NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1364 เคโกะ อิชิมะ

บทที่ 1364 เคโกะ อิชิมะ

“คุณพูดต่อ” ท่านนายพลหญิงไม่เคยเจอผู้ชายอย่างหลี่ฝาง ในใจของเธอนั้นสงสัยหลี่ฝางเป็นอย่างมาก ไม่ว่าหลี่ฝางจะพูดอะไร เขาก็อยากจะฟังสักหน่อย

หลี่ฝางมองท่านนายพลหญิงเล็กน้อย เพราะรู้ว่าปลาติดเบ็ดแล้ว ก่อนจะมีแผนเป็นประกายมาจากแววตา

“ฉันรู้ว่าในฐานะที่เป็นท่านนายพลหญิงของญี่ปุ่น สิ่งที่ไม่ขาดเลยก็คือผู้ชาย ฉันเองก็รู้ว่าคุณแต่สนใจในตัวฉันเพียงตอนแรกเท่านั้น เดี๋ยวพอความสดใหม่ในใจมันหมดไป ฉันก็จะเหมือนกับชายเมื่อครู่ ที่ถูกคุณเตะทิ้งไปเท่านั้น”

“ไม่……” หลังจากที่ท่านนายพลหญิงได้ยินคำพูดของหลี่ฝางแล้ว ก็อยากจะแย้งออกไปในทันที แต่เมื่อจะพูดออกไป ก็ถูกหลี่ฝางตัดบทไปก่อน

“คุณอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ คุณฟังฉันพูดให้จบก่อน” หลี่ฝางใช้นิ้วปิดปากของท่านนายพลหญิง เพื่อตั้งใจให้บรรยากาศมันคลุมเครือขึ้นมา

เมื่อเห็นหลี่ฝางเข้าใกล้ตัวเอง ท่านนายพลหญิงก็อดไม่ได้ที่จะทำให้ทั้งคู่เข้าใกล้กันมากขึ้น แต่ท่าทีที่เธอทำเมื่อครู่ หลี่ฝางเลยกลับไปที่ของตัวเองเหมือนเดิม

ท่าทีที่ปฏิเสธแต่ก็ยังรับอยู่แบบนี้ ทำให้ท่านนายพลหญิงยิ่งอยากได้แล้วล่ะ เขามองแววตาของหลี่ฝางอย่างร้อนรุ่ม ในใจก็เหมือนถูกแมวตะครุบ มันยากจะทนเหลือเกิน

“คนนั้นเขาอยู่กับคุณมาเจ็ดปี คุณทิ้งเขาไปอย่างไร้เยื่อใยแบบนั้น ก็พอจะบอกได้ว่า คุณไม่เคยใจสั่นไหวกับชายคนไหนมาก่อน เงินทองนั้นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคุณ ฉันว่าในใจของท่านนายพลน่าจะต้องการความรักมากกว่าใช่ไหม?”

“คุณมีตำแหน่งและตัวตนที่สูงศักดิ์ แต่คุณเองก็เหงาใจ คุณจะแข็งแกร่งมากเพียงใด คุณเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ต้องการได้รับความรักที่จริงใจ ส่วนฉัน อยากจะลองดูสักครั้ง ที่จะชนะใจของหญิงที่สูงศักดิ์อย่างคุณ”

เมื่อได้ยินคำว่าชนะใจนี้ ท่านนายพลหญิงก็ใจสั่น ตั้งแต่เล็กจนโต มีแต่เธอชนะและควบคุมคนอื่น ไม่เคยมีใครสามารถมาชนะเธอได้เลย

แถมคำพูดของหลี่ฝางนั้นมันเข้าไปสู่กลางใจลึกๆ ของท่านนายพลหญิง มันทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองในตอนนี้ไม่มีความลับและสิ่งที่ปกปิดต่อหน้าหลี่ฝางเลย

“เหอะๆ ความทะเยอทะยานของคุณไม่น้อยเลยนะ คุณมั่นใจมาก ว่าจะควบคุมใจของฉันได้งั้นเหรอ?”

ท่านนายพลหญิงพิงพนักพิงที่นั่งด้านหลังอย่างเกียจคร้าน แววตานั้นมืดมัวไม่ชัดเจน หลี่ฝางเองก็เดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไร

หลังจากที่คิดอยู่สักพัก ก็มีรอยยิ้มที่มั่นใจออกมา ก่อนจะรีบพลิกตัวขึ้นมา พลางเอาท่านนายพลหญิงนั้นมากดทับบนเรือนร่างของตัวเอง

“จะทำได้ไหมนั้น แค่ลองก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?ฉันสามารถทำให้คุณทิ้งชายที่ปรนนิบัติข้างกายคุณมา7ปีได้ นั่นก็หมายความว่าฉันนั้นค่อนข้างพิเศษสำหรับคุณพอสมควรเลยล่ะ”

เมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มาจากกายของหลี่ฝาง ใจของท่านนายพลหญิงก็เต้นรัว ใบหน้าก็แดงระเรื่อขึ้นมา

ความรู้สึกแปลกนี้เธอไม่เคยมีมาก่อน เลยร้อนรนใจอย่างประหลาด ก่อนจะขยับหัวเบาๆ พลางไม่กล้าสบตาหลี่ฝางตรงๆ

“งั้นคุณก็ลองดู” ทั้งๆ ที่ตอนนี้ใจของท่านนายพลหญิงลุกลี้ลุกลนเป็นอย่างมาก แต่ใบหน้าของเธอก็ทำเหมือนไม่ตื่นตกใจอะไร ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เขาเองก็เป็นท่านนายพลหญิงของญี่ปุ่น จะแพ้ด้านอำนาจไม่ได้เลย

“งั้นพวกเราก็จับตาดูก็แล้วกัน ใจกับกายของคุณ ฉันจองแล้วนะ” หลี่ฝางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอาปากเข้ามาใกล้หูของท่านนายพล พลางยิ้มแล้วพูดขึ้น

เขาที่มีภรรยาถึงสองคนแล้วเข้าใจจุดที่ผู้หญิงจะอ่อนไหวเป็นอย่างมาก ท่าทีนี้มันต้องทำให้ท่านนายพลหญิงใจสั่นแน่นอน

เป็นไปตามคาด หลังจากที่เขาพูดออกไปแล้ว ลมหายใจของท่านนายพลหญิงก็เร็วขึ้น ร่างกายของเธอโค้งเบาๆ แววตานั้นมีความต้องการ เหมือนกับกำลังตั้งตารอการกระทำต่อไปของหลี่ฝาง

แต่ยิ่งเป็นในตอนนี้ ยิ่งห้ามใจร้อน หลี่ฝางยิ้มอย่างร้ายกาจ จากนั้นก็กลับไปนั่งที่นั่งเดิมของตัวเอง นั่งตัวตรง เหมือนกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น

ท่านนายพลหญิงที่นอนอยู่เบาะหลังนั้นอึ้งเป็นอย่างมาก ผ่านไปสักพักถึงจะมีสติกลับมา ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งจากเบาะหลัง พลางมองหลี่ฝางด้วยความโศกเล็กน้อย

“คุณหมายความว่าอย่างไร?หรือว่าไม่อยากได้ฉันไปงั้นเหรอ?”

เมื่อจ้องหลี่ฝางอยู่นาน ท่านนายพลหญิงก็แทบจะกัดฟันถาม

เธอไม่เคยอยู่ในจุดที่นั่งลำบาก แล้วก็ไม่เคยต้องการร่างกายของชายคนไหนมากขนาดนี้เลย

เธออายุ14ปีก็เปิดโลกกว้างแล้วมีชายแบบไหนบ้างที่ไม่เคยได้?มีใครบ้างที่ไม่ได้มายั่วยวนเธอ และปรี่เข้ามาหาเรือนร่างของเธอ

มีเพียงหลี่ฝางคนเดียวเท่านั้น ที่เล่นกับตัวเองแบบนี้

“ท่านนายพล คนอย่างฉันหัวโบราณมาก แต่ก่อนที่คุณจะให้สินสมรสนั้น ฉันไม่มีทางเกิดอะไรที่เกินเลยกับคุณ อีกอย่าง ฉันไม่อยากทำร้ายท่านนายพลคุณ”

หลี่ฝางขยับตัวนั่งให้ดี ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง

คำพูดคำสุดท้ายของเขาทำให้ท่านนายพลหญิงชะงักไป อารมณ์บนใบหน้าเองก็นิ่งไปเหมือนกัน

ไม่เคยมีใครพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ตั้งแต่เธอโตมา พ่อของเธอก็เอาลูกสาวไปแลกกับการสนับสนุนจากพวกคนในรัฐบาล เพื่อความมั่นคงในอำนาจ

ไม่เคยมีใครพูดมาก่อน ว่าไม่อยากทำร้ายเธอแบบนี้

เพียงคำพูดง่ายๆ ทำให้ใจของท่านนายพลหญิงนั้นสั่นไหว ก่อนจะรู้สึกเจ็บขึ้นมาอยู่ลึกๆ

“ตามใจคุณเถอะ ฉันเหนื่อยแล้ว” เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียท่า ท่านนายพลหญิงเลยรีบปกปิดความรู้สึกของตัวเอง หลังจากที่รีบพูดคำนี้ออกมาก็หลับตาลง แกล้งทำเป็นหลับเท่านั้น

หลี่ฝางแอบมองท่านนายพลหญิงที่พิงอยู่ที่ที่นั่งด้านหลัง จากนั้นก็พบว่าขนตาของเธอขยับเบาๆ จากนั้นก็เห็นแสงรำไรเล็กน้อย

เขาอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว ท่านนายพลหญิงคนนี้ไม่ควรจะมาซึ้งใจจนร้องไห้เพราะคำพูดแบบนี้ของตัวเองใช่ไหม?

เมื่อคิดไป หลี่ฝางก็เข้าไปใกล้ท่านนายพลหญิง จากนั้นก็เอาหัวของเธอมาพิงที่ไหล่ของตัวเอง

ท่านนายพลหญิงลืมตาขึ้นตอนที่หลี่ฝางยื่นมือออกมาจับตัวเอง ก่อนจะมองเขาด้วยความสงสัย

“ซบฉันแล้วหลับจะสบายขึ้นหน่อยนะ” หลี่ฝางพูดอย่างที่ใจไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวอะไร

ที่เขาทำแบบนั้น ก็เพื่อให้ท่านนายพลหญิงรู้สึกซึ้งใจมากกว่าเดิมอีกหน่อยเท่านั้นเอง

ผู้หญิงน่ะ สนใจความละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะตอนที่ใจรู้สึกไม่ดี ยิ่งอยากได้ความเป็นห่วงและความรักใคร่

ตอนที่ให้ท่านนายพลหญิงนอนซบตัวเองนั้น ยิ่งได้แต้มต่ออย่างไม่ต้องสงสัย

เป็นไปตามคาด ท่านนายพลหญิงมองเขาด้วยแววตาที่อ่อนโยนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความอ่อนโยนนี้บางทีขนาดตัวท่านนายพลหญิงเองยังไม่ได้สังเกตถึงมันเลย

“ขอบคุณ” ท่านนายพลหญิงเอาหัวของตัวเองซบบนไหล่ของหลี่ฝาง ก่อนจะใช้เสียงที่ใส่ใจขอบคุณหลี่ฝาง

เมื่อได้กลิ่นบางๆ ของฮอร์โมนเพศชายจากกายของหลี่ฝาง ท่านนายพลหญิงคิดว่าใจของตัวเองมีอะไรที่ทำให้เต้นแรง ใจที่ถูกเปิดเป็นเวลานานก็เกิดรอยร้าวขึ้นมา

“คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าคุณชื่ออะไร” ถึงแม้ท่านนายพลหญิงจะกลับแต่ แต่หลี่ฝางรู้ว่าเธอไม่ได้หลับ เมื่อปรับท่าทางแล้ว ก็ถามออกมา

ท่านนายพลหญิงเงียบไปก่อนสักพัก จากนั้นถึงพูดออกมา “ฉันชื่อเคโกะ อิชิมะ”

ชื่อนี้ของผู้หญิงญี่ปุ่นมันน่าฟังเป็นอย่างมาก หลี่ฝางนั้นแอบพูดซ้ำในใจ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน