การที่อยากจะให้เขาเข้าไปในจวนของท่านนายพลนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จะพูดให้ถูก ก็คือหลี่ฝางเองก็ไม่ใช่คนที่จะรับคำขู่ได้ ถ้าเขาอยากได้ผลแก้วม่วงจริงๆ คนของราชวงศ์เองก็ไม่มีทางห้ามได้หรอก
“ท่านหลี่ ฉันยอมรับว่าพละกำลังของคุณในตอนนี้ไม่มีใครสู้ได้จริงๆ แต่จะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาเองก็มีจุดอ่อน คุณมั่นใจเหรอว่าจะเอากำลังของคุณคนเดียวมาสู้กับประเทศนี้น่ะ?”
ยิ่งหลี่ฝางไม่ยอมกำราบต่อตัวเองเท่าไหร่ ท่านนายพลหญิงยิ่งอยากเอาชนะเขา อันที่จริงเธอไม่ได้ชอบหลี่ฝางเท่าไหร่ แต่อยากควบคุมให้ได้มากกว่า
เธอนั้นเป็นถึงท่านนายพลหญิงที่มีคนนับหน้าถือตามากมายในญี่ปุ่น ก็ต้องอยากคู่กับชายที่แข็งแกร่ง และเก่งกาจมากที่สุดเป็นธรรมดา ซึ่งหลี่ฝางนั้น เป็นคนที่เธอคิดว่าเหมาะสมมากที่สุดในตอนนี้
“หลี่ฝาง อย่าได้มีเรื่องกับผู้หญิงคนนี้เลย อิทธิพลของเธอในญี่ปุ่นไม่ธรรมดาเลยล่ะ”
ท่านผู้อาวุโสดึงเสื้อของหลี่ฝาง ก่อนจะเข้ามาแตะ พลางเตือนเบาๆ
ถึงแม้ท่านนายพลหญิงคนนี้จะเรียกร้องมากเกินไป แต่สถานการณ์ในตอนนี้หลี่ฝางเองก็ไม่สามารถขัดใจเธอได้
เดิมทีราชวงศ์ของญี่ปุ่นนั้นกดดันทางพวกเขามาตลอด และต้องการคนจากต้าเซี่ยหลงเช่ว ถ้าเกิดหลี่ฝางมีเรื่องหรือไปขัดใจท่านนายพลหญิงคนนี้ เรื่องมันก็จะยิ่งรุนแรงมากเข้าไปใหญ่ เดี๋ยวเมื่อถึงเวลานั้นแม้พวกท่านผู้อาวุโสจะพยายามปกป้องหลี่ฝาง แต่ก็อาจจะทำได้ยาก
“ถ้าไม่ขัดใจเธอแล้วจะให้ฉันทำอย่างไร?ฉันไม่มีทางเข้าไปในจวนของท่านนายพล เพื่อเป็นคู่ครองของท่านนายพลได้หรอกนะ”
หลี่ฝางไม่เข้าใจว่าท่านผู้อาวุโสหมายความว่าอย่างไร ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดว่าเขาจะอยากมีเรื่องหรือเปล่า มันชัดเจนเลยว่าท่านนายพลหญิงคนนี้กำลังบังคับให้จนมุม
ถึงอย่างไรเขาก็ต้องขัดใจอยู่ดี
“คุณโง่เหรอ พวกเราแกล้งทำเป็นตอบตกลงได้ เดี๋ยวพอได้ของแล้ว พละกำลังของคุณน่ะ คุณคิดว่าจะจัดการท่านนายพลหญิงคนนี้ไม่ได้เหรอ?”
ท่านผู้อาวุโสกดเสียงลงต่ำ แถมยังพูดกับหลี่ฝางด้วยสำเนียงเมืองตงไห่
ท่านนายพลหญิงมองพวกเขาสองคนที่อยู่ข้างๆ กันพึมพำ ก็มีท่าทีไม่เข้าใจ
“หลี่ฝาง คุณคิดดีแล้วหรือยัง?”
เห็นได้ชัดเลย ว่าท่านนายพลหญิงสงสัยในสิ่งที่หลี่ฝางกับท่านผู้อาวุโสคุยกันเป็นอย่างมาก แต่การเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กนั้นทำให้เธอกดความใครรู้เอาไว้ในใจ พลางถามต่อด้วยความเย่อหยิ่งอย่างเสแสร้ง
หลี่ฝางขมวดคิ้วลังเลสักพัก หลังจากที่ชั่งน้ำหนักทั้งสองทางแล้ว ก็มีคำตอบขึ้นมาในใจ
เขาเงยหน้ามองท่านนายพลหญิงพลางพูด “แต่งเข้าไปในจวนของท่านนายพลของคุณ แล้วเป็นคู่ครองของท่านนายพลเองก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะ แต่ว่า ก่อนที่ฉันจะเข้าไปในจวนของท่านนายพลนั้น คุณต้องรับรองก่อนว่าพวกภรรยาของฉันจะได้กลับไปที่ประเทศจีนอย่างปลอดภัย แล้วคุณก็ห้ามมารบกวนอะไรพวกเขาทั้งสิ้น”
“ในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องเอาผลแก้วม่วงมาให้ฉัน เพียงแค่ทำสองอย่างนี้ได้ ฉันก็ยินยอมที่จะเป็นคู่ครองของท่านนายพลของคุณ”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลี่ฝางแล้ว ใบหน้าของชายกล้ามโตที่อยู่ข้างๆ ก็เปลี่ยนไปในทันที จากนั้นก็มองหลี่ฝางด้วยแววตาร้ายกาจ จนแทบจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัวเลยล่ะ
เมื่อท่านนายพลหญิงได้ยินดังนั้นก็ปิดปากหัวเราะออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปข้างหน้าสองก้าว จากนั้นก็จับแขนของหลี่ฝางเอง
“ไม่มีปัญหา เพียงแค่คุณยอมมาเป็นคู่ครองของท่านนายพลของฉัน ฉันก็ตกลงทุกข้อเรียกร้องของคุณได้ทั้งนั้น”
ถึงแม้หลี่ฝางจะตอบรับว่าจะเป็นคู่ครองของท่านนายพลของเธอ แต่ในใจกลับปฏิเสธเด็ดขาดก่อนจะเอาแขนของตัวเองออกจากท่านนายพลหญิงด้วยแววตาที่เย็นชาไม่ไหวติง พลางพูดอย่างเยือกเย็น
“ในเมื่อท่านนายพลตกลงแล้ว งั้นก็ให้เวลาฉันหน่อย ให้ฉันได้ไปบอกลาลูกและภรรยาของฉันสักหน่อยนะ”
ถึงแม้ท่านนายพลหญิงจะไม่ชอบพวกฉินวี่เฟยกับหยางฉงเป็นอย่างมาก แต่เพื่อให้หลี่ฝางอยู่ต่อ หลังจากที่เธอคิดอย่างจริงจังแล้ว เลยตอบตกลงสิ่งที่หลี่ฝางขอ
“ฉันให้เวลาคุณชั่วโมงหนึ่งนะ ให้คุณได้บอกลากับพวกเขา หลังจากนี้หนึ่งชั่วโมง คนของฉันจะไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับคุณ”
“ขอบคุณท่านนายพล ข้าน้อยหลี่ขอตัวก่อน” หลังจากที่เขาพูดแล้ว หลี่ฝางก็ทำความเคารพโดยการกำหมัดขึ้น จากนั้นก็หันตัวเดินออกไปจากประตูใหญ่ของจวนของท่านนายพล
“หลี่ฝาง คุณมั่นใจเหรอว่าจะอยู่ที่จวนของท่านนายพลคนเดียว?” จริงๆ ท่านผู้อาวุโสนั้นอยากให้หลี่ฝางพาลูกน้องหลายคนไปจวนของท่านนายพลด้วย แต่ว่าหลี่ฝางกลับแสดงออกว่าไม่ต้องการ
หลี่ฝางพยักหน้า ด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“เรื่องของฉันกับท่านนายพลหญิงน่ะหวังว่าท่านผู้อาวุโสจะปิดเป็นความลับให้นะ เรื่องนี้ฉันไม่อยากให้ใครนอกจากพวกเรารู้ โดยเฉพาะวี่เฟยกับเสี่ยวฉง ฉันกลัวว่าพวกเขาจะคิดมาก”
พละกำลังของหลี่ฝางในตอนนี้เรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบได้แล้ว มีคนข้างกายมากมายก็มีแต่จะเป็นภาระของเขา
เมื่อได้ผลแก้วม่วงมาอยู่ในมือ เขาเองก็สามารถหลุดออกมาได้เองได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้เขาเป็นห่วงฉินวี่เฟยกับหยางฉงแล้วก็ความปลอดภัยของเสี่ยวผิงอัน ถึงแม้ท่านนายพลหญิงคนนี้จะสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำให้พวกเธอลำบาก แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอจะไม่ทำอย่างที่พูดหรือเปล่า ดังนั้นเลยให้พวกราฟาเอลอยู่ข้างกายฉินวี่เฟยกับหยางฉงจะได้วางใจได้สักหน่อย
“วางใจได้ ฉันไม่มีทางบอกพวกเขา” ท่านผู้อาวุโสเองก็รู้เหตุผลนี้อยู่แล้ว ถึงแม้หลี่ฝางกับท่านนายพลหญิงนั้นจะเป็นเพียงการเล่นละครตบตาเท่านั้น แต่ถ้าพวกฉินวี่เฟยรู้เข้า ก็ต้องไม่สบายใจไม่มากก็น้อย
“อือ ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด พวกวี่เฟยนั้นฉันต้องฝากเอาไว้ที่ท่านผู้อาวุโสก่อนนะ ขอให้คุณช่วยปกป้องพวกเธอให้ดี”
ตอนนี้ส้าวส้วยกับกู่ยี่เทียนนั้นไปทุกที่บนโลกเพื่อหาส่วนผสมปรุงยาแทนเขาแล้ว คนที่หลี่ฝางเชื่อได้นั้นก็เหลือเพียงท่านผู้อาวุโสแล้ว
ตอนนี้แดนนักรบมันวุ่นวายไปหมดเป็นอย่างมาก เขานั้นไม่วางใจให้พวกฉินวี่เฟยอยู่ในประเทศคนเดียวเลย
“ฉันจะจัดการให้เรียบร้อย ถึงครั้งนี้ฉันตายไป ฉันก็จะไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับพวกฉินวี่เฟย”
เรื่องก่อนหน้านั้นหลายครั้งทำให้ท่านผู้อาวุโสรู้สึกผิดมากแล้ว พวกหลี่ฝางยังกำชับให้เขาดูแลคของตระกูลหลี่ให้ดี แต่พวกเขากลับได้รับบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่าภายใต้การดูแลของเขา
เรื่องที่ถูกลูบคมแย่ๆ แบบนี้ ท่านผู้อาวุโสไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว
เพียงไม่นาน พวกหลี่ฝางกลับเข้ามาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง หลังจากที่พวกฉินวี่เฟยได้ยินว่าหลี่ฝางจะให้พวกเขากลับประเทศไปก่อน ก็แสดงความไม่ยินยอมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหยางฉง ไม่ว่าหลี่ฝางจะพูดว่าอะไร เธอก็จะอยู่กับหลี่ฝางต่อที่ญี่ปุ่น
“เสี่ยวฉง คุณฟังฉันนะ” หลี่ฝางมองหยางฉงที่จับแขนของตัวเองไม่ปล่อย ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
“คุณต้องรู้นะ ว่าพวกคุณกับลูกน้อยนั้นเป็นคนที่สำคัญกับฉัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณ ใจฉันคงจะต้องแตกสลายไปแน่ๆ คุณเชื่อฟังเถอะ แล้วก็พาลูกน้อยกลับประเทศไปก่อน”
“ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ต่างประเทศ มีเรื่องมากมายที่ทำไม่ถนัด แถมคนนอกไม่มีทางสู้เจ้าถิ่นได้อยู่แล้ว ฉันไม่วางใจให้พวกคุณมาอยู่กับฉันที่ญี่ปุ่น”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของหลี่ฝางแล้ว ท่าทีของหยางฉงก็หมั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด ในขณะเดียวกันฉินวี่เฟยเองก็โน้มน้าวอยู่ข้างๆ
“นั่นสิ เสี่ยวฉง ฉันกับคุณเป็นแค่คนธรรมดา ผิงอันเองก็ยังเล็ก ถึงพวกเราจะอยู่ที่นี่ ก็มีแต่จะเป็นภาระให้หลี่ฝาง ดังนั้นพวกเรากลับกันไปก่อนเถอะ วางใจเถอะ กำลังของหลี่ฝางในตอนนี้ เขาจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”
สุดท้าย หยางฉงก็ยอมให้ ก่อนจะปล่อยแขนของหลี่ฝางออกอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ในดวงตานั้นก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วงและรักใคร่
“พี่หลี่ฝาง คุณจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ ฉันกับลูกน้อยจะรอคุณอยู่ที่บ้าน”
ตอนแรกหลี่ฝางก็ไม่ได้เสียดายอะไรมากนัก แต่เมื่อได้เห็นหน้าท่าทางของหยางฉงแบบนี้แล้ว ในใจก็เกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้นมา ก่อนจะยื่นมือออกมาลูบผมของหยางฉง พลางพูดด้วยใบหน้าอ่อนโยน
“ยัยเด็กโง่ ดูแลตัวเองกับลูกน้อยให้ดี ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน เชื่อฟังนะ รู้ไหม?”
“วางใจเถอะ พวกเราจะดูแลตัวเองให้ดี คุณอยู่ข้างนอกคนเดียวทำอะไรก็ระวังด้วย อย่ารีบร้อนเกินไป”
เมื่อเทียบกับหยางฉง ฉินวี่เฟยใจเย็นกว่ามาก ก่อนจะโอบหยางฉงที่น้ำตาคลอเบ้า พลางพยักหน้าให้หลี่ฝาง เพื่อให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงตัวเอง