NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1351 ผนึกอีกครั้ง

บทที่ 1351 ผนึกอีกครั้ง

ความเร็วของหลี่ต๋าคางนั้นคนธรรมดายากที่จะมองตามได้ทัน แต่สำหรับเทพอ้านนั้นกลับไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรเลย

เพียงแต่ถึงเขาจะเห็นเงาของหลี่ต๋าคาง แต่กลับรับการโจมตีของหลี่ต๋าคางเอาไว้ไม่ได้ เขาที่ถือว่าอยู่เหนือกว่านั้นก็เริ่มเสียเปรียบ เขายากที่จะหลบการโจมตีของหลี่ต๋าคางเสียด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการโจมตีกลับเลย

ทั้งสองไม่ได้ปะทะกันมากมาย หลี่ต๋าคางก็คุมเทพอ้านได้แล้ว เสื้อเกราะทองที่แตกไปแล้วในตอนแรกก็รวบรวมตัวอีกครั้ง ความแข็งแกร่งและความแข็งนั้นมันมากกว่าเมื่อก่อนมากกว่าเท่าหนึ่ง

ไม่ว่าเทพอ้านจะโจมตีอย่างไร ก็ไม่ได้ทำให้หลี่ต๋าคางบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

“เทพอ้าน คุณไม่ควรเลยแม้แต่น้อย ไม่ควรทำลายความคิดของลูกชายฉัน คุณบอกว่าคุณตายไปหลายพันปีแล้ว ยังไม่ยอมอะไรอีกงั้นเหรอ?คุณคิดจริงๆ เหรอว่าตอนนี้ยังเป็นยุคการปกครองของคุณอยู่น่ะ?”

หลี่ต๋าคางใช้มือหนึ่งบีบคอเทพอ้าน ก่อนจะมองเขาพลางพูดด้วยความยโส

เทพอ้านตาแดงเหมือนเลือด อยากจะดิ้นรนแต่ก็หลุดออกจากกรงเล็บเหล็กของหลี่ต๋าคางไม่ได้สักที

เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีทางกลับตัวได้แล้ว ในตาของเทพอ้านก็มีแววตาของความโหดร้ายเป็นประกายออกมา จากนั้นก็เห็นเพียงเขารวบรวมพลังแห่งการเขมือบกลืนเอาไว้ที่มือซ้ายทั้งหมด จากนั้นก็ฟาดลงไปที่หน้าอกของหลี่ฝางด้วยความเร็วสูงเป็นอย่างมาก

“เหอะๆ ถ้าฉันจะมีชีวิตต่อไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าลูกชายคุณจะมีชีวิตต่อไปได้!”

เทพอ้านส่งเสียด้วยความโกรธเคืองและไม่พอใจออกมาดังสนั่นฟ้า จากนั้นม่านตาของหลี่ต๋าคางก็เบิกโพลง

ไม่ได้การล่ะ!

เขานั้นอยากจะตายไปพร้อมกับหลี่ฝางงั้นเหรอ!

ท่าทีการฆ่าตัวตายแบบนี้ถ้าอยากจะเข้าไปหยุดนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ หลี่ต๋าคางก็ยังมีการตอบสนองตามสัญชาตญาณ

ตอนแรกกำลังจับคอของเทพอ้านก็ปล่อยออก จากนั้นก็ล้อมแขนซ้ายของเทพอ้านที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการเขมือบกลืนอย่างรวดเร็ว แถมยังฝืนใช้ตัวเองในการรับการโจมตีแทนหลี่ฝางอีกด้วย

เพราะนี่เป็นการโจมตีทั้งหมดของเทพอ้านแล้ว บวกกับระยะที่เข้าใกล้ขนาดนี้ แม้ว่าจะแข็งแกร่งอย่างหลี่ต๋าคาง เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บภายในไม่น้อยเลย

หลังจากที่ใช้กระบวนท่าไปขนาดนี้แล้ว เทพอ้านก็เหมือนจะไม่มีเรี่ยวแรงเพียงพออย่างเห็นได้ชัดแล้ว ดวงตาก็กลอกตาไปมาทีหนึ่ง หลังจากที่เห็นพวกคนที่นอนกองอยู่ที่พื้นแล้ว เขาก็คิดถึงวิธีหนึ่งขึ้นมาได้ทันที

ช่วงว่างตอนที่หลี่ต๋าคางยังไม่มีแรงฟื้นกลับมานั้น เทพอ้านก็ปล่อยพลังแห่งการเขมือบกลืนของตัวเองอีกครั้ง

ตอนแรกหลี่ต๋าคางคิดว่าเขาอยากจะโจมตีอีกครั้ง ตอนที่กำลังจะป้องกันนั้น แต่กลับพบว่าพลังแห่งการเขมือบกลืนเหล่านั้นมันฟาดลงกับพื้นทั้งหมด

“หยุดนะ!” ตอนที่หลี่ต๋าคางมองเห็นเงาของคนธรรมดาที่นอนอยู่ที่พื้นนั้น ก็เข้าใจสิ่งที่เทพอ้านคิดได้ในทันที

คนพวกนี้เป็นคนธรรมดาหมดเลยนี่หน่า!เมื่อพวกเขาถูกพลังแห่งการเขมือบกลืนเข้าก็ลอยขึ้นเหมือนควัน!

ดูแล้วเหมือนกับว่าเทพอ้านยอมทำอะไรเลวร้าย เพื่อการมีอยู่ของชีวิตเลยนะ

หลี่ต๋าคางไม่มีเวลาคิดเสียด้วยซ้ำ ก่อนจะเปิดเสื้อเกราะสีทองที่ห่อตัวเองอยู่ออก บนหัวของกลุ่มคนนั้นมีเกราะป้องกันขนาดใหญ่ขึ้น พวกคนธรรมดาเหล่านั้นก็ถูกปกป้องเอาไว้ด้านใน

ทั้งๆ ที่เขาเปิดเกราะป้องกันด้วยความรวดเร็วแล้ว แต่ก็ยังมีคนบางส่วนที่ถูกพลังแห่งการเขมือบกลืนของเทพอ้านดูดไป

แต่คนในนั้นรวมไปถึงนัยเหลียงที่เจ็บปวดเป็นอย่างมากแล้วก็ ‘อาซาโทส’ ที่ถูกหลี่ต๋าคางทำร้ายเจียนตายไปเมื่อก่อน

หลังจากที่ดูดพลังที่แข็งแกร่งขนาดนั้นแล้ว เทพอ้านที่ใกล้ตายแล้วในตอนแรกก็ยืนขึ้นอีกครั้ง ในขณะเดียวกันประตูเทพบนหัวเขาเองก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง

บรรยากาศมันเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมฆฝนบนท้องฟ้าก็มีพายุหมุนขนาดใหญ่เกิดขึ้น สายฟ้าสีทองก็ฟาดลงบนพื้น สายฟ้าใหญ่นั้นทำให้พื้นสั่นสะเทือน

หลี่ต๋าคางเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเทพอ้านจะทำให้ร่างกายของหลี่ฝางในตอนนี้มาโดนโทณฑ์จากสวรรค์!

“หยุดนะ!สายฟ้าฟาดทั้งเก้านั้นคุณรับไว้ไม่ได้หรอก!” หลี่ต๋าคางในตอนนั้นเองก็เริ่มร้อนรนใจ สายฟ้าฟาดนั้นเป็นสิ่งที่สะอาดบริสุทธิ์จากฟากฟ้า เทพอ้านในฐานะที่เป็นร่างของความน่ารังเกียจ คงจะต้องถูกสายฟ้าฟาดนี้ทำให้ร่างแหลกกระจายแน่นอน

“ฮ่าๆ มาสิ ใส่เข้ามาที่ตัวฉันให้หมดเลย!ของที่ฉันไม่ได้ พวกแกก็อย่าหวังว่าฉันจะได้เลย!”

แต่ว่าเทพอ้านกลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย แถมยังอ้าแขนทั้งสองข้างออกจากนั้นก็เอาตัวเองไปอยู่ใต้พายุหมุน พลางตะโกนเสียงดังใส่สายฟ้าฟาดที่กำลังเข้ามา

ความเป็นความตายของเทพอ้านนั้นหลี่ต๋าคางไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่จนปัญญานั้นคือการที่มันกำลังใช้ร่างกายของหลี่ฝางอยู่

หลี่ต๋าคางในฐานะที่เป็นพ่อจะทนเห็นลูกชายของตัวเองตายได้อย่างไรกัน?

บนใบหน้านั้นมีความมั่นใจเปล่งออกมา หลี่ต๋าคางตัดสินใจแล้ว เพียงแค่เขาวาร์ปเข้าไปข้างกายของเทพอ้าน จากนั้นก็ใช้มือทั้งสองข้างกอดตัวของหลี่ฝางเอาไว้ให้แน่น พลางใช้แรงทั้งหมดที่มีในการรวบรวมเกราะป้องกันสีทองที่เกือบสมบูรณ์ออกมาให้ได้

หลังจากที่รวมเกราะป้องกันสำเร็จแล้ว สายฟ้าฟาดอันแรกก็มาถึง จากนั้นก็มีสายที่สองสามสี่ตามมา……

“เหอะๆ ความสัมพันธ์พ่อลูกมันแน่นแฟ้นจริงๆ เลย!เพื่อปกป้องลูกชายของตัวเอง แกถึงกับยอมเสียการฝึกที่ทำมาถึงครึ่งหนึ่งในการรับสายฟ้าฟาดทั้งเก้าแทนเขาเลยงั้นสิ”

ร่างกายของหลี่ฝางในตอนนี้ยังถูกเทพอ้านยึดเอาไว้อยู่ เขามองหลี่ต๋าคางที่กอดหลี่ฝางเอาไว้ไม่ปล่อย ก่อนจะพูดด้วยความเหยียดหยามเป็นอย่างมาก

“หุบปาก!” หลี่ต๋าคางรู้สึกรับไม่ได้เป็นอย่างมาก ถึงแม้สายฟ้าฟาดจะฟาดลงบนเกราะป้องกัน แต่กลับเป็นหลี่ต๋าคางที่ใช้การฝึกถึงครึ่งในการแบกรับมันเอาไว้

ทุกครั้งที่สายฟ้าฟาดลงมา สีของเกราะป้องกันก็มืดลงไป สีหน้าของหลี่ต๋าคางเองก็ซีดลงไปมาก

หลังจากที่สายฟ้าที่แปดฟาดลงมาแล้ว เกราะป้องกันสีทองก็แทบจะมองทะลุได้แล้ว แววตาของหลี่ต๋าคางเองก็เปลี่ยนไปเป็นเฉื่อยชามากขึ้น แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ เขาก็ยังกัดฟันแน่นโดยไม่ปล่อยมือ

เพียงไม่นานสายฟ้าที่เก้าก็ฟาดลงมา ตอนที่มันฟาดลงมาบนเกราะป้องกันนั้น เกราะป้องกันก็แตกออกเป็นสะเก็ดดาว หลี่ต๋าคางเองก็ถึงกับอ้วกออกมาเป็นเลือด

ไม่ต้องสงสัยเลย สายฟ้าที่เก้าที่ฟาดลงมานั้นหลี่ต๋าคางรับต่อไปไม่ได้แล้ว

สายฟ้าฟาดยิ่งแรงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็หมายความว่าคนที่ฝึกจนมีพลังพิเศษนั้นยิ่งมีความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ สายฟ้าฟาดทั้งเก้าของหลี่ฝางนั้นหลี่ต๋าคางรับได้ถึงแปด นี่มันก็พิสูจน์ได้แล้ว ว่าหลี่ฝางนั้นจะแข็งแกร่งกว่าหลี่ต๋าคางเสียอีก

สายฟ้าสีทองนั้นจุดประกายบนตัวของหลี่ฝาง พลังแห่งการเขมือบกลืนที่ห่อหุ้มตัวของเขาอยู่นั้นกลายเป็นควัน ขนาดในร่างกายของเขาที่มีวิญญาณของเทพอ้านอยู่นั้นยังได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงเลย จากนั้นจึงร้องออกมาด้วยความครวญคราง

ทั้งๆ ที่หลี่ต๋าคางในตอนนี้เหนื่อยอ่อนมากแล้ว แต่เขาก็ยังพยายามใช้แรงที่มีในการกัดนิ้วชี้ของตัวเอง กระชากเสื้อผ้าของหลี่ฝางออก จากนั้นก็ใช้เลือดเขียนบนหน้าอกของเขา

“ไม่!ฉันไม่ยอม!” เมื่อเทพอ้านรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกผนึกอีกครั้งก็ดิ้นไม่หยุด เขาอยากจะหนีไป แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

หลังจากที่หลี่ต๋าคางวาดเส้นสุดท้ายเสร็จ ดวงตาของหลี่ฝางก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ เมฆฝนที่ปิดหนาอยู่ในตอนแรกค่อยๆ เปิดฟ้าสดใสออก ถ้าไม่ใช่ว่าที่พื้นมีสิ่งที่ดูโหดร้ายอยู่ หลี่ต๋าคางคงจะสงสัยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

หลังจากที่ผนึกเทพอ้านแล้ว หลี่ต๋าคางก็หมดแรงแล้วจริงๆ ร่างกายนั้นเอนลงสู่พื้นอย่างโอนเอน หลี่ฝางที่เพิ่งมีสติกลับมาก็บินลงมา ก่อนจะรับหลี่ต๋าคางที่ไม่ค่อยได้สติเอาไว้

“คุณพ่อ!คุณเป็นอย่างไรบ้าง?อดทนหน่อยสิ!” หลี่ฝางมองหลี่ต๋าคางที่สีหน้าซีดเซียว พลางก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ

เขาทำตามที่นัยเหลียงสั่งคือการเอายาปรุงนั้นฉีดใส่ตัวเอง จากนั้นเทพอ้านที่ถูกผนึกแล้วก็ถูกปล่อยออกมา ส่วนจิตวิญญาณของหลี่ฝางนั้นก็ถูกบีบอัดให้เข้าไปอยู่ในมุมเล็กๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะความมีสติของหลี่ฝางนั้นแข็งแกร่ง เขาคงจะหายไปจากโลกนี้แล้วจริงๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท