เมื่อยันต์ถูกใช้งานเรียบร้อยแล้วมันก็ได้ถูกเผาไหม้ทันทีและกลายเป็นเพียงขี้เถ้า แอนเดียร์ที่ได้เห็นการทำงานของยันต์คุ้มกันเธอก็ตกตะลึงเป็นอย่างมากก่อนจะก้มๆเงยๆตรวจดูร่างกายของตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนไหนที่กลายเป็นรู
หลังจากที่ลุกลี้ลุกลนอยู่พักหนึ่งเธอก็หันมาถามกับเทียนหลางทันที
“คุณจะขายยันต์พวกนั้นให้กับทางเราได้ไหมคะ ?”
เทียนหลางยิ้มออกมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาลุกขึ้นพร้อมกับพูดว่า
“เอาเป็นว่าเราไปคุยกันที่ร้านอาหารแถวนี้กันเถอะ ผมหิวแล้ว”
แอนเดียร์พยักหน้าก่อนจะพาเทียนหลางไปยังร้านอาหารใกล้ๆ ก่อนออกมาเทียนหลางก็เห็นเพื่อนร่วมงานของแอนเดียร์ที่กำลังทำงานกันอยู่เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถาม
“พอดีผมจะไปร้านอาหารแถวนี้ จะเอาอะไรหน่อยไหม ?”
พวกเขามองเทียนหลางเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าพร้อมกับมีคนหนึ่งยกอาหารกล่องขึ้นมาโชว์ ประมาณจะบอกว่าพวกฉันกินนี่กันเรียบร้อยแล้ว
เทียนหลางที่เห็นแบบนั้นก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะออกปไปที่ร้านอาหารพร้อมกับแอนเดียร์
แอนเดียร์พาเทียนหลางมาที่ร้านอาหารที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านพักมากนัก เมื่อมาถึงด้านในเทียนหลางก็อดไม่ได้ที่จะชมการตกแต่งของร้าน
ร้านอาหารถูกตกแต่งอย่างหรูหราแต่ก็เรียบง่าย บรรยากาศก็ถือว่าไม่แย่มากนัก ทั้งคู่นั่งลงที่โต๊ะก่อนที่จะมีพนักงานเอาเมนูมาให้
เทียนหลางอ่านรายชื่อของอาหารเล็กน้อยก่อนจะเลือกสั่งที่ชื่อมันน่าสนใจหลังจากทั้งคู่สั่งอาหารกันเสร็จ แอนเดียร์ก็ยิงคำถามใส่เขาทันทีโดยไม่รีรอ
“แล้วตกลงว่าคุณจะขายยันต์พวกนั้นให้กับทางเราหรือเปล่าคะ ?”
เทียนหลางลูบคางเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า
“ผมก็กะจะขายให้อยู่แล้วอ่ะนะ แต่ว่าคุณสนใจยันต์ระดับไหนกันล่ะ ?”
“ยันต์ระดับไหน ? แปลว่ามันมีระดับของมันด้วยงั้นเหรอคะ ?”
เทียนหลางพยักหน้า
“แน่นอน ถึงแม้ยันต์พวกนี้ผมจะสร้างขึ้นมาอย่างลวกๆก็ตามแต่มันก็ถูกแบ่งออกเป็นสี่ระดับเชียวนะ”
“สี่ระดับ ?”
แอนเดียร์งุนงงก่อนจะถามกลับ
“แล้วแต่ละระดับแตกต่างกันยังไง ?”
“อืม… ยันต์พวกนี้ไม่ได้แตกต่างกันมากนักแตกต่างกันเพียงแค่ความสามารถในการรับการโจมตีเท่านั้น อย่างเช่นยันต์ระดับหนึ่งที่เธอเคยได้ใช้ไปก่อนหน้านี้ก็อย่างที่เห็น มันสามารถรับการโจมตีจากกระสุนปืนได้อย่างง่ายดาย”
“ส่วนระดับที่สองนั้นก็จะสามารถรับการโจมตีได้ดีขึ้นมานิดหน่อย ถ้าผมคาดการณ์ไม่ผิดมันสามารถป้องกันการโจมตีจากระเบิด ปืนใหญ่ หรืออะไรทำนองนั้นได้เพราะยังไม่ได้ทดสอบมันเพราะผมไม่มีเวลา”
“ส่วนระดับที่สามอันนี้ผมขอแนะนำเลย จากการคาดเดาแล้วมันสามารถป้องกันการโจมตีระดับการทำลายล้างอย่างพวกมิสไซล์ หรือขีปนาวุธได้เลยเชียวล่ะ”
แอนเดียร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับตกตะลึงเพราะเธอไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีของพวกนี้อยู่ด้วย แม้เธอจะรู้ว่ามันมีของวิเศษที่สามารถป้องกันการโจมตีจากมีดดาบ หรือกระสุนปืนได้ก็เถอะ
แต่นี่มันถึงขั้นป้องกันการโจมตีจากขีปนาวุธได้เนี้ยนะ เอาไปพูดที่ไหนใครเขาจะเชื่อกัน เธอมองเทียนหลางอย่างสงสัยแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าของพวกนั้นจะมีอยู่จริงเพราะยังไงเธอก็เคยทดลองมันมาแล้ว
ถ้าหากยันต์คุ้มกันระดับสามยังสามารถป้องกันการโจมตีของขีปนาวุธได้ แล้วระดับสี่ล่ะ ? ไม่ถึงขั้นป้องกันหัวรบนิวเคลียร์ได้เลยหรอกเหรอ !?
เมื่อคิดได้แบบนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงคุณสมบัติของยันต์คุ้มกันระดับสี่ เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ยันต์ระดับสี่นี้น่ะถือว่าพิเศษสุดๆเลยล่ะนะ และมันแพงที่สุดในบรรดายันต์ทั้งหมดด้วย”
แอนเดียร์ใจเต้นตึกตักกับสิ่งที่เทียนหลางพูด เทียนหลางคลี่ยิ้มก่อนจะหยิบยันต์สีทองใบหนึ่งออกมาและวางไว้ตรงหน้าของแอนเดียร์
แอนเดียร์มองยันต์สีทองตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะเห็นตัวอักษรที่ไม่รู้จัก เธอพยายามจะอ่านและทำความเข้าใจมันแต่เทียนหลางก็ได้ห้ามเธอเอาไว้เสียก่อน
“อย่าพยายามเข้าใจมันเลย มันอยู่เกินระดับความเข้าใจของคุณ เอาเป็นว่ายันต์ระดับสี่นี้อ่ะนะ”
เทียนหลางเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นว่า
“มันสามารถปกป้องคุณจากความตายได้หนึ่งครั้ง”
แอนเดียร์ที่ได้ยินก็ถึงกับงุนงง หมายความว่ายังไงกันปกป้องจากความตาย ? เธอไม่เข้าใจเทียนหลางจึงอธิบายว่า
“ในโลกนี้มีศาสตร์ลึกลับมากมายหลากหลายชนิดซึ่งคุณเองก็น่าจะรู้อยู่แล้ว และแน่นอนว่ามีวิธีการฆ่าคนที่หลากหลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นยาพิษ การลอบสังหาร การสะกดจิต การโจมตีทางจิตใจ เวทมนต์ และอื่นๆอีกมากมาย”
“มันไม่ใช่ทุกครั้งที่คุณจะสามารถเปิดใช้งานการคุ้มกันของยันต์ได้ ฉะนั้นยันต์แห่งชีวิตนี้จะช่วยแก้ปัญหานั้นของคุณ เป็นไงมันดูน่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ”
เทียนหลางยิ้มออกมา แอนเดียร์มองเขาพร้อมกับยันต์สีทองตรงหน้า