POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) – ตอนที่ 17

ตอนที่ 17

ในวันอังคาร

ณ สำนักงานสาขาเขตตะวันตกฝ่ายกิจการทั่วไป

วันนี้เป็นวันแรกของการทำงานอย่างเป็นทางการของดงซูบิน โต๊ะทำงานของเขาตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของหน้าต่าง พระอาทิตย์ส่องแสงสว่างลงบนโต๊ะทำงานผ่านแผงหน้าต่างพอดี มันดูอบอุ่นและสดใส เขาดึงผ้าม่านช่วยหน่อย ส่วนฝั่งตรงข้ามของดงซูบิน คือโต๊ะจ้วงจื่อ พวกเขานั่งหันหน้าเข้าหากัน ตรงกลางมีจอมอนิเตอร์ 17 นิ้ว 2 เครื่องและปฏิทินตั้งโต๊ะคั่นพวกเขาอยู่

ในสำนักงานนอกเหนือจากดงซูบินและจ้วงจื่อแล้วคนที่เหลือก็ดูยุ่งกันมาก

มีหญิงสาวที่ดูร่าเริงยืนอยู่ที่เครื่องถ่ายเอกสารกำลังจัดการกับเอกสารกองมหึมาอยู่ เธอพูดโดยไม่เงยหน้า:“ชางฟู! ฉันมีหลายอย่างที่ต้องทำ ช่วยฉันถ่ายสำเนาเอกสารของสำนักหน่อย เหมือนว่าพวกต้องการมันอย่างเร่งด่วน”

ชางฟูเขาอายุ20 ปี กำลังพิมพ์งานอย่างยุ่งเหยิง:“ ฉันก็ยุ่งมากเช่นกัน ขอให้คนอื่นช่วยเธอได้ไหม?”

เจ้าหน้าที่ที่เก่าแก่ที่สุดในสำนักงาน พี่หยางนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขาอ่านหนังสือพิมพ์ เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเสนอความช่วยเหลือใด ๆ

เกาแพนเวยก็ทำตัวเหมือนลิงที่กำลังแอบบมองและเขียนอะไรบางอย่าง เขาตะโกน:“ เดียวฉันขอเขียนข้อความนี้ให้เสร็จและฉันจะไปที่นั่น”

หญิงสาวอีกคนหนึ่งชื่อ ฉางจ้วง เธอถือกระจกเงาเล็ก ๆ และเขียนคิ้วของเธอ

ดงซูบินมองไปรอบ ๆ และเดินไป “ พี่สาว! เดียวผมช่วยเองนะ”

“ ดีเลย” ต้าหลิงเหม่ย ส่งกองเอกสารกองมหึมาไปให้กับดงซูบินและกล่าวว่า“ นายรู้วิธีถ่ายสำเนาหรือป่าว วางหน้าเอกสารไว้ ตามบรรทัดนี้ แล้วกดปุ่มใหญ่ตรงนี้ จำไว้ และฉันต้องการ 4 ชุด เย็บเล่มพวกมันด้วยเมื่อเสร็จ โอ้! ตอนนี้นายเรียกฉันว่าอะไร? พี่สาว ฮ่าฮ่า……อย่าเรียกฉันยังงั้นเลย ฉันเข้าเรียนเร็วกว่าคนอื่นและเพิ่งจบมหาลัยเมื่อปีที่แล้วเนี่ย ฉันอาจจะอายุน้อยกว่านายและจ้วงจื้ออีก”

“ ฉันจะช่วยด้วย” จ้วงจื่อเดินเขามา

ต้าหลิงเหม่ยพูดอย่างไม่ตั้งใจ:“ สบายล่ะ อันนี้สำเนาของนาย และรวมอันอื่นๆด้วยดีกว่า รีบเลย หัวหน้ากำลังรออยู่”

ในขณะที่รอเครื่องถ่ายเอกสาร จ้วงจื้อเองก็เย็บกระดาษกองใหญ่อย่างงุ่มง่าม

เมื่อดงซูบินและจ้วงจื้อจัดการเอกสารจนเสร็จ เกาแพนเหว่ยและ ฉางจ้วงที่กำลังวาดคิ้วอยู่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดพร้อมกันว่า“ ฉันจะส่งเอกสารให้เอง” ทั้งคู่มองหน้ากันและ ฉางจ้วงยิ้มอย่างเย้ายวน:“ ฉันจะส่งเอกสารไปที่ฝ่ายการเมืองและฝ่ายที่เป็นความลับ นายก็เอาไปส่งให้หัวหน้าสำนัก” พวกเขาจัดการหยิบเอกสาร และเกาแพนเหว่ยก็จัดเสื้อของเขาในขณะที่ ฉางจ้วงเติมเครื่องสำอางลงบนใบหน้าของเธอ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินออกจากออฟฟิศพร้อมเอกสารในเวลาเดียวกัน

ดงซูบินและจ้วงจื้อ งงงวยกับเรื่องนี้

ต้าหลินเหม่ยเคยชินกับเรื่องนี้และบ่นหลังพวกเขาว่า“ พวกฉันทำงานกันแทบตาย สองคนนั้นมีหน้าที่ถือเอกสารไปเอาหน้าแค่นั้นหรอเนี่ย ฮึ่ม!”

ดงซูบินเองก็เป็นเด็กใหม่และไม่รู้จักนิสัยของคนในสำนักงาน เขายิ้มและไม่พูดอะไรเลย

ทันใดนั้น ฉางจี้โบกมือขึ้นมา:“ น้องซูบิน, น้องจื้อ, มาที่นี่หน่อย”

ดงซูบินและจ้วงจื้อ เดินไปที่นั้น:“ครับ”

“ สร้างอีกหนึ่งสำเนาสำหรับตารางเหล่านี้ พวกนายรู้จักเอ็กเซลไหม เพียงใช้รูปแบบเดียวกันและสร้างตารางใหม่ ข้อมูลที่นายได้รับจากเอกสารไฟล์เวิรด์นี้ คัดลอกและวาง อย่าวางผิดตารางล่ะ พี่ต้องการไฟล์นี้ก่อนเที่ยงพิมพ์เสร็จแล้วบอกพี่ด้วยนะ”ฉางจี้ พูดเหมือนเขาเป็นหัวหน้าและให้คำแนะนำของเขาชัดเจน เมื่อดงซูบินและจ้วงจื้อกำลังสร้างตางราง ฉางจี้ก็ทำตัวเหมือนว่างและดื่มชาและเล่นเกมกระดานโต้คลื่นอีกทั้งเขายังเอาฟอรัมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขึ้นมาอ่าน

เที่ยง

ดงซูบินและจ้วงจื้อทำงานจนเสร็จ  ฉางจี้ก็เดินมาดูงานที่พิมพ์และพยักหน้า “ อืม…ดี”

ต้าหลินเหม่ยพูดติดตลก:“ หัวหน้าฉางจี้ตอนนี้เป็นเวลาอาหารกลางวันแล้ว เราไปทานอาหารกลางวันได้ไหม”

ฉางจี้เองก็ไม่โกรธและหัวเราะ“ ฉันยังไม่ได้เป็นหัวหน้า หยุดล้อเลียนฉันได้แล้ว”

เกาแพนเหว่ยดูที่นาฬิกาของเขาและหยิบกระเป๋าตังของเขา:“ ฉันจะไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมชมหัวหน้าโจว” เขาก็เดินออกไปเลย

ฉางจ้วงยืนขึ้น:“ ฉันจะไม่กินข้าวที่โรงอาหาร มีคนนัดฉันให้ไปทานอาหารกลางวันด้วย”

“ ซูบิน จ้วงจื้อ” พี่หยางผู้ที่ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวตลอดทั้งวันเขายิ้มให้ทั้งคู่:“ พวกเธอยังไม่ได้ซื้อตั๋วอาหารกลางวัน? มาเถอะไปกันเถอะ พวกเธอทั้งคู่สามารถใช้ตั๋วของฉันได้ก่อน”

ดงซูบินโบกมืออย่างรวดเร็ว “ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ. เราทั้งคู่สามารถไปทานอาหารข้างนอกได้”

จ้วงจื่อพูดว่า:“ ใช่แล้ว ขอบคุณครับ.”

ต้าหลิงเหม่ย กล่าวว่า“ ไม่มีอะไรอร่อยหรอกข้างนอกนะ อย่าคิดว่าโรงอาหารของเราขนาดเล็กอย่างเดียวนะ มันมีอาหารอร่อยเยอะเลย. มาเถอะ ไปกันเถอะ พี่หยาง! ฉันจะพาพวกเขาไปที่โรงอาหารและพวกเขาจะใช้ตั๋วอาหารกลางวันของฉัน”

พี่หยางยิ้มให้เธอ:“ ดีแล้ว เธอจะได้รู้จักกันมากขึ้น ชายหนุ่มสองคนนี้ดูเหมือนจะเป็นพวกชอบทำงานหนัก”

ต้าหลิงเหม่ยเองหน้าตาเธอดูธรรมดา แต่เธอช่างพูดเก่งมาด เธอสามารถคุยกับใครก็ได้และกล้าพูดทุกอย่าง ระหว่างรับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารซึ่งตั้งอยู่ทางด้านเหนือของบริเวณนั้น เธอเล่าเรื่องของคนในสำนักงานทั้งหมดให้พวกเขาฟัง

แต่ต้องขอบคุณเธอ ดงซูบินจึงได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับสำนักงานนี้

ในหน่วยงานอื่น ๆ ฝ่ายธุรการและสำนักงานธุรการเป็นก็เป็นเหมือนกัน แต่เนื่องจากความมั่นคงของรัฐเป็นหน่วยงานแยกจึงมี เอกสารที่เป็นความลับจำนวนมาก นี่คือสาเหตุที่ฝ่ายกิจการทั่วไปที่นี่มีสำนักงานแยกต่างหากเพื่อจัดการเอกสารการประชุมการเขียนและแก้ไขคำปราศรัยของผู้นำการถ่ายโอนไฟล์และสิ่งอื่น ๆ หัวหน้าสำนักงานนี้คือรองหัวหน้าแผนกและเขาไม่สนใจงานที่นี่จริงๆ เขาปล่อยให้รองหัวหน้าโจวดูแลทุกอย่างในสำนักงาน โจวฉางจู อายุ 50 ปีและสุขภาพของเขาไม่ค่อยดีนัก เขามักจะลาป่วยเป็นประจำเสมอ

ภายใต้รองหัวหน้าโจวมีก็เจ้าหน้าที่เหมือนพวกเขา

พี่หยางเป็นผู้อาวุโสที่สุดในสำนักงาน แต่เมื่อหลายปีก่อนเขามีปัญหากับหัวหน้าจากสำนักความมั่นคงแห่งรัฐของเมือง และเขาจึงไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งได้ ตอนนี้เขาอายุ 50 ปีและยังเป็นพนักงานแม้อายุเกือบจะถึงวัยเกษียณแล้ว เขาก็ยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง เขามาทำงานและอ่านหนังสือพิมพ์ทั้งวัน เขาจะไม่ทำงานใด ๆ และไม่สนใจทุกอย่าง

เกาแพนเหว่ยเองเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน เขาชอบไปไหนมาไหนกับเจ้าของร้านขายรองเท้า และเขารู้จักหัวหน้าอยู่หลายคน

ฉางจี้เองก็มีคนในสำนักให้ข่าวลือว่าผู้อำนวยการเขต / ผู้ตัดสินทางการเมืองเป็นเพื่อนกับพ่อของเขา นี่คือเหตุผลว่าทำไมนอกเหนือจากรองหัวหน้าโจว ฉางจี้จะไม่ฟังหรือไม่สนใจใครเลย เขาคิดว่าเขา “ยิ่งใหญ่ที่สุดที่นี้” ในหมู่พนักงาน

ฉางจ้วงเองในวัย 30 ของเธอ แม้ว่ารูปลักษณ์ของเธอจะดูธรรมดา แต่เธอก็ชอบที่จะแต่งตัวเป็นตุ๊กตาไปกับหัวหน้า เธอดูเหมือนว่าเธอหวังว่าจะเป็นผู้หน้าหญิงคนแรกของสำนัก

ต้าหลิงเหม่ยเป็นคนเดียวในสำนักงานที่ทำงานได้จริง เธอจัดการเอกสารเกือบทั้งหมดในสำนักงาน

นั่นคือสถานการณ์ในสำนักงานในตอนนี้

เรื่องในสำนักงาน……ดูซับซ้อนจัง……

POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง)

POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง)

AUTHOR(S): CHANG YU – 尝谕

ดงซูบินชายผู้รับพลังพิเศษจากการเกิดอุบัติเหตุจากการโดนรถบรรทุกพุ่งชน จนทำให้ทั้งเขาและเพื่อนบ้านสาวสวยที่เขาแอบชอบมาเป็นเวลานานอย่างฉูยวนเสียชีวิต ก่อนที่จะตายด้วยแรงปรารถณาของเขาในการอยากมีชีวิต ทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เขาได้ฟื้นขึ้นมาจากความตายและรับรู้ว่าเขาสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่มันเป็นการย้อนเวลาได้เพียง 1 นาทีเท่านัน ดงซูบินจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรกับพลังพิเศษที่เขาได้รับมา และที่มาของพลังพิเศษของเขามาที่ไหน นั้นคือปริศนาที่เขาต้องพยายามแก้มันต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท