เมื่อแอนเดียได้ยินคำพูดของเทียนหลางเธอก็ตกใจเป็นอย่างมากพร้อมกับหันมองไปที่ฝ่ายตรงข้าม เธอไม่คิดว่าพวกปีศาจนั้นจะกล้าบุกนครศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ตั้งขององค์กรวาติกันแบบนี้ และดูเหมือนว่าแผนของมันจะได้ผลดีเสียด้วย
ทางด้านเหล่าปีศาจเมื่อเห็นว่าตัวตนของตัวเองถูกเปิดเผยแล้วพวกมันก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกต่อไป สายตาของพวกมันเปลี่ยนไปและออร่าก็เริ่มที่จะแข็งกร้าวขึ้น
บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไปฉับพลันจากการที่ออร่าของปีศาจหลายตนต่างผสมปนเปเข้าด้วยกัน พวกมันมองเทียนหลางอย่างกระหายเลือดก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ในเมื่อแกรู้ตัวจริงของพวกข้าแล้ว พวกข้าก็คงไม่จำเป็นจะต้องปกปิดตัวเองอีก”
เมื่อพูดจบเสื้อผ้าของพวกมันก็ที่จะฉีกขาด ร่างกายของพวกมันเริ่มเปลี่ยนแปลงจากผิวหนังที่เป็นมนุษย์เริ่มกลายเป็นเกล็ดแข็งบางคนก็กลายเป็นหนามแหลม
แอนเดียตกใจเป็นอย่างมากเพราะเธอไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เพราะร่างกายของพวกมันเปลี่ยนไปจากเดิมจนเธอแทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าแต่เดิมแล้วพวกมันมีท่าทางเหมือนมนุษย์มากแค่ไหน
หลังจากที่พวกมันเปลี่ยนร่างเสร็จเทียนหลางก็ยืนมองพวกมันอยู่เล็กน้อยก่อนจะลูบคางตัวเองเบาๆพร้อมกับพูดออกมาด้วยท่าทีใจเย็น
“อืม… ประเภทพวกแปรเปลี่ยนร่างกายงั้นเหรอ ?”
แอนเดียที่เห็นเทียนหลางกำลังเย็นอยู่นั้นก็ถึงกับเขย่าตัวเขาทันทีพร้อมกับพูดว่า
“คุณยังใจเย็นอยู่ได้อีกเหรอคะ ?”
เทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองแอนเดียเล็กน้อยก่อนจะถามออกมาด้วยความสงสัย
“คุณดูตื่นตระหนกจังนะ ไม่เคยต่อสู้กับปีศาจงั้นเหรอ ?”
“เคยสิคะ แต่ฉันไม่เคยเจอพวกปีศาจที่เป็นแบบนี้ !!”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนจะพูดปลอบใจแอนเดียไปว่า
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ สำหรับผมเจ้าพวกนี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอก”
แอนเดียที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้างุนงงออกมาทันที เทียนหลางที่เห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะบอกกับแอนเดียว่า
“แม้ภายนอกจะดูน่ากลัวดุดันแต่ถึงอย่างงั้นคุณก็อย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกมาหลอกตาเชียวล่ะ !!”
“หลอกตา ?”
แอนเดียกระพริบตาปริบๆ เทียนหลางยิ้มพร้อมกับตอบกลับ
“ถูกต้อง ส่วนใหญ่ปีศาจประเภทนี้จะไม่เก่งกาจการต่อสู้ระยะไกลมากนักและเพราะหน้าที่ส่วนใหญ่ของพวกมันในสงครามจะเป็นโล่เนื้อให้พวกปีศาจชั้นสูง ฉะนั้นพวกมันจึงวิวัฒนาการเกล็ดหรือเกราะแข็งเพื่อป้องกันตนเอง”
“เอาเข้าจริงพวกมันก็ไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้น หากจะให้เทียบก็คือพวกมันเป็นหทารเลวนั่นแหละ”
แอนเดียที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า ทางด้านฝ่ายปีศาจเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนนั้นไม่ได้สนใจพวกมันเลยมันก็เริ่มที่จะอารมณ์เสียทันทีและพุ่งเข้าใส่เทียนหลางและแอนเดีย
“พวกแกกล้าเมินข้างั้นเรอะ !!”
แอนเดียที่เห็นว่าปีศาจกำลังพุ่งเข้าก็เริ่มเตือนเทียนหลางทันที
“ระวัง !!”
เทียนหลางไม่แม้แต่จะหันไปมอง เขาเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะสะบัดมือเบาๆมีดสั้นก็ลอยออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมของเขาและพุ่งเข้าใส่ปีศาจสองตัวนั้นที่กำลังพุ่งเข้ามาทันที
ฉัวะ ฉัวะ !!
เสียงเฉือดเฉือนและเลือดที่สาดกระจายเต็มบริเวณพร้อมกับศพของปีศาจสองตนที่กองอยู่บนพื้น แอนเดียที่เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ถึงกับตกตะลึงจนแทบไม่อยากจะเชื่อ
เพราะเทียนหลางนั้นสามารถฆ่าปีศาจสองตนได้โดยที่เขาขยับเพียงแค่มือเท่านั้น
เทียนหลางยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดกับแอนเดียว่า
“เห็นไหมล่ะ เจ้าพวกนี้มันไม่ได้เก่งกาจอะไรขนาดนั้นหากดูจากภายนอก”
แอนเดียพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามกับเทียนหลางไปว่า
“ไม่ใช่ว่าคุณแข็งแกร่งเกินไปหรอกเหรอ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะลูบคางตัวเองเบาๆ
“น่าจะเป็นอย่างงั้นละมั้ง”
หลังจากพูดแบบนั้นออกมาเทียนหลางก็ยืดกายบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะถามกับพวกปีศาจที่เหลือ
“เอาล่ะ พวกแกคิดจะทำไรต่อไปดีล่ะ ?”
เมื่อพวกมันได้ยินคำถามของเทียนหลางก็ได้แต่มองหน้ากัน ก่อนจะตัดสินใจพุ่งเข้าใส่เทียนหลาง ทางด้านของเทียนหลางเขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะขยับมือไปมามีดสั้นก็บินผ่านเฉือนร่างกายของปีศาจที่เหลือจะกลายเป็นชิ้นๆ
หลังจากจัดการปีศาจที่หน้าห้องนิรภัยเสร็จแล้วเทียนหลางก็ขอให้แอนเดียเปิดประตูห้องนิรภัยเขาจะได้จัดการงานให้เสร็จเสียที
ทันทีที่ประตูห้องนิรภัยถูกเปิดออกพลังงานด้านลบอันรุนแรงก็พวยพุ่งออกมาจากห้องทันที เสียงเตือนภัยดังขึ้นทันที่พลังงานด้านลบหลุดรอดออกมา แอนเดียตื่นตระหนกเล็กน้อยและจ้องมองไปที่เทียนหลาง
เทียนหลางเดินเข้าไปในห้องอย่างสบายๆโดยที่ไม่สนใจพลังงานด้านลบเลยแม้แต่น้อย เมื่อไปถึงในกลางห้องเทียนหลางก็พบเห็นอำพันปีศาจขนาดใหญ่ตั้งอยู่
“ขนาดใหญ่เอาเรื่องเลยแหะ”
เทียนหลางอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อเห็นขนาดของมัน เทียนหลางครุ่นคิดบางอย่างเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัวออกมาเบาๆ
“แม้จะน่าเสียดายแต่คงต้องขอทำลายทิ้งก่อนที่เรื่องวุ่นวายจะเกิด”
เมื่อพูดจบเทียนหลางก็ใช้มีดสั้นของตัวเองฟันไปที่อำพันปีศาจทันที
เพล้ง !!
อำพันปีศาจแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากการฟันเพียงครั้งเดียวของเทียนหลาง พลังงานด้านลบที่ก่อนหน้าเคยหนาเน้นกระจายอยู่รอบห้องได้สูญสลายหายไปทันที
เสียงเตือนภัยที่เคยดังก่อนนี้ก็พลันเงียบลง เทียนหลางถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้กับแอนเดียที่ยืนอยู่อีกด้านของกระจกนิรภัยด้านนอก
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราสองคนกลับไปด้านบนกันเถอะ”