“เดี๋ยวก่อน บางทีคุณเห็นแล้วอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”
ชายที่เป็นหัวแถวนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมายื่นตรงหน้าของหลี่ฝาง ก่อนจะเปิดคลิปออกมา
ตอนแรกหลี่ฝางไม่ได้อยากจะสนใจเท่าไหร่ แต่เมื่อหน้าจอมันปรากฏภาพของฉินวี่เฟย หยางฉงและผิงอันออกมา ม่านตาของหลี่ฝางก็หดลง ก่อนจะจับคอของชายคนนั้นเอาไว้ พลางถามแล้วกัดฟันแน่น
“พวกเธออยู่ที่ไหน!”
“แค่กๆ ……คุณหลี่ฝาง เพียงแค่คุณไปกับพวกเรา ก็จะได้เจอกับลูกและภรรยาของคุณ”
เมื่อเจอหลี่ฝางที่เต็มไปด้วยอารมณ์พล่าน ชายคนนั้นกลับไม่มีความกลัวอะไรเลย แต่ยังคงมองหลี่ฝางด้วยความนิ่งเฉย
“นำทางไป!” หลี่ฝางจ้องชายคนนั้นไม่กี่วินาที สุดท้ายก็ปล่อยมือออก ก่อนจะกัดฟันแล้วพูดออกมาแบบนั้น
พวกราฟาเอลเองก็ได้เห็นคลิปนั้นแล้ว ในตอนนั้นอารมณ์ของพวกเขาหนักใจขึ้น คิดไม่ถึงว่าในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็จะเกิดเรื่องขึ้นกะทันหันขนาดนั้น
“พี่ใหญ่ คุณส่งข้อความให้คุณลุงหลี่ก่อน ถามสถานการณ์ในบ้านของเขาสักหน่อย” ราฟาเอลเข้าไปกระซิบข้างหูของหลี่ฝาง
ถึงแม้เขาจะเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกฉินวี่เฟยมาก แต่ในขณะเดียวกันก็วางความปลอดภัยของสถานตากอากาศไม่ได้
สามารถพาคนของหลี่ต๋าคางไปได้ในเวลาเพียงสั้นๆ คงจะผ่านสงครามมากมายจากสถานตากอากาศมาแน่นอน
เมื่อถูกราฟาเอลเตือนแบบนี้ หลี่ฝางถึงจะมีสติกลับมา จากนั้นก็ควักโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะโทรหาหลี่ต๋าคาง
แต่ในตอนนั้นเอง หลี่ต๋าคางกลับโทรมาก่อนเพียงไม่กี่วินาที หลี่ฝางเลยรับโดยไม่ต้องคิด
“ฮัลโหล พ่อ!”
“เสี่ยวฝาง คุณลงจากเครื่องบินแล้วเหรอ?อาซาโทสจับตัววี่เฟย เสี่ยวฉงและผิงอันไปแล้ว!คุณรอก่อน เดี๋ยวฉันจะตามไป!”
เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ฝาง หลี่ต๋าคางก็พูดด้วยความร้อนใจ
“อะไรนะอาซาโทส?เขาตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” คำพูดของหลี่ต๋าคางทำให้ในใจของหลี่ฝางนั้นตกไปถึงตาตุ่ม ก่อนจะรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?เขาเห็นอาซาโทสตายต่อหน้าต่อตาเลยนะ ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ?
“ฉันเองก็ไม่มั่นใจสิ่งที่แน่ชัดเหมือนกับ แม่คุณเป็นคนบอกฉันเอง คนที่จัดไปที่สถานตากอากาศนั้นถูกฆ่าหมดแล้ว ยังดีที่แม่คุณรอดมาได้ ฉันให้ไท่ซางจัดการเรื่องที่เหลือ ตอนนี้กำลังตามไปที่ญี่ปุ่น”
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นั้นหลี่ต๋าคางไม่อยากรู้แล้ว ตอนนี้เขาเก็บความโกรธไม่รู้จะไประบายที่ไหน เขาแต่อยากหาอาซาโทสให้เจอแล้วบดขยี้ศพเขาให้สลายเท่านั้น
“คุณพ่อ ฉันกลัวว่าจะได้เจออาซาโทสก่อนเลยล่ะ” หลี่ฝางเห็นนักรบที่อยู่ตรงหน้า ก็พูดด้วยเสียงแน่นๆ
หลี่ต๋าคางที่อยู่ปลายสายนั้นอึ้งไป ก่อนจะเดาได้ว่าตอนนี้หลี่ฝางอยู่ที่ไหน เลยรีบบินไปเร็วกว่าเดิม
“ลูกชาย ฉันรู้สึกว่าคนเหล่านั้นจะเข้าเพราะเทพอ้านภายในตัวคุณนะ ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าได้ทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ รอฉันก่อนล่ะ!”
หลี่ต๋าคางพอจะเดาได้แล้วว่าความคิดที่อาซาโทสพาพวกฉินวี่เฟยไปนั้นคืออะไร เลยกำชับหลี่ฝางก่อนจะวางสายไป
พวกหลี่ฝางนั้นไม่ต้องรีบมาก ดังนั้นเลยเลือกนั่งเครื่องบินไปญี่ปุ่น ส่วนหลี่ต๋าคางในตอนนี้ที่กำลังเจอสถานการณ์คับขัน เขาก็ใช้พลังยุทธบินตรงไปที่ญี่ปุ่น
เพียงไม่นานพวกหลี่ฝางก็ตามพวกนักสู้เหล่านั้นมาที่คฤหาสน์โบราณหลังหนึ่งในเมืองของญี่ปุ่น เมื่อมองจากด้านนอกนั้น คฤหาสน์นั้นเหมือนจะอยู่มานานแล้ว
“พี่ใหญ่ กำลังการสู้ของคนเหล่านี้ไม่เบาเลย พวกเราต้องระวังเอาไว้หน่อยแล้วล่ะ” เมื่อเดินเข้าไปในคฤหาสน์โบราณ ราฟาเอลก็สืบคนด้านในรอบหนึ่งแล้ว จึงพบว่ากำลังการสู้ของพวกเขานั้นมากกว่ากำลังภายในระดับกลางขึ้นไป
“อือ ระวังให้มากกว่าเดิม” หลี่ฝางตอบเสียงทุ้มต่ำ ในใจก็ยิ่งระวังมากขึ้นไปใหญ่
ตอนที่พวกเขากำลังจะเข้าไปในคฤหาสน์หลักนั้น ก็มีลมพัดเข้ามาหาหลี่ฝาง จากนั้นก็มีหมัดหนักหมัดหนึ่งพุ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าของหลี่ฝาง เมื่อเจอการโจมตีที่ดุดัน หลี่ฝางก็ยื่นมือออกไปจับหมัดนั้นด้วยสีหน้านิ่งเฉย
ส้าวส้วยกับไขจี๋เออนั้นถอยหลังออกไปด้วยความร้อนรน เพื่อให้หลี่ฝางกับชายคนนั้นได้สู้กันอย่างเต็มที่
ในชั่วพริบตาเดียว ทั้งสองคนก็สู้กันไปราวๆ สิบกระบวนท่าแล้ว หลี่ฝางยิ่งสู้ก็ยิ่งโกรธขึ้นเรื่อยๆ เลยลงมือหนักมากขึ้นเหมือนกัน สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ดูสะอาดมีระเบียบเรียบร้อยนั้นตอนนี้กลายเป็นรกตาแล้วล่ะ
“เจ้าสาม หยุดมือนะ!” ตอนที่หลี่ฝางเตรียมจะลงมือให้ตายนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งเข้ามาในหูของทุกคน ชายที่สู้กับหลี่ฝางอยู่นั้นหยุดมือในทันที ก่อนจะกระโดดถอยไป แล้วออกจากสนามรบ
“อาซาโทส!” หลี่ฝางเห็นรอยยิ้มของทั้งสองคนแล้วก็เห็นความต่างอย่างชัดเจน จากนั้นแววตาทั้งสองก็มองไปที่อาซาโทสทั้งสองที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอย่างโหดร้าย
“หลี่ฝาง ดีใจที่ได้เจอนะ” ชายที่แววตาค่อนข้างเย็นชาคนหนึ่งในนั้นมองหลี่ฝางพลางทักทาย
หลังจากที่ได้ยินเสียงของคนคนนั้น หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้วขึ้น คนคนนี้ไม่ใช่อาซาโทส เสียงก็ไม่เหมือนอย่างชัดเจน
“คุณเป็นใคร?คุณไม่ใช่อาซาโทส” คำพูดของหลี่ฝางนี้ใช้น้ำเสียงที่แน่วแน่ ถึงแม้เขาจะไม่ได้สนิทกับอาซาโทส แต่หลังจากที่ได้คุยกันบ้างก็ฟังเสียงของเขาออก
คนที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองนั้นถึงแม้จะหน้าตาเหมือนอาซาโทส แต่เสียงของพวกเขากับออร่าที่เรือนร่างนั้นไม่เหมือนกันเลย
“พวกเราคืออาซาโทส ไม่ใช่เขา” เมื่อชายคนนั้นได้ยินเสียงของหลี่ฝางก็ยิ้มออกมา พลางพูดอย่างไม่รีบร้อน
“หมายความว่าอย่างไร?” เมื่อเจอพละกำลังที่แข็งแกร่งของทั้งสองนั้น หลี่ฝางก็ไม่กล้าที่จะคลายความระแวดระวังลงได้
ถ้ารู้ว่าต้องมาสู้กับคนมากฝีมือ จะมีอะไรผิดพลาดไม่ได้ทั้งนั้น
ชายคนนี้เหมือนจะไม่ได้อยากรีบร้อนที่จะจัดการกับหลี่ฝาง แต่ทำท่าทีเชิญให้แก่พวกเขา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“พี่ใหญ่ ฉันว่าสองคนนี้แปลกอย่างมากเลยล่ะ พวกเราจะเข้าไปดีไหม?” ราฟาเอลที่เงียบและใจเย็นมาตลอดรู้สึกได้ถึงความแปลกของทั้งสองคนนี้ เลยถามด้วยความหนักใจ
“วี่เฟยกับเสี่ยวฉงแล้วก็ผิงอันนั้นอยู่ในมือพวกเขา พวกเราไม่อยากเข้าก็ต้องเข้าอยู่ดี”
หลี่ฝางมีแววตามืดลง จากนั้นก็เดินตามเข้าไป
ทั้งสองทีนั้นเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ ราวๆ 10กว่านาที หลังจากที่ผ่านทางเดินไปพวกหลี่ฝางก็เดินมาที่หน้าห้องกระจกใหญ่
เมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นก็ทำให้พวกหลี่ฝางนั้นตกใจยกใหญ่ อันที่จริงห้องกระจกนี้เป็นศูนย์กลางการวิจัย ในนั้นมีเครื่องที่เต็มไปด้วยสารละลาย แถมเครื่องเหล่านั้นก็มีคนที่เหมือนอาซาโทสอยู่เต็มไปหมด
บางทีอาจจะเรียกพวกเขาว่าคนไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
เมื่อได้เห็นอาซาโทสอยู่ตรงหน้ามากมายขนาดนั้น หลี่ฝางคิดเพียงว่าหลังนั้นเย็นวาบ เขาเพิ่งจะสืบดูพละกำลังของทั้งสอง ก็พบว่าพละกำลังของพวกเขากับตัวเองนั้นพอๆ กันเลย
สำหรับหลี่ฝางนั้นมันไม่ใช่การค้นพบที่ดีนัก
“เป็นอย่างไร พอใจกับการวิจัยของฉันไหม?นี่มันเป็นการวิจัยด้วยเลือดเนื้อของฉันเลยนะ”
อาซาโทสที่เสียงค่อนข้างเย็นชานั้นกางแขนทั้งสองออกด้วยความภูมิใจ เหมือนกับว่ากำลังแสดงผลิตภัณฑ์การวิจัยให้พวกหลี่ฝาง