Almighty Coach – โค้ชอหังการ – ตอนที่ 226

ตอนที่ 226

ตอนที่ 226 นับคะแนน

หลังจากจุดเสบียงที่17.5 มันก็ไม่มีความจําเป็นที่จะคงรูปของทีมต่อไปแล้ว

นักแข่งที่ยังมีแรงมากพอที่จะวิ่งไปให้ได้สกอร์ดีๆวิ่งไปพร้อมๆกับทีมเพื่อเก็บแรงไว้ และจนถึงตอนนี้นักวิ่งนําก็เข้าสู่ช่วงคนสุดท้ายแล้วแล้วจะวิ่งต่อไปอีก2กิโล

และหลังจาก2กิโลนั้น ก็จะเข้าสู่ช่วงวิ่งเร็ว ถึงตอนนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วน บุคคลแล้วคนที่มีแรงเหลือมาก ก็จะเป็นคนที่วิ่งได้เร็วในช่วงวิ่งเร็วสุดท้าย

นักวิ่งที่นําทีมในช่วงสุดท้ายนี้จะเป็นคนที่เสียสละผลคะแนนส่วนตัวเพื่อทีม สําหรับคนปรกติแล้วมันคงเป็นเรื่องยากที่จะใช้แผนแบบนี้กับทีม เพราะมันคงไม่มีใครอยากเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่นขนาดนั้น แต่สําหรับตํารวจนั้นมันต่างกัน พวกเขาทําตามแผนของหลี่ได้อย่างเคร่งครัดนักกีฬาที่วิ่งนําอยู่ในตอนนี้ ไม่ลังเลเลยที่จะเสียสละแรงกายเพื่อทีมเพื่อผลลัพท์ที่ดีกว่าทีมติ้งเทียนก็คงเหมือนกัน เพราะทั้งทีมนั้นก็เป็นทหารเก่ากันทั้งทีมเหมือนกัน

หลังจากผ่านจุดเสบียงที่20กิโลเมตร เหลืออีกไม่ถึง1กิโลเมตรกว่าๆจะถึงเส้นชัยของการแข่งฮาฟมาราธอน ในตอนนี้ผู้เข้าแข่งทั้งหลายจะเริ่มวิ่งเร็วกันแล้ว และระยะห่างระหว่างผู้เข้าแข่งก็จะมากยิ่งขึ้น

อันดับของการแข่งแบบเดี่ยวนั้นขึ้นอยู่กับผลของคนๆนั้นเองเลย ในขณะที่อันดับของการแข่งแบบทีมนั้นจะคํานวณจากคะแนนรวมของทั้งทีม นักวิ่งที่เข้ามาใน500คนแรกนั้นล้วนแต่มีคะแนนทั้งนั้น นักวิ่งคนแรกที่เข้าเส้นชัยจะได้คะแนน500คะแนนเข้าทีม ส่วนคนที่2ก็จะได้499 และไปเรื่อยๆ คนที่เข้าเส้นชัยคนที่500ก็จะได้คะแนนแค่คะแนนเดียว ส่วนคนที่เข้าหลังจากนั้นก็จะไม่มีคะแนนให้แล้ว

ถ้ามีผู้เข้าแข่งมากกว่าๆคนเข้าไปใน500อันดับแรก ก็จะนับคะแนนของแค่5คนที่เยอะที่สุดเท่านั้นและที่เส้นชัยนั้นเองทุกคนจ้องมองไปด้วยความตื่นเต้น พวกเขากําลังรอคอยดูกันว่าใค รจะมาถึงเป็นคนแรก

“มานั้นแล้ว!”ใครบางคนตะโกนขึ้นมา พร้อมกล้องอีกนับโหลที่ชี้ไปทางเส้นขอบฟ้าตรงถนนพร้อมๆกัน คนแรกที่มาถึงเป็นชายหนุ่มอายุ20กว่าปี เขาเป็นนักเรียนจากมหาวิทยาลัยกีฬาและถนัดในด้านมาราธอน

ในการแข่งขันแบบนี้ มันจะไม่มีนักกีฬามืออาชีพเข้าร่วมการแข่งขัน มันจะเป็นการแข่งกันระหว่างมือสมัครเล่นด้วยกันเอง ดังนั้น นักกีฬาที่เป็นเด็กมหาลัยก็นับว่ามีความสามารถมากที่สุดแล้วในบรรดาผู้เข้าแข่งทั้งหมด แต่ส่วนมากพวกนี้มักจะมาเก็บสกอร์ส่วนตัวและไม่เป็นผลอะไรกับการแข่งแบบทีม

และคนที่เข้าเส้นชัยเป็นคนที่2-3นั้นเป็นนักศึกษามหาลัยทั้งหมด ต่างมาจากคนละมหาลัยคนที่เป็นผู้ที่ชื่นชอบกีฬามาราธอนอายุ30กว่าๆ และเคยเป็นนักกีฬามืออาชีพสมัยยังเป็นหนุ่มถึงแม้เขาจะเกษียรไปได้หลายปีแล้ว แต่เขาก็หมั่นขยันฝึกซ้อมด้วยการวิ่ง120-150กิโลต่ออาทิตย์

สําหรับระดับมือสมัครเล่นแล้ว การฝึกแบบนั้นมันไม่ปรกติเอาซะเลย เพราะถึงแม้จะเป็นกงมาราธินมืออาชีพของทีมชาติยังฝึกแค่ประมาณ180-220กิโลต่ออาทิตย์เอง ถ้าระดับมือสมัครเล่นวิ่งได้150กิโลต่ออาทิตย์ งั้นก็หมายความว่าคนๆนี้เป็นคนที่คลั่งใคล้การวิ่งมาราธอนเอามากๆจนสละเวลาส่วนมากให้กับการฝึกวิ่งเพื่อวันนี้

“ที่10มาแล้ว ถึงแม้นักวิ่งยังอยู่อีกไกล แต่หลีใต้ก็เห็นชุดสีน้ําเงินที่คุ้นๆ นั้นมันวูเฟิง!

หลีใต้ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งอก นายตํารวจอดีตหน่วยรบพิเศษทําให้เขาลุ้นแทบตาย

หลิวเป่ากังที่อยู่ข้างๆหลีใต้ดูไม่สบอารมณ์เท่าไร แต่วินาทีต่อมาเขาก็รู้สึกโล่งใจ

เพราะที่12ที่เข้ามานั้นเป็นคนของกลุ่มผึ้งเทียน

ระหว่างที่10กับที่12นั้นห่างกันแค่2แต้มเท่านั้น หลิวเป่ายังคิด

ที่12ก็เป็นคนของเราอีกเหมือนกัน หลิวเป่ากังกําหมัดอย่างตื่นเต้น

ที่12มีคะแนน489 ส่วนที่19มีคะแนน482 รวมแล้วตอนนี้ตั้งเทียนได้ไปแล้ว971แต้ม ซึ่งถือว่านําทีมอื่นๆไปมากโข

“ผู้จัดการเฉียวครับ เรามีคนเข้าเส้นชัยไปแล้ว2คนครับ ตอนนี้คะแนนรวมของเราอยู่ที่971แต้มแล้ว เราอยู่ที่1ครับ” หลิวเป่ากังพูด

เฉียวหยูหนานพยักหน้า “ไปเตรียมฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้พร้อม ทันทีที่เราได้แชมป์แบบการ

“มีแค่ทีมตํารวจเท่านั้นที่เข้าเส้นชัยไปแล้ว2คนครับ คะแนนของพวกเขาคือ969คะแนน” คนข้างหลังรายงานทันที

“น้อยกว่าทีมเราแค่2คะแนนเองเหรอ!” เฉียวหยูหนานขมวดคิ้ว แล้วพูด “คอยดู ผลลัพท์ให้แน่นอนก่อน”

ที่เส้นชัยนั้นเอง หลีใต้กับหลิวเป่ากังรออย่างใจจดใจจ่อ

ที่25 26 และ 27 พึ่งเข้าเส้นชัยไป 28และ29ก็เข้ามาในระยะสายตาแล้ว แต่ยังไม่มีคนของเรามาอีกเหรอ 30ก็ยังไม่มีอีก อะไรวะ มาหน่อยซิ หลิวเป่ากังภาวนากับตัวเอง

แต่ถึงอย่างนั้น ยังไม่มีผู้เข้าแข่งที่เป็นคนของกลุ่มผึ้งเทียนเข้าเส้นชัยเลยในอีกหลายๆคนถัดไปของทีมตํารวจก็เช่นกัน

และสุดท้าย เสื้อกีฬาสีคุ้นก็ปรากฏขึ้นมาในสายตา มาแล้ว! นักวิ่งอันดับที่41 เป็นของทีมฉัน

หลิวเป่ากังตื่นเต้นออกหน้าออกตา นั้นหมายความว่ามีนักกีฬาของตั้งเทียนเข้าเส้นชัยไปแล้วถึง3คน

และในอีก4-5วินาทีต่อมา คนของกลุ่มติ้งเทียนอีกคนก็ปรากฏขึ้น

อันดับที่42ก็เป็นของทีมฉัน เรามี4คนแล้ว 4คนของเรา! หลิวเป่ากังนับคะแนนทันที ที่41เท่ากับ460แต้มและที่42เท่ากับ459แต้ม พอเอามารวมกับของอีก2คนแรกแล้ว ทีมผึ้งเทียนมีมากกว่าทีมตํารวจ921แต้มแล้ว เราชนะแน่ๆ ขอแค่คนของทีมเราเข้าเส้นชัยอีกคนเดียวเราก็ชนะแล้ว ขออีกคนเดียว! ความกระวนกระวายใจของหลิวเป่ากังเริ่มโล่งแล้ว

ที่42-45เข้าเส้นชัยในนาทีต่อมา แต่ไม่มีใครเป็นคนของทีมไหนเลย

หลังจากครึ่งนาทีผ่านไป ที่46ก็เข้ามาในระยะสายตา เขาใส่เสื้อสีน้ําเงิน

พอหลีใต้เห็นเขาก็รู้ทันทีว่าเป็นทีมเขา

ที่46เหรอ ก็ไม่เลวนี้ หลิวเป่ากังใจเย็นๆ ที่46ตกเป็นของทีมตํารวจ แต่เขาก็ได้แค่455แต้มซึ่งไม่ได้ส่งผลอะไรกับผลการแข่งมาก

แต่นักแข่งคนต่อมาก็ใส่เสื้อสีน้ําเงินเหมือนกัน

ที่46กับที่48ที่เข้าเส้นชัยไป เป็นคนจากทีมตํารวจทั้งคู่ หลิวเป่ากังเริ่มสีหน้าเปลี่ยน

หลีไต้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคํานวณ ที่46ได้455 ที่48ได้457 รวมกับก่อนหน้านี้969แต้ม ตอนนี้ เรามี1881แต้มแล้ว แล้วของทีมผึ้งเทียนละ หลี่ไต้กดเครื่องคิดเลขอย่างเร็วแล้วผลก็ออกมา ตอน นี้ตั้งเทียนมี1890แต้ม ตอนนี้เรายังตามทีมติ้งเทียนอยู่9แต้ม

หลีใต้มองไปที่เงาดําๆที่เส้นปลายขอบฟ้า นักวิ่งหลายๆคนวิ่งเข้าเส้นชัยไปเรื่อยๆ

ตอนนี้ทั้ง2ทีมมีคนเข้าเส้นชัยไปแล้ว4ทีมเท่ากัน มันขึ้นอยู่กับนักวิ่งคนสุดท้ายแล้ว ที่จะนับคะแนนและหลีใต้ยังห่างอีก9แต้มถ้านักกีฬาของเรามันอันดับที่สูงกว่าอีกฝ่ายอันดับเราก็จะชนะ!

Almighty Coach – โค้ชอหังการ

Almighty Coach – โค้ชอหังการ

ทำยังไงเด็กจบใหม่ที่ไม่มีทั้งเส้นสายเเละประวัติถึงจะประสบความสำเร็จได้ละ ด้วยการโกงเหรอ ด้วยการอัพเวลเหรอ

นี้ไม่ใช่วีดีโอเกม เรากำลังพูดถึงชีวิตจริงอยู่! เส้นทางสู่การเป็นโค้ชผู้ยิ่งใหญ่ของไต้หลี่

เด็กหนุ่มพึ่งจบมหาลัยมาโดยไม่มีเส้นสาย ไม่ได้ร่ำรวยอะไรที่ได้มาพบกับระบบโค้ช

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท