เทียนหลางและเฟิงหยวนมาถึงตึกฟูเฉียนอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินเข้ามาเทียนหลางก็ต้องแปลกใจกับการตกแต่งอันหรูหราของตึกแม้จะเทียบไม่ได้กับตึกที่ทำงานของหลินจินทงก็ตามแต่มันก็ยังถือว่าเป็นตึกราคาแพงอยู่ดี
หลังจากเดินเข้ามาได้สักพักเทียนหลางก็สักเกตุเห็นผู้ชายร่างเล็กที่แต่งตัวจัดจ้านคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ เมื่อชายคนนั้นเห็นเฟิงหยวนเดินเข้ามาเขาก็วิ่งมาทันที
ก่อนจะกล่าวทักทายเฟิงหยวนด้วยน้ำเสียงอ่อนเสียงหวาน
“สวัสดีจ้ะเฟิงหยวน พี่ขอบคุณเธอมากเลยนะที่ตัดสินใจจะมาถ่ายงานชุดนี้ให้กับพี่นะ”
เฟิงหยวนยิ้มพร้อมกับถอดแว่นกันแดดออกมาพร้อมกับพูดว่า
“ผู้จัดการจิงถึงกับมาขอร้องถึงบ้านขนาดนี้หากฉันไม่มาถ่ายให้คงเป็นการทำร้ายคุณแน่ๆ”
เมื่อผู้จัดการจิงได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับน้ำตาคลอออกมาทันทีพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ใช่แล้วล่ะ ทางเจ้าของเขาแบรนด์นั้นอยากได้เธอมาถ่ายภาพเซ็ตนี้ให้จริงๆถ้าหากไม่ใช่เธอเขาก็จะไม่ตกลงเซ็นสัญญางานอื่นกับค่ายของพี่ ครั้งนี้ถือว่าเธอได้ช่วยฉันเอาไว้จริงๆ”
เฟิงหยวนพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม ผู้จัดการจิงในขณะที่กำลังพูดคุยกับเฟิงหยวนอยู่นั้นเขาก็หันมาเห็นชายหนุ่มสวมแว่นกันแดดที่อยู่ข้างกายของเฟิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“เฟิงหยวนจ้ะ แล้วชายหนุ่มที่อยู่ข้างเธอละเป็นใครกันเหรอ ?”
เฟิงหยวนหันมามองเทียนหลางเล็กน้อยก่อนจะเขยิบเข้ามาควงแขนของเทียนหลางและกล่าวกับผู้จัดการจิงว่า
“สามีของฉันเองค่ะ ที่เคยบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้”
ผู้จัดการจิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ร้องอ๋อออกมาก่อนจะกล่าวหยอกล้อว่า
“ถ้าแต่งวันไหนก็อย่าลืมส่งการ์ดเชิญมาให้พี่บ้างนะจ้ะ”
เฟิงหยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนที่ผู้จัดการจิงจะกล่าวทักทายกับเทียนหลางพร้อมกับยื่นมือออกมา
“จิงหยุนเฟย เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเฟิงหยวนจ้ะ”
เทียนหลางจับมือกับผู้จัดการจิงด้วยรอยยิ้มพร้อมกับแนะนำตัวเอง
“สามีของเฟิงหยวน เทียนหลางครับ”
หลังจากกล่าวทักทายกันเล็กน้อยเสร็จผู้จัดการจิงก็พาทั้งคู่ไปยังสตูดิโอถ่ายภาพ ระหว่างทางผู้จัดการจิงก็กล่าวอธิบายเกี่ยวกับงานครั้งนี้ให้ฟังซึ่งเป็นงานถ่ายภาพเสื้อผ้าเซ็ตใหม่ของแบรนด์ดัง
และเหตุผลที่ทางเจ้าของแบรนด์นั้นต้องการให้เพียงเฟิงหยวนคนเดียวมาเป็นนางของเซ็ตเสื้อผ้าใหม่ของเขานั้นก็เพราะว่าเธอไปเห็นภาพของเฟิงหยวนในนิตยสารเล่มหนึ่งและคิดว่าลุคอันเย็นชาและใบหน้าอันงดงามของเธอนั้นเหมาะกับเสื้อผ้าเซ็ตนี้ที่สุด
เมื่อทั้งสามคนมาถึงสตูดิโอถ่ายภาพเทียนหลางก็เห็นคนจำนวนมากกำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดของกันอยู่ ผู้จัดการจิงพาเฟิงหยวนไปแนะนำตัวกับเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าดังกล่าว ก่อนจะพาเธอไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อเพื่อที่จะได้เริ่มถ่ายงานกันให้เสร็จ
เทียนหลางนั้นค่อนข้างที่จะสนใจในงานของเฟิงหยวนเล็กน้อย แต่เพราะเขานั้นไม่มีอะไรจะทำจึงเดินไปที่โซฟาใกล้ๆพร้อมกับนั่งและหยิบหนังสือบนโต๊ะมาอ่านเพื่อรอเฟิงหยวนทำงานให้เสร็จ
ในขณะที่เทียนหลางกำลังอ่านหนังสืออยู่นั้นหูของเขาก็พลันได้ยินเสียงเอะอะโวยวายกันของคนอื่นๆ
เทียนหลางเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะสรุปได้อย่างสั้นๆ ดูเหมือนว่านายแบบที่ทางเจ้าของงานได้นัดไว้นั้นเกิดอุบัติเหตุทำให้ไม่สามารถถ่ายงานได้และดูเหมือนทางกองถ่ายกำลังวุ่นวายกันน่าดูเพราะดูเหมือนว่านายแบบที่เหมาะสมนั้นตอนนี้ไม่ว่างเลยสักคน
ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายเพื่อหาตัวนายแบบกันอยู่นั้นเฟิงหยวนก็ได้เอ่ยบางอย่างขึ้น
“ถ้างั้นทำไมไม่ให้สามีของฉันเป็นคู่ถ่ายแบบให้แทนละคะ ?”
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นสายตาของทุกคนก็หันตรงมายังชายหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาทันที เทียนหลางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะถอดแว่นกันแดดออกและหันไปกล่าวทักทายกับทุกคน
“สวัสดีครับ”
ทันทีที่เจ้าของแบรนด์เห็นเทียนหลางเธอก็จ้องมองเขาทันทีก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กับเฟิงหยวนทันที เฟิงหยวนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเทียนหลางพร้อมกับกล่าวว่า
“คุณคงได้ยินทั้งหมดแล้วสินะ”
เทียนหลางยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ได้ยินแล้วครับ ผมกำลังสนใจงานของคุณอยู่พอดีจะถ่ายคู่ด้วยก็ได้”
หลังจากนั้นผู้จัดการจิงก็พาเทียนหลางไปแต่งตัว เมื่อออกมาจากห้องแต่งตัวเทียนหลางก็ต่างถูกจ้องมองจากเหล่าคนในกองถ่ายทันที ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดีใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับถูกแกะสลักมาจากหยกชั้นดีของเทียนหลางนั้นสามารถดึงดูดผู้หญิงทุกคนที่จ้องมองเขาได้ในทันที ต่างจากชายหนุ่มก่อนหน้านี้ราวกับเป็นคนละคนกันเลยทีเดียว
ผู้จัดการจิงเมื่อเห็นเทียนหลางก็รีบวิ่งเข้ามาทันทีพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“คุณเทียนหลางสนใจจะเซ็นสัญญากับทางเราหรือเปล่าคะ ?”
เทียนหลางยิ้มเล็กน้อยก่อนจะบอกปฏิเสธออกไป
“ไม่ดีกว่าครับผู้จัดการจิง”
ผู้จัดการจิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาทันทีพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“น่าเสียดายจริงๆนะคะเนี้ย ถ้าหากคุณเทียนหลางสนใจงานสายนี้จริงๆฉันเชื่อว่าคุณคงจะสามารถมัดใจสาวๆได้ภายในเวลาไม่นานแน่นอน”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาทันที
“คุณก็พูดเกินไป”
ผู้จัดการจิงได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหัวปฏิเสธพร้อมกับพูดว่า
“ไม่เกินไปหรอกค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ค่อยพูดกันทีหลังก็แล้วกันนะคะเรารีบไปถ่ายงานกันก่อนดีกว่า”
เทียนหลางพยักหน้าพร้อมกับเดินตามผู้จัดการจิงไปยังโซนที่ทีมงานได้จัดไว้ทันที เฟิงหยวนที่จ้องมองเทียนหลางอยู่นั้นเมื่อเห็นเทียนหลางเปลี่ยนการแต่งตัวก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“คุณเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าแบบนี้แล้วดูดีมากเลยนะ”
เทียนหลางยิ้มพร้อมกับกล่าวออกมาว่า
“แล้วคุณชอบหรือเปล่า ?”
เฟิงหยวนยิ้มและไม่ตอบอะไรก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าฉากเพื่อถ่ายงาน