NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1404 อาบยา

บทที่ 1404 อาบยา

นี่มันเหลือเชื่อไปมั้ย? สิ่งที่คิดว่าหายากที่สุด ตอนนี้กลับมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพวกเขา แถมยังเห็นท่าทีมันแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ารู้ว่าหลี่ฝางกำลังหาตัวมันอยู่

“นี่……นี่จะมหัศจรรย์ไปมั้ย? หรือว่ากวางทิพย์ตัวนี้จะเข้าใจมนุษย์?”

กู่ยี่เทียนมองกวางทิพย์ ก็อดไม่ได้ที่จะอยากเอื้อมมือไปแตะเขาที่อยู่บนหัวกวาง แต่ยังไม่ทันได้สัมผัส กวางทิพย์ก็สะบัดหัวอย่างอวดดี เลี่ยงมือของกู่ยี่เทียน

“หน็อย!กวางตัวนี้เก่งดีนี่!นายดูท่าทางอวดดีของมันสิ!” กู่ยี่เทียนชี้นิ้วไปทางกวางทิพย์พลางพูดอย่างตื่นเต้น

คนอื่นๆ ก็รู้สึกว่ามหัศจรรย์สุดๆ หลี่ฝางลังเลอยู่ครู่ จากนั้นก็ลองยื่นมือไปทางกวางทิพย์

เดิมคิดว่ากวางทิพย์จะหลบเหมือนเมื่อครู่ แต่ใครจะรู้ว่ามันกลับเข้ามาหา และถูมือหลี่ฝางไปมาแบบอ้อนๆ ทำให้หลี่ฝางอึ้งจนอ้าปากค้าง

หรือว่ากวางทิพย์จะรู้จักตนจริงๆ ?

“เอาล่ะ เซียนผู้ยิ่งใหญ่รออยู่บนเขานานแล้ว รีบไปกันเถอะ”

ไป๋เห้อมองหลี่ฝาง ในดวงตาก็มีนัยน์ตาแปลกๆ บางอย่างแว๊บออกมา สามวันก่อนจู่ๆ กวางทิพย์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ตีนเขา แถมยังอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปไหน ถึงแม้เซียนผู้ยิ่งใหญ่จะออกโรง กวางทิพย์ก็ยังมีท่าทีไม่สนใจ

วันนี้เมื่อเห็นหลี่ฝาง กวางทิพย์ตัวนี้ก็เข้าไปหาก่อนเลย

ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้ไป๋เห้อนึกถึงคำพูดที่เซียนผู้ยิ่งใหญ่เคยกล่าวไว้เมื่อนานมาแล้ว เซียนผู้ยิ่งใหญ่เคยกล่าว ในอนาคตอันใกล้จะมีคนมหัศจรรย์ปรากฏตัวขึ้น เขาเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า สัตว์เทพในโลกจะก้มลงกราบเขาแถมเขายังเป็นคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้

หรือว่า หลี่ฝางก็คือคนที่เซียนผู้ยิ่งใหญ่เคยพูดถึงคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้?

ระหว่างทางมานี้ไป๋เห้อได้แอบมองดูหลี่ฝาง ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าหลี่ฝางนั้นน่ากลัวสุดๆ

เวลาที่หลี่ฝางฝึกยุทธนั้นสั้นไม่กี่ปี แต่ในระยะเวลาอันสั้นแค่ไม่กี่ปีนี้ เขากับสามารถทำเรื่องที่คนอื่นทำทั้งชีวิตก็ยังทำไม่ได้ บรรลุสู่แดนดั่งเทพที่คนอื่นใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถบรรลุได้

ความสามารถแบบนี้ ไม่ได้เพิ่งแค่ความสามารถและความพยายามก็จะบรรลุได้ มันยังต้องใช้ดวงที่ดีพออีกด้วย

มีแค่คนที่พระเจ้าโปรดปรานเท่านั้น เขาถึงมีความสามารถแบบนี้ได้

“มาแล้วเหรอ? นำยามาครบหรือยัง?” หลี่ฝางพากวางทิพย์ขึ้นภูเขาหลินมา เซียนผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้รออยู่หน้าประตูอยู่แล้ว เขามองไปทางกวางทิพย์ที่อยู่ข้างหลี่ฝางก่อน จากนั้นค่อยหันมามองหลี่ฝางพลางถาม

“อืม ตัวยาได้มาหมดแล้วครับ พวกเราจะเริ่มกันเมื่อไหร่?” หลี่ฝางในตอนนี้วินาทีเดียวก็ไม่อยากรีรอแล้ว แค่อยากจะรีบทำมันให้เสร็จๆ ไป เขายังรีบที่จะไปอีกโลกเพื่อไปหาหลี่ต๋าคาง

“นายไปชำระล้างตัวที่สระทิพย์ก่อน จากนั้นค่อยมาหาฉันที่หลังเขา” เซียนผู้ยิ่งใหญ่รับตัวยามาจากมือของหลี่ฝางและทิ้งคำพูดนี้ไว้จากนั้นก็ลอยหายไป

หลี่ฝางกับกวางทิพย์ไปที่สระทิพย์ หลังจากชำระร่างกายก็มาหาเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่หลังเขา

“เซียนผู้ยิ่งใหญ่ ท่านสามารถบอกผมเรื่องโลกอีกโลกได้มั้ย? ผมอยากจะรู้จักให้มากกว่านี้”

หลี่ฝางมองดูเซียนผู้ยิ่งใหญ่กำลังใส่ยารักษาโรคต่างๆ ลงไปในอ่าง และเป็นฝ่ายเปิดหัวข้อสนทนา เซียนผู้ยิ่งใหญ่เหลือบมองหลี่ฝาง

ก็มองความคิดของเขาออก และพูดอย่างนิ่งๆ

“หลี่ฝาง ความสามารถของนายไม่เลวก็จริงอยู่ แต่ว่ามีบางอย่างใช่ว่าเพิ่งแค่ความสามารถของนายก็จะโต้แย้งได้ โชคชะตาของพ่อนายได้ถูกกำหนดไว้แล้ว นายอย่านึกฝันว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ นายก็มีทางเดินของนายเหมือนกัน อย่าเพียงเพราะเรื่องเดียวทำให้นายไม่ยั้งคิดจนทำเรื่องผิดกฎ”

สำหรับเรื่องหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเซียนผู้ยิ่งใหญ่ได้รู้หมดแล้ว เขาก็รู้เรื่องที่หลี่ต๋าคางถูกพาตัวไป ดังนั้นแค่มองแว๊บเดียว ก็มองออกถึงความคิดในใจของหลี่ฝาง

แต่ว่าเรื่องแบบนี้มันคงเป็นได้แค่จินตนาการ ที่ไม่สามารถทำได้เลย กฎสวรรค์มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อก่อนก็ใช่ว่าจะไม่มีคนที่อยากจะแหกกฎนี้ แต่แค่ไม่มีใครทำสำเร็จ

“เซียนผู้ยิ่งใหญ่ เรื่องที่ไม่ไปทำ ท่านรู้ได้ยังไงว่าเป็นไปไม่ได้? ผมหลี่ฝางไม่เคยยอมรับเรื่องโชคชะตา ผมจะต้องพาพ่อกลับมาให้ได้!”

ในตาของหลี่ฝางมีความมุ่งมั่นเป็นประกายออกมา ราวกับไม่มีอะไรสามารถล้มเขาได้ เซียนผู้ยิ่งใหญ่เห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจอย่างแรง และพูดในฐานะศิษย์พี่และผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์มา

“ถึงแม้ในตอนนี้พลังของนายถือได้ว่าแข็งแกร่งที่สุด แต่ที่อีกโลกนึง บรรลุพลังขั้นนี้แบบนายมีอยู่นับไม่ถ้วน นายจะเอาอะไรไปต่อสู้กับสวรรค์? หลี่ฝาง มนุษย์ไม่สามารถแข็งเกินไป ยิ่งแข็งมากพอพบกับเรื่องก็จะหักเอาได้ง่าย”

“นายยังหนุ่ม ทางเดินของนายหลังจากนี้ยังอีกยาว ต้องมองการณ์ไกล แล้วก็ นายมีพันธะมากเกินไป ผู้ที่จะทำเรื่องใหญ่จะไม่ยึดติดกับเรื่องเล็กน้อย พระราชาจะไม่มีวันถูกครอบครัวผูกติดเอาไว้”

“ถ้าหากนายยึดติดกับเรื่องความรัก มิตรภาพมากเกินไป นายคงไม่มีวันสู้กับสวรรค์ได้ เพราะสวรรค์กับคือสวรรค์ เพราะว่าสวรรค์นั้นเข้มงวดและยุติธรรมกับทุกคน”

“โชคชะตาของทุกคนตั้งแต่วันที่เกิดวันนี้ก็ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว เขาจะต้องพบเจอคนแบบไหน จะประสบความสำเร็จอะไร ได้กำหนดไว้หมดแล้ว รวมถึงความสำเร็จของนายในตอนนี้ด้วย ล้วนแต่ถูกโชคชะตากำหนดเอาไว้แล้ว”

“นายอยากจะหลีกเลี่ยงโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ อย่างแรงนายต้องสลัดพันธะของนายทั้งหมดทิ้ง ไร้เรื่องยึดติด ไร้กังวล ในใจมีแต่คิดเรื่องของตัวเอง ถ้าหากนายทำเรื่องพวกนี้ไม่ได้ นายไม่มีวันหลีกเลี่ยงกับควบคุมของโชคชะตาได้หรอก”

หลักการพวกนี้หลี่ฝางเข้า แต่เขากลับไม่ได้ฟังเข้าหู เขาหลี่ฝางที่มีความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ก็ขาดความช่วยเหลือจากมิตรข้างกายไปไม่ได้ ถ้าหากไม่มีพวกเขา ก็คงไม่มีหลี่ฝางในวันนี้

ในเวลาที่เขาลำบาก ครอบครัวเพื่อนฝูงก็ไม่เคยทิ้งตน งั้นตนจะทิ้งพวกเขาได้ยังไง?

“เซียนผู้ยิ่งใหญ่ ผมยังยืนยันคำเดิม บางเรื่องถ้าไม่ไปทำก็จะไม่มีวันรู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง ผมเชื่อในตัวฉันเอง และผมกับเชื่อในตัวคนที่ผมรัก ถึงแม้ผมจะไม่ปล่อยวางพวกเขา ผมก็สามารถบรรลุเป้าหมายในใจผมได้”

หลี่ฝางยังคงแน่วแน่กับความคิดในใจเสมอไม่มีหวั่นไหวเลยสักนิด เซียนผู้ยิ่งใหญ่เห็นว่าพูดกล่อมก็ไม่มีประโยชน์ เลยไม่พูดเรื่องนี้ต่อ และให้หลี่ฝางเข้าไปนั่งในอ่างน้ำยาที่ตัวเองเตรียมเสร็จ

อ่างน้ำยานี้ไม่ใหญ่นัก ประมาณสองคูณสองเมตร ด้านในมีการใส่วัตถุดิบยาล้ำค่าต่างๆ เข้าไปด้วย สีจากตอนแรกที่ใสๆ กลายเป็นสีหมึกดำ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมที่บรรยายไม่ถูก ทำให้คนที่ได้ดมรู้สึกสดชื่น

“ขั้นตอนนี้อยากจะทรมานมาก ยังไงมันก็ขาดตัวยานึงไป ถ้านายอดทนไหว นายก็จะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ถ้าอดทนไม่ไหว วิทยายุทธในร่างนายทั้งหมดก็จะสลายไป แม้กระทั่งอาจจะทำให้เทพอ้านสามารถกลับมาควบคุมร่างกายของนายได้ นายคิดดีแล้วใช่มั้ย?”

เซียนผู้ยิ่งใหญ่มองหลี่ฝาง และถามอย่างจริงจัง อาบน้ำยานี้จะยังไงก็ต้องมีผลกระทบกับเทพอ้าน แต่ต้องเตือนหลี่ฝางขณะที่อาบน้ำยานี้จะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ตัวเองจะเสียสติไปไม่ได้

ถ้าหากเขาสูญเสียสติไป ถ้างั้นเทพอ้านในตัวเขาก็จะมีโอกาส กลับมาครองร่างกายของหลี่ฝางอีกครั้ง และที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า

“ไม่เป็นไร ผมทำได้ มา!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท