NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1358 โชคชะตาที่ไม่เชื่อ

บทที่ 1358 โชคชะตาที่ไม่เชื่อ

“นี่……เฮ้อ……” หลี่ฝางมองเงาของพวกเขาทั้งสอง ก่อนจะยิ้มพลางส่ายหัวอย่างจนปัญญา

ดูเหมือนตำแหน่งในครอบครัวของตัวเองนั้นมันจะต่ำลงเรื่อยๆ แต่ในตอนนี้หญิงทั้งสองคนไม่ได้สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ

ราฟาเอลที่อยู่ข้างๆ นั้นมองถูกฉินวี่เฟยกับหยางฉงที่เย็นชาใส่หลี่ฝาง ก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น อยากจะหัวเราะแต่ก็ไม่กล้า

“ไอ้บ้า อยากหัวเราะก็หัวเราะเลย!” หลี่ฝางมองราฟาเอลที่พยายามกลั้นขำก่อนจะกลอกตา หลังจากพูดจบก็รีบตามฉินวี่เฟยกับหยางฉงไป

ในฐานะที่เขาเป็นพ่อแน่นอนว่าต้องนึกถึงเสี่ยวผิงอันเหมือนกัน ตอนนี้เข้าไปเยี่ยมได้แล้ว หลี่ฝางเลยเดินเร็วขึ้นเล็กน้อย

“ลูกน้อย แม่กับแม่เลี้ยงมาหาแล้วนะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?ลูกนี่จริงๆ เลยนะ แม่ตกใจเพราะคุณจะแย่แล้ว”

หยางฉงอุ้มเสี่ยวผิงอันมาจากตะกร้าใส่ทารกอย่างระวัง จากนั้นก็เหมือนจะพูดอะไรไม่ค่อยออก

เด็กคนนี้รับรู้ความเสียใจของผู้ใหญ่ได้ เสี่ยวผิงอันร้องแงๆ อย่างไร้เดียงสา เขาที่ไม่ได้เจอแม่ทั้งคืนเลยร้องเล่นอยู่ในอ้อมกอดของหยางฉงอย่างสุขใจ

“เอาล่ะ ผิงอันฟื้นแล้วก็เป็นเรื่องที่ดี คุณควรจะยิ้มถึงจะถูก” หลี่ฝางโอบไหล่ของหยางฉงด้วยความรัก จากนั้นก็ใช้นิ้วแกล้งเสี่ยวผิงอันพลางปลอบใจ

“หลี่ฝางพูดถูก ผิงอันของพวกเรานั้นไม่ตายง่ายๆ คุณไม่ต้องรู้สึกแย่ไปหรอก”

ฉินวี่เฟยเองก็ปลอบอยู่ข้างๆ

หลังจากที่หยางฉงได้ฟังคำของพวกเขาทั้งสองแล้ว ก็สูดหายใจ พลางพยักหน้าเบาๆ

ในตอนนั้นเอง เงาที่คุ้นเคยก็ปรากฏต่อหน้าหลี่ฝางในตอนนี้ เมื่อหลี่ฝางเห็น ก็ขมวดคิ้วเบาๆ

“วี่เฟย เสี่ยวฉง พวกคุณพาลูกน้อยกลับไปที่ห้องก่อนเถอะ” หลี่ฝางมองท่านผู้อาวุโสกับหลี่ฮุยที่เดินมาหาตัวเอง ก่อนจะพูดกับพวกฉินวี่เฟย

หลังจากที่ฉินวี่เฟยกับหยางฉงเห็นท่านผู้อาวุโสกับหลี่ฮุยแล้ว ก็อุ้มเสี่ยวผิงอันกลับไปอย่างรู้ตัวเอง พวกเขารู้ว่า หลี่ฝางกับพวกท่านผู้อาวุโสนั้นมีเรื่องที่ต้องคุยอย่างแน่นอน

“ท่านผู้อาวุโส ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” หลี่ฝางยื่นมือซ้ายออกไปหาท่านผู้อาวุโสอย่างมีมารยาท ก่อนจะทักทายเขา

ท่านผู้อาวุโสมองหลี่ฝางพลางถอนหายใจ ถึงแม้สีหน้าจะไม่ได้ดีมาก แต่ก็ยังยื่นมือมาจับมือของหลี่ฝางที่ยื่นมาหาตัวเอง

“เฮ้อ ครั้งนี้พวกคุณนี่เกิดเรื่องใหญ่จริงๆ นะ”

แม้การต่อสู้ของหลี่ต๋าคางกับหลี่ฝางจะผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว แต่ในเวลานั้นเอง คลิปการสู้ของพวกเขามันปลิวว่อนไปทั่วอินเทอร์เน็ตเลย

เรื่องนี้มันทำให้ทุกคนแตกตื่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทางญี่ปุ่น พวกคนเบื้องบนนั้นออกหน้าใช้อำนาจกดขี่ต้าเซี่ยหลงเช่ว ให้พวกท่านผู้อาวุโสนั้นส่งหลี่ฝางออกมา

ท่านผู้อาวุโสเองก็ถูกบังคับจนไร้หนทาง เลยทำให้หลี่ฮุยมาที่ญี่ปุ่นเพื่อหาหลี่ฝาง

“ท่านผู้อาวุโส เรื่องของพ่อฉันน่ะคุณรู้มาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?” ถึงแม้หลี่ฝางจะเพิ่งฟื้นมาได้ไม่นาน แต่มีบางเรื่องที่เขานั้นรู้แจ้งในใจ

หลี่ต๋าคางกับต้าเซี่ยหลงเช่วนั้นมีการนัดแนะอะไรกันแน่นอน ไม่อย่างนั้นองค์กรต้าเซี่ยหลงเช่วนี้คงไม่ปกป้องตระกูลหลี่แบบนี้แน่นอน

หลังจากที่ท่านผู้อาวุโสได้ฟังคำของหลี่ฝางแล้ว แววตาก็เป็นประกาย เหมือนจะไม่ได้อยากตอบคำถามนี้มาก แต่สุดท้าย ใต้การสังเกตของหลี่ฝางนั้น เขาก็ยอมบอกเรื่องทั้งหมดออกมา

“ฉันกับพ่อของคุณน่ะเรื่องมันยาว ตอนที่พ่อคุณเพิ่งได้รับความสำเร็จนั้นเราก็ได้รู้จักกันแล้ว ฉันในตอนนั้นยังไม่ได้มีตำแหน่งท่านผู้อาวุโส เป็นเพียงแค่นักโบราณคดีของประเทศเท่านั้น”

“หลังจากนั้นคนเบื้องบนคิดว่านักรบของประเทศจีนนั้นจัดการควบคุมยากมากขึ้นเรื่อยๆ เลยอยากให้มีแผนกการควบคุมนักรบ ซึ่งมันก็คือต้าเซี่ยหลงเช่วในตอนนี้นั่นเอง ตอนนั้น ที่ต้าเซี่ยหลงเช่วเพิ่งจะสร้างขึ้นมา แทบจะไม่มีนักรบคนไหนยอมรับการมีอยู่ของมันเลย”

“แต่พวกเราที่เป็นคนริเริ่มก็ไม่ได้มีพละกำลังมากมาย ไม่มีทางคุมพวกตระกูลนักรบได้แน่นอน แถมพวกเขายังมาหาเรื่องเองขนาดนี้ ให้พวกเราลงนามรบ ตอนนั้นนักรบของต้าเซี่ยหลงเช่วที่มีพละกำลังแข็งแกร่งที่สุดก็แค่แดนสุดของกำลังภายในเท่านั้น ไม่มีทางไปเทียบกับพวกตระกูลนักรบได้เลย”

“เมื่อเห็นต้าเซี่ยหลงเช่วที่สร้างมาอย่างยากลำบากกำลังจะถูกคนอื่นทำให้แตกสลาย พ่อคุณก็ออกโรง มาสู้กับตระกูลนักรบทั้งสิบห้าเพียงคนเดียว ก่อนจะเหยียบลูกน้องที่โดดเด่นมากที่สุดของพวกเขาให้จม จากนั้นจึงปกป้องต้าเซี่ยหลงเช่วเอาไว้ได้”

“พูดอย่างไม่เกินความจริงเลยนะ หลี่ต๋าคางเป็นที่พึ่งพาของต้าเซี่ยหลงเช่วเลยล่ะ ถ้าไม่ใช่เขา ก็คงจะไม่มีต้าเซี่ยหลงเช่วในวันนี้ ตามหลักแล้ว จริงๆ ตำแหน่งท่านผู้อาวุโสนี้ควรจะเป็นของพ่อคุณ แต่ว่าพ่อคุณเขาไม่มีความคิดนี้อยู่เลย แถมตอนนั้นยังเข้าใกล้แดนเทพแล้วด้วย”

“เพื่อตอบแทนการที่ความดีที่เขามีต่อต้าเซี่ยหลงเช่ว พวกเราเลยสัญญาว่าจะปกป้องตระกูลหลี่ ปกป้องคุณให้ดี หลังจากนั้นพ่อคุณก็ทะลุถึงแดนเทพ เพื่ออยู่บนโลกนี้กับคุณและแม่กับคุณ เขาเลยให้พวกเราผนึกบนตัวเขาเอาไว้”

“ผนึกนี้มันไม่เหมือนกับผนึกอื่นๆ ตรงที่นอกจากเขาเองจะเปิดออก ก็ไม่มีใครสามารถเปิดมันได้เลย เขาใช้วิธีนี้ เพื่ออยู่บนโลกนี้นานสิบกว่าปี”

“ก่อนที่จะพาเขามาญี่ปุ่น ฉันอยากให้เขาอยู่ต่อ แต่พ่อคุณดึงดันจะไป ฉันเองก็เลยต้องตามใจให้เขาไป”

หลังจากที่เข้าใจที่มาที่ไปของเรื่อง ใจของหลี่ฝางก็รู้สึกแย่จนพูดไม่ออก คิดไม่ถึงว่าหลี่ต๋าคางจะยอมแบกรับอะไรแบบนี้เอาไว้ เพื่อตัวเองกับแม่ขนาดนี้

“ท่านผู้อาวุโส พ่อฉันยังจะกลับมาได้ไหม?” ไม่ว่าอย่างไร หลี่ฝางก็อยากจะพาหลี่ต๋าคางกลับมาให้ได้ เพราะที่นี่เป็นที่ของเขา

“ไม่ได้แล้วล่ะ นักรบทุกคนเมื่อเข้าสู่เส้นทางการฝึกแล้ว ชีวิตของเขานั้นแยกกับคนธรรมดาไปแล้ว พวกเขาสามารถพูดได้ว่าจะกลับมาใช้กฎแบบโลกเดิมไม่ได้แล้ว เมื่อทะลุเข้าสู่แดนเทพแล้ว ก็ใช้พลังของแดนเทพ แล้วก็จะได้สิ่งที่อยากได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้”

“ดังนั้น เพื่อปกป้องสันติภาพและความปลอดภัยบนโลกนี้ นักรบทุกคนหลังจากที่ทะลุสู่แดนเทพแล้ว ก็จะถูกพาไปที่อีกโลกหนึ่ง ในโลกด้านนั้น ก็จะมีระดับที่ไม่เหมือนกันอีก ส่วนแดนเทพที่อยู่ในโลกนั้น ก็เหมือนกับเป็นคนธรรมดาในโลกของพวกเรา”

เมื่อได้ยินคำนี้ทำให้หลี่ฝางหนักใจ เขาพบว่าตามพละกำลังที่เพิ่มขึ้นของตัวเองนั้น สิ่งที่สัมผัสได้นั้นมันจะซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย แล้วไม่รู้ด้วยว่าบนแดนเทพนั้นยังมีแดนที่สูงกว่าอยู่ด้วย

“ท่านผู้อาวุโส ฉันไม่ใช่คนที่จะเชื่อในโชคชะตาอะไรหรอกนะ กฎมันมีเอาไว้แหกทั้งนั้นล่ะ ก่อนหน้านี้ไม่มีใครสามารถออกมาจากแดนของโลกนั้นได้ ไม่ได้หมายความว่าหลังจากนี้จะไม่มีใครสามารถออกมาได้สักหน่อย ไม่ว่าอย่างไรฉันก็จะพาพ่อฉันกลับมาที่โลกนี้ แม่ของฉันยังรอเขาอยู่เลย”

หลี่ฝางกัดฟัน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองท่านผู้อาวุโสด้วยแววตาพูด

ท่านผู้อาวุโสสบตากับหลี่ฝาง ก่อนจะตกใจเพราะท่าทีมั่นอกมั่นใจของเขา เขามีชีวิตมานานขนาดนี้ เจอคนมามากมาย แล้วก็เคยได้เจอคนที่โอ้อวดเย่อหยิ่งไม่น้อย แต่คนอย่างหลี่ฝางนั้น ทำให้เขาคิดว่าเหมาะที่จะเรียกได้ว่าหยิ่งยโสอย่างเต็มตัว

เรื่องที่หลี่ต๋าคางถูกพาตัวไป ท่านผู้อาวุโสยังไม่ได้บอกเมี๋ยวชุ่ย แถมยังปิดข่าวทุกอย่างของหลี่ต๋าคางกับหลี่ฝางอีกด้วย เขากลัวว่าถ้าเมี๋ยวชุ่ยรู้ว่าหลี่ต๋าคางถูกพาตัวไปแล้วจะรับไม่ได้

เขาให้คำมั่นกับหลี่ต๋าคางเอาไว้แล้ว แล้วจะไม่มีทางให้เกิดอะไรขึ้นกับเมี๋ยวชุ่ยอีก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน