NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1339 ข้อแลกเปลี่ยน

บทที่ 1339 ข้อแลกเปลี่ยน

เมื่อหยูหลิงฮุ่ยได้ยินอย่างงั้น เหมือนกับว่าหัวใจกำลังหลั่งเป็นสายเลือด ทีท่าระมัดระวังในอดีตเปลี่ยนไป สายตาจ้องเขม็งไท่ซาง ตอกกลับอย่างไม่อ่อนข้อ

“ได้ นายพูดเองนะ พอดีวันนี้ทุกคนอยู่ครบ ถือว่าทุกคนเป็นพยาน นายพูดเองนะ ว่าถ้าฉันอุ้มลูกสาวแต่งงานได้ นายจะให้ของขวัญชิ้นโตกับฉัน?”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ไท่ซางขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเก่า ผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่? ก่อนหน้านี้ยังร้องห่มร้องไห้อย่างหนักบอกว่ารักเขาอยู่เลย ผ่านไปไม่กี่วัน ก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้วงั้นหรือ?

น่าขำสิ้นดี ผู้หญิงแบบเธอ นอกเสียจากผู้ชายคนไหนตาบอดถึงได้แต่งเธอเข้าบ้าน

“ขอแค่เธอแต่งานได้ จะเอาอะไรฉันให้ทุกอย่าง!” ไท่ซางคิดว่าไม่มีใครที่ยอมแต่งงานกับเธอแน่ เพราะงั้นจึงพูดออกไปอย่างงั้น

หยูหลิงฮุ่ยหัวเราะอย่างเย้ยหยัน สายตาฉายแววไม่ยอมแพ้ “ได้ นายพูดเองนะ ถึงเวลาอย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน!”

หลังจบประโยค หยูหลิงฮุ่ยอุ้มท้องโตของตนเองกลับไปที่ห้อง จ้องมองแผ่นหลังที่จากไปของเธอ ไท่ซางหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ชี้นิ้วไปที่หยูหลิงฮุ่ยตะโกนเสียงดัง

“เสียใจทีหลัง? พจนานุกรมของกูไม่เคยมีคำนี้อยู่!”

หยูหลิงฮุ่ยชะงักฝีเท้า หยุดยืนอยู่กับที่สองวินาที ก่อนที่จะก้าวเดินขึ้นไปชั้นบน

“เห้ ไท่ซาง อย่าเพิ่งด่วนสรุปสิ จะได้ไม่ตบหน้าตัวเอง” หยางฉงจ้องมองทีท่าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของเขา เก็บความโมโหอย่างหนัก ตวาดอย่างไม่ไว้หน้า

ไท่ซางจับจ้องหยางฉงที่โมโหแต่ไม่กล้าทำอะไร พลันหยิบขนมปังสองแผ่นยัดเข้าปาก ก่อนที่จะเดินออกไป

หลังจากที่หยูหลิงฮุ่ยมาที่บ้านพักตากอากาศ ภาพพจน์ของไท่ซางก็เสียไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะในสายตาของหยางฉงและฉินวี่เฟย ตอนนี้เขาเป็นผู้ชายเจ้าชู้สารเลวไปอย่างสมบูรณ์แบบ

อยู่ที่นี่ต่อไปก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้กับตนเอง สู้ไม่เห็นหน้าจะดีกว่า

“เฮีย คุณท่านโกก่อนหน้านี้เราหาเจอแล้ว” หลังจากที่แก้ไขปัญหาของไท่ซาง ราฟาเอลจึงรายงานกับหลี่ฝาง

ก่อนหน้านี้คุณท่านโกหักหลังหลี่ต๋าคาง ถือวิสาสะพาตัวตงฟางเย่นไป กระทั่งตอนนี้ราฟาเอลถึงได้เบาะแสมาบ้าง

ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้รู้สาเหตุที่คุณท่านโกหักหลังหลี่ต๋าคาง และได้รู้ว่าคุณท่านโกตามหาหลานสาวของเขามาโดยตลอด

แต่โกยินเธอหายสาบสูญไร้ร่องรอยตั้งแต่หลายสิบปีที่แล้ว ในผู้คนมากมายแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร

ราฟาเอลและคนอื่นๆ ใช้อิทธิพลทั้งหมดเสาะหาอยู่สิบวัน ก็ได้ข้อมูลมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แถมทางด้านท่านจวนพวกเขาก็ได้สืบหาแล้ว เขาไม่รู้ร่องรอยของโกยินแม่แต่น้อย เขาเพียงแค่หลอกล่อคุณท่านโกเท่านั้น

“คุณท่านโกเป็นเพื่อนของพ่อผม จะจัดการยังไง ก็แล้วแต่พ่อของผม” หลี่ฝางเช็ดมุมปาก ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เรื่องนี้ลุงหลี่ได้สั่งให้คนไปจัดการแล้ว เพียงแต่เรื่องบางอย่างค่อนข้างยุ่งยาก เกี่ยวกับตงฟางเย่น”

ก่อนที่ราฟาเองจะได้เจอตัวคุณท่านโก หลี่ต๋าคางก็ได้พบกับคุณท่านโกด้วยตนเองก่อนแล้ว

ทั้งคู่พูดคุยสองต่อสองกันอยู่นาน ส่วนคุยเรื่องอะไรนั้นราฟาเอลไม่รู้เห็นด้วย ทว่าหลังจากนั้นหลี่ต๋าคางได้ปล่อยคุณท่านโกไป และสัญญากับเขาว่าจะช่วยตามหาโกยินให้พบ

เมื่อได้ยินราฟาเอลพูดถึงตงฟางเย่น หลี่ฝางขมวดคิ้วอย่างสงสัย ตงฟางเย่นทำไม?

“เฮีย ยุทธของตงฟางเย่นถูกคนอื่นทำร้ายจนหมด” ราฟาเอลกล่าวอย่างเคร่งขรึม

เมื่อได้ยินอย่างงั้น หลี่ฝางหยุดชะงัก สีหน้าเปลี่ยนไป

แม้เขาและตระกูลตงฟางจะความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีนัก แต่ตงฟางเย่นที่เป็นคนเดียวในตระกูลที่มีสิทธิ์สืบทอด ตอนนี้ไม่มียุทธแล้ว นี่ไม่ใช่ข่าวดีแน่

ในทีแรกแรกตระกูลหลี่เป็นคนพาตัวไป แต่ตอนกลับไปกลับไม่มียุทธแล้ว จะให้เขาให้คำอธิบายยังไงกับตระกูลตงฟาง?

“ใครเป็นคนทำ?” ไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ไปได้ หลี่ฝางพลันรู้สึกปวดหัวไม่ได้

“คนของประเทศญี่ปุ่น” ราฟาเอลกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

คราวนี้หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม แน่น ทำไมถึงได้เกี่ยวข้องกับคนของประเทศญี่ปุ่นไปได้งั้นเหรอ?

การที่พวกเขาทำลายยุทธของตงฟางเย่นเป้าหมายคืออะไร? สำหรับพวกเขาแล้วไม่ได้ประโยชน์เลยแม้แต่น้อย?

“เป้าหมายล่ะ? ตงฟางเย่นคงไม่ได้มีความแค้นอะไรกับคนที่ประเทศญี่ปุ่น?” ไม่ว่าหลี่ฝางจะไตร่ตรองอย่างไรก็คิดไม่ออกถึงเป้าหมายที่คนของญี่ปุ่นคืออะไร

“ไม่แน่ใจ แต่เพราะเรื่องนี้ คนของตระกูลตงฟางได้ประกาศแล้ว บอกว่าจะไม่เลิกรากับเรา”

แม้ตระกูลตระกูลจะข่มขู่เขาไม่ได้ แต่ต่อให้คนตกระกำลำบากขนาดไหนก็ยังอยู่ดีกว่าพวกที่ต้อยต่ำมาก่อนอยู่แล้ว หากตระกูลตงฟางคิดที่จะสู้ตายกับตระกูลหลี่จริงๆ ตระกูลหลี่ต้องเสียหายหนักแน่

ช่วงที่ตงฟางเย่นเกิดเรื่องขึ้น ตระกูลตงฟางหาโอกาสที่จะเอาคืนตระกูลหลี่มาโดยตลอด โดยเฉพาะทางด้านธุรกิจ ตระกูลตงฟางร่วมมือกับคนอื่น ทำให้ทางด้านการเงินได้รับผลกระทบไม่น้อย

“ในเมื่อผมกลับมาแล้ว ก็หาโอกาสเจอตงฟางเย่นสักหน่อย จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”

หลี่ฝางทานจนพอสมควรแล้ว พลันเช็ดมือกล่าวกับราฟาเอล

“ได้ ผมจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้” ราฟาเอลพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ออกมาติดต่อหาคนของตระกูลตงฟาง

ทีแรกคนของตระกูลตงฟางแข็งกระด้าง บอกว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ต้องอธิบาย ประกาศลั่นว่าให้หลี่ฝางชดใช้อย่างสาสม

ท้ายที่สุดเหมือนว่าตงฟางเย่นออกคำสั่ง คนของตระกูลตงฟางถึงได้นัดเวลากับราฟาเอล

บ่ายสองครึ่ง หลี่ฝางมาที่ร้านอาหารขึ้นชื่อของเมืองตงไห่ หน้าประตูร้านอาหารเต็มไปด้วยการ์ดชุดดำยี่สิบคน ทุกคนต่างจ้องเขม็งหลี่ฝางอย่าดุดัน

“หลี่ฝาง คุณหนูใหญ่ของเราอยู่ด้านในแล้ว เชิญ” ชายวัยกลางคนสี่สิบกว่าจ้องมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ในสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

ชายวัยกลางคนคนนี้หลี่ฝางรู้จัก ชื่อว่าหวางเจี้ยน เป็นลูกชายของพ่อบ้านคนก่อนที่ถูกหลี่ต๋าคางฆ่าตาย เขามีถือว่ามีอำนาจในตระกูลตงฟาง

สองพ่อลูกนี้ความสามารถค่อนข้างธรรมดา แต่ซื่อสัตย์ต่อตระกูลตงฟางอย่างมาก

ความแค้นที่ฆ่าพ่อตนเองบอกกับความบาดหมางของตระกูลตงฟางและตระกูลหลี่ ช่วงนี้การแก้แค้นทั้งหมด เป็นแผนการของเขา หากไม่ใช่เพราะตงฟางเย่น คงจะได้กำจัดหลี่ฝางไปแล้ว

หลี่ฝางเหลือบมองเขาเล็กน้อย ไม่แม้แต่โต้ตอบเขา พลันเดินเข้าไปในร้าน

ตระกูลร้อยปีนี่มันแตกต่างจริงๆ แม้ตอนนี้เธอจะไม่เหมือนกับที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังคงสูงส่งเช่นเคย

เพื่อพบกับหลี่ฝาง พวกเขาถึงขนาดจองร้านทั้งหมด ที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารมีคนนับร้อยเป็นคนของตงหางเย่น

ตงฟางเย่นนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง ไม่ได้เจอกันระยะหนึ่ง เธอที่มีหน้ากลมตอนนี้กลับผอมซูบเป็นหนังติดกระดูก

สภาพดูไม่สดชื่น ดวงตาเศร้าหมอง พิงอยู่ที่พนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน แหงนหน้าเล็กน้อย จ้องมองหลี่ฝางอย่างเหยียดหยาม “หลี่ฝาง แกกล้ามากจริงๆ”

“ทำไมผมจะไม่กล้า? เธอคิดว่าคนพวกนี้ฆ่าผมได้งั้นหรือ?”

หลี่ฝางยักคิ้ว นั่งลงที่ตรงข้ามกับตงฟางเย่น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน