หลังจากที่เทียนหลางออกจากโรงอาหาร เขาก็เดินเตร็ดเตร่อยู่รอบ ๆ โรงเรียนอยู่สักพักเพราะเขาไม่ค่อยอยากจะไปอยู่ในที่ที่คนเยอะ ๆ เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายเสียเปล่า ๆ และป่านนี้เรื่องของเขากับซันซื่อจินคงจะกระจายไปทั่วโรงเรียนแล้ว
ซึ่งเทียนหลางก็คาดเดาได้ไม่ผิดเพราะตั้งแต่ที่เทียนหลางออกจากที่เกิดเหตุเหล่านักเรียนที่มุงดูเหตุการณ์กันอยู่ตอนนั้นก็ต่างเดินออกไปพูดคุยกับเพื่อนปากต่อปากกันไปเรื่อย ๆ รวมถึงเรื่องที่เทียนหลางชวนหลินเสวี่ยไปทานมื้อเย็นอีกด้วย
จนตอนนี้มีข่าวลือแปลก ๆ เกี่ยวกับเทียนหลางและหลินเสวี่ยหลุดออกไปมากมาย แต่เทียนหลางนั้นไม่ได้รู้เรื่องเลยสักนิดในตอนนี้เขานั่งเหม่ออยู่บนสแตนเชียร์อยู่เขามองเหล่านักเรียนที่กำลังนั่งเล่นกีฬากันอยู่ที่สนามพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ
”โลกนี้ช่างสงบสุขยิ่งนัก แตกต่างจากโลกแห่งการบ่มเพาะที่มีคนตายทุกวินาที”
ในขณะที่เทียนหลางกำลังนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้นเสียงออดเริ่มชั้นเรียนก็ดังขึ้นเทียนหลางลุกขึ้นและเดินกลับห้องเรียน เมื่อกลับมาถึงทั้งห้องก็ต่างมองเขาเป็นตาเดียวอกครั้งยกเว้นเพียงหลินเสวี่ยที่เธอกำลังยิ้มให้เขาอยู่
เทียนหลางส่งยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับโต๊ะและหยิบหนังสือเรียนออกมา ก่อนจะหันไปนั่งเหม่อมองท้องฟ้าอีกครั้งเทียนหลางไม่ค่อยสนใจบทเรียนมากนักเพราะตัวเขาคนก่อนนั้นได้เรียนด้วยตัวเองไปหมดแล้ว
เทียนหลางคนเก่านั้นเป็นคนเก็บตัวดังนั้นนอกจากเวลาที่เขาช่วยพ่อแม่ในร้านอาหารนั้นเขาก็จะมานั่งอ่านหนังสือเรียน และเรียนด้วยตัวเองตลอดอยู่ตลอดทำให้เทียนหลางอดนับถือความขยันของเขาไม่ได้
…………………………………
คาบเรียนทั้งหมดผ่านไปอย่างรวดเร็วจนทำให้เทียนหลางใจหาย ก็อย่างว่าเรียนแค่ 3ชั่วโมงเท่านั้นเองเวลาเหล่านี้เทียนหลางนั่งเหม่อเพียงชั่วครู่ก็หมดแล้วเทียนหลางลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินไปยังโต๊ะของหลินเสวี่ยโดยมีคนทั้งห้องจ้องมองอยู่
”เก็บของเสร็จรึยัง ?”
เทียนหลางถามออกไปอย่างง่าย ๆ หลินเสวี่ยที่ได้ยินก็หันมามองพร้อมกับพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
”เสร็จแล้วไปกันเถอะ”
เมื่อพูดจบหลินเสวี่ยก็ลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเทียนหลาง ขณะนั้นในห้องก็เต็มไปด้วยเสียงซุบซิบ
”เรื่องจริงเหรอวะเนี้ย ~”
ชายหนุ่มในห้องคนหนึ่งร้องโหยหวนออกมาอย่างช่วยไม่ได้
”นั่นสิ ฉันไม่นึกเลยว่าเจ้าเทียนหลางนั่นจะได้ไปกินข้าวกับเทพธิดาหลินเสวี่ยจริง ๆ”
”ม๊ายยยยย ~ เทพธิดาของพวกเราถูกเจ้านั่นแย่งไปแล้ว”
เสียงร้องโหยหวนแบบนี้ดังออกมาเรื่อย ๆ ตามทางที่หลินเสวี่ยและเทียนหลางเดินผ่านทำเอาเทียนหลางอดสงสัยไม่ได้จึงหันไปถามกับหลินเสวี่ย
”นี่เธอไปเป็นเทพธิดาของพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”
หลินเสวี่ยที่ได้ยินคำถามก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
”นายหึงฉันรึไง ?”
”เปล่าแค่อยากรู้หน่ะ”
”เมื่อก่อนนายไม่เคยเห็นอยากรู้ ?”
”ก็แค่สนใจนิดหน่อย”
หลินเสวี่ยที่ได้ยินเทียนหลางพูดแบบนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขาพร้อมกับจ้องมองเทียนหลางอย่างจริงจังพร้อมกับส่งเสียงอืมๆ ออกมาเหมือนกำลังพิจารณา เทียนหลางอยู่
เทียนหลางจ้องหน้าเธอพร้อมกับยิ้ม
”เธอกำลังสำรวจผมอยู่งั้นเหรอ ?”
เมื่อหลินเสวี่ยเห็นว่าเขานั้นไม่แสดงท่าทีอะไรเลยเธอก็แสดงท่าทีฮึดฮัดออกมาอย่างน่ารัก เทียนหลางอดไม่ได้ที่จะยิ้มก่อนจะพูดขึ้น
”ก็แค่สงสัยเท่านั้นเองเธอช่วยบอกผมไม่ได้งั้นเหรอ ?”
หลินเสวี่ยย้นจมูกเล็กน้อยก่อนจะสบัดหน้าหนีพร้อมกับพูดขึ้น
”ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าฉันจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นตอนช่วงปีที่แล้วหล่ะมั้ง ดูเหมือนว่าพวกผู้ชายจะจัดอันดับสาวงามประจำโรงเรียนกันเอาเองและกลายเป็นว่าฉันได้ผลโหวตเป็นอันดับที่หนึ่งจากนั้นมาฉันก็กลายเป็นเทพธิดาของพวกเขาไปซะงั้น”
หลินเสวี่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ ราวกับว่าเธอเบื่อเรื่องพวกนี้ ซึ่งเทียนหลางก็พอจะเข้าใจได้แต่เขาก็สงสัยเล็กน้อยว่าเหตุใดเธอถึงไม่ค่อยชอบเรื่องพวกนี้เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะชอบให้ผู้อื่นชมอยู่แล้ว แต่ทำไมเธอถึงทำเหมือนกับมันสร้างปัญหาให้กับเธอ
หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อยเทียนหลางก็พาหลินเสวี่ยมาที่ลานจอดรถ หลินเสวี่ยสังเกตุก็เอ่ยถาม
”นายมีรถงั้นเหรอ ?”
”ก็นะ”
เทียนหลางเดินนำหลินเสวี่ยมาที่รถ Audi R8 สีเหลืองของเขาก่อนจะกดสวิตปลดล็อคจากกุญแจ เมื่อหลินเสวี่ยเห็นเธอก็ตกใจไม่น้อยเพราะเท่าที่เธอรู้มานั้นครอบครัวของเขานั้นเปิดแค่ร้านอาหารเล็ก ๆ เท่าไหร่ไม่มีทางที่จะร่ำรวยขนาดมีรถราคาเกือบสิบล้านแบบนี้ขับได้
ในขณะที่หลินเสวี่ยกำลังขบคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนไปของเทียนหลางและครอบครัวอยู่นั้น เมื่อเธอรู้สึกตัวอีกทีก็มานั่งอยู่บนรถของเขาเสียแล้ว
”ผมไม่ค่อยรู้จักร้านอาหารดี ๆ เอาเป็นว่าผมจะทำอาหารเย็นให้คุณทานก็แล้วกัน”
เมื่อหลินเสวี่ยได้ยินก็แสดงท่าทีตกใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปถาม
”นายทำอาหารเป็น ?”
เทียนหลางไม่ตอบอะไรเขาเพียงขับรถไปทางหมู่บ้านเทียเฮอเท่านั้น เทียนหลางผ่านประตูไปอย่างง่าย ๆ เพียงแค่โชว์บัตรผ่านเท่านั้นทางด้านหลินเสวี่ยก็แสดงท่าทีตกใจไม่น้อยออกมาเหมือนกับทีแรก แต่เธอก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็วเพราะเธอนั้นเริ่มจะชินกับเขาแล้ว
เทียนหลางขับรถมาที่วิลล่า 22 ซึ่งเป็นบ้านของเขาเมื่อหลินเสวี่ยตกใจเป็นอย่างมากกับรถราคาแพงที่จอดอยู่ที่ด้านในโรงรถและรถพวกนั้นราคารวมกันเกือบร้อยล้านทำเอาหัวของเธอปั่นป่วนไปหมด
ข้อมูลที่เธอได้รับมาก่อนหน้านี้ของเทียนหลางแทบจะผิดไปทั้งหมดไหนหล่ะร้านอาหารใกล้เจ๊ง ? ไหนหล่ะเด็กหนุ่มหน้าตาธรรมดา ๆ ? หลิวเสวี่ยรู้สึกปวดหัวราวกับโลกกำลังหมุนแต่เธอก็ยังคงเดินลงจากรถตามเทียนหลางเข้าไปในบ้าน
ข้างในบ้านถูกตกแต่งอย่างดี แต่ดูเหมือนมีมุมนึงของบ้านจะเป็นอาณาจักรของแมวสีขาวตัวอ้วนที่กำลังนอนแผ่หลาอยู่บนเสาไม้และเมื่อมันเห็นเทียนหลางมันก็รีบย้ายตัวอ้วนกลมของมันออกจากเสาไม้ทันทีและกระโดดลงมาหาเทียนหลาง
เทียนหลางรับเจ้าขาวอย่างง่ายดายก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
”ดูเหมือนแม่จะเลี้ยงแกอย่างดีเลยสินะ อ้วนขึ้นมากเลยนะเจ้าขาว”
เหมี๊ยว ~
เจ้าขาวร้องออกมาก่อนจะหันมามองหลินเสวี่ย เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลูบเจ้าขาวอย่างเอ็นดูหลังจากนั้นเทียนหลางก็ปล่อยให้หลินเสวี่ยเล่นกับเจ้าขาวส่วนเขานั้นเข้าครัวไปเตรียมอาหารเย็น
เทียนหลางไม่รู้ว่าหลินเสวี่ยชอบทานอะไรเขาจึงทำเมนูพิเศษของร้านกับอาหารง่าย ๆ อย่างพวกผัดผัก และซี่โครงหมูอบ และอื่น ๆ
ไม่นานนักอาหารก็เสร็จเรียบร้อยทั้งหมดเทียนหลางเรียกหลินเสวี่ยมาที่ห้องอาหาร เมื่อเธอเห็นอาหารที่เทียนหลางทำก็ทำเอาเธอตกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าอาหารที่เขาทำจะน่าทานแบบนี้
เทียนหลางเห็นท่าทางของหลินเสวี่ยก็ยิ้มก่อนจะเรียกให้เธอนั่งและเริ่มทานอาหารกับเทียนหลาง หลินเสวี่ยมองไปรอบ ๆ พร้อมกับถาม
”พ่อกับแม่ของเธอหล่ะ ?”
”อืม… คงจะไปซื้อของ ไม่ก็ไปเที่ยวกันมั้งนานแล้วที่พวกเขาไม่ได้พักนี่นะ”
เทียนหลางตอบกลับอย่างสบาย ๆ พร้อมกับเริ่มทานอาหารต่อจากนั้นเทียนหลางก็ถาม
”อาหารเป็นไงบ้าง ? ถูกปากรึเปล่า ?”
”แน่นอนไม่คิดว่านายจะทำอาหารอร่อยขนาดนี้ สงสัยฉันจะต้องมากินบ่อย ๆ แล้ว”
ทันทีที่เธอพูดออกมาเธอก็รู้ว่าตัวเองนั้นทำอะไรพลาดไปเธอก้มหน้าหนีอย่างรวดเร็ว ส่วนเทียนหลางมองเธอยิ้ม ๆ ก่อนจะทานอาหารต่อทั้งคู่
……………………………………
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จเทียนหลางก็เก็บจาน จากนั้นหลินเสวี่ยก็พูดขึ้น
”ขอบคุณนะ”
เทียนหลางที่กำลังล้างจานอยู่นั้นหันมาถามอย่างงุนงง
”ขอบคุณเรื่องอะไร ?”
”ที่นายชวนฉันมาทานมื้อเย็นแบบนี้”
”อย่าคิดมากน่า ผมก็แค่ตอบแทนเรื่องที่เธอทำให้ผมมาตลอดก็เท่านั้นเธอเป็นคนเดียวในโรงเรียนที่มองผมเป็นคนมากที่สุด สำหรับเรื่องแค่นี้เล็กน้อย”
เทียนหลางตอบกลับแบบยิ้ม ๆ ทำให้หลินเสวี่ยยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน หลังจากเก็บจานเสร็จเทียนหลางก็ขอตัวไปส่งเธอที่บ้านซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธ ระหว่างทางหลินเสวี่ยก็พูดขึ้น
”เป็นมื้อเย็นที่ดีนะ”
”ขอบคุณ แม้จะเรียบง่ายไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็อย่างว่าผมไม่รู้จักร้านอาหารหรู ๆ”
”แต่ฉันชอบมันนะ”
หลินเสวี่ยยิ้ม
”แค่นั้นผมก็ดีใจ”
เทียนหลางมาส่งหลินเสวี่ยที่หมู่บ้านหยกนภา ซึ่งเป็นหมู่บ้านคนรวยที่หรูไม่น้อยไปกว่าหมู่บ้านเทียเฮอเลยเทียนหลางขับมาส่งที่วิลล่าหลังที่ 17 เมื่อขับมาถึงก็มีชายแก่ที่แต่งตัวด้วยชุดสูทเต็มยศเดินออกมา เทียนหลางคาดว่าน่าจะเป็นพ่อบ้านของเธอ
”ยินดีต้อนรับกลับครับ คุณหนู”
”หนูกลับมาแล้วคะ พ่อบ้านเหลา”
”สวัสดีครับ”
เทียนหลางกล่าวทักทายพ่อบ้านเหลาเป็นมารยาทก่อนจะขอตัวลากลับ เมื่อพ่อบ้านเหลาเห็นเทียนหลางขับรถจากไปเขาก็หันมาถามกับหลินเสวี่ย
”แฟนหนุ่มคุณหนูงั้นเหรอครับ ?”
”ไม่มีทางหรอกค่ะ !”
หลินเสวี่ยตอบด้วยท่าทางอายๆ ส่วนพ่อบ้านเหลานั้นทำได้เพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย ทางด้านของเทียนหลางที่กลับมาถึงบ้านและกำลังยืนอยู่ที่กลางสวนหลังบ้านของเขาที่ยังสร้างไม่เสร็จเขามองไปรอบ ๆ ก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าอันมืดมิดก่อนจะพึมพำออกมา
”เธอนั้นช่างเหมือนเจ้าจริง ๆ”