ทันทีที่พ่อของเทียนหลางได้ยินคำพูดของเฟิงหยวนก็ถึงกับช็อคไปทันที ส่วนทางด้านคุณแม่นั้นถึงกับลมจับจนเกือบทรุดดีที่เฟิงหยวนนั้นประคองเธอเอาไว้เทียนหลางเดินลงมาด้านล่างพร้อมกับช่วยเฟิงหยวนประคองแม่ไปที่โซฟาก่อนจะเอายาดมมาให้เธอ
”แม่เป็นอะไรไหมครับ ?”
เทียนหลางถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งแม่ของเทียนหลางก็หันมามองเขาตาขวางก่อนจะพูดขึ้น
”ฉันขอให้แกหาสะใภ้ให้ฉันก็จริง แต่ไม่คิดว่าแกจะหาได้ไวเพียงข้ามคืนขนาดนี้”
”นั่นนะสิ แล้วแถมแกยังพาเธอมาทำอะไรที่บ้านอีกด้วย”
พ่อพูดเสริมแม่ขึ้นมาทันที ทำเอาเทียนหลางเวียนหัวเล็กน้อยก่อนจะพูดแก้ต่าง
”ไม่ใช่อย่างงั้นนะพ่อ ถึงเธอจะบอกว่าเป็นภรรยาผมก็จริง แต่เราไม่ได้มีอะไรกันอันที่จริงแล้วเฟิงหยวนจะย้ายมาอยู่ที่นี้ผมเลยให้เธอไปอยู่ที่ห้องของผมนะ”
เมื่อพ่อและแม่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเข้าใจก่อนที่พ่อจะถามขึ้น
”แล้วทำไมไม่ให้หนูเฟิงหยวนไปอยู่กับแกที่บ้านในสวนละ บรรยากาศออกจะดีแล้วอีกอย่างอยู่ด้วยกันก็น่าจะดีกว่านิ”
”ก็ผมอยากจะให้เฟิงหยวนอยู่ดูแลพ่อกับแม่นะ เพราะพ่อก็รู้ตอนนี้ผมเริ่มมีกิจการเป็นของตัวเองแล้วอาจจะไม่ค่อยอยู่บ้านบางครั้ง การที่มีเฟิงหยวนมาอยู่ดูแลทั้งคู่มันไม่ดีกว่าหรอ”
เมื่อแม่ของเทียนหลางได้ยินก็พยักหน้าก่อนจะพูดขึ้น
”แม่เข้าใจแล้ว ดีเหมือนกันช่วงนี้แม่ก็เหงา ๆ ด้วยเจ้าลูกตัวดีมันไม่ค่อยจะอยู่บ้านถึงอยู่ก็ไม่ค่อยสนใจ มีหนูเฟิงหยวนมาอยู่ด้วยก็ดีไปอีกแบบ”
เทียนหลางได้ยินที่แม่ของตัวเองพูดก็รู้สึกตกใจและรู้สึกผิดเล็กน้อยก่อนจะหันมาพูดกับเฟิงหยวน
”ดูเหมือนแม่จะไม่ค้านนะ”
เฟิงหยวนที่ได้ยินก็ยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นไปกอดแม่ของเทียนหลาง
”ฝากตัวด้วยนะคะคุณแม่”
จากนั้นทั้งสองคนก็กอดกันกลมเกลียวประหนึ่งเป็นครอบครัวเดียวกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนทำเอาเทียนหลางสับสนเล็กน้อย ก่อนที่เทียนหลางจะได้ทำอะไรพ่อของเทียนหลางก็พูดขึ้น
”เทียนหลาง”
”ครับพ่อ ?”
”ตามพ่อมาที่สวนสิ”
เทียนหลางลุกขึ้นและเดินตามพ่อของเขาไปที่สวนด้วยความงุนงง เมื่อมาถึงพ่อของเทียนหลางก็หันมาพูดกับเขาทันที
”แกแน่ใจใช่ไหมเรื่องหนูเฟิงหยวนนะ ?”
”มั่นใจอะไรงั้นเหรอพ่อ ?”
เทียนหลางถามด้วยความงุนงง แต่พ่อของเทียนหลางกลับถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
”เรื่องที่แกจะให้หนูเฟิงหยวนเป็นภรรยาของแก”
เมื่อเทียนหลางได้ยินคำถามเขาก็รู้สึกสับสนเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
”ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่เพราะผมได้สัญญาเอาไว้กับเธอและหากจะให้ผมผิดสัญญาณละก็… ผมคงไม่มีหน้าไปมองใครเป็นครั้งที่สองอีกแน่”
ทันทีที่พ่อของเทียนหลางได้ยินเขาก็พูดขึ้น
”แล้วแกลังเลเรื่องอะไร ? ?”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ก้มหน้าพร้อมกับพูดขึ้น
”เพราะผมมีทั้งพ่อและแม่ต้องดูแล แถมตอนนี้ยังมีธุระกิจอีกสองอย่างที่ต้องดูแลอีกด้วยผมเลยไม่ค่อยแน่ใจเรื่องที่จะแต่งงานกับเฟิงหยวนเท่าไหร่ และที่สำคัญผมพึ่งจะสิบแปดเท่านั้นเอง”
”แล้วแกรักเธอรึเปล่า ?”
”รักสิครับ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นพ่อของเทียนหลางก็พูดขึ้น
”ถ้าแกบอกว่าแกรักเธอ ฉะนั้นแกก็ไปทำให้ทุกอย่างมันถูกต้องซะ”
”ทำให้ถูกต้อง ?”
เทียนหลางพูดด้วยความงุนงง พ่อของเทียนหลางก็พยักหน้าช้า ๆ พร้อมกับพูดขึ้น
”แกได้ไปคุยเรื่องนี้กับพ่อแม่ของแม่หนูเฟิงหยวนรึยัง ?”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ส่ายหน้า
”พ่อแม่ของเธอตายไปได้นานแล้วครับ”
ใช่พ่อแม่ของเฟิงหยวนตายไปนานแล้ว ตายไปกว่าหมื่นปีแหนะเทียนหลางคิดในใจก่อนจะมองไปที่ใบหน้าของพ่อตนเองที่กำลังครุ่นคิดจากนั้นไม่นานพ่อของเทียนหลางก็พูดขึ้น
”ดูท่าจะเป็นปัญหานิดหน่อยเรื่องการสู่ขอ แต่ก็ช่างมันเถอะเรื่องนั้นค่อยว่ากันทีหลัง”
หลังจากบ่มพึมพำเสร็จพ่อของเทียนหลางก็หันมาพูดกับเขา
”เรื่องสู่ขอนั้นช่างหัวมัน ในตอนนี้แกต้องมีแหวนหมั้นซะก่อนพาหนูเฟิงหยวนไปซื้อแหวนหมั้นสะเข้าใจ๋ ! แล้วก็เรื่องแต่งงานนั้นเอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้แกยังพึ่งสิบแปดเรื่องนั้นรอไปก่อนได้ แต่ตอนนี้แกต้องหมั้นหมายกับหนูเฟิงหยวนเอาไว้เข้าใจรึเปล่า ?”
เทียนหลางรู้สึกงุนงงสับสนกับความกระตือรือร้นของผู้เป็นพ่อเป็นอย่างมาก ก่อนจะตบปากรับคำหลังจากทั้งสองคนคุยกันเสร็จก็กลับมาที่ห้องนั่งเล่นเมื่อกลับมาก็เห็นเฟิงหยวนกำลังพูดคุยกับแม่ของเทียนหลางอย่างสนุกสนานเรียกได้ว่าเข้ากันได้อย่างดีเลยทีเดียว
เมื่อแม่ของเทียนหลางเห็นเขากลับเข้ามาก็พูดขึ้นทันที
”แกพาหนูเฟิงหยวนไปซื้อของใช้ส่วนตัวเดียวนี้นะ”
”เข้าใจแล้วครับแม่”
เทียนหลางตอบกลับอย่างเชื่อฟังก่อนจะพาเฟิงหยวนมาที่โรงรถเมื่อเฟิงหยวนเห็นรถที่อยู่ด้านในก็พูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้
”ดูเหมือนคุณจะทำงานหนักไม่น้อยเลยนะ”
”นี่ชมงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางตอบพร้อมกับยิ้มให้เฟิงหยวน เฟิงหยวนก็ได้แต่หัวเราะคิกคักพร้อมกับยิ้มตอบกลับ
……………………………………………………………………..
ระหว่างขับรถไปห้างจู่ ๆ เฟิงหยวนก็ได้ถามเทียนหลางขึ้น
”ฉันสงสัยมานานแล้ว ทำไมคุณถึงยังใช้ใบหน้านั้นอยู่อีกละ ?”
เมื่อเทียนหลางได้ยินก็ยิ้มขืน ๆ ออกมาทันทีก่อนจะพูดขึ้น
”เธอรู้งั้นเหรอ ?”
เฟิงหยวนที่ได้ยินก็ทำหน้าบู้ขึ้นมาทันทีก่อนจะพูดขึ้น
”นี่คุณคิดว่าฉันเป็นคนยังไงกัน ? ฉันอยู่กับคุณมามากกว่าหมื่นปีเลยนะทำไมฉันจะจำใบหน้าที่แท้จริงของคุณไม่ได้ ถึงใบหน้าในตอนนี้ของคุณจะเหมือนเมื่อสมัยยังเป็นจักรพรรดิสวรรค์ก็เถอะ แต่มันก็เป็นเพียงแค่เหมือนเท่านั้น”
เทียนหลางที่ได้ยินก็หัวเราะออกมาแห้ง ๆ ก่อนจะอธิบาย
”หากฉันใช้ใบหน้าที่แท้จริงเดียวก็เหมือนกับตอนนั้นอีกหรอก”
เฟิงหยวนมองใบหน้าอันขมขื่นของเทียนหลางขณะขับรถแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมามันทำให้เธอนึกถึงเรื่องราวก่อนที่เทียนหลางจะได้เป็นจักรพรรดิสวรรค์ในช่วงนั้นเทียนหลางได้บังเอิญไปดื่มยาทิพย์ของย่าฟู่ ซึ่งเป็นนักปรุงยาที่แข็งแกร่งที่สุดบนแดนสวรรค์และยังเป็นอาจารย์เรื่องศาสตร์ปรุงยาของเทียนหลางอีกด้วย
และด้วยผลของยาทิพย์นั้นทำให้เทียนหลางมีใบหน้าตาที่หล่อเหลามากกว่าเทพองค์อื่นจนเรียกได้ว่าเหล่านางฟ้า หรือเทพธิดาต่างมารุมล้อมเขามากมายจนทำให้เกือบจะเกิดการต่อสู้กันระหว่างเหล่าเทพธิดาเพื่อตัดสินว่าใครจะได้เป็นภรรยาของเขากันเลยทีเดียว
จากเหตุการณ์นั้นทำให้เทียนหลางถึงกับต้องการเป็นคนเก็บตัวไปพักใหญ่และยังถูกย่าฟู่สั่งห้ามให้เข้าไปในห้องเก็บโอสถอีกพันปีด้วย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เทียนหลางไม่ค่อยอยากจะออกไปไหนสักเท่าไหร่ เมื่อเฟิงหยวนคิดถึงเรื่องนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา
”คุณยังจำเหตุการณ์นั้นได้อีกงั้นเหรอ ?”
”แน่นอนสิเพราะเรื่องนั้นทำให้ฉันถึงกับอดเข้าไปแอบขโมยโอสถของย่าฟู่ไปขายเลย”
”แต่ข้าอยากเห็นใบหน้านั้นอีกครั้งนะ แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่กลัวพวกผู้หญิงของโลกนี้ด้วยซ้ำ”
เทียนหลางที่ได้ยินก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้น
”งั้นเอาเป็นคราวหน้าก็แล้วกัน”