NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1345 อาซาโทส

บทที่ 1345 อาซาโทส

“เดี๋ยวก่อน บางทีคุณเห็นแล้วอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”

ชายที่เป็นหัวแถวนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมายื่นตรงหน้าของหลี่ฝาง ก่อนจะเปิดคลิปออกมา

ตอนแรกหลี่ฝางไม่ได้อยากจะสนใจเท่าไหร่ แต่เมื่อหน้าจอมันปรากฏภาพของฉินวี่เฟย หยางฉงและผิงอันออกมา ม่านตาของหลี่ฝางก็หดลง ก่อนจะจับคอของชายคนนั้นเอาไว้ พลางถามแล้วกัดฟันแน่น

“พวกเธออยู่ที่ไหน!”

“แค่กๆ ……คุณหลี่ฝาง เพียงแค่คุณไปกับพวกเรา ก็จะได้เจอกับลูกและภรรยาของคุณ”

เมื่อเจอหลี่ฝางที่เต็มไปด้วยอารมณ์พล่าน ชายคนนั้นกลับไม่มีความกลัวอะไรเลย แต่ยังคงมองหลี่ฝางด้วยความนิ่งเฉย

“นำทางไป!” หลี่ฝางจ้องชายคนนั้นไม่กี่วินาที สุดท้ายก็ปล่อยมือออก ก่อนจะกัดฟันแล้วพูดออกมาแบบนั้น

พวกราฟาเอลเองก็ได้เห็นคลิปนั้นแล้ว ในตอนนั้นอารมณ์ของพวกเขาหนักใจขึ้น คิดไม่ถึงว่าในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็จะเกิดเรื่องขึ้นกะทันหันขนาดนั้น

“พี่ใหญ่ คุณส่งข้อความให้คุณลุงหลี่ก่อน ถามสถานการณ์ในบ้านของเขาสักหน่อย” ราฟาเอลเข้าไปกระซิบข้างหูของหลี่ฝาง

ถึงแม้เขาจะเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกฉินวี่เฟยมาก แต่ในขณะเดียวกันก็วางความปลอดภัยของสถานตากอากาศไม่ได้

สามารถพาคนของหลี่ต๋าคางไปได้ในเวลาเพียงสั้นๆ คงจะผ่านสงครามมากมายจากสถานตากอากาศมาแน่นอน

เมื่อถูกราฟาเอลเตือนแบบนี้ หลี่ฝางถึงจะมีสติกลับมา จากนั้นก็ควักโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะโทรหาหลี่ต๋าคาง

แต่ในตอนนั้นเอง หลี่ต๋าคางกลับโทรมาก่อนเพียงไม่กี่วินาที หลี่ฝางเลยรับโดยไม่ต้องคิด

“ฮัลโหล พ่อ!”

“เสี่ยวฝาง คุณลงจากเครื่องบินแล้วเหรอ?อาซาโทสจับตัววี่เฟย เสี่ยวฉงและผิงอันไปแล้ว!คุณรอก่อน เดี๋ยวฉันจะตามไป!”

เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ฝาง หลี่ต๋าคางก็พูดด้วยความร้อนใจ

“อะไรนะอาซาโทส?เขาตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” คำพูดของหลี่ต๋าคางทำให้ในใจของหลี่ฝางนั้นตกไปถึงตาตุ่ม ก่อนจะรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?เขาเห็นอาซาโทสตายต่อหน้าต่อตาเลยนะ ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ?

“ฉันเองก็ไม่มั่นใจสิ่งที่แน่ชัดเหมือนกับ แม่คุณเป็นคนบอกฉันเอง คนที่จัดไปที่สถานตากอากาศนั้นถูกฆ่าหมดแล้ว ยังดีที่แม่คุณรอดมาได้ ฉันให้ไท่ซางจัดการเรื่องที่เหลือ ตอนนี้กำลังตามไปที่ญี่ปุ่น”

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นั้นหลี่ต๋าคางไม่อยากรู้แล้ว ตอนนี้เขาเก็บความโกรธไม่รู้จะไประบายที่ไหน เขาแต่อยากหาอาซาโทสให้เจอแล้วบดขยี้ศพเขาให้สลายเท่านั้น

“คุณพ่อ ฉันกลัวว่าจะได้เจออาซาโทสก่อนเลยล่ะ” หลี่ฝางเห็นนักรบที่อยู่ตรงหน้า ก็พูดด้วยเสียงแน่นๆ

หลี่ต๋าคางที่อยู่ปลายสายนั้นอึ้งไป ก่อนจะเดาได้ว่าตอนนี้หลี่ฝางอยู่ที่ไหน เลยรีบบินไปเร็วกว่าเดิม

“ลูกชาย ฉันรู้สึกว่าคนเหล่านั้นจะเข้าเพราะเทพอ้านภายในตัวคุณนะ ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าได้ทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ รอฉันก่อนล่ะ!”

หลี่ต๋าคางพอจะเดาได้แล้วว่าความคิดที่อาซาโทสพาพวกฉินวี่เฟยไปนั้นคืออะไร เลยกำชับหลี่ฝางก่อนจะวางสายไป

พวกหลี่ฝางนั้นไม่ต้องรีบมาก ดังนั้นเลยเลือกนั่งเครื่องบินไปญี่ปุ่น ส่วนหลี่ต๋าคางในตอนนี้ที่กำลังเจอสถานการณ์คับขัน เขาก็ใช้พลังยุทธบินตรงไปที่ญี่ปุ่น

เพียงไม่นานพวกหลี่ฝางก็ตามพวกนักสู้เหล่านั้นมาที่คฤหาสน์โบราณหลังหนึ่งในเมืองของญี่ปุ่น เมื่อมองจากด้านนอกนั้น คฤหาสน์นั้นเหมือนจะอยู่มานานแล้ว

“พี่ใหญ่ กำลังการสู้ของคนเหล่านี้ไม่เบาเลย พวกเราต้องระวังเอาไว้หน่อยแล้วล่ะ” เมื่อเดินเข้าไปในคฤหาสน์โบราณ ราฟาเอลก็สืบคนด้านในรอบหนึ่งแล้ว จึงพบว่ากำลังการสู้ของพวกเขานั้นมากกว่ากำลังภายในระดับกลางขึ้นไป

“อือ ระวังให้มากกว่าเดิม” หลี่ฝางตอบเสียงทุ้มต่ำ ในใจก็ยิ่งระวังมากขึ้นไปใหญ่

ตอนที่พวกเขากำลังจะเข้าไปในคฤหาสน์หลักนั้น ก็มีลมพัดเข้ามาหาหลี่ฝาง จากนั้นก็มีหมัดหนักหมัดหนึ่งพุ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าของหลี่ฝาง เมื่อเจอการโจมตีที่ดุดัน หลี่ฝางก็ยื่นมือออกไปจับหมัดนั้นด้วยสีหน้านิ่งเฉย

ส้าวส้วยกับไขจี๋เออนั้นถอยหลังออกไปด้วยความร้อนรน เพื่อให้หลี่ฝางกับชายคนนั้นได้สู้กันอย่างเต็มที่

ในชั่วพริบตาเดียว ทั้งสองคนก็สู้กันไปราวๆ สิบกระบวนท่าแล้ว หลี่ฝางยิ่งสู้ก็ยิ่งโกรธขึ้นเรื่อยๆ เลยลงมือหนักมากขึ้นเหมือนกัน สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ดูสะอาดมีระเบียบเรียบร้อยนั้นตอนนี้กลายเป็นรกตาแล้วล่ะ

“เจ้าสาม หยุดมือนะ!” ตอนที่หลี่ฝางเตรียมจะลงมือให้ตายนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งเข้ามาในหูของทุกคน ชายที่สู้กับหลี่ฝางอยู่นั้นหยุดมือในทันที ก่อนจะกระโดดถอยไป แล้วออกจากสนามรบ

“อาซาโทส!” หลี่ฝางเห็นรอยยิ้มของทั้งสองคนแล้วก็เห็นความต่างอย่างชัดเจน จากนั้นแววตาทั้งสองก็มองไปที่อาซาโทสทั้งสองที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอย่างโหดร้าย

“หลี่ฝาง ดีใจที่ได้เจอนะ” ชายที่แววตาค่อนข้างเย็นชาคนหนึ่งในนั้นมองหลี่ฝางพลางทักทาย

หลังจากที่ได้ยินเสียงของคนคนนั้น หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้วขึ้น คนคนนี้ไม่ใช่อาซาโทส เสียงก็ไม่เหมือนอย่างชัดเจน

“คุณเป็นใคร?คุณไม่ใช่อาซาโทส” คำพูดของหลี่ฝางนี้ใช้น้ำเสียงที่แน่วแน่ ถึงแม้เขาจะไม่ได้สนิทกับอาซาโทส แต่หลังจากที่ได้คุยกันบ้างก็ฟังเสียงของเขาออก

คนที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองนั้นถึงแม้จะหน้าตาเหมือนอาซาโทส แต่เสียงของพวกเขากับออร่าที่เรือนร่างนั้นไม่เหมือนกันเลย

“พวกเราคืออาซาโทส ไม่ใช่เขา” เมื่อชายคนนั้นได้ยินเสียงของหลี่ฝางก็ยิ้มออกมา พลางพูดอย่างไม่รีบร้อน

“หมายความว่าอย่างไร?” เมื่อเจอพละกำลังที่แข็งแกร่งของทั้งสองนั้น หลี่ฝางก็ไม่กล้าที่จะคลายความระแวดระวังลงได้

ถ้ารู้ว่าต้องมาสู้กับคนมากฝีมือ จะมีอะไรผิดพลาดไม่ได้ทั้งนั้น

ชายคนนี้เหมือนจะไม่ได้อยากรีบร้อนที่จะจัดการกับหลี่ฝาง แต่ทำท่าทีเชิญให้แก่พวกเขา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

“พี่ใหญ่ ฉันว่าสองคนนี้แปลกอย่างมากเลยล่ะ พวกเราจะเข้าไปดีไหม?” ราฟาเอลที่เงียบและใจเย็นมาตลอดรู้สึกได้ถึงความแปลกของทั้งสองคนนี้ เลยถามด้วยความหนักใจ

“วี่เฟยกับเสี่ยวฉงแล้วก็ผิงอันนั้นอยู่ในมือพวกเขา พวกเราไม่อยากเข้าก็ต้องเข้าอยู่ดี”

หลี่ฝางมีแววตามืดลง จากนั้นก็เดินตามเข้าไป

ทั้งสองทีนั้นเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ ราวๆ 10กว่านาที หลังจากที่ผ่านทางเดินไปพวกหลี่ฝางก็เดินมาที่หน้าห้องกระจกใหญ่

เมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นก็ทำให้พวกหลี่ฝางนั้นตกใจยกใหญ่ อันที่จริงห้องกระจกนี้เป็นศูนย์กลางการวิจัย ในนั้นมีเครื่องที่เต็มไปด้วยสารละลาย แถมเครื่องเหล่านั้นก็มีคนที่เหมือนอาซาโทสอยู่เต็มไปหมด

บางทีอาจจะเรียกพวกเขาว่าคนไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

เมื่อได้เห็นอาซาโทสอยู่ตรงหน้ามากมายขนาดนั้น หลี่ฝางคิดเพียงว่าหลังนั้นเย็นวาบ เขาเพิ่งจะสืบดูพละกำลังของทั้งสอง ก็พบว่าพละกำลังของพวกเขากับตัวเองนั้นพอๆ กันเลย

สำหรับหลี่ฝางนั้นมันไม่ใช่การค้นพบที่ดีนัก

“เป็นอย่างไร พอใจกับการวิจัยของฉันไหม?นี่มันเป็นการวิจัยด้วยเลือดเนื้อของฉันเลยนะ”

อาซาโทสที่เสียงค่อนข้างเย็นชานั้นกางแขนทั้งสองออกด้วยความภูมิใจ เหมือนกับว่ากำลังแสดงผลิตภัณฑ์การวิจัยให้พวกหลี่ฝาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท