พบกับคนที่ดีในอนาคต”
ท้ายที่สุดส้าวส้วยก็เลือกที่จะปฏิเสธไป๋หลิน ความเคร่งขรึมใจเย็นของเขาทำให้เขามีสติสัมปชัญญะ
เขายอมรับว่าไป๋หลินเป็นผู้หญิงที่พบได้ยาก แต่คนที่ไม่ได้พบกันในเวลาที่เหมาะสม ต่อที่เหมาะกันมากแค่ไหน ก็ไม่มีอนาคตอยู่ดี
“ส้าวส้วย! แกมันไอ้งั่งรึเปล่า? เธออุตส่าห์สารภาพรักกับแกก่อนแล้วแท้ๆ แกก็ไม่เอางั้นหรือ? ! คุณไป๋หลินไม่คู่ควรกับแกตรงไหน?”
กู่ยี่เทียนระเบิดโทสะเมื่อได้ยินประโยคเหล่านั้น พลันคำรามใส่ส้าวส้วยฉาดใหญ่
“ส้าวส้วย คุณไป๋หลินเธอใช้ได้เลย นายจะไม่ลองหน่อยหรือ?” หลี่ฝางเองก็อดไม่ได้ที่ชักจูงเขา
ในฐานะที่เป็นสหายของส้าวส้วย ตนมีลูกแล้ว แต่เขายังเป็นโสดอยู่ หลี่ฝางก็หวังว่าส้าวส้วยจะได้หาคู่ชีวิตสักคนอยู่แล้ว
“ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนใจเขาหรอก” ไม่รอให้ส้าวส้วยได้พูดอะไร ไป๋หลินพลันชิงตัดหน้า เมื่อกล่าวจบประโยค เธอจ้องตาส้าวส้วยพร้อมกล่าว
“ส้าวส้วย ฉันรู้ว่านายกังวลอะไร ไม่เป็นไรหรอก ฉันรอได้ ยังไงตอนนี้นายก็ยังไม่มีคนที่ชอบ เมื่อไหร่ที่นายคิดว่าควรจะมีใครสักคนแล้ว ฉันจะเป็นคนแรกที่ชิงสารภาพรักกับนาย”
ประโยคของไป๋หลินทำให้ส้าวส้วยขมวดคิ้วเป็นปม เขาไม่คิดเลยว่าไป๋หลินจะมั่นคงต่อเขาขนาดนี้
“คุณไป๋หลิน คุณไม่จำเป็นต้องรอผม ผมรู้สึกว่า……”
“ฉันชอบนายเป็นเรื่องของฉัน จะรอนายหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของฉันอีกเหมือนกัน ไม่เกี่ยวกับนาย”
ทีแรกส้าวส้วยคิดว่าบอกไป๋หลินว่าไม่ต้องรอเขา แต่เมื่อปริปาก ก็ถูกไป๋หลินขัดขึ้นเสียก่อน
ประโยคของเธอทำให้ส้าวส้วยพูดไม่ออก พลันกะพริบตาปริบ ก่อนที่จะถอนหายใจ
“ไป๋หลิน เธอเป็นผู้หญิงที่ดี ฉันยอมรับว่าฉันรู้สึกดีกับนาย แต่ฉันรู้สึกว่าเรื่องของความรักจะใจร้อนไม่ได้ เราสองคนเองก็รู้จักกันได้ไม่นาน เราค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปก่อนแล้วค่อยตัดสินใจเธอว่าไง?”
เผชิญหน้าต่อผู้หญิงที่มั่นคงต่อเขาขนาดนี้ ส้าวส้วยทำร้ายจิตใจของเธอไม่ลง แถมส้าวส้วยเองก็ไม่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรต่อเธอเลย ถ้างั้นก็ลองทำความรู้จักแล้วกัน
“จริงหรือ? ถ้างั้นฉันจะไปกับพวกนายด้วย!” ไป๋หลินไม่คิดเลยว่าส้าวส้วยจะพูดแบบนั้น ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาทันที ถึงขั้นบอกว่าจะลงจากเขาไปพร้อมกับพวกเขาด้วย
“ไม่ได้! หากเซียนผู้ยิ่งใหญ่รู้เข้าว่าพวกเราพาเธอออกไปละก็ เขาต้องโทษเราแน่ๆ!”
ส้าวส้วยไม่แม้แต่จะคิด โพล่งออกไปทันที เขาดูออก ในสายตาของเซียนผู้ยิ่งใหญ่ ไป๋หลินและไป๋เห้อก็เป็นเหมือนกับครอบครัว หากเขาพาไป๋หลินที่ไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกออกไปละก็ เซียนผู้ยิ่งใหญ่ต้องไม่เห็นด้วยแน่ๆ
“ไม่หรอก ทางด้านเซียนผู้ยิ่งใหญ่ฉันจะไปพูดกับเขาเอง นายไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาจะโทษพวกนาย”
ตอนนี้ในหัวของไป๋หลินมีแต่จะอยู่กับส้าวส้วย ละทิ้งเรื่องที่เซียนผู้ยิ่งใหญ่บอกกับเธอว่าห้ามออกไปที่โลกภายนอกตั้งนานแล้ว
สิ่งนี้ไม่ใช่ความผิดของไป๋หลิน เธอที่ไม่เคยชอบใครมาก่อน เมื่อได้เกิดความรู้สึกต่อใครสักคนขึ้นมา ก็จะไล่ล่าตามรักของตนเองโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“โอ๊ย เมื่อกี้แกยังบอกอยู่เลยนี่ว่าค่อยๆ ทำความรู้จักไม่ใช่หรือ? หากคุณไป๋หลินไม่ไปกับเรา จะดูใจกันได้ยังไง แกพาเธอไปด้วยเถอะ หากเซียนผู้ยิ่งใหญ่ถือโทษขึ้นมา ก็ให้เขาโทษฉันแล้วกัน”
ตอนนี้กู่ยี่เทียนคิดทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไป๋หลินได้อยู่กับส้าวส้วย เมื่อได้ยินว่าไป๋หลินจะไปด้วย ก็รีบยกมือเห็นด้วยทันที
ไม่ให้โอกาสส้าวส้วยได้พูดแม้แต่น้อย ให้ป๋าหลิงลงเขาไปกับพวกเขาเลย
“นี่มัน……ก็ได้!” ส้าวส้วยจ้องมองไป๋หลินที่เต็มไปด้วยความหวัง ท้ายที่สุดก็พยักหน้าอนุญาต
“เย้! ดีจังเลย!” เมื่อเห็นว่าเขาอนุญาต ไป๋หลินอุทานอย่างดีใจ ทีท่าราวกับเด็กสาวของเธอ ก็น่ารักดีแฮะ
ยังไงวะในสายตาของพวกเขา ไป๋หลินเป็นคนที่เรียบร้อยเคร่งขรึมมาตลอด เมื่อได้เห็นแบบนี้แล้ว ก็น่ารักไม่เบาเลย
“แค่กๆ อย่าเพิ่งรีบดีใจไป ยอมให้เธอตามพวกเราไปด้วยมีข้อแลกเปลี่ยน ข้อหนึ่ง เธอต้องปิดบังใบหน้าของตนเอง โลกภายนอกน่ากลัวกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก ใบหน้าของเธอถ้าไม่ปิดบังก็จะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมาก”
“ข้อสอง หากไม่ใช่ในเวลาคับขัน อย่าเปิดเผยความสามารถของตัวเอง ต่อหน้าคนอื่น เธอต้องแสร้งเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง”
“ข้อสาม ถ้าคนอื่นถามว่าเธอเป็นอะไรกับฉัน ก็บอกว่าเป็นน้องสาวของฉัน อย่าบอกคนอื่นว่าเธอชอบฉัน เข้าใจไหม?”