บทที่ 168
ผู้แปล loop
หลังจากออกจากสำนักงานมีใครบางคนเรียกดงซูบิน ทำให้เขาหันหลังกลับมาและนั้นคือก็เป็นผู้อำนวยการสำนักงาน ฮู่ซินเหลียง ฮู่ซินเหลียงถีบจักรยานไฟฟ้าเข้าหาเขาด้วยรอยยิ้ม “ หัวหน้าซูบินกลับไปที่ตึกพักด้วยกันไหมค่ะ” เธอดูมีน้ำใจมาก เธอรู้ว่า ดงซูบินนั้นถือเป็นเด็กใหม่ในเขตและอาจจะยังไม่รู้ว่าที่พักอยู่ตรงไหน “ เอากระเป๋าเดินทางใส่จักรยานของฉันได้ ตะกร้าจักรยานของฉันแข็งแรงมากและสามารถรับน้ำหนักได้สบาย”
ดงซูบิน หัวเราะ “ ผมจะทำอย่างงั้นได้ยังไงกัน คุณน่าจะขี่จักรยานๆสบายๆไปไม่ต้องลงมาเดินกับผมก็ได้”
ฮู่ซินเหลียง เตะขาตั้งจักรยานและเดินไปรับกระเป๋าของดงซูบิน “ มันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ โอ้หัวหน้าของสำนักไม่ได้อยู่แถว ๆ นั้นเราจึงไม่ได้เตรียมอาหารต้อนรับไว้ให้ มาที่ห้องของฉันก็ได้ เผื่อว่าคุณจะสนใจทานอาหารเย็นด้วยกัน? ฮ่าฮ่าการปรุงอาหารของสามีฉันอร่อยมาก” ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานซึ่งถือเป็นคนที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งในสำนักงานและฮู่ซินเหลียงนั้นก็มีทักษะในการเล่นการเมืองสูงกว่าดงซูบินมาก ถ้าย้อนกลับไปในสำนักความมั่นคงของรัฐงานของดงซูบินนั้นคล้ายกับ ฮู่ซินเหลียง แต่เขามักอารมณ์เสียและมีปัญหากับหลายคนในสำนัก แต่ฮู่ซินเหลียงนั้นตรงกันข้ามกับเขาทั้งหมด เธอเป็นที่รู้จักรอบด้านและปฏิบัติต่อผู้นำทุกคนอย่างดี อาจเป็นเพราะเธอเป็นผู้หญิง
ดงซูบินตอบกลับ “ทุกอย่างปกติดี. ผมจะไปที่หมู่บ้านฮุ่ยเทียนตอนกลางคืนเพื่อไปเยี่ยมแม่นะ”
ฮู่ซินเหลียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย บ้านเกิดของหัวหน้าซูบินก็มาจากหยานไท่เช่นกันหรอ? เธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
ณ ที่พักของสำนักงานเมือง
มันเป็นดินขนาดเล็กและอาคารมีอายุประมาณ 20 ปี แต่สภาพของอาคารก็ยังดูไม่ทรุดโทรมา หลังจากฮู่ซินเหลียงพาดงซูบิน มายังอพาร์ตเมนต์ของเธอ ดงซูบินถึงกับพูดอะไรถูก เพราะการตกแต่งภายในของอพาร์ทเมนท์ได้รับการปรับปรุงอย่างดีและเพียบพร้อมด้วยเครื่องใช้ในบ้าน ทีวีจอแอลซีดีเครื่องซักผ้าอัตโนมัติแอร์ ฯลฯ มันเกือบจะเหมือนห้องพักในโรงแรม
หลังจาก ฮู่ซินเหลียง ออกไปดงซูบินก็วางกระเป๋าของเขาและนอนลงบนเตียงขนาดควีนไซส์ ในสำนักงานระดับชนบทนี้มันแตกต่างจากปักกิ่งมาก พวกเขาไม่สนใจว่าคนอื่นคิดอย่างไร อพาร์ทเมนท์นี้อาจดีกว่าที่อยู่อาศัยของเสี่ยวหยานด้วยซ้ำ โอ้ฉันควรเอาแม่มาอยู่กับฉันด้วย เธอจะได้ไม่ต้องลำบาก และอยู่อย่างสะดวกสบายในห้องนี้
ดงซูบินหยิบโทรศัพท์ออมาโทรออกและโทรไปที่บ้านที่แม่ของเขาอาศัยอยู่
“สวัสดี? ต้องการโทรหาให้ค่ะ” มันเป็นเสียงของผู้หญิงที่ตอบเขา
ดงซูบินตอบกลับ “ ผมชื่อดงซูบินแม่ของผมอยู่ที่นั่นไหม?”
“อ๋อซูบินนั้นเอง?” ผู้หญิงคนนั้นหยุดชั่วครู่หนึ่ง “ เดี๋ยวก่อน……. น้องเสี่ยว……น้องเสี่ยว……ลูกชายของเธอโทรหา!”
หลังจากนั้นครู่หนึ่งลวนเสี่ยวผิงแม่ของดงซูบินก็มารับสาย “ ซูบินหรอ? ทำไมลูกถึงโทรมาที่นี้?” เนื่องมาจากดงซูบินไม่ค่อยได้โทรกลับมาที่บ้านเลย ส่วนใหญ่เขาชอบกดเบอร์โทรมาที่โรงเรียนมากกว่า
ดงซูบิน ขมวดคิ้ว “ แม่ผู้หญิงคนนั้นคือใคร”
“ เธอเป็นภรรยาลุงของลูกไง”
“ฮึ่ม! เธอยังคงเหมือนเดิมหลังจากผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว เธอก็พูดเหมือนว่าผมเป็นหนี้บุญคุญเธอยังไงยังงั้น!”
“ไร้สาระ ป้าของลูกใส่ใจลูกจะตาย”
“ แม่ไม่จำเป็นต้องไปพูดถึงพวกเขาหรอก เรารู้ว่าสีที่แท้จริงของพวกเขาดี” เมื่อพ่อของ ดงซูบินป่วย ดงซูบินและแม่ของเขาพยายามที่จะยืมเงินจากพวกเขา แต่ครอบครัวของลุงและป้าคนแรกของเขาไม่ได้ให้เงินเขายืมสักสตางค์เดียว ส่วนป้าคนที่สองนั้นฐานะก็ไม่ค่อยดี ดงซูบินยังรู้สึกไม่ดีกับครอบครัวฝ่ายแม่ของเขา เขาหลีกเลี่ยงการติดต่อกับพวกเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนเดียวที่เขาติดต่อจากครอบครัวแม่ของเขาคือป้าคนที่สองของเขาและสามีของเธอ
“ ซูบินโทรหาแม่? แม่กำลังทำอาหารอยู่ แล้วแม่จะโทรหาลูกทีหลัง “
“ ทำไมแม่ถึงทำอาหารอีกแล้วล่ะ? แม่ทำงานตลอดทั้งวันและภรรยาของลุงที่อยู่ที่บ้านตลอดทั้งวันล่ะ ทำไมแม่ถึงทำอาหารให้พวกเขา?”
“ทุกอย่างปกติดี. เราเป็นครอบครัวและไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก”
“ แม่ซื่อเกินไป แม่ไม่ควรทำสิ่งเหล่านี้!”
“แม่รู้ว่าแม่กำลังทำอะไรอยู่. นี่ไม่ใช่ธุรของลูก”
เมื่อใดก็ตามที่เขาพูดถึงครอบครัวของแม่ของดงซูบินจะโกรธมาก เขาลุกขึ้นจากเตียงแล้วพูดว่า “ ตอนนี้ผใอยู่ในเขตหยานไท่ ผมจะแวะไปหาแม่นะ “
“จริงหรอ? ลุกไม่ทำงานเหรอ ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่?”
“ใช่ครับ มันเกี่ยวกับงานของผม เอาเป็นว่าถ้าผมเจอหน้าแม่เราจะพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมกำลังไป”
“ ลูกทานอาหารเย็นรึยัง? แม่จะเรียกหาครอบครัวของป้าที่สองของลูกด้วย เราจะรอให้ลูกทานอาหารเย็น” ในช่วงตรุษจีนเธอแทบจะไม่ได้เจอหน้าลูกเลย ในที่สุดลูกชายของเธอก็พร้อมที่จะกลับมาบ้านและเธอก็ดีใจมาก เธอคิดว่าลูกชายของเธอตั้งใจจะออกไปเยี่ยมเธอ
ดงซูบินขึ้นรถบัสทางไกลและมาถึงที่หมู่บ้านฮุยเทียน
หลังจากลงจากรถบัสดงซูบินเห็นแม่ของเขารอเขาอยู่ดงซูบินเริ่มบ่น:“ ทำไมแม่มาที่นี่? มันอันตรายสำหรับแม่ที่จะมายื่นอยู่คนเดียวแบบนี้” สำนักความปลอดภัยในบริเวณนี้ไม่ดีเท่าปักกิ่ง “ ใครอยู่ที่บ้านบ้าง คุณป้ากับครอบครัวเธออยู่ไหม”
แม่ของเขาหัวเราะ “ น้องสาวของลูก (ลูกพี่ลูกน้อง, ลูกสาวของป้าคนที่สอง) ยังทำงานอยู่ เธอบอกว่าเธอจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ “
ดงซูบินจับมือแม่ของเขา “เอาล่ะ ไปกันเถอะ. ”
“ ฮ่าฮ่าตาของแม่ยังดีอยู่ ลูกไม่ต้องมาพยุงแม่หรอก” ลวนเสี่ยวผิงตบมือลูกชายของเธอและนำทาง
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านพวกเขาเห็นชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งกำลังเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม พวกนั้นสูบบุหรี่ราคาถูกและดูเมามาก บางคนจ้องมองที่ดงซูบิน และ ลวนเสี่ยวผิง
ลวนเสี่ยวผิง เห็นพวกนั้นมองมาที่ลูกชายของเธอ เธอจึงดึงลูกชายของเธอไว้ข้างๆและก้มศีรษะลง
ดงซูบินมองดูพวกเขา:“ แม่คนพวกนี้คือใคร? ทำไมแม่ถึงกลัวพวกเขาขนาดนั้น”
“ เมืองของเราผลิตทองคำและนักเลงพวกนี้ทำงานในเหมือง พวกเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านด้วย พวกนั้นจะขโมยผักจากสวนของคนในหมู่บ้านและชอบก่อกวนผู้หญิง พวกนี้มันทำตัวไม่ดีเลย” ลวนเสี่ยวผิงรู้สึกโล่งใจเมื่อเธอเห็นพวกอันธพาลเดินออกไป “ ซูบินอยู่ห่างจากพวกนั้นไว้นะ อย่าไปมีเรื่องกับพวกนั้นเลย ฉันได้ยินว่าเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจประจำหมู่บ้านของเราสนิทกับพวกนั้น พวกอันธพาลมันมาขุดมันฝรั่งหวานของเราหลายครั้งและเราก็แจ้งตำรวจแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกับเพิกเฉย”
“ฮะ? ให้อยู่ห่างจากพวกเขาหรอ?”
“ฟังผมนะ. ถ้าแม่ทำงานในปักกิ่ง แม่จะพบว่าพวกอันธพาลเหล่านี้โดนกวาดล้างจนหมดถนนไปแล้ว”
ดงซูบินอยากจะหัวเราะและคิดในใจ แม่กำลังบอกให้หัวหน้าสำนักความมั่นคงสาธารณะของมณฑลว่าให้อยู่ห่างจากพวกอัธพาลพวกนี้หรอ? แม่ต้องล้อเล่นกับผมแน่ๆ!
ดงซูบินเคยมาที่บ้านนี้สองสามครั้งเมื่อเขายังเด็ก นอกจากต้นไม้ในสวนที่สูงขึ้นแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พวกเขาเดินผ่านลานด้านหน้าและเปิดประตูเหล็ก พวกเขาเข้าไปในบริเวณบ้าน ดงซูบินได้แต่มองไปรอบ ๆ เกือบทั้งครอบครัวอยู่ที่นั่น ยายลุงและภรรยาของเขาป้าคนแรกของเขาและสามีของเธอและป้าคนที่สองของเขาและสามีของเธอ มีเพียงไม่กี่ลูกพี่ลูกน้องของเขาที่ไม่อยู่รอบตัว
นอกเหนือจากป้าคนที่สองของเขาและครอบครัวของเธอดงซูบินก็ไม่ชอบญาติๆคนที่เหลือเลย แต่เขาต้องเก็บความรู้สึกของแม่และทักทายทุกคน
ลุงของดงซูบินและครอบครัวของป้าคนแรกไม่สนใจเขา ท้ายที่สุดแท้จริงแล้วดงซูบิน เคยทะเลาะกับพวกเขาในอดีตและพวกเขาก็ยังจำได้ ป้าคนที่สองของดงซูบินและครอบครัวของเธอต้อนรับการกลับมาของเขา ป้าคนที่สองของเขาเดินไปจับมือเขาไว้ “ ซูบินโตขึ้น ดูสิตอนนี้หลานสูงกว่าป้าอีก มา…นั่งก่อนๆ เรากำลังจะเริ่มอาหารเย็นกันแล้ว”
ดงซูบินก็ได้ตอบกับป้าคคนที่สองของเขาเช่นกัน “ คุณป้าสอง คุณป้าดูอ่อนกว่าวัยมา ช่วงนี้สุขภาพแข็งแรงไหมครับ?”
“ ฮ่า ๆ .”
สามีของป้าที่สองหัวเราะ “ ฉันได้ยินจากแม่ของหลานว่า หลานได้เป็นผู้นำของรัฐบาลจริงรึเปล่า”
ดงซูบินนำซองบุหรี่ของหัวชงออกจากกระเป๋าของเขาและมอบบุหรี่ให้กับสามีของป้าที่สอง “ ฮา…เมื่อมันทำงานมันมีแต่ควัน”
สามีของป้าคนที่สองมองที่ซองบุหรี่ “ โอ้นี่เป็นซองบุหรี่ที่ดี”
ลุงของ ดงซูบิน เห็นว่าดงซิบนไม่ได้ให้บุหรี่กับเขาเลย “ ผู้นำในความมั่นคงของรัฐไร้ค่า รองหัวหน้าไม่มีอำนาจใด ๆ ”
ภรรยาของเขาหัวเราะและพูดเสริม:“ ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ระดับชนบลมีอำนาจมากกว่า”
ดงซูบิน หันมามองพวกเขา
หลวนเสี่ยวปิงรู้สึกไม่พอใจที่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดถึงสิ่งเหล่านี้เกี่ยวกับลูกชายของเธอ แต่นั่นคือภรรยาของพี่ชายของเธอและเธอก็ไม่สามารถคุยกับพวกเขาได้
ป้าสองโต้กลับ “ หลานซูบินนั้นมีลูกยังเด็กและจะมีอนาคตที่สดใส”
ป้าคนแรกของดงซูบินก็ไม่ชอบเขาและพูดว่า:“ ตอนนี้แม่หลานคงหิวแล้ว เราไม่รอเสี่ยวจินแล้ว เริ่มอาหารเย็นได้เลย”
ป้าคนแรกและลุงของปฏิบัติต่อดงซูบิน ด้วยวิธีนี้เป็นเพราะข้อโต้แย้งของพวกเขาในอดีต นอกจากนี้ ดงซูบินยังทำงานเพื่อสำนักความมั่นคงของรัฐในปักกิ่ง ปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของจีนและมีเจ้าหน้าที่นับไม่ถ้วน รองหัวหน้าแผนกระดับเจ้าหน้าที่ไม่มีอะไรที่นั่น นอกสถานที่ทำงานจะไม่มีใครจำได้ นี่คือสาเหตุที่ไม่มีใครสนใจเมื่อพวกเขาค้นพบดงเซวปิงกลายเป็นหัวหน้าส่วนรอง
ดงซูบิน พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อควบคุมความโกรธของเขาในระหว่างมื้ออาหารนี้
มันไม่เพียง แต่เกี่ยวกับทัศนคติของญาติที่มีต่อเขาเท่านั้น มันเป็นวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อแม่ของเขา
ลวนเสี่ยวผิงเป็นเหมือนคนรับใช้ในบ้าน เธอต้องทำอาหารจา และนเทชา ฯลฯ ป้าที่สองและเธอต้องล้างและล้างจานหลังอาหารเย็น สุขภาพของ ลวนเสี่ยวผิงไม่เคยดีใจด้วยเลย ในวันนั้นเธอต้องสอนในโรงเรียนมัธยมและหลังจากกลับมาจากการทำงานเธอจะต้องทำงานบ้านเหล่านี้ ภรรยาของลวนเสี่ยวผิงของไม่ทำงานและไม่ได้ช่วยอะไรเลย หลังอาหารเย็นเธอนั่งบนโซฟากับป้าคนแรกเพื่อดูทีวี
ลวนเสี่ยวผิงรู้สึกว่าลูกชายของเธอกำลังจะระเบิดและยิ้ม “ ซูบินลูกต้องเหนื่อยกับการเดินทาง ไปพักผ่อนเถอะ”
ดงซูบินจ้องที่ภรรยาของลุงของเขาและครอบครัวของป้าคนแรกอย่างเย็นชา เขากำลังจะพูดบางอย่างเมื่อประตูใหญ่เปิดขึ้นในทันที
มันเป็นลูกสาวของป้าคนที่สองของเขา ลูกพี่ลูกน้องของดงซูบิน ต้าจิน วิ่งเข้ามาร้องไห้
ดงซูบินไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อนและแทบจะจำเธอไม่ได้ “ เธอคือ……เสี่ยวจิน? เกิดอะไรขึ้น? ใครทำให้ลร้องไห้?”