ระหว่างทางกลับบ้านเทียนหลางก็อดที่จะนึกเสียดายอยู่ไม่ได้กับสร้อยคอธาตุนั่น
‘เฮ้อ ~ ทำไมจิตสำนึกอันดีงามของข้าต้องโผล่มาช่วงเวลานั้นด้วยนะ’
‘ช่างเถอะ การที่ข้าได้เจอกับเธอและปู่ของเธอคงจะเป็นโชคชะตา เพราะงั้นข้าคงได้เจอกับเธออีกในไม่ช้า’
เทียนหลางกลับบ้านเพราะกับความเสียใจเล็ก ๆ และเมื่อกลับมาถึงร้านเทียนหลางก็พบว่าด้านหน้าของร้านเขานั้นเต็มไปด้วยผู้คน เทียนหลางรู้สึกสงสัยจึงเดินเข้าไปถามหนึ่งในคนที่ต่อแถวอยู่
”นี่พี่ชายมาต่อแถวทำอะไรกันงั้นเหรอ ?”
ผู้ชายที่โดนเทียนหลางถามก็หันกลับมาพร้อมกับยิ้ม
”น้องชายคงไม่ใช่คนแถวนี้สินะ งั้นจะบอกให้ก็แล้วกันที่พวกเรามาต่อแถวกันเนี่ยก็เพื่อซื้อบัตรสมาชิก ไม่ก็บัตร VIP ของร้านอาหารร้านนี้ยังไงหล่ะ”
เมื่อเทียนหลางได้ยินก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ และขอตัวออกมาก่อนจะนึกสงสัยว่าเหตุใดทำไมคนถึงมาที่ร้านกันเยอะนัก เทียนหลางขบคิดชั่วครู่ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาโพสเรื่องนี้ในเว่ยป๋อของร้านอาหารบัวหยก
และเมื่อนึกขึ้นได้เทียนหลางก็หยิบโทรศัพของเขาขึ้นมาและเข้าไปดูเว่ยป๋อของร้าน
‘นี่มันอะไรกันวะเนี่ย !!’
เทียนหลางตกใจกับคอมเม้นท์นับหมื่นที่มาพูดคุยกันในโพสของเขา เทียนหลางอึ้งเล็กน้อยเพราะเขาไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น เขารู้ว่าอาหารของเขานั้นโครตอร่อยแต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่น่าจะสร้างความแตกตื่นให้กับคนมากมายได้ขนาดนี้
เมื่อเทียนหลางมองไปที่ต้นเหตุของโพสที่กำลังครึกครื้นเขาก็ว่าคนที่เป็นต้นเหตุนั้นก็คือลูกค้าในวันนั้นของเขา
‘หืม… ดูเหมือนเธอจะเป็นคนดังคนหนึ่งในเว่ยป๋อเหมือนกันนะเนี่ย’
เทียนหลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ แม้เขาจะดีใจที่ร้านได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็วแต่เขาก็ต้องทำงานหนักขึ้นด้วยเช่นกัน สิ่งที่เทียนหลางไม่ชอบมากพอ ๆ กับการอ่านหนังสือก็คือการทำงานหนักจนเกินไป
‘ฉันจะต้องรีบรวยให้ได้เร็ว ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก และไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน’
เทียนหลางเดินกลับเข้ามาด้านในร้านผ่านประตูด้านหลัง ก่อนจะบอกให้พ่อกับแม่ของเขานำบัตรสมาชิก และบัตร VIP ที่เคยให้แม่ของเขาไปทำนั้นออกมาจำนวนหนึ่ง
โดยที่บัตรสมาชิกจะขายในราคา 5000เหรียญ และบัตร VIP ในราคา 15000เหรียญ ซึ่งเทียนหลางคิดว่านี่เป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว จากนั้นเทียนหลางก็เปิดประตูร้านเพื่อให้เหล่าผูคนที่ต้องการจะซื้อบัตรสมาชิกและบัตร VIP เข้ามาด้านใน
ทันทีที่ประตูร้านเปิดลูกค้าก็รีบเข้ามาเพื่อแย่งซื้อบัตรทั้งสองกันอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักบัตรสมาชิกจำนวน 30ใบ และบัตร VIP ซึ่งมีเพียงแค่ 5ใบ ก็ขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว มีผู้คนหลายคนนั้นรู้สึกเสียดายที่พวกเขานั้นไม่สามารถซื้อบัตรสมาชิก หรือบัตร VIP ได้แต่พวกเขานั้นก็ไม่ได้เสียใจมากนักเพราะยังไงพวกเขาก็ยังมาในฐานะลูกค้าธรรมดาได้อยู่ดี
หลังจากนั้นเทียนหลางก็แจ้งให้กับผู้คนทราบถึงรายละเอียดของบัตรสมาชิกและบัตร VIP และให้พวกเขาติดตามเว่ยป๋อขงร้านเพื่ออัพเดทข่าวใหม่ ๆ หรือเมนูพิเศษของเหล่าสมาชิก
หลังจากช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายจบลงเทียนหลางและครอบครัวก็มานั่งนับเงินที่ได้จากการบัตรสมาชิกทั้งสองซึ่งรวมกันได้แล้วกว่าสองแสนสองหมื่นห้าพันเหรีญซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ดูเหมือนจะเยอะมากสำหรับพ่อและแม่ของเขา
แต่สำหรับเทียนหลางนั้นดูเหมือนจะน้อยไปหน่อยในอนาคตเทียนหลางคิดว่าเขาจะเปิดร้านอัญมณีและเครื่องเพชร เขารู้มาจากในเน็ตว่าคนสมัยนี้นั้นคลั่งใคล้ในเครื่องเพชรและหยกซึ่งถูกสลักอย่างสวยงาม ปราณีต และมีรูปทรงที่แปลกประหลาด
หากเทียนหลางนั้นสามารถไปถึงขั้นแรกของการบ่มเพาะได้แล้วเขาก็สามารถที่จะปลุกเพลิงสวรรค์ออกมาได้และทำให้การหลอมหรือแกะสลักง่ายขึ้นเป็นกองและสามารถหลอมสลักหยกได้วันหนึ่งนับพันนับหมื่นชิ้น
‘ทำไมข้าถึงรู้สึกว่า ยิ่งข้าต้องการจะรวยข้ายิ่งต้องทำงานหนักกันนะ ดูเหมือนความฝันในการใช้ชีวิตสุขสบายจะยังอีกไกล เฮ้อ ~’
เทียนหลางถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินขึ้นห้องของเขาด้วยความห่อเหี่ยว