ในขณะที่เทียนหลางกำลังนั่งคิดเรื่องใช้เงินของเขายังไงจู่ ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องรถที่ซูหลินขับมาหาเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน รถสปอร์ตอันหรูหรา ดูดีมีระดับ ทำให้เทียนหลางนั้นอยากจะลองขับมันดูสักครั้ง
แม้เทียนหลางจะไม่ใช่พวกวัตถุนิยมเท่าไหร่แต่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชอบเหล่ารถสปอร์ตสุดหรู รวมถึงความทรงจำเก่า ๆ ของเทียนหลางคนเก่าด้วยที่ใฝ่ฝันอยากจะมีรถหรูเป็นของตัวเองสักคันมันก็ยิ่งทำให้เขานั้นอยากจะลองออกไปจับจ่ายสักครั้ง
ในขณะที่เทียนหลางกำลังจะออกไปข้างนอกเขาก็รู้สึกได้ว่าในกระเป๋าตังค์ของเขานั้นว่างเปล่าเสียเหลือเกิน ทั้งกระเป๋าเหลือเพียงร้อยเหรียญเท่านั้น
”เศรษฐีพันล้านมีเงินในกระเป๋าแค่ร้อยเหรียญงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางกุมขมับก่อนจะออกจากบ้านเพื่อไปที่ธนาคาร ก่อนออกจากบ้านเทียนหลางโอนเงินให้พ่อกับแม่ของเขาคนละ 5ล้านเพื่อเอาไว้ใช้จ่าย เทียนหลางไม่ได้กังวลที่พ่อของเขาจะเงินไปเล่นพนันเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะยังไงซะการเสี่ยงดวงก็อยู่คู่กับทุกเผ่าพันธุ์มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
แต่ถึงอย่างงั้นเทียนหลางก็ไม่อยากให้พ่อของเขาเอาเงินไปละลายเล่นกับการพนันจึงขอให้แม่ช่วยดูเขาหน่อย ถึงจะรู้ว่าพ่อของเขานั้นไม่เล่นพนันก็ตามส่วนแม่ของเทียนหลางนั้นเมื่อรู้ว่าเขาโอนเงินให้ 5ล้านก็ยังลังเลที่จะใช้เพราะแม่นั้นอยากจะเก็บเงินไว้เป็นค่าเรียนต่อมหาลัย แต่เทียนหลางบอกว่าเขาสามารถหาเงินมาจ่ายได้จึงอยากให้แม่ของเขาใช้เงินอย่างสบายใจ
เทียนหลางนั่งแท๊กซี่มาที่ธนาคารก่อนจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปด้านในเมื่อมาถึงที่เคาเตอร์ เมื่อพนักงานเห็นเทียนหลางเธอก็ยิ้มเล็กน้อยทำให้เทียนหลางได้แต่ส่งยิ้มตอบและเอ่ยถึงธุระของเขา
”เอ่อ… ผมมาอัพเดทสมุดบัญชีและก็ถอนเงิน กับทำบัตรเครดิตครับ”
พนักงานส่งยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าและรับสมุดบัญชีของเทียนหลางมาก่อนจะเริ่มอัพเดทมันให้กับเขา และทันทีที่เธอเห็นตัวเลขในบัญชีของเทียนหลางเธอก็ตาโตออกมาทันที
1982ล้านเหรียญ !! เธอมองตัวเลขในบัญชีของเทียนหลางกับหน้าของเขาสลับไปมาเมื่อเทียนหลางเห็นเธอมองเขา เทียนหลางก็ยิ้มเล็กน้อยและเร่งให้เธอทำบัตรเครดิตกับทำเรื่องถอนเงินให้กับเขา
”ไม่ทราบว่าคุณจะถอนเงินเท่าไหร่งั้นเหรอคะ ?”
”หมื่นเหรียญก็แล้วกันครับ”
เธอพยักหน้าก่อนจะทำเรื่องถอนเงินให้กับเขา ในขณะที่เทียนหลางกับรออยู่นั้นด้านหน้าของธนาคารก็มีกลุ่มคนน่าสงสัย พวกเขาทั้งหมดสวมหน้ากากแปลก ๆ พร้อมกับถืออาวุธปืนเข้ามากราดยิงขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว
ปัง ปัง ปัง ปัง
”หยุดอย่างขยับ พวกแกคงรู้แล้วสินะว่าต้องทำอะไร !!”
”ดี พูดง่าย ๆ อยู่นาน ๆ”
”ส่งเงินมา ๆ”
ทันทีที่คนน่าสงสัยพูดจบทั่วทั้งธนาคารก็กลายเป็นวุ่นวายอย่างรวดเร็วผู้คนต่างกรีดร้องโวยวายและวิ่งกันหลบซ่อนมีเพียงเทียนหลางที่ยืนนับเงินหน้าตาเฉย
”หนี่ง สอง สาม สี่ ห้า หก….”
กรึก !
หือ ?
ในขณะที่เทียนหลางกำลังยืนนับเงินอยู่นั้นก็มีบางอย่างมาจ่อที่หัวของเขา เทียนหลางเงยหน้าขึ้นและมองเห็นว่ามีชายสวมหน้ากากคนหนึ่งกำลังเล็งปืนมาตรงหน้าของเขา ของขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันซ้ายขวามองภาพรอบ ๆ
เมื่อเทียนหลางเห็นภาพรอบข้างก็ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
”อ๋อออออ ~ นี่นะเหรอที่เรียกว่าปล้นธนาคารหน่ะ ?”
เมื่อโจรที่จ่อปืนใส่เทียนหลางเห็นท่าทีสบาย ๆ ของเขา เขาก็รู้สึกโมโหขึ้นมาพร้อมกับตะโกนใส่เทียนหลาง
”เฮ่ย ! ไอหนูส่งเงินของแกมาซะ แล้วก็ไปนั่งรวมกับตัวประกันคนอื่น ๆ เดี๊ยวนี้ !”
เทียนหลางหันมามองโจรตรงหน้าอย่างใจเย็นก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
”นี่คุณจะปล้นผมงั้นเหรอ ?”
”แกก็รู้นี่ ฉะนั้นส่งเงินมาซะ !”
”คุณแน่ใจ ?”
เทียนหลางถามซ้ำเพื่อความชัวร์ แต่โจรคนตรงหน้าเหมือนจะเริ่มรู้สึกรำคาญเขาจึงตะโกนใส่หน้าเทียนหลาง
”แน่ใจสิวะ ! ฉะนั้นแกส่งเงินทั้งหมดมาได้แล้ว”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะเอี้ยวตัวเล็กน้อยและเตะส่งโจรตรงหน้าให้ลอยออกไป
………………………..
สถานีตำรวจเมือง จิงไห่
สัญญาณเตือนดังขึ้นแสดงให้เห็นถึงว่ากำลังมีเหตุผลร้าย เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างกรูกันเข้าไปที่ห้องประชุมเพื่อฟังรายละเอียด ภายในห้องประชุมเต็มไปด้วยตำรวจมากมายไม่นานนักเจ้าหน้าตำรวจคนหนึ่งก็เดินออกมาพร้อมกับพูดถึงรายละเอียด
”สัญญาณฉุกเฉินที่ถูกส่งมาเมื่อครู่นั้นมาจากธนาคารเฟิง และดูเหมือนว่าธนาคารเฟิงจะถูกผู้ร้ายจำนวนสิบสองคนพร้อมอาวุธหนักเข้าบุกปล้นกลาววันแสก ๆ ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ของเราหลายคนกำลังมุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุเพื่อควบคุมสถานะการณ์อยู่ หน้าที่ของพวกเราคือ เข้าจับกุมผู้ร้ายทั้งหมด”
หลังจากพูดรายละเอียดเล็กน้อย เขาก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในห้องรีบไปที่เกิดเหตุโดยเร็ว แต่เมื่อพวกเขามาถึงที่เกิดเหตุพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เห็นภาพที่น่าตกตะลึง
เพล้ง !!
เสียงกระจกของหน้าต่างธนาคารแตกพร้อมกับร่างของหนึ่งในกลุ่มโจรลอยละลิ่วออกมาพร้อมกับเสียงครวญคราง