เมื่อพวกยามได้ยินแบบนั้นก็มองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ถ้างั้นโปรดรอสักครู่”
จากนั้นยามก็พูดอะไรบางอย่างผ่านหูฟัง จากนั้นเขาก็หันมาถามกับเทียนหลางพร้อมกับถามว่า
“โปรดบอกชื่อของคุณมาด้วย”
เทียนหลางยิ้มพร้อมกับตอบกลับว่า
“บอกไปว่าคุณหมอเทียนมาหาก็แล้วกัน”
ยามพยักหน้าก่อนจะแจ้งเข้าไปด้านใน จากนั้นเขาก็หันมาพูดกับเทียนหลางว่า
“เชิญเลยครับ”
“ขอบคุณ”
เทียนหลางกล่าวขอบคุณและเดินเข้าไปด้านในคฤหาสน์ เมื่อมาถึงด้านหน้าก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพ่อบ้านชรา
พ่อบ้านชราเดินนำเทียนหลางเข้าไปในคฤหาสน์ เมื่อหาถึงห้องนั่งเล่นเทียนหลางก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งจิบชาอยู่ พ่อบ้านชราพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อมว่า
“ผมพาคุณหมอมาแล้วครับ”
หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็วางถ้วยชาลงก่อนจะยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“เชิญนั่งก่อนสิคะ คุณหมอเทียน”
“ขอบคุณครับ คุณนายตงเสวีย”
เทียนหลางนั่งลงในด้านตรงข้ามคุณนายตงเสวีย ก่อนที่พ่อบ้านชราจะรินชาให้ จากนั้นคุณนายตงเสวียก็เอ่ยถามกับเทียนหลางว่า
“ไม่ทราบว่าคุณหมอเทียนมีธุระอะไรกับลูกสาวของดิฉันงั้นเหรอคะ ?”
เทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า
“พอดีผมมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากเธอหน่อยนะครับ แล้วก็เลยถือโอกาสมาดูอาการของคุณด้วย”
คุณนายตงเสวียได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะถามด้วยความสงสัยว่า
“ขนาดคุณหมอเทียนยังต้องขอให้ช่วย ฉันอยากจะทราบจริงๆว่าคุณหมอมีเรื่องเดือดร้อนอะไรงั้นเหรอคะ ?”
เทียนหลางวางถ้วยชาลงก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เอาเป็นว่าเรื่องนั้นค่อยพูดกันทีหลังก็แล้วกันนะครับ ผมขอดูอาการคุณนายก่อนจะดีกว่า”
“ได้สิคะ”
คุณนายตงเสวียพยักหน้า เทียนหลางจึงกล่าวขอมือคุณนายตงเสวีย เมื่อคุณนายตงเสวียยื่นมือออกมาเขาก็ได้ตรวจไปดูที่ชีพจรของเธอ
ก่อนหน้านี้เมื่อเทียนหลางมีเวลาว่างก็จะมารักษาคุณนายตงเสวียเสมอ หลังจากตรวจดูสักพักเทียนหลางก็ได้ปล่อยมือของเขาออก ก่อนจะพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
“อาการของคุณดีขึ้นจนเกือบจะหายสนิทแล้ว เอาเป็นว่าผมจะจ่ายยาครั้งสุดท้ายให้กับพ่อบ้านของคุณไปจัดการแล้วกันนะครับ”
คุณนายตงเสวีย และพ่อบ้านชราได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าดีใจออกมา ก่อนจะกล่าวขอบคุณกันยกใหญ่ เทียนหลางก็ได้แต่โบกมือก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องแค่นี้เอง”
จากนั้นเทียนหลางก็ได้หยิบกล่องยาสีเขียวออกมาและยื่นมันให้กับพ่อบ้าน ก่อนจะเขียนวิธีใช้ที่เหมาะสมให้กับเขา ซึ่งพ่อบ้านก็กล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้ง ทำเอาเทียนหลางหัวเราะออกมาเบาๆ
จากนั้นคุณนายตงเสวียก็ได้เอ่ยกับเทียนหลางว่า
“ในเมื่อตรวจสุขภาพของฉันเสร็จแล้ว คุณหมอเทียนพอจะบอกได้ไหมคะว่าคุณมีความกังวลใจในเรื่องใด ถึงได้มาขอความช่วยเหลือ ?”
เทียนหลางยิ้มพร้อมกับถามคุณนายตงเสวียกลับไปว่า
“คุณทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลฉวีในช่วงนี้หรือเปล่าครับ ?”
คุณนายตงเสวียที่ได้ยินแบบนั้นก็ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ก็ได้ยินมาบ้างนะคะ คุณหมอจะให้ทางตระกูลตงเสวียช่วยเหลือตระกูลฉวีงั้นเหรอคะ ?”
เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้นกับคุณนายตงเสวียว่า
“ผมคาดว่าคุณนายตงเสวียคงจะพอทราบเกี่ยวกับผมมาบ้างแล้ว ฉะนั้นคุณคงจะพอทราบคำขอของผม”
คุณนายตงเสวียได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกว่าคำพูดของเทียนหลางนั้นถูกต้อง แม้เรื่องราวของฉวีเย่โหรวแม่ของเทียนหลางจะไม่ได้โด่งดังมากนักแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นความลับอะไร หากสืบสักเล็กน้อยก็คงจะทราบได้ และแน่นอนว่าคนอย่างคุณนายตงเสวียย่อมต้องสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับตัวเทียนหลางมาบ้างไม่มากก็น้อย ฉะนั้นเธอย่อมรู้เรื่องเกี่ยวกับเขา
คุณนายตงเสวียคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยกับเทียนหลางว่า
“ก็ได้ค่ะ ฉันตอบรับคำขอของคุณ”
เมื่อพูดจบคุณนายตงเสวียก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ราวกับมีบางอย่างอยู่ภายในใจ