ครั้งนี้หลี่ฝางมาตามนัดแค่มากับราฟาเอลเท่านั้น หลี่ฝางนั่งอยู่ต่อหน้าเหมือนว่าพวกเขามากันสองต่อสอง แต่คนของตงฟางเย่นไม่มีใครกล้าดูถูกความสามารถของพวกเขาเลย
“อืม ใช่สิ นายเป็นใครกัน จะเข้าใกล้เทพแล้ว จะมองขยะอย่างเราไว้ในสายตาได้ยังไงกัน?”
ประโยคที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นของหลี่ฝางเท่ากับสาดเกลือลงบนบาดแผลของตงฟางเย่น ตอนแรกเธอก็เป็นคนที่มีความสามารถมาก ได้รับการนับหน้าถือตา
คนมากมายต่างต้องแหงนหน้ามองเธอ และคนมากมายต่างก็อิจฉาในสถานะตำแหน่งของเธอ แต่ตอนนี้เพียงแค่ชั่วข้ามคืนก็ตกจากสวรรค์ลงสู่นรก เธอที่ไร้ยุทธก็ไม่ต่างอะไรกับขยะ
เมื่อได้ยินตงฟางเย่นเหยียดหยามดูถูกตนเอง หลี่ฝางรู้สึกผิดในใจเล็กน้อย แม้เขาจะไม่ได้เป็นคนทำลายยุทธของตงฟางเย่น แต่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเล็กๆ น้อยๆ
คิดว่าคนที่ยโสภาคภูมิ ไม่มองทุกคนอยู่สายตาอย่างตงฟางเย่น กลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปแบบนี้ ช่างน่าเสียดาย
“ตงฟางเย่น สำหรับยุทธของเธอผมขอโทษจริงๆ ผมไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ เธอวางใจเถอะ ผมจะชดเชยให้กับตระกูลตงฟางสุดความสามารถเท่าที่ผมจะทำได้”
หลี่ฝางไม่พูดประโยคนี้ยังดี เมื่อพูดแบบนั้น ตงฟางเย่นยิ่งโมโหหนักเข้าไปใหญ่ พลันตบโต๊ะเสียงดัง ดวงตาสีเลือดจ้องเขม็งหลี่ฝาง
“ชดเชย? เหอะ พูดง่ายดีนี่! ตระกูลฟางของเราล่มอย่างสมบูรณ์เพราะตระกูลลี่ รุ่นเยาว์คนที่ตายก็ตายจากก็จาก เพิ่งพาฉันคนเดียวที่แบกรับเอาไว้ แต่ตอนนี้แม้แต่ฉันก็กลายเป็นคนไร้ค่าไปแล้ว นายกำลังฆ่าล้งตระกูล!”
หลี่ฝางนิ่งไปสักพัก ถอนหายใจอย่างไร้หนทางก่อนกล่าว
“เฮ้อ เธอใจเย็นก่อน ผมรู้ว่าตระกูลตงฟางแบบนี้วันนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผมอย่างมาก แต่ตระกูลฟางก็ใช่ว่าไม่มีความผิดอะไรเลย ตอนแรกหากไม่ใช่พวกเธอหาเรื่องผมก่อน จะเป็นแบบวันนี้ได้ยังไง?”
“คนโบราณว่าไว้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง อย่าโทษความผิดทุกอย่างให้กับตระกูลหลี่ ผมมาหาเธอในวันนี้ เพราะจิตสำนึก อยากจะชดเชยให้กับตระกูลตงฟาง บอกตามตรง ต่อให้ผมไม่ชดเชยอะไรเลย พวกเธอก็ทำอะไรผมไม่ได้”
ตงฟางเย่นโกรธจนแทบระเบิดกับคำพูดเหล่านี้ของหลี่ฝาง แต่ต่อให้เป็นอย่างงั้น เธอก็พอมีสติอยู่บ้าง หลี่ฝางพูดไม่ผิด ความสามารถของตระกูลหลี่ ต่อให้ตระกูลไม่ชดเชยอะไรเลย ก็ไม่กล้ามีมีเรื่องกับเขา
เธอเองก็ไตร่ตรองถึงสิ่งนี้ เพราะงั้นตอนที่หวางเจี้ยนบอกว่าจะสู้กับตระกูลหลี่ให้ตายไปข้างตงฝางเย่นจึงไม่เห็นด้วย
วิธีการยอมให้ตนเองเจ็บตัวก็ไม่ยอมรักษาเอาตัวรอดแบบนี้ ไม่ว่ายังไงตงฟางเย่นก็ไม่มีทางยอม
ตระกูลตงฟางผ่านความรุ่งโรจน์มากว่าร้อยปี เธอไม่มีทางยอมให้ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ต้องล่มสลายในมือของเธอแน่
เพราะงั้นหลังจากที่ได้ข่าวว่าหลี่ฝางเป็นฝ่ายนัดเธอ ตงฟางเย่นจึงตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
หากสามารถใช้ยุทธของเธอ แลกกับการอารักขาตระกูลตงฟางจากตระกูลหลี่ ก็ถือว่าคุ้ม
“หลี่ฝาง ฉันต้องการให้ชดเชยอะไรก็ได้ใช่ไหม?” ตงฟางเย่นสบสายตาของหลี่ฝาง กล่าวเสียงทุ้ม
ร่างของหลี่ฝางเอนไปด้านหลังเล็กน้อย กล่าวตอบเมื่อได้ท่าที่นั่งสบายแล้ว “ไม่ใช่อยู่แล้ว หรือเธอให้ผมไปตาย ผมก็ต้องไปฉันงั้นหรือไง?”
ตงฟางเย่นหัวเราะเสียงแผ่ว จ้องมองหลี่ฝางอย่างไม่เกรงกลัว ในที่สุดเธอก็มีความเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตงฟาง
“ฮ่าๆ วางใจเถอะ.ฉันไม่ให้นายไปตายหรอก ฉันก็ไม่คิดจะให้คนของตระกูลหลี่ไปตายด้วย สิ่งที่ฉันต้องการง่ายมาก ก็คือตระกูลหลี่หลังจากนี้ต้องเป็นที่เพิ่งพิงให้กับตระกูลตงฟาง”
เป็นที่เพิ่งพิงของตระกูลตงฟางอันที่จริงข้อเสนอนี้ไม่เกินไปนัก หลี่ฝางก็เข้าใจว่าทำไมตงฟางเย่นถึงต้องการสิ่งนี้จากเขา
ตระกูลตงฟางเป็นตระกูลใหญ่ทั้งสี่ในอดีต พวกเขาเคยมีอำนาจและความมั่งคั่งที่คนอื่นไม่สามารถต่อกรด้วยได้
แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านี้ได้สาบสูญไปสิ้น หากตงฟางเย่นไม่หาที่เพิ่งที่แข็งแกร่งให้กับตระกูลตงฟางละก็ ถ้างั้นตระกูลตงฟางก็จะถูกตระกูลอื่นทำลายจนล่มสลาย
หลี่ฝางเอื้อมมือ นิ้วมือเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะ ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ
“ตระกูลหลี่ของเขาไม่ทำธุรกิจที่ขาดทุน เป็นที่พึ่งของตระกูลตงฟางก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ ปัญหาคือ ตระกูลตงฟางมีค่าอะไรที่เราต้องปกป้องดูแล?”
ใช่ว่าหลี่ฝางแล้งน้ำใจ เขาเพียงแค่พูดความจริงเท่านั้น ตระกูลหลี่ของพวกเขาไม่ได้ว่างถึงขนาดดูแลพวกที่ไม่เอาไหน
“ฉันรู้อยู่แล้ว ถ้าฉันไม่มีสิ่งที่นายสนใจ ฉันจะนัดพบนายได้ยังไง?”
เมื่อตงฟางเย่นกล่าวจบจึงปรบมือ กล่าวกับลูกน้อง “เอาของมา”
ไม่นานหวางเจี้ยนก็นำกล่องไม้สีดำเข้ามา วางลงตรงหน้าของหลี่ฝาง
“นี่อะไร?” หลี่ฝางจ้องมองกล่องไม้แกะสลักที่ซับซ้อนสีดำขลับ
“ได้ข่าวว่านายกำลังหายาที่จะขับไล่พลังแห่งการกลืนในร่างใช่ไหม?” ตางฟางเย่นเท้าคางด้วยมือเดียว จ้องมองหลี่ฝางอย่างเป็นนัย
เมื่อได้ยินอย่างงั้น สายตาของหลี่ฝางเปลี่ยนไปทันที จ้องมองตงฟางเย่นนิ่ง “เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
เมื่อเห็นทีท่าตื่นเต้นของหลี่ฝาง ตงฟางเย่นหัวเราะออกมา มือข้างหนึ่งลูบไล้กล่องไม้แกะสลัก กล่าวอย่างเย้าแหย่
“ฉันรู้ได้ยังไงไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือในกล่องนี้ มีสิ่งที่นายต้องการ”
สิ่งที่ฉันต้องการ? หรือว่าในกล่องนี้มีตัวยาอยู่?
“นายไม่ต้องเดาหรอก ข้างในนี้ไม่ใช่วัตถุดิบยา แต่เป็นของวิเศษที่ล้ำค่า”
ตงฟางเย่นมองความคิดของหลี่ฝางทะลุปรุโปร่ง พลันทำตาขวางใส่หลี่ฝาง สายตาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
“เมื่อในรวบรวมวัตถุดิบครบ ต้องแช่อยู่ในยาเป็นเวลานาน ถึงจะกำจัดพลังแห่งการกลืนในตัวนายได้ทั้งหมด ความเจ็บปวดแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะรับไหว สิ่งที่อยู่ในกล่องนี้ จะรักษาชีวิตนายเอาไว้ได้”
“ของวิเศษแบบนี้มีแค่หนึ่งเดียวในโลก นายคิดว่าพอไหมที่จะแลกเปลี่ยนกับตระกูลหลี่เป็นที่เพิ่งของตระกูลตงฟาง?”
ตงฟางเย่นกล่าวประโยคเต็มไปด้วยความดึงดูด กำจัดพลังแห่งการกลืน กำจัดเทพอ้าน ไม่สำเร็จก็ต้องดับสูญ หลี่ฝางก็ต้องหวังว่าเขาจะมีความหวังมากขึ้น
แต่ของที่อยู่ในกล่องนี้จะวิเศษอย่างที่ตงฟางเย่นบอกจริงๆ งั้นหรือ?
“เธอพูดมาตั้งเยอะ ในกล่องนี้คืออะไรกันแน่? เธอไม่เปิดให้ผมดู ผมจะรู้ได้ยังไงว่าเธอหลอกผมหรือเปล่า”
หลังได้ยินคำของหลี่ฝาง ตงฝางเย่นจึงเปิดกล่องไม้ออกอย่างไม่หวงแหน
นาทีที่เปิดออก ลำแสงสีทองก็เปล่งประกายออกมาจากกล่อง เสียดแทงจนคนในที่นี้ลืมตาไม่ขึ้น ลำแสงสีทองคงที่อยู่นานก่อนจะค่อยๆ ลับแสง หลี่ฝางถึงได้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องนี้คืออะไร