“คนที่ร่วมมือกับท่านจวนเพื่อระเบิดโรงพยาบาลก็คือคุณนี่เอง” หลี่ฝางมองนัยเหลียงที่ห่างออกไปหลายเมตร ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่
“ใช่แล้ว น่าเสียงดายที่ท่านจวนนั่นมันไร้ประโยชน์เกินไป เลยไม่ได้เก็บพวกแกไปด้วย” นัยเหลียงยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ อย่างไม่อิดออด
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เสียดายของเขา หลี่ฝางก็มีเส้นเลือดปูดขึ้นบนหน้าผาก พลางอดไม่ได้ที่จะปรี่เข้าไปหานัยเหลียง ก่อนจะบดขยี้เขา
“พวกคุณฉีดสารอะไรเข้าไปในตัวของลูกชายฉัน!” เมื่อคิดได้ว่าลูกชายต้องมาเจออะไรบ้าๆ ทั้งๆ ที่ยังเล็กอยู่ขนาดนั้น ในใจของหลี่ฝางก็โกรธขึ้นมาเป็นอย่างมาก
ถึงแม้การที่เขามาที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ ก็เพื่อหาส่วนผสมปรุงยา แต่ในขณะเดียวกันก็เพื่อหาว่าทาเคชิตะ มัตสึซากะทำอะไรกับเสี่ยวผิงอันไปด้วย
ตอนแรกก็คิดว่าจะต้องใช้เวลาหาสักพัก คิดไม่ถึงว่าฆาตกรจะมาหาถึงที่เลย
“วางใจเถอะ สิ่งที่ฉันฉีดเข้าไปในร่างกายของเขานั้นมันไม่ได้มีอันตรายกับร่างกายของเขา” เมื่อเห็นหลี่ฝางที่กำลังโกรธจนเส้นเลือดปูด นัยเหลียงกลับไม่ได้มีท่าทีขี้ขลาดเลย
เขารู้ว่าเพียงแค่ฉินวี่เฟยกับหยางฉงอยู่ในมือตัวเอง หลี่ฝางก็ไม่กล้าทำอะไรโง่ๆ อย่างแน่นอน
มีไพ่ดีๆ ถึงสองใบแล้ว เขาจะเล่นกับหลี่ฝางอย่างไรก็ได้
“แกมันรนหาที่ตาย!” หลี่ฝางตาแดงก่ำแล้ว เลยมองนัยเหลียงด้วยแววตาที่เหมือนสัตว์ป่าดุร้าย
“เหอะ แกจะทำอะไรฉันได้งั้นเหรอ?หลี่ฝาง ถ้าอยากให้ผู้หญิงของแกตายล่ะก็ เข้ามาได้เลย”
นัยเหลียงเดินเข้าไปข้างกายฉินวี่เฟยกับหยางฉง ก่อนจะโอบกอดพวกเธอเข้ามาด้วยความท้าทาย
“ชิ พวกคุณอยู่กับหลี่ฝางคงจะน่าน้อยใจเป็นอย่างมาก เอาไงดี อยากจะมาเป็นผู้หญิงของฉันดูบ้างไหม?”
ลมหายใจของนัยเหลียงนั้นกระทบใบหน้าของหยางฉง มันทำให้เธอรังเกียจเป็นอย่างมาก เมื่อคิดว่าชายคนนี้ทำอะไรกับลูกชายตัวเองเอาไว้บ้าง หยางฉงก็อดไม่ได้ที่จะอยากหั่นเขาเป็นท่อนๆ
“ถุย!คุณเหมาะสมกับฉันงั้นเหรอ?” หยางฉงถุยน้ำลายใส่หน้านัยเหลียง พลางตะโกนด่าด้วยความโกรธ
ท่าทีของหยางฉงนั้นทำให้นัยเหลียงโกรธเป็นอย่างมาก เห็นเพียงเขาใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้สะอาด จากนั้นก็ยิ้มอย่างเย็นชาพลางบีบคอของหยางฉงเอาไว้
สีหน้าของหลี่ฝางนั้นเปลี่ยนไปในทันที ตอนที่เขากำลังจะลงมือนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นอย่างจังบนหัว
จากนั้นห้องทั้งห้องก็สั่นไหวขึ้นมา ทั้งฝุ่นและอิฐต่างร่วงหล่นลงมาจากหลังคาของห้องไม่หยุด วินาทีต่อมาก็ทำให้หลังคาปลิวว่อนออกไปทันที
นัยเหลียงมีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที การกระทำเมื่อครู่ จู่ๆ ฉินวี่เฟยกับหยางฉงที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว จากนั้นเขาก็เห็นว่าข้างกายของหลี่ฝางนั้นมีเงาของคนเพิ่มมาสามคนเสียอย่างนั้น
“ปกป้องภรรยาและลูกของคุณให้ดี ส่วนคนอื่นนั้นเดี๋ยวฉันจะจัดการเอง” หลี่ต๋าคางผลักหยางฉงกับฉินวี่เฟยไปข้างกายหลี่ฝาง หลังจากที่พูดจบแล้วก็หันตัวกลับไปจ้องตานัยเหลียง
“ฉันไม่สนใจว่าคุณจะเป็นสัตว์ประหลาดปีศาจอะไรนะ แต่วันนี้เป็นวันตายของคุณ” เมื่อพูดจบ หลี่ต๋าคางก็ไปอยู่ต่อหน้านัยเหลียงอย่างรวดเร็ว
นัยเหลียงหัวใจเต้นแรง เขาต้องตีลังกาถึงสองตลบถึงจะพอหลบจากการโจมตีของหลี่ต๋าคางได้
เมื่อเจอพละกำลังที่แข็งแกร่งของหลี่ต๋าคาง เขานั้นตกใจหวั่นใจเป็นอย่างมาก นี่มันไม่ตรงกับข้อมูลที่ได้รับมานี่หน่า!
ข้อมูลนั้นบอกว่าพละกำลังของหลี่ต๋าคางนั้นอย่างมากก็เป็นได้แค่ครึ่งเทพระดับกลางเท่านั้น แต่ตามที่ได้เห็นสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ นี่มันเข้าสู่การเป็นระดับเทพแล้วด้วยซ้ำ
“แกไม่ใช่หลี่ต๋าคาง!แกเป็นใครกันแน่?” นัยเหลียงมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความกลัว ก่อนจะเริ่มสงสัยตัวตนที่แท้จริงของหลี่ต๋าคาง
อย่าว่าแต่นัยเหลียงรู้สึกตกใจเลย ขนาดหลี่ฝางที่เป็นลูกชายเขานั้นยังมีสีหน้าท่าทางที่แปลกไปเลย
เขาคิดไม่ถึงว่าหลี่ต๋าคางจะตามมาได้เร็วขนาดนี้ แถมพละกำลังของเขายังเปลี่ยนไปเป็นน่ากลัวขนาดนั้นด้วย
“เหอะ ตอนแรกก็คิดว่าเรื่องสิบกว่าปีก่อนนั้นจะทำให้พวกคุณรู้จักเจียมได้สักหน่อย แต่มาเห็นตอนนี้แล้ว เหมือนจะลงไม่หลาบจำสินะ ตอนนี้ถึงกับกล้ามาขี้รดหัวกูแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักหน่อย พวกคุณคงจะคิดว่าหลี่ต๋าคางอย่างฉันมันกลั่นแกล้งได้ง่ายๆ สินะ?”
หลี่ต๋าคางมองนัยเหลียงพลางหัวเราะเสียงเย็นชา ใช้เท้าถีบไปที่ท้องน้อยของเขา นัยเหลียงอยากจะเบี่ยงหนี แต่ก็ไม่มีทางที่จะหนีรอดได้เลยแม้แต่น้อย เลยต้องฝืนรับกระบวนท่านี้เอาไว้ ทำให้ตัวนั้นลอยไปไกลเป็นสิบเมตร จนไปชนเข้ากับกำแพงหลายชั้นถึงจะหยุดลงได้
นัยเหลียงกุมท้องน้อยของตัวเองก่อนจะกระอักเลือดออกมา จนกระทั่งตอนนั้นเองเขาถึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นหาเรื่องคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วยแล้ว
ในดวงตานั้นมีความร้ายกาจปรากฏให้เห็น จากนั้นก็หยิบรีโมทออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เมื่อได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น เกราะแก้วที่มี ‘อาซาโทส’ ที่ปิดอยู่ในตอนแรกนั้นก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาทั้งหมด
เพียงไม่นานก็มีคนที่เหมือนกับอาซาโทสเป็นสิบคนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกหลี่ฝาง ส่วนนัยเหลียงที่ล้มอยู่ที่พื้นนั้นก็ไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว
“ให้ตายเถอะ เขาอยากจะหาผลประโยชน์ท่ามกลางความวุ่นวาย!” หลี่ฝางมองเห็นใบหน้าที่เหมือนกับนับสิบนั้นโกรธขึ้น ก่อนจะปรี่เข้าไปเพื่อเอาตัวนัยเหลียงออกมา แต่กลับถูกหลี่ต๋าคางห้ามเอาไว้
“เขาไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ รีบไปหาตัวผิงอันออกมาเถอะ” หลี่ต๋าคางนั้นไม่แยแสที่จะต่อกรกับคนเหล่านี้ ถึงแม้คนสิบกว่าคนนี้จะมีพละกำลังเท่าครึ่งเทพ แต่กลับไม่ใช่แม้แต่คู่แข่งของเขาเลยด้วยซ้ำ
หลี่ฝางมองออร่าที่แข็งแกร่งของหลี่ต๋าคาง เลยเงียบไปสักพักก่อนจะถาม
“คุณพ่อ คุณบอกฉันได้ไหมว่าพละกำลังของคุณอยู่ที่แดนไหนกันแน่?”
จะว่าไป ตั้งแต่ที่หลี่ต๋าคางกลับมาที่เมืองตงไห่ หลี่ฝางก็ยังไม่ได้เห็นเขาใช้พละกำลังจริงๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว
พละกำลังที่สามารถคว่ำครึ่งเทพได้ด้วยเพียงฝ่าเท้าเดียว มันน่ากลัวขนาดไหนกัน
“เชียนอิสระ” หลี่ต๋าคางพูดคำนี้ออกมาอย่างไม่ร้อนใจ จนทำให้พวกหลี่ฝางตะลึงงัน พวกไขจี๋เอออ้าปากกว้างจนสามารถกลืนไข่ทั้งฟองลงไปได้เลยล่ะ
หลี่ฝางคิดไม่ถึงเลยว่านอกจากเซียนผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่ากู่แล้ว บนโลกนี้ยังมีเชียนอิสระอีก
นี่มันเหลือเชื่อมากเกินไปแล้วนะเนี่ย?
“ในเมื่อคุณมีพละกำลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ทำไมตอนแรกต้องปิดบังด้วยล่ะ?” ในใจของหลี่ฝางคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ถ้าเกิดว่าหลี่ต๋าคางเปิดเผยพละกำลังออกมาตั้งแต่แรก คนเหล่านี้ก็จะไม่กล้าผยองขนาดนี้แล้ว แถมมันคงจะไม่เกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้นมากมายขนาดนี้ด้วย
เมื่อเห็นแววตาของหลี่ฝางที่มีความเกลียดอยู่ไม่น้อย หลี่ต๋าคางเลยถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
“ลูกชาย มีเรื่องบางเรื่องที่มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่แกคิดนะ ถึงแม้ฉันจะเป็นเซียนอิสระ แต่ก็ต้องรักษากฎของสวรรค์ด้วย หลังจากที่ฉันได้เปิดประตูเทพในตอนแรกแล้ว เพราะวางใจพวกคุณสองแม่ลูกไม่ลง เลยเลือกที่จะปฏิเสธการเข้าสู่แดนที่สูงกว่านี้”
“เลยคิดหาวิธีที่จะได้กดพละกำลังที่แท้จริงของฉันเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนที่อยู่บนแดนที่สูงกว่านั้นรู้ถึงการมีอยู่ของฉัน ยังมีความลับมากมายเกี่ยวกับนักรบบนโลกใบนี้ มีเรื่องบางเรื่องที่ฉันไม่สะดวกที่จะบอกคุณมากมายน่ะ”
“ครั้งนี้ก็เป็นเพราะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ฉันเลยต้องใช้พละกำลังของฉันแปดส่วน ถ้าฉันปล่อยพลังทั้งหมดออกมาล่ะก็ ฉันคงจะไม่ได้อยู่ที่โลกนี้ต่อไปแล้วล่ะ”
มีเรื่องมากมายที่หลี่ต๋าคางจะบอกให้หลี่ฝางรู้ไม่ได้ ถ้าเกิดเขาพูดมากเกินไปจะเผลอเผยความลับน่าเหลือเชื่อออกมา จะต้องถูกลงโทษแน่ๆ
เมื่อได้ยินการอธิบายของหลี่ต๋าคางแบบนี้ ถึงแม้หลี่ฝางจะมีความสงสัยมากมาย แต่กลับไม่ได้ถามอะไรต่อไป
ตามความเข้าใจที่เขามีต่อหลี่ต๋าคางนั้น ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาคงไม่มีทางที่จะทำตามแผนแบบนี้
เมื่อพวก ‘อาซาโทส’ เหล่านั้นเห็นว่าพวกหลี่ฝางกำลังจะไป ก็ทยอยไปขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของพวกเขา หลี่ต๋าคางเดินเข้ามาข้างหน้าหนึ่งก้าว ด้วยความโกรธอย่างแสนสาหัส
“คุณไปหาผิงอัน เดี๋ยวคนพวกนี้ฉันจะรับมือเอง”
หลังจากที่รู้พละกำลังที่แท้จริงของหลี่ต๋าคาง หลี่ฝางก็ไม่ได้เป็นห่วงความปลอดภัยของเขาอีกต่อไป คนเหล่านี้ไม่ใช่แม้แต่จะเป็นศัตรูของหลี่ต๋าคางเลยด้วยซ้ำ
เขาพยักหน้า จากนั้นหลี่ฝางก็พาคนอื่นๆ เข้าไปด้านใน เมื่อครู่หยางฉงกับฉินวี่เฟยอยู่ห้องเดียวกับผิงอันมาตลอด ดังนั้นพวกเธอเลยเป็นคนเดินนำหลี่ฝางอยู่ด้านหน้า