NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1390 ผอมแห้ง

บทที่ 1390 ผอมแห้ง

“ออกไป!แกกล้าแย่งของกับฉันงั้นเหรอ?ฉันตบแกตายได้ในทีเดียวแกเชื่อไหม!”

……

ยอมฝีมือทั้งสี่หอบเต็มไปด้วยของราคาแพง ทั้งลูกปัดหยก สร้อยทอง มงกุฎ ผ้าไหมสวยหรูเยอะแยะไปหมด พวกเขาแย่งกันเองยังพอ ถึงขนาดเรียกให้พวกลูกน้องหมารับใช้มาขนของมีค่าในห้องสมบัตินี้ไปด้วยกัน

หลี่ฝางมองดูความโลภของพวกเขา ด้วยสีหน้ารังเกียจ เดินเข้าไปหาผู้ชายผอมแห้งที่อยู่ใกล้ตนที่สุดคนหนึ่ง ตบไหล่เขาพลางถาม

“นี่ ผลแก้วม่วงอยู่ที่ไหน?”

ชายผอมแห้งคนนั้น กำลังแย่งหีบทองคำแท่งกับคนอื่นอยู่ เห็นว่ามีคนตบไหล่ตบ จึงสะบัดมือหลี่ฝางออกอย่างเหลืออด มีท่าทีอวดดีมากๆ

“หลบไป ไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังยุ่งอยู่?แม่งเอ้ย ทองคำแท่งหีบนี้ฉันเห็นก่อนเว้ย พวกแกห้ามแย่ง!”

ชายผอมแห้งตวาดใส่หลี่ฝางโดนไม่ได้หันมามองจบ ก็เข้าไปรุมแย่งหีบทองคำแท่งต่อ

เห็นเช่นนี้ หลี่ฝางเลิกคิ้วไปมา ออกแรงหักแขนชายผอมแห้งข้างหนึ่ง ชายผอมแห้งที่เดิมทียื้อแย่งหีบทองอยู่ก็ปล่อยมือทันที จนหีบทองอันหนักอึ้งหล่นทับหลังเท้าเขา

ทันใดนั้น ก็มีเสียงร้องครวญครางดังไปทั่วทั้งห้องสมบัติ ทำเอาหลี่ฝางแสบแก้วหู

เขาใช้นิ้วแคะหูด้วยความไม่พอใจ แล้วเข้าไปจับคางชายแผมแห้งในพริบตา แล้วบิดเบาๆจนคางเขาหักทันที

คนที่ถูกหักคางพวกเขาถึงกับพูดไม่ออก ทำได้เพียงส่งเสียงอึกๆด้วยสีหน้าเจ็บปวด

ไม่มีเสียงแสบแก้วหูแล้วหลี่ฝางจึงรู้สึกสบายหูไปไม่น้อย แล้วนั่งไขว่ห้างลงบนหีบใส่ทองคำแท่ง พลางมองชายผอมแห้งพวกเขาด้วยสีหน้าผ่อนคลาย

เดิมทีหีบทองก็หนักอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งบวกกับน้ำหนักตัวของหลี่ฝางเข้าไปอีก ชายผอมแห้งรู้สึกเหมือนเท้าตัวเองถูกบดขยี้จนกลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว

แต่เขาไม่กล้าร้องออกมา ทำได้เพียงกล้ำกลืนกลืนลงท้องไป หน้าตาบิดเบี้ยวจนผิดรูปไปหมด ดูน่าตลกสิ้นดี

“ผลแก้วม่วงอยู่ไหน?เอาออกมา”

หลี่ฝางแคะฝุ่นในเล็บตัวเองออกๆพลางพูดอย่างเรียบเฉย

คนพวกนี้บอกว่าจะดูแลห้องสมบัติให้นายกรัฐมนตรี แต่พอรู้ว่านายกรัฐมนตรีตายแล้ว คนแรกที่ปล้นห้องสมบัติก็คือพวกเขา และพวกเขาต้องเป็นคนเอาสมบัติและของล้ำค่าที่สุดไปเป็นคนแรกๆแน่ๆ

ดังนั้นถ้าหลี่ฝางต้องการหาผลแก้วม่วง ก็ไม่ต้องออกแรงเองเลย ถามพวกเขาเอาก็ได้

ถามเสร็จ หลี่ฝางจ้องสีหน้าของพวกเขา เขาพบว่าหลังจากได้ยินคำว่าผลแก้วม่วง สายตาชายผอมแห้งก็สั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด

แม้ว่าเขาจะปกปิดอารมณ์แปรปรวนได้ดี แต่หนีไม่พ้นสายตาของหลี่ฝางหรอก

หลี่ฝางยืนขึ้นจากหีบ ยื่นมือไปตบหน้าชายผอมแห้งเบาๆ พูดพลางหรี่ตามอง

“ดูเหมือนผลแก้วม่วงอยู่ที่แก ซ่อนไว้ตรงไหน เอาออกมา”

ชายผอมแห้งถูกหลี่ฝางตบจนตัวสั่นไปเล็กน้อย เท้าทั้งสองข้างก็สั่นเช่นกัน แต่แม้กลัวจนขนาดนี้ เขาก็ยังกัดฟันไม่ยอมรับว่าตัวเองเอาผลแก้วม่วงไป

เมื่อเห็นว่าเขาเอาผลแก้วม่วงออกมา หลี่ฝางก็หมดความอดทน กดหัวชายผอมแห้งลองบนหีบทองคำแท่ง แล้วเหยียบหน้าเขาด้วยเท้าข้างหนึ่ง พร้อมพูดข่มขู่ด้วยความโหดร้าย

“แกไม่ยอมเอาผลแก้วม่วงออกมาใช่ไหม?งั้นฉันจะขยี้หัวแกให้แหลก!”

หลี่ฝางพูดจบ หยิบกาน้ำชุบทองที่ตกอยู่บนพื้นทุบไปที่หัวของชายผอมแห้ง

เลือดสีแดงสดกระเด็นออกมาจากหัวชายผอมแห้งทันที คนอื่นๆที่มองอยู่ล้วนโมโหมากแต่ไม่กล้าส่งเสียงออกมา ทำได้เพียงเก็บความรู้สึกตัวเองอยู่เงียบๆ

พวกเขารู้ประโยชน์ของผลแก้วม่วง แม้มีผลดีอันน่าทึ่ง แต่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมายสำหรับพวกเขา

ที่ชายผอมแห้งเก็บผลแก้วม่วงไว้ เพราะได้รับมอบหมายงานไว้อย่างหนึ่ง คือเพียงแค่เขาขโมยผลแก้วม่วงออกมาแล้วเอาไปให้เจ้าของก็จะได้ค่าตอบแทนถึง200ล้าน

ก่อนหน้านี้เพราะอำนาจของนายกรัฐมนตรี ชายผอมแห้งจึงไม่กล้าจะทำอะไรกับผลแก้วม่วง วันนี้ในที่สุดวันนี้ก็มีโอกาส แน่นอนว่าเขาต้องการ

แต่คิดไม่ถึงว่าเพราะเงิน200ล้าน ทำให้เขาเดือดร้อนถึงชีวิต

ชายผอมแห้งถูกหลี่ฝางทุบจนร้องโหยหวน ในที่สุดเขาก็ขอร้องวิงวอนออกมาตอนหลี่ฝางตีลงมาครั้งที่สี่ มือทั้งสองข้างโบกไปมาแสดงให้เห็นว่าตนจะเอาผลแก้วม่วงออกมาให้เดี๋ยวนี้แหละ

เมื่อเห็นว่าเขาวิงวอน หลี่ฝางจึงโยนกาน้ำชุบทองในมือที่เต็มไปด้วยเลือดออกด้วยความรังเกียจสุดๆ แล้วเช็ดเลือดที่ติดมือลงบนเสื้อชายผอมแห้ง

จริงๆเลย เอาออกมาตั้งแต่แรกก็จบเรื่อง ต้องโดนตีก่อนถึงจะเชื่อฟัง

หลี่ฝางเอาเท้าที่เหยียบหลังชายผอมแห้งอยู่ลง รอให้เขาเอาผลแก้วม่วงออกมาเงียบๆ

และในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงดังมาจากบนหลังคาห้องสมบัติ ทำเอาสั่นสะเทือนไปทั้งห้อง ฝุ่นร่วงหล่นลงมาเป็นจำนวนมาก แม้แต่บนคานก็ปรากฏรอยแตกระแหงขึ้น

หลี่ฝางเพ่งพลังจิตออกไป เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรอยู่บนหัวตัวเอง แต่เมื่อพลังจิตของเขาสัมผัสกับสิ่งนั้น ก็ถูกสะท้อนกลับมาด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็น

ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่ฝางไหวตัวทัน ปิดผนึกหัวใจหลักของตนได้ คงโดนแรงสะท้อนกลับนี้ปะทะเข้าอย่างจัง

นี่มันบ้าอะไรกัน?ทำไมตนถึงตรวจสอบพลังของเขาไม่ได้?

หลี่ฝางหน้าเปลี่ยนสีทันที จากที่ไม่พอใจอยู่ตอนแรกเปลี่ยนเป็นความหนักแน่น

หรือในโลกนี้ยังมีใครที่มีพลังพอๆกับตนอีกงั้นเหรอ ?

ขณะหลี่ฝางกำลังคิดไม่ตก หลังคาทั้งอันของห้องสมบัติพังลงมา เมื่อเงยไปมองก็สามารถเห็นท้องฟ้าภายนอกได้โดยตรง

จากนั้นสิ่งมหึมาบางอย่างร่วงลงมาจากด้านบนหลี่ฝาง หลี่ฝางจึงหันไปคว้าชายผอมแห้งแล้วแวบหายตัวไปข้างๆ

แต่คนอื่นๆไม่ได้โชคดีเหมือนชายผอมแห้ง พวกเขาพยายามดึงเท้าออกจากหีบทอง แต่ขณะที่พวกเขาดึงออกนั้น ก็ถูกสิ่งมหึมาจากฟ้านั้นทับจนเละ

ผู้คนตรงหน้าตนที่เดิมทียังมีชีวิตอยู่ เสียชีวิตไปในพริบตา ชายผอมแห้งตกใจจนวิญญาณแทบหลุด ตาพร่ามัว ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่ฝางคว้าเขาไว้ คงทรุดตัวลงกับพื้นแล้ว

หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม มองดูสัตว์ประหลาดที่มีเกล็ดสีดำสนิทตรงหน้า สัตว์ประหลาดตัวนี้ทำให้เขานึกถึงมังกรยักษ์ที่เขาพบในซากปรักหักพังลึกลับ

แม้รูปร่างมันเล็กกว่ามังกรยักษ์มาก แต่เกล็ดและเขาบนหัวมันเหมือนมังกรยักษ์เป๊ะๆ

ทันใดนั้น การคาดเดาที่กล้าหาญก็เกิดขึ้นในใจของหลี่ฝาง นี่คงไม่ใช่สัตว์ประหลาดเวอร์ชั่นใหม่ที่คนญี่ปุ่นคิดค้นขึ้นมาจากเทพอ้านใช่ไหม?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท