ตอนที่ 235 หัวเราะชอบใจ
ประตูห้องประชุมได้เปิดออกพร้อมๆกับโค้ชอีกนับ10ที่เข้าร่วมประชุมเดินออกมา
“ฉา!!” หลี่ถั่วตงเรียกฉาเปาจุนแล้วเดินตามเขามาอย่างไว
“ฉา นี้เราชนะใช่ไหมเนี่ย?”หลี่ถั่วตงถามด้วยเสียงเบาๆ
“ใช่เราชนะ” ฉาเปาจุนพยักหน้า “ฉันคิดว่าหลีใต้นั้นจะลําบากกว่านี้ แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะประนีประนอมไวขนาดนี้”
“ใช่ๆ ในความคิดของฉัน มันเป็นวิธีการที่ผิดมากเลยที่จะให้นักกีฬาสมัครใจเข้ามาเอง บางทีเขาอาจจะไม่ได้นักกีฬามาเลยก็ได้!”
“ก็อาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ หลีไต้คงไม่มีปัญหาเรื่องการหานักกีฬาให้ครบ4คนหรอกแต่ถึงอย่างนั้นระดับของนักกีฬาก็เป็นเรื่อวที่สําคัญ ถ้านักกีฬาเข้าทีมวิ่งผลัดแล้ว ก็จะไม่สามารถมาแข่งแบบเดี่ยวได้ ถ้าให้ฉันเดา นักกีฬาที่เก่งๆคงไม่สมัครเข้าไปกันหรอก”ฉาเปาจุนพูด
“นายพูดถูก ฉันว่านักกีฬาที่สมัครเข้ากับทีมวิ่งผลัดก็มีแต่พวกธรรมดาเท่านั้นละ ถ้าพวกเขาผ่านรอบคัดเลือกแบเดี่ยวไม่ได้ พวกเขาก็คงคิดว่าเข้าทีมวิ่งผลัดเพื่อให้มีโอกาสได้เข้าแข่งในกีฬาชาติก็ได้”หลี่ถั่วตงหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ฉาเปาจุนยังคงหน้าตายอยู่แล้วพูด “แต่ตอนนี้ที่ฉันกังวลคือ ถ้าหลีใต้ทําให้ทีมวิ่งผลัดผ่านรอบคัดเลือกไปได้จริงๆละก็…”
“ก็อย่างที่นายพูดนี้ มันก็เป็นได้แค่” ถ้าอะนะ” หลี่ถั่วตงยิ้มกว้าง
” อย่าลืมซิว่าเขาเป็นถึงโค้ชทีมชาติแถมยังเป็นโค้ชทีมวิ่งผลัดที่ได้เหรียญทองในเอเชี่ยนเกมมาแล้วเชียวนะ! ไม่มีใครคนไหนที่ย่างเท้าเข้าไปในทีมชาติได้โดยไม่มีความสามารถหรือประสบการณ์จริงๆหรอก” ฉาเปาจุนเตือน
“ไม่มีไฟมันจะไปมีควันได้ไงละ! ถ้าไม่มีนักกีฬาความสามารถสูงๆ ไม่ว่าโค้ชจะเก่งกาจขนาดไหน ก็ทําผลงานดีๆอแกมาไม่ได้หรอก อีกอย่าง เจ้าหลีใต้ก็ยังหนุ่มมาก มากจนไปวิ่งแข่งเองยังได้เลยเหอะ..”
ประกาศรับสมัครทีมวิ่งผลัดนั้นถูกแปะลงบนบอร์ดประกาศข่าวกลาง นักกีฬาจากทีมวิ่งก็มารวมตัวกันหน้ากระดานข่าวนั้นเพื่อดูประกาศ
” เราสามารถสมัครได้ตามสมัครใจแล้วโค้ชจะเลือกนักกีฬาจากที่สมัครเข้ามาเอง ก็ดีนี้ก่อนหน้านี้สมาชิกทีมโดนโค้ชเลือกไปเลยโดยไม่ถามก่อนก็ไม่แฟร์ไปหน่อย!”
“เปิดรับสมัครสําหรับทุกคนเลยเหรอ ถ้าเป็นงั้นจริง ฉันจะได้ลองสมัครดู เผื่อฉันจะได้มีโอกาสได้เข้าแข่งกีฬาชาติกับเขาบ้าง! ถ้าเป็นในประเภทกีฬาอื่นๆ เราคงไม่ผ่านรอบคัดเลือกแน่ๆ”
คงเป็นเพราะเมื่อวานนักกีฬาบางส่วนไปประท้วงกับโค้ชชูเหว่ยตงเรื่องนี้ละมั้ง พวกเขาถึงได้เปิดรับสมัครแบบนี้แทนแล้ว”
“ฉันได้ยินมาว่าถ้าเกิดนักกีฬาคนไหนเข้าทีมกรีฑาแล้วจะต้องเทการแข่งแบบเดี่ยวด้วย”
“ใช่แล้วดูนี้ซิ มันติดลงบนประกาศชัดเลย”
“ถ้าต้องเทการแข่งแบบเดี่ยว ฉันก็คงไม่ไปลงทีมวิ่งผลัดหรอก วิ่งผลัดมันแข่งกันไม่เท่าแบบเดี่ยวเลย”
“มันเขียนบอกอยู่ด้วยว่ารายชื่อนักกีฬาในทีมวิ่งผลัดนั้นจะอยู่ตลอดการแข่งขันกีฬาชาติและจะไม่มีวันเปลี่ยน ซึ่งหมายความว่า ถ้าทีมกรีฑาผ่านรอบคัดเลือก ทั้งทีมนั้นก็จะได้ไปแข่งต่อรอบจริง”
“แต่ทีมต้องแกร่งพอที่จะผ่านรอบคัดเลือกก่อนด้วยนะ! มันยากมากเลยนะที่ทีมเราจะทําคะแนนได้ดีๆอะดูจากสภาพของเราตอนนี้แล้ว”
นักกีฬาเริ่มพูดคุยกันไปเรื่อย ทุกๆคนต่างก็มีคววามคิดเห็นของตัวเอง โดยเฉพาะอย่า งยิ่งพวกนักกีฬาฝีมือระดับกลางๆ ที่อาจจะไม่ได้ผ่านรอบคัดเลือกในการแข่งแบบเดี่ยวด้วยซ้ําการเข้าไปมีส่วนในการแข่งกีฬาชาติผ่านทีมวิ่งผลัดนั้น นับว่าเป็นโอกาสงามๆของพวกเขาเลยก็ว่า
กุนนั้นก็ยิ้มอย่างแดกดัน แต่กลับกันสีหน้าของซูหยูอี้หยางนั้นต่างออกไปจากทั้ง2คน ตอนนี้เขาเหมือนกําลังตกอยู่ใต้ภวังค์ความคิดแล้วขมวดคิ้วเป็นปม
“น่าสนใจนี้ ดูซิ! ถ้าได้รับเลือกเข้าทีมแล้วจะเปลี่ยนกลับไม่ได้แล้วด้วย หมายความว่านักกีฬาที่ไม่อยากเทการแข่งแบบเดียวก็จะไม่มีโอกาสได้เข้าทีมวิ่งผลัด มันทําให้พวกเราต้องตัดสินใจระหว่างวิ่งผลัดหรือการแข่งแบบเดี่ยว” เซนติ้งฉานพูด
“ก็นะ ทําไมเหรอเชนตั้งฉาน อยากเข้ารึไง?”เฉินกุนถามอย่างเย็นชา
“ไม่มีทางละ ฉันต้องเลือกการแข่งแบบเดี่ยวอยู่แล้ว ยังไงซะฉันก็ทําได้ดีอยู่แล้ว บางทีฉันอาจจะได้ไปแข่งรอบจริงก็ได้ แต่ดูนี้ซะก่อน ซูหยูอี้หยางดูเหมือนจะลังเลนะเนี่ย” เชนตั้งฉานชี้ไปที่ซูหยูอี้หยาง
ซูหยูอี้หยางส่ายหัวแล้วพูด “ฉันแค่คิดว่าหลีใต้คนนั้นเคยเป็นโค้ชทีมชาติเลยนะ ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของซูหลี่ด้วย เขาต้องมีฝีมืออะไรบางอย่างแน่ๆ”
“ซูหยูอี้หยางนี้แกชมหน้าใหม่หลีใต้แบบนี้เลยเหรอ? นายโดนเอาเรื่องแน่ถ้านายพูดแบบนี้ต่อ หน้าโค้ชหลิวชั่ว”เฉินกุนพูด
“ฉันหมายความว่า ถ้าทีมวิ่งผลัดนั้นผ่านรอบคัดเลือกได้จริงแล้วได้ไปแข่งเดือนสิงหา ส่วนพวกเราตกรอบคัดเลือก มันคงจะเป็นอะไรที่โคตรน่าอายเลยนะ แล้วต่อจากนั้น เราก็ต้องจําใจนั่งมองคนที่กากกว่าเราเข้าไปแข่งในเดือนสิงหาแต่เราทําได้แค่นั่งโง่ๆอย่างทําอะไรไม่ได้”ซูหยูอี้หยางพูดแล้วมองทั้ง2คน
“นายแน่ใจ100%เหรอว่าพวกนายจะได้เข้ารอบจริงตอนเดือนสิงหา? สําหรับฉัน ฉันไม่ได้มั่นใจอะไรหรอกนะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นมาจริงๆ เราแค่ไปขอเข้าทีมวิ่งผลัดแค่นั้นเอง” เชนตั้งฉาน พูดทันที
“แต่ในประกาศมันก็บอกชัดเจนละว่าผู้ที่ถูกรับเลือกจะไม่สามารถเปลี่ยนได้หากเข้ามาแล้วอะ”ซูหยูอี้หยางพูด
โถ่ว เราทั้งเก่งกว่าเร็วกว่า ถ้ามีเรา ทีมวิ่งผลัดก็ไปได้ไกลแน่ๆอยู่แล้ว ทําไมพวกนั้นจะไม่ให้เราเข้าละบางที่ หลีใต้นานมันอาจจะมาขอร้องให้เราเข้าทีมวิ่งผลัดเลยก็ได้นะ 5555” พอพูดจบเชนตั้งฉานก็หัวเราะดัง
“หลีใต้ เราจะเลิกงานในอีก1ชั่วโมงนี้นะ แล้วการรับสมัครทีมวิ่งผลัดก็จะจบลงแล้วด้วยตอนนี้มีนักกีฬา7คนสมัครเข้ามาแล้ว” โค้ชหลูเดินมาหาหลีใต้พร้อมยื่นกองแบบฟอร์มใบสมัครที่เขียนแล้วให้ จากนั้นก็พูดต่อ “ฉันยังมีอย่างอื่นที่ต้องทําอีก งั้นฉันขอกลับก่อนนะเดี๋ยวฉันบอกนักกีฬาที่จะมาสมัครให้ตรงมาหานายเลยละกันนะ!”
“ขอบคุณที่เหนื่อยนะครับโค้ชหลู” หลีใต้พูดอย่างสุภาพตอนที่รับแบบฟอร์มจากโค้ชหลู
โค้ชหลูเป็นคนที่รายงานเรื่องทีมวิ่งเร็วในที่ประชุมเมื่อต้นสัปดาที่ผ่านมา เขากําลังจะเกษียร แล้วเขาเลยไม่ได้ทํางานหนักมาก เขามักจะมาสายตอนเช้าแล้วก็กลับก่อนบางทีแต่ทุกคนก็มักจะ ไม่ได้สนใจอะไรกับเขามากนัก
แล้วตอนนี้โค้ชหมูก็ยื่นแบบฟอร์มให้เขาก่อนเวลาแล้วด้วย หมายความว่าเขาอยากจะออกไปก่อนเวลาอีกแล้ว หลีใต้ก็เข้าใจโค้ชหลูอยู่นะ ที่ต่อต้านทุกอย่างทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง เขาเชื่อว่าเขาควรจะชื่นชมการทํางานของพวกเขา
นี้เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการทํางานในระบบ คนอาวุโสกว่าก็อยู่สูงกว่าไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ แต่ในบริษัทเอกชน ไม่ว่าจะแก่แค่ไหน ก็ไม่มีความหมายถ้าไม่ทํางานก็ไม่มีเงิน ง่ายๆแค่นั้น
หลีใต้นั้นเคารพคนที่แก่กว่าอย่างโค้ชหลเป็นอย่างดีทําให้โค้ชหลนั้นมีความประทับใจดีๆเขาเลยพูด “หลีใต้ นักกีฬาที่มาสมัครไม่ค่อยเยอะเท่าไรนะ แค่7คนเอง ฉันเดาว่านายควรจะมีอย่างน้อยซัก6คน ถ้านายนับตัวสํารองด้วยแล้ว นายมีตัวเลือกให้เลือกน้อยมากเลยนะ”
“ถ้านักกีฬามุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนแค่วิ่งผลัดเต็มที่ นักกีฬาแค่5คนก็เพียงพอแล้วละครับ แค่ตัวจริง4คนตัวสํารองอีกคนนึง ถ้านักกีฬาไม่โดนบ่ายเบี่ยงความสนใจไปที่การแข่งแบบเดี่ยวความเข้มข้นในการฝึกพวกเขาก็จะน้อยลง โอกาสบาดเจ็บของพวกเขาก็จะน้อยลงไปด้วยดังนั้นยิ่งเล็กยิ่งเห็นผลได้ดีครับ” หลีใต้อธิบาย
“ดีนะที่นายรู้งานดีแบบนี้ โค้ชหลูยิ้มแล้วพูด “ในความคิดเห็นของฉันนะ นายอาจจะเลื่อนการรับสมัครไปอีกครึ่งเดือน เพราะยังไง นักกีฬาหลายๆคนก็ยังไม่อยากยอมทิ้งการแข่งแบบเดี่ยวตอนนี้ด้วย พอถึงต้นเดือนเราจะมีการทดสอบ ว่าพวกเขามีความสามารถมาพอที่จะผ่านเข้ารอบไหม พอถึงตอนนั้นนักกีฬาหลายๆคนก็จะตกรอบในรระหว่างการสอบ พวกเขาก็จะเสียกําลังใจแล้วมาสมัครเพิ่มเอง นายอาจจะได้สมาชิกเพิ่มตอนนั้นก็ได้นะ”
“ขอบคุณที่เตือนครับโค้ชหมู แต่ทีมวิ่งผลัดไม่ใช่ทีมการกุศลครับ มันคงจะน่าอายมากๆเลยถ้ารับพวกนักกีฬามือ2ที่ตกรอบมาไว้ในทีมตัวเอง” หลีไต้พูดพร้อมรอยยิ้ม
“นักกีฬามือ2เหรอ? ฉันอยู่วงการนี้มา30ปียังไม่เคยได้ยินคํานั้นเลยนะ นี้เป็นครั้งแรกเลยที่เจอคนนิยามพวกนักกีฬาเป็นมือ1หรือมือ2เนี่ย 555 นายนี้ตลกเอาเรื่องนะหลีไต้เ”โค้ชหลูตลกกับหสี่ไต้และเริ่มหัวเราะออกมา
