NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1352 หลี่ต๋าคางจากไป

บทที่ 1352 หลี่ต๋าคางจากไป

สิ่งที่หลี่ต๋าคางทำทั้งหมดนั้นมันอยู่ในสายตาของเขา โดยเฉพาะตอนที่หลี่ต๋าคางรับสายฟ้าฟาดทั้งเก้าแทนเขา หลี่ฝางรู้สึกเหมือนจิตวิญญาณของตัวเองกำลังถูกแผดเผา

เขาพยายามสุดกำลังเพราะอยากจะแย่งสิทธิ์การคุมร่างกายมา แต่กลับทำได้เพียงมองหลี่ต๋าคางรับความเจ็บปวดทั้งหมดเอาไว้

“ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่เหนื่อยเท่านั้นเอง อยากพักสักหน่อย” หลี่ต๋าคางมองหลี่ฝางที่กลับเป็นปกติ พลางยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ หลังจากที่พูดจบเขา ก็สลบคอเอียงไป

หลี่ฝางกอดร่างกายของเขาด้วยความรู้สึกผิดและสงสาร ถ้าไม่ใช่เพราะเขา หลี่ต๋าคางคงจะไม่ต้องปลดผนึก แล้วก็ไม่ต้องมารับสายฟ้าฟาดแทนตัวเอง

และก็เพราะเขา ถึงได้ทำร้ายคนรอบกายให้เข้ามาอยู่ในอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ทุกครั้งที่พวกเขากำลังพบเจอกับอันตรายนั้น หลี่ฝางทำได้เพียงมองอย่างทำอะไรไม่ได้

และในตอนนั้นเอง จู่ๆ บนฟ้าก็มีแสงสีทองสองเส้นสาดลงมา จากนั้นก็มีคนใส่ชุดสีทอง และมีแสงเปล่งประกายออกมาลอยลงมา ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของหลี่ฝางและหลี่ต๋าคาง

“ใช่เขาไหม?” ชายที่ผมยาวถึงเอวมองหลี่ต๋าคางที่อยู่ในอ้อมกอดของหลี่ฝาง ก่อนจะมองชายที่ใส่หมวกอีกคนพลางถามอย่างไร้อารมณ์

“อือ เขานั่นแหละ” ชายที่ใส่เพียงหมวกนั้นพลิกสมุดไปมา จากนั้นก็มองหลี่ต๋าคางสักพัก พลางตอบและพยักหน้า

หลี่ฝางได้ฟังสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกัน ในใจก็เกิดความเกรงกลัวขึ้นมาเป็นอย่างมาก ก่อนจะกอดหลี่ต๋าคางเอาไว้ไม่ปล่อย พลางมองพวกเขาอย่างระมัดระวัง

“พวกคุณเป็นใคร?พวกคุณจะทำอะไร?”

สัญชาตญาณของหลี่ฝางบอกเขา ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นกำลังจะพาหลี่ต๋าคางไป

หลังจากที่ได้ยินเสียงของหลี่ฝางแล้ว ชายผมยาวก็ปรายตามองเขาเบาๆ ด้วยท่าทีเย่อหยิ่งและไม่แยแส แต่ไม่ได้ตอบคำถามของหลี่ฝาง แต่กลับหันไปถามชายสวมหมวกต่อ

“คนคนนี้เพิ่งจะฝึกจนมีพลังพิเศษไปเมื่อครู่เอง จะพาไปด้วยหรือเปล่า?”

ชายสวมหมวกจ้องหลี่ฝางอยู่หลายนาที จากนั้นก็เปิดหนังสือเล่มนั้นไปมา สุดท้ายก็ส่ายหัว

“สถานการณ์ของคนคนนี้ค่อนข้างพิเศษหน่อยน่ะ อีกอย่างในร่างกายของยังมีอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย ตอนนี้อย่าเพิ่งพาเขาไปเลย”

“อ๋อ” หลังจากที่ได้ยินคำตอบของชายสวมหมวก ชายผมยาวก็ตอบอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นก็เอี้ยวตัวพลางอยากจะพาคนที่อยู่ในอ้อมกอดของหลี่ฝางอย่างหลี่ต๋าคางไป

หลี่ฝางมองเขาที่ยื่นมือมาหาตัวเอง มือที่กอดหลี่ต๋าคางอยู่นั้นก็รัดแน่นขึ้นมาก

“อย่าเข้ามานะ!หยุดคิดที่จะพาพ่อฉันไปนะ!”

ชายผมยาวเห็นว่าหลี่ฝางไม่ยินยอม เลยขมวดคิ้วโก่งสวยนั้นเล็กน้อย จากนั้นหลี่ฝางเองก็ไม่ได้เห็นท่าทีของเขาอย่างชัดเจน แต่รู้สึกเพียงว่าบนหน้าของตัวเองนั้นเหมือนจะมีขนอะไรพาดผ่านไป จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

หลังจากที่ทำให้หลี่ฝางล้มลงแล้ว ชายผมยาวก็เหมือนจะใช้เวท ที่ทำให้หลี่ต๋าคางที่ไม่ได้สติลอยขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นก็ค่อยๆ เดินไปตามแสงนั้น

“อย่าไป!อย่าไปนะ!” เมื่อเห็นหลี่ต๋าคางที่ออกห่างจากตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ หลี่ฝางก็พูดอ้อนวอนด้วยเสียงที่เศร้าใจ

“เขานั้นไม่ได้อยู่บนโลกนี้อยู่แล้ว พวกเราให้เวลาเขามาเป็นสิบปี ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องพาเขาไปแล้ว”

ชายสวมหมวกที่อยู่ด้านหลังเมื่อได้ยินหลี่ฝางพูดก็หยุดก้าวเดิน จากนั้นก็พูดทั้งๆ ที่ไม่หันหัวมา

“ไม่!” ทั้งๆ ที่ในใจไม่ยอมเป็นอย่างมาก แต่หลี่ฝางกลับทำได้เพียงมองสองคนนั้นพาตัวหลี่ต๋าคางไปตาปริบๆ พลางมองพ่อของตัวเองไปตามแสงนั้น

หลังจากที่พวกหลี่ต๋าคางไปได้ไม่นาน หลี่ฝางก็พบว่าตัวเองนั้นมีกำลังกลับมาเหมือนเดิมแล้ว เขารีบปีนขึ้นมาจากที่พื้น ก่อนจะรีบตามแสงที่ใกล้จะหายไปจากท้องฟ้าแล้ว

แต่ทั้งหมดนั้นมันเหนื่อยเปล่า หลี่ต๋าคางไม่มีวิธีที่จะกลับไปที่โลกอีกแล้ว

“พี่ใหญ่?!คุณเป็นอย่างไรบ้าง?คุณลุงหลี่ล่ะ?ทำไมเขาไม่ได้อยู่กับคุณ?”

หลังจากที่ราฟาเอลส่งพวกฉินวี่เฟยไปที่โรงพยาบาลแล้ว ก็รีบกลับมาที่เดิม แต่ว่าตอนที่เขามาถึงสถานที่นั้น สงครามมันก็จบแล้ว

หลี่ฝางคุกเข่าลงบนสิ่งที่รกยุ่งเหยิง ส่วนหลี่ต๋าคางนั้นกลับไม่อยู่แม้แต่เงา

“ราฟาเอล คุณฆ่าฉันเถอะ!ฆ่าฉันแล้วเรื่องทุกอย่างจะได้จบ!ฆ่าฉันเถอะ!”

หลังจากที่ได้ยินเสียงของราฟาเอล จู่ๆ หลี่ฝางก็จับแขนของเขาพลางร้องด้วยความตื่นตัวเป็นอย่างมาก

คำพูดของเขานั้นทำให้ราฟาเอลตกใจเป็นอย่างมาก ในใจนั้นก็เกิดความรู้สึกไม่ดี “พี่ใหญ่ คุณกำลังพูดบ้าอะไร!มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?คุณรีบบอกฉันมาสิ!”

สถานการณ์ของหลี่ฝางแบบนี้ทำให้ราฟาเอลรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก พลางแอบคาดเดา หรือตอนที่เกิดสงครามนั้น หลี่ต๋าคางแพ้งั้นเหรอ?

นี่มันเป็นไปไม่ได้!หลี่ต๋าคางจะแพ้ได้อย่างไร!

“ไปแล้วล่ะ พวกเขาพาพ่อฉันไปแล้ว……เป็นเพราะฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน พ่อฉันเองก็คงไม่ต้องเปิดผนึก ผิงอันเองก็คงไม่ต้องติดร่างแหไปด้วยเพราะฉัน ราฟาเอล คุณให้ฉันตายเถอะ ฉันตายแล้วทุกอย่างก็จะจบ”

ตอนนี้สมองของหลี่ฝางมีแต่ภาพของสองคนที่พาหลี่ต๋าคางไป ตอนแรกเขาคิดว่าพละกำลังของตัวเองแข็งแกร่งพอแล้ว แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าสองคนนั้นกลับไม่มีแรงในการโต้กลับเลย

การโจมตีที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้บวกกับความผิดในใจที่มีอยู่เต็มอก มันทำให้สติของหลี่ฝางหลุดไป สมองของเขาในตอนนี้เอาแต่คิดจะตาย คิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงของทุกคน

แม้ราฟาเอลจะไม่เข้าใจว่าหลี่ฝางกำลังหมายถึงอะไร แต่อย่างน้อยเขาก็บอกว่าหลี่ต๋าคางถูกพาตัวไปแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่ข่าวร้ายของคนอื่น

เพียงแค่ยังอยู่ ก็ถือว่ายังมีหวัง

“พี่ใหญ่ คุณลุงหลี่เขาแค่ถูกพาตัวไปเท่านั้นเอง ไม่เป็นไรหรอก พวกเราสามารถพาเขากลับมาได้แน่นอน!คุณมีสติสักหน่อย ตอนนี้คุณลุงหลี่ไม่อยู่แล้ว คุณก็ถือเป็นเสาหลักของพวกเรา ถ้าคุณเองก็พังพินาศไปด้วย พวกเราคงจะจบเห่จริงๆ !”

ราฟาเอลจับไหล่ของหลี่ฝาง ก่อนจะตะโกนเสียงดังใส่เขา

แต่หลี่ฝางในตอนนี้ได้บล็อกเสียงจากด้านนอกโลกไปแล้ว จะบอกก็ได้ว่าเขาในตอนนี้ไม่เหลือการขบคิดอีกต่อไปแล้ว อารมณ์ก็สติแตกไปแล้วเหมือนกัน

“กลับมาไม่ได้แล้ว คนพวกนั้นแข็งแกร่งเกินไป พวกเราสู้พวกเขาไม่ได้หรอก ราฟาเอล พ่อฉันกลับมาไม่ได้แล้ว ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉันเอง ต้องโทษฉันที่……”

หลี่ฝางมองราฟาเอลด้วยดวงตาไร้แวว น้ำตาทั้งสองสายก็ไหลออกจากหางตาของเขา ราฟาเอลมองท่าทีของเขาด้วยความสงสารจับใบและโกรธเป็นอย่างมาก

นี่ไม่ใช่หลี่ฝางที่เขารู้จัก แล้วก็ไม่ใช่พี่ใหญ่ที่เขานับถือ

หลี่ฝางที่เขารู้จักนั้นยืนหยัดมาตลอดและไม่เคยคิดยอมแพ้ จะมาพูดเรื่องการยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไร?

“หลี่ฝาง!แกมีสติหน่อยนะ!คุณลุงหลี่เขาช่วยชีวิตแกกลับมา ไม่ใช่เพื่อให้แกมาคิดสั้นแบบนี้!ถ้าแกตายแล้ว สิ่งที่คุณลุงหลี่ทำมันก็ไร้ค่าพอดีน่ะสิ!”

“น้าเมี๋ยวเธอต้องการคุณ พี่สะใภ้ทั้งสองต้องการคุณ คุณชายน้อยต้องการคุณ!คุณเป็นแบบนี้แล้วยังจะไม่รู้สึกผิดกับการเสียสละของคุณลุงหลี่กับพวกพ้องเหรอ?!”

เพื่อให้หลี่ฝางมีสติกลับมา ราฟาเอลเลยกัดฟัน ก่อนจะตบไปที่หน้าของเขา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท