NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1326 ไปด้วยกัน

บทที่ 1326 ไปด้วยกัน

ส้าวส้วยฟังเพื่อนว้ายร้ายสองคนอย่างไร้คำพูด ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าในสายตาของพวกเขาตนเหมือนกับสินค้าที่ขายไม่ออก อยากจะโละล้างสต๊อกเขาออกไปซะอย่างไรอย่างงั้น?

“หลี่ฝาง กู่ยี่เทียน พวกนายไม่ต้องปลอบใจฉัน ฉันไม่ใช่คนที่จะบีบบังคับคนอื่น ในเมื่อหลี่ฝางเขาไม่มีความรู้สึกอย่างงั้นต่อฉัน ฉันก็ไม่ทำให้เขาลำบากใจ สำหรับฉัน เรื่องของความรักเป็นที่ต้องตกลงปลงใจกันทั้งสองฝ่าย”

ไป๋หลินดูออกว่าหลี่ฝางและกู่ยี่เทียนกำลังปลอบใจตนเองอยู่ เธอหัวเราะอย่างขมขื่น ก่อนที่จะจ้องมองพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเห็นเธอพูดอย่างงั้น กู่ยี่เทียนและหลี่ฝางนั่งไม่ติดที่

“ส้าวส้วย! แกคิดยังไงกันแน่? คู่หมายที่สวยแบบนี้แกแน่ใจนะว่าจะไม่เอา? ฉันจะบอกอะไรให้ ต่อไปถ้าคุณไป๋หลินไปเป็นแฟนของคนอื่นขึ้น แกอย่าได้มาเสียใจทีหลังนะ!”

กู่ยี่เทียนหันหน้ากลับไปมองหลี่ฝาง กล่าวด้วยความหวังดี

หากไม่ใช่เพราะไป๋หลินใช้ชีวิตอยู่บนภูเขาหลินละก็ คนที่ไล่จีบเธอต้องล้นหลามแน่ ส้าวส้วยได้ของดีแท้ๆ แต่ตอนนี้แดนนักรบไม่สงบ ส้าวส้วยไม่มีอารมณ์ที่จะคิดเรื่องราวความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวจริงๆ

ที่มากไปกว่านั้น ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่า ฐานะของไป๋หลินไม่ใช่คนธรรมดา ต่อให้เขาอยู่กับไป๋หลิน ก็จะต้องมีอุปสรรคมากแน่

“โทษที คุณไป๋หลิน ตอนนี้ผมยังไม่อยากโฟกัสเรื่องชู้สาว ทำให้คุณต้องผิดหวัง เป็นความผิดของเอง หวังว่าคุณจะได้พบกับคนที่ดีในอนาคต”

ท้ายที่สุดส้าวส้วยก็เลือกที่จะปฏิเสธไป๋หลิน ความเคร่งขรึมใจเย็นของเขาทำให้เขามีสติสัมปชัญญะ

เขายอมรับว่าไป๋หลินเป็นผู้หญิงที่พบได้ยาก แต่คนที่ไม่ได้พบกันในเวลาที่เหมาะสม ต่อที่เหมาะกันมากแค่ไหน ก็ไม่มีอนาคตอยู่ดี

“ส้าวส้วย! แกมันไอ้งั่งรึเปล่า? เธออุตส่าห์สารภาพรักกับแกก่อนแล้วแท้ๆ แกก็ไม่เอางั้นหรือ? ! คุณไป๋หลินไม่คู่ควรกับแกตรงไหน?”

กู่ยี่เทียนระเบิดโทสะเมื่อได้ยินประโยคเหล่านั้น พลันคำรามใส่ส้าวส้วยฉาดใหญ่

“ส้าวส้วย คุณไป๋หลินเธอใช้ได้เลย นายจะไม่ลองหน่อยหรือ?” หลี่ฝางเองก็อดไม่ได้ที่ชักจูงเขา

ในฐานะที่เป็นสหายของส้าวส้วย ตนมีลูกแล้ว แต่เขายังเป็นโสดอยู่ หลี่ฝางก็หวังว่าส้าวส้วยจะได้หาคู่ชีวิตสักคนอยู่แล้ว

“ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนใจเขาหรอก” ไม่รอให้ส้าวส้วยได้พูดอะไร ไป๋หลินพลันชิงตัดหน้า เมื่อกล่าวจบประโยค เธอจ้องตาส้าวส้วยพร้อมกล่าว

“ส้าวส้วย ฉันรู้ว่านายกังวลอะไร ไม่เป็นไรหรอก ฉันรอได้ ยังไงตอนนี้นายก็ยังไม่มีคนที่ชอบ เมื่อไหร่ที่นายคิดว่าควรจะมีใครสักคนแล้ว ฉันจะเป็นคนแรกที่ชิงสารภาพรักกับนาย”

ประโยคของไป๋หลินทำให้ส้าวส้วยขมวดคิ้วเป็นปม เขาไม่คิดเลยว่าไป๋หลินจะมั่นคงต่อเขาขนาดนี้

“คุณไป๋หลิน คุณไม่จำเป็นต้องรอผม ผมรู้สึกว่า……”

“ฉันชอบนายเป็นเรื่องของฉัน จะรอนายหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของฉันอีกเหมือนกัน ไม่เกี่ยวกับนาย”

ทีแรกส้าวส้วยคิดว่าบอกไป๋หลินว่าไม่ต้องรอเขา แต่เมื่อปริปาก ก็ถูกไป๋หลินขัดขึ้นเสียก่อน

ประโยคของเธอทำให้ส้าวส้วยพูดไม่ออก พลันกะพริบตาปริบ ก่อนที่จะถอนหายใจ

“ไป๋หลิน เธอเป็นผู้หญิงที่ดี ฉันยอมรับว่าฉันรู้สึกดีกับนาย แต่ฉันรู้สึกว่าเรื่องของความรักจะใจร้อนไม่ได้ เราสองคนเองก็รู้จักกันได้ไม่นาน เราค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปก่อนแล้วค่อยตัดสินใจเธอว่าไง?”

เผชิญหน้าต่อผู้หญิงที่มั่นคงต่อเขาขนาดนี้ ส้าวส้วยทำร้ายจิตใจของเธอไม่ลง แถมส้าวส้วยเองก็ไม่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรต่อเธอเลย ถ้างั้นก็ลองทำความรู้จักแล้วกัน

“จริงหรือ? ถ้างั้นฉันจะไปกับพวกนายด้วย!” ไป๋หลินไม่คิดเลยว่าส้าวส้วยจะพูดแบบนั้น ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาทันที ถึงขั้นบอกว่าจะลงจากเขาไปพร้อมกับพวกเขาด้วย

“ไม่ได้! หากเซียนผู้ยิ่งใหญ่รู้เข้าว่าพวกเราพาเธอออกไปละก็ เขาต้องโทษเราแน่ๆ!”

ส้าวส้วยไม่แม้แต่จะคิด โพล่งออกไปทันที เขาดูออก ในสายตาของเซียนผู้ยิ่งใหญ่ ไป๋หลินและไป๋เห้อก็เป็นเหมือนกับครอบครัว หากเขาพาไป๋หลินที่ไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกออกไปละก็ เซียนผู้ยิ่งใหญ่ต้องไม่เห็นด้วยแน่ๆ

“ไม่หรอก ทางด้านเซียนผู้ยิ่งใหญ่ฉันจะไปพูดกับเขาเอง นายไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาจะโทษพวกนาย”

ตอนนี้ในหัวของไป๋หลินมีแต่จะอยู่กับส้าวส้วย ละทิ้งเรื่องที่เซียนผู้ยิ่งใหญ่บอกกับเธอว่าห้ามออกไปที่โลกภายนอกตั้งนานแล้ว

สิ่งนี้ไม่ใช่ความผิดของไป๋หลิน เธอที่ไม่เคยชอบใครมาก่อน เมื่อได้เกิดความรู้สึกต่อใครสักคนขึ้นมา ก็จะไล่ล่าตามรักของตนเองโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“โอ๊ย เมื่อกี้แกยังบอกอยู่เลยนี่ว่าค่อยๆ ทำความรู้จักไม่ใช่หรือ? หากคุณไป๋หลินไม่ไปกับเรา จะดูใจกันได้ยังไง แกพาเธอไปด้วยเถอะ หากเซียนผู้ยิ่งใหญ่ถือโทษขึ้นมา ก็ให้เขาโทษฉันแล้วกัน”

ตอนนี้กู่ยี่เทียนคิดทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไป๋หลินได้อยู่กับส้าวส้วย เมื่อได้ยินว่าไป๋หลินจะไปด้วย ก็รีบยกมือเห็นด้วยทันที

ไม่ให้โอกาสส้าวส้วยได้พูดแม้แต่น้อย ให้ป๋าหลิงลงเขาไปกับพวกเขาเลย

“นี่มัน……ก็ได้!” ส้าวส้วยจ้องมองไป๋หลินที่เต็มไปด้วยความหวัง ท้ายที่สุดก็พยักหน้าอนุญาต

“เย้! ดีจังเลย!” เมื่อเห็นว่าเขาอนุญาต ไป๋หลินอุทานอย่างดีใจ ทีท่าราวกับเด็กสาวของเธอ ก็น่ารักดีแฮะ

ยังไงวะในสายตาของพวกเขา ไป๋หลินเป็นคนที่เรียบร้อยเคร่งขรึมมาตลอด เมื่อได้เห็นแบบนี้แล้ว ก็น่ารักไม่เบาเลย

“แค่กๆ อย่าเพิ่งรีบดีใจไป ยอมให้เธอตามพวกเราไปด้วยมีข้อแลกเปลี่ยน ข้อหนึ่ง เธอต้องปิดบังใบหน้าของตนเอง โลกภายนอกน่ากลัวกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก ใบหน้าของเธอถ้าไม่ปิดบังก็จะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมาก”

“ข้อสอง หากไม่ใช่ในเวลาคับขัน อย่าเปิดเผยความสามารถของตัวเอง ต่อหน้าคนอื่น เธอต้องแสร้งเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง”

“ข้อสาม ถ้าคนอื่นถามว่าเธอเป็นอะไรกับฉัน ก็บอกว่าเป็นน้องสาวของฉัน อย่าบอกคนอื่นว่าเธอชอบฉัน เข้าใจไหม?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท