เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก – ตอนที่ 29

ตอนที่ 29

“ฉันคิดว่านายมีระบบประเภทเพิ่มประสิทธิภาพซะอีก!?”

 

ฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะถอยห่างออกไปเพียงไม่กี่ฟุต ในขณะที่เขาเห็นสิ่งที่แวนส์ส์เขียนไว้บนกระดาษ

 

“เอกลักษณ์เฉพาะตัว ประเภทระบบของนายคือเอกลักษณ์เฉพาะตัวงั้นหรอ!?” เขาพูดขณะที่ล้มลงไปที่พื้น

 

เมื่อเห็นฮาร์วีย์กระดิกอยู่บนพื้นเหมือนหนอน แวนส์ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจลึกๆ ขณะที่เขาส่ายหัว

 

“ฉันมี…ทักษะอื่นๆอีก”

 

“นายมีทักษะอื่นๆอีกหรอ!?” ฮาร์วีย์พูดซ้ำคำพูดของแวนส์

 

“ทักษะอะไรอีก!? ฉันอยากรู้ แต่ฉันรู้ว่ามันเป็นความลับ!” ฮาร์วีย์ยังคงกระดิกอยู่บนพื้นขณะที่

เสียงของเขาร้องไห้ เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆบางคนมองเขาแปลกๆ

 

“ฉันคิดว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันในชั้นเรียนนอกหลักสูตร!” ฮาร์วีย์เริ่มเต้นด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

“ไปกันเถอะแวนส์” เบียทริซดึงแวนส์ออกไปอย่างรวดเร็ว

 

“ก่อนที่นายจะติดเชื้อจากเขา”

 

“โอ…โอเค” แวนส์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆขณะที่เขาเดินออกจากห้องไป

 

“ฉันจะรอพวกนายที่หน้าประตูโอเคมั้ย!?” ฮาร์วีย์พูดในขณะที่เขายื่นมือไปทางด้านหลังของเบียทริซและแวนส์ที่กำลังถอยห่างออกไป

 

“สัญญากับฉัน สัญญากับฉันว่าจะมาหาฉันนะ!”

 

คำพูดของฮาร์วีย์ดังก้องไปทั่วทั้งห้องเรียน เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆของเขาก็รีบพยายามออกจากห้องเพราะพวกเขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

***

“โอ้ เธอคือเบียทริซ วิลเลียมส์จากคลาสของจาค็อบส์ใช่ไหม”

 

“คุณรู้จักฉันหรอคะ?”

 

“แน่นอน หลางบอกฉันทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ”

 

ขณะนี้แวนส์และเบียทริซอยู่ในห้องอาจารย์ส่งใบสมัคร พวกเขาส่งใบสมัครให้อาจารย์หญิงที่รับผิดชอบ

 

“หลางจะเป็นคนจัดการชั้นเรียนนอกหลักสูตรสำหรับนักเรียนใหม่ระบบประเภทนักเวทย์” อาจารย์หญิงยิ้ม

 

“ดังนั้นเขาจึงบอกฉันว่าเขาตื่นเต้นแค่ไหนที่จะมีคนอย่างเธออยู่ใต้การดูแลของเขา”

 

“อ่า…เป็นอย่างนั้นหรอคะ” เบียทริซอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเธอได้ยินคำพูดของอาจารย์

 

“แล้วต่อไปคือ…” อาจารย์หญิงจึงมองไปที่กระดาษถัดไปในมือของเธอ ดวงตาของเธอหรี่ลงทันทีในขณะที่เธอมีความยากลำบากในการทำความเข้าใจกับตัวอักษรที่อยู่บนกระดาษ เธอคิดว่าลายมือนี้เหมือนกับไก่เอาเท้ามาเขียนยังไงยังงั้น

 

แต่ทันทีที่เธอสามารถแกะรหัสบนกระดาษได้ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“อีแวนส์ แวนส์จากชั้นเรียนของจาค็อบส์?”

 

“…ครับ?” แวนส์เอียงหัว

 

“อ๊ะ!” อาจารย์หญิงปรบมือ

 

“นายมีชื่อเสียงในคณะมาก!

 

เสียงที่น่าตื่นเต้นของอาจารย์หญิงกระจายไปทั่วห้องอาจารย์ทำให้พวกเขาได้รับความสนใจจากอาจารย์คนอื่นๆ

 

“อ๋อเขาเหรอ?”

 

“เขาดูตัวเล็กจัง”

 

“เขาถือว่าเป็นนักเรียนใหม่อันดับ 1 ในปีนี้หรือเปล่า”

 

“พวกคุณต้องเห็นว่าเขาชนะเกมนั้นได้ยังไง”

 

“คุณเห็นมัน!?”

 

“บ้าน่า!”

 

อาจารย์หญิงลุกขึ้นยืนขณะที่เธอตำหนิอาจารย์คนอื่นๆให้เงียบลง

 

“ขอโทษนะ…อย่างที่คุณเห็นพวกเขาชอบคุยกันที่นี่” เธอพูดขณะที่หัวเราะเบาๆ จากนั้นเธอก็ตรวจสอบแบบฟอร์มใบสมัครของแวนส์ต่อไป

 

“!!!” เธอลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจอีกครั้ง เมื่อเธอมาถึงส่วนสุดท้ายของกระดาษ

 

“เธอเป็นระบบประเภทเอกลักษณ์เฉพาะตัวงั้นหรอ!?”

 

คำพูดของเธอดังไปทั่วห้องอาจารย์อีกครั้ง

 

“โอ้ฉัน” อาจารย์หญิงกระแอมในลำคออย่างเชื่องช้า

 

“ปีนี้จะต้องน่าตื่นเต้นอย่างแน่นอน” เธอกล่าว

 

“มีเพียงสองคนที่เป็นประเภทเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากนักเรียนใหม่ในปีนี้รวมถึงเธอด้วย” เธอกล่าวต่อ จากนั้นเธอก็เซ็นเอกสารของแวนส์และส่งคืนให้เขาว่า

 

“คลาสเรียนประเภทเอกลักษณ์เฉพาะตัวจะเริ่มในสัปดาห์หน้า…โอ้พรุ่งนี้มีอีกหนึ่งวัน!”

 

“…พรุ่งนี้เหรอ” แวนส์หรี่ตา

 

“อืม” อาจารย์หญิงพยักหน้า

 

“เธอสามารถเข้าเรียนได้พรุ่งนี้ แต่เธออาจจะไปสัปดาห์หน้าก็ได้แล้วแต่เธอ”

 

“โอ…โอเค”

 

“สำหรับเบียทริซชั้นเรียนของเธอจะอยู่ในช่วงวันจันทร์ เบียทริซ?” อาจารย์หญิงอดไม่ได้ที่จะดึงความสนใจจากเบียทริซ ขณะที่เธอติดอยู่ในความคิด

 

“อ่าค่ะ!” เบียทริซพยักหน้าทันทีเมื่ออาจารย์หญิงดีดนิ้วของเธอต่อหน้าเธอ ดวงตาของเธอดูหดหู่เล็กน้อย

 

จากนั้นทั้งสองก็อำลาอาจารย์หญิงขณะที่เอกสารของพวกเขาถูกส่งกลับมาให้พวกเขา

 

ขณะที่พวกเขาเดินไปที่ประตู เบียทริซก็ถอนหายใจ

 

“นาย…นายเป็นระบบประเภทเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆหรอ?” เบียทริซพูด ในที่สุดเธอก็พูดสิ่งที่อยู่ในใจของเธอ

 

“นั่นหมายความว่า…นายไม่ได้ใช้ทักษะทั้งหมดของนาย ตอนที่นายต่อสู้กับฉันหรอ และนั่นยังหมายความว่า…นายออมมือไว้จริงๆสินะ?” เธอพูดก่อนที่จะกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ

 

“อะไรนะ ไม่ใช่แบบนั้น” แวนส์ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว

 

“ฉันยังไม่รู้วิธีใช้ทักษะอื่นๆของฉันอย่างถูกต้อง”

 

“ฉัน…ฉันเข้าใจ” เบียทริซถอนหายใจอีกครั้ง อย่างไรก็ตามยังคงมีความผิดหวังเล็กน้อยในสายตาของเธอ

 

***

“ดังนั้นเราจะสอนเขาเกี่ยวกับการเขียนและอ่านส่วนใหญ่เบียทริซจะเป็นคนสอน”

 

“ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจ”

 

ที่ประตูสถาบัน ขณะนี้ฮาร์วีย์กำลังสนทนากับเจอรัลด์พี่ชายของเขา เจอรัลด์ยิ้มเมื่อเขาฟังคำพูดของน้องชาย และพยักหน้าเสมอพร้อมกับทุกคำที่ออกจากปากของฮาร์วีย์

 

“อ๊ะ! นั่นไง!”

 

ทันทีที่ฮาร์วีย์เห็นเบียทริซและแวนส์ใกล้เข้ามาเขาก็อำลาพี่ชายอย่างรวดเร็ว

 

“โอ้” เจอรัลด์ยิ้มขณะที่เขาโบกมือ

 

“แวนส์ เป็นยังไงบ้าง!?”

 

เจอรัลด์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อเห็นย่างก้าวที่มีความสุขของน้องชาย ‘เป็นเรื่องดีที่นายจะมีเพื่อนน้องชาย’ เขาคิดแต่แล้วเขาก็หันมาสนใจเพื่อนที่ตัวเล็กกว่าของฮาร์วีย์

 

นับตั้งแต่ที่ฮาร์วีย์แนะนำพวกเขาเมื่อสัปดาห์ก่อน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนเคยเจอเด็กน้อยมาก่อน

 

‘… เดี๋ยวก่อน’ แล้วเขาก็นึกอะไรบางอย่างออก

 

‘แวนส์? เขาชื่อจอห์นไม่ใช่เหรอ?’

 

‘แวนส์…’

 

‘แวนส์…’ ดวงตาของเขาเริ่มสั่นไหวเมื่อเขามองไปที่นักเรียนตัวเล็กอีกครั้ง

 

‘…อีแวนส์’

 

ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาจำขอทานตัวน้อยที่กลุ่มของพวกเขาทุบตีในเวทีเมื่อกว่าสัปดาห์ก่อน

 

‘จะเป็นไปได้ไหม…?’ คิ้วของเขาเริ่มสั่น

 

‘ไม่ต้องสงสัยเลยมันคือเขา!’

 

‘ขอทานแบบนั้น … อยู่กับน้องชายของฉันหรอ!?’

 

***

‘เขาจำฉันได้แน่นอน’

 

ตอนนี้แวนส์รู้สึกหนาวสั่น แต่แวนส์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ขณะที่เขาเห็นใบหน้าของเจอรัลด์ก่อนหน้านี้ เขาแน่ใจว่าเจอรัลด์จำเขาได้

 

จากนั้นแวนส์ก็มองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าซับซ้อน เขาควร…ออกห่างจากฮาร์วีย์จากนี้ไปหรือเปล่า?

 

“แวนส์ทำไมนายไม่เขียนอีกต่อล่ะ” เบียทริซพูดขณะที่เขาสังเกตเห็นแวนส์ขมวดคิ้ว “นายมีปัญหาตรงไหนรึเปล่า”

 

อย่างไรก็ตามแวนส์ไม่ตอบเธอ ขณะที่เขายังคงจ้องไปที่ฮาร์วีย์ และหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็เปิดปากของเขา

 

“ฮาร์วีย์ นายเล่าเรื่องของพี่ชายของนายให้ฟังหน่อยได้ไหม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเล็กน้อย

 

“พี่ชายของฉันหรอ ได้สิ” ฮาร์วีย์หยุดสิ่งที่เขากำลังทำอย่างรวดเร็วและมองไปที่แวนส์

 

“นายอยากรู้อะไรล่ะ” เขาพูดน้ำเสียงของเขาดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

 

“อะไรก็ได้”

 

เบียทริซยังให้ความสนใจกับฮาร์วีย์ใน ขณะที่เธอสนใจเล็กน้อยที่จะรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพี่ชายคนดังของฮาร์วีย์

“อืม…” ฮาร์วีย์วางนิ้วบนคางของเขา

 

“เขาดีกับฉันมาตลอด” เขาพูด

 

เมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์แวนส์ก็อดไม่ได้ที่จะมอง

 

“นายต้องรู้ไว้ว่าพ่อของฉันชอบตีพวกเราตั้งแต่ที่พวกเรายังเด็ก” ฮาร์วีย์พูดต่อ

 

“ทุกๆความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเขาจะตีเราด้วยไม้เท้าและพี่ชายของฉัน…เขาจะรับโทษแทนฉันเสมอ เขาเป็นผู้กล้าของฉัน”

 

“อืม…” เบียทริซอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจขณะที่เธอพยักหน้า

 

“เป็นไปตามที่คิดไว้ละนะทายาทแห่งอาวุธลอเดอร์”

 

อย่างไรก็ตามแวนส์อดไม่ได้ที่จะมองไปด้านข้าง

 

‘ผู้ชายที่ดี?’

 

ในขณะที่ทั้งสามกำลังสนทนากันเจอรัลด์และกลุ่มเพื่อนของเขาอยู่ในตรอกมืด

 

“…อย่านะ! ฉันแค่อยากกินอาหารเท่านั้นเอง!”

 

“ไอ้บ้า ขอทานงั้นหรอ!”

 

เสียงรองเท้าของเจอรัลด์ดังก้องไปทั่วตรอกมืดในขณะที่เขาย่ำเท้าซ้ำๆไปที่ชายร่างผอม

 

“ไม่…ไม่!” ชายร่างผอมทำได้เพียงขดตัว และมีเลือดไหลออกมาจากจมูกของเขาอย่างล้นเหลือขณะที่กรามของเขาห้อยออกจากใบหน้าของเขาอย่างหลวมๆ

 

“เจอรัลด์หยุด!” เพื่อนคนหนึ่งของเจอรัลด์พยายามดึงเขาออกไป

 

“แกจะฆ่าเขา!”

 

“วันนี้มันเป็นอะไรของมันเนี่ย”

 

“บ้าเอ้ย รีบออกไปจากตรงนี้ก่อนจะมีคนมาเห็นเถอะ!”

 

จากนั้นกลุ่มทั้งหมดก็พยักหน้าเห็นด้วย ขณะที่พวกเขาออกจากตรอกมืดอย่างรวดเร็ว

 

อย่างไรก็ตามเจอรัลด์ยังคงเตะชายร่างผอมไปทั่วร่างของเขา ดวงตาของเขาคลุ้มคลั่งเกินกว่าเหตุ

 

“ไอ้บ้า ขอทาน!”

 

คำพูดของเขากลบเสียงร้องของชายร่างผอม

เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก

เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

เป็นเวลากว่าหนึ่งพันปีแล้วที่จู่ๆก็มีประตูมิติเปิดขึ้นภายในโลก

มันกลืนกินโลกทั้งใบด้วยสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายที่ออกมาจากประตูมิตินั้น

มนุษย์ต่อสู้ดิ้นรนเป็นเวลาหลายปีเพื่อเอาชีวิตรอด อาวุธของมนุษย์สามารถกำจัดได้แต่พวกอ่อนแอเท่านั้น

แต่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป เมื่อมีการค้นพบสุดยอดมนุษย์คนแรก เด็กที่เกิดหลังจากประตูมิติได้ปรากฏขึ้น

พวกเขาค้นพบว่ามีคนอื่นๆที่มีพลังเหมือนกัน…และพลังนี้ถูกเรียกกันว่า ‘ระบบ’

ผู้ที่เกิดมาพร้อมกับระบบจะถูกเรียกว่า ‘ผู้ควบคุมระบบ’

ผู้ควบคุมระบบที่มีพลังลึกลับ เป็นผู้ที่ช่วยกอบกู้โลกจากสัตว์ประหลาดและได้นำพาโลกกลับมาสู่ความสงบสุขอีกครั้ง

ตอนนี้ในอีกหนึ่งร้อยปีต่อมาผู้ควบคุมระบบก็ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง

ผู้ควบคุมระบบของเฮอร์มีส เขาเป็นผู้รวบรวมวิญญาณ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท