EP 232 ไม่ใช่อย่างที่คิด!
By loop
กลางคืน. 22.00 น.
ณ บ้านพักของคณะกรรมการพรรคของมณฑล อพาร์ตเมนต์ของนายกเทศมนตรี
ดงซิบนั้นอยู่ในห้องน้ำแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันอันใหม่ เขาบ้วนปากและวางแปรงสีฟันไว้ข้างแปรงสีฟันสีม่วงของเสี่ยวหลาน หลังจากนั้นก็เปิดฮีตเตอร์ก่อนจะล้างหน้า ในที่สุดก็ถึงเวลานอนเสียที
ในห้องนอน เสี่ยวหลานกำลังอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
ชุดที่เสี่ยวหลานสวมอยู่บนเก้าอี้และเธอคลุมตัวด้วยผ้าห่มบาง ๆ
ดงซูบินเข้ามาในห้องอย่างเขินอายและถาม “ พี่สาวเสี่ยวผ้าห่มของผมอยู่ตรงไหนหรอครับ”
เสี่ยวหลานมองไปที่เขาและยิ้ม “ ผ้าห่มอะไร”
ดงซูบินชี้ไปที่เตียง “ คุณมีแค่ผ้าห่ม คุณมีอะไรพิเศษหรือป่าว”
“ ฮิฮิ…คุณมั่วยืนทำอะไรอยู่”เสี่ยวหลานปิดหนังสือและหรี่ตาลง “ เรายังไม่ได้แต่งงานกันและคุณคิดว่าเหมาะสมอย่างงั้นหรอที่เราจะนอนเตียงเดียวกัน”
ดงซูบินได้แต่พึมพำ “ เอ่อ…. ไม่…มันไม่ถูกต้อง…”
เสี่ยวหลานเองก็หัวเราะ “ถูกแล้ว. คุณควรจะไปนอนห้องอื่นถูกไหม?”
ฮะ. ก่อนหน้านี้ฉันอุสาตื่นเต้นแต่ตอนนี้กับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดงซูบินคิดว่าน้องสาวเสี่ยว ขอให้เขาอยู่ค้างคืนเพราะเธออยากนอนกับเขา
เสี่ยวหลานปิดปากของเธอขณะที่เธอหาว “ ฮิฮิ…ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ฉันยังมีงานต้องทำ”
ดงซูบินมองไปที่ร่างบางของเสี่ยวหลานเป็นครั้งสุดท้ายและเห็นเธอปิดโคมไฟข้างเตียง ดงซูบินลังเลอยู่ครู่หนึ่งและเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวในความมืด เขาสามารถเห็นเสี่ยวหลานหันมาหาเขาและเขาก็กระแอมในลำคอ “ เมื่อแยกจากกันคู่รักมักจะจูบ…เอ่อ…. เราควร…”
เสี่ยวหลานไม่พูดอะไรและจ้องมองเขาต่อไป
ดงซูบินโน้มตัวไปข้างหน้าและจูบเธอเบา ๆ ที่ริมฝีปากของเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน ดงซูบินก็เงยหน้าขึ้น “ พี่สาว…คุณ…ตอบสนองผมหน่อยไม่ได้หรอ”
“ ฉันควรตอบสนองอย่างไร”
“ คุณควรจูบผมกลับและอย่าให้ผมทำเองทั้งหมดเลย”
เสี่ยวหลานหัวเราะคิกคักและลุกขึ้นนั่งเพื่อจูบดงซูบินที่ริมฝีปากของเขา เธอมองเขาอย่างขี้เล่น “ ไม่เป็นไรเหรอ? ฮิฮิ…ราตรีสวัสดิ์?”
ดงซูบินถอดเสื้อผ้าของเขาในอีกห้องแล้วนอนบนเตียงจ้องมองไปที่เพดาน ภาพของรอยยิ้มของ เสี่ยวหลานรูปร่างของเธอและริมฝีปากยังคงสดชื่นอยู่ในใจของเขา เขาเลียริมฝีปากและคิดถึงจูบนั้น บรรพบุรุษของเขาต้องทำความดีมากมายเพื่อให้เขามีโชคได้พบกับผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมคนนี้
ดงซูบินปล่อยให้ความคิดของเขาเคว้งคว้างจนหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้นดวงอาทิตย์ส่องลงบนใบหน้าของดงซูบิน
ดงซูบินเองลืมตาขึ้นและมองดูเวลา ตอนเช้าเป็นเวลา 5.40 น. และไม่ควรมีคนอยู่รอบ ๆ ครอบครัวมากนัก นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการจากไปโดยไม่มีใครสังเกตเห็น เขาลงจากเตียงและล้างตัวและแต่งตัว เขาไม่ได้ปลุกเสี่ยวหลาน เพราะเขาต้องการให้เธอนอนหลับอีกสักพัก เขาไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าและเขียนบันทึกให้เธอก่อนที่จะออกไป
ทันใดนั้นประตูห้องนอนก็เปิดออก “ ซูบินคุณตื่นแล้วเหรอ?”
ดงซูบินเองขอโทษ “ ขอโทษที่ปลุกคุณ ยังเช้าอยู่เลยและคุณควรนอนหลับอีกสักนิด ผมขอตัวก่อน.”
“ฉันตื่นแล้ว.” เสี่ยวหลานเดินออกจากห้องนอน “ คุณทานอาหารเช้าหรือยัง? อาหารเต็มโต๊ะเลย เมื่อคืนฉันเองก็ทำงานยังไม่เสร็จเลย” เสี่ยวหลานเพิ่งตื่นนอน แต่เธอก็ยังดูสง่างามมากเมื่อเดินไปที่โต๊ะอาหาร เธอมองไปที่โน้ตแล้วยิ้ม “ คุณทิ้งโน้ตไว้ให้ฉันด้วยเหรอ? ฉันขอดูหน่อยสิ…. พี่เสี่ยวอุ่นอาหารก่อนทาน อย่ากินของเย็นเพราะไม่ดีต่อกระเพาะอาหาร ผมจะขอตัวไปก่อนและจะกลับมาอีกครั้งเมื่อผมมีโอกาส ถ้าอยากกินอะไรก็โทรมาได้เลย…ฮิฮิ…”
ดงซูบินยิ้ม “ ทำไมคุณถึงอ่านมัน”
เสี่ยวหลานหัวเราะและรวบผมไว้ข้างหลังหูของเธอ “ขอบคุณ. รอให้ฉันแปรงฟันก่อนสิ”
ณ โต๊ะทานข้าว.
เสี่ยวหลานเองเคี้ยวไข่ดาวช้าๆแล้วยิ้ม “ ซูบินฝีมืออาหารของคุณเยี่ยมมากดลย จนฉันไม่อยากให้คุณไปไหนเลย”
ดงซูบินรู้สึกดี “ ผมยินดีที่จะมาทำอาหารให้คุณตอนที่คุณว่าง”
เสี่ยวหลานพยักหน้า “ คุณต้องการให้ฉันช่วยอะไรไหมเกี่ยวกับเรื่องงาน”
“ ไม่…” ดงซูบินคิดสักพักแล้วมองไปที่เสี่ยวหลาน “ เอ่อ…คุณคิดว่าถึงเวลาที่ผมต้องเป็นหัวหน้าส่วนแล้วหรือยัง” ดงซูบินได้ไขคดีใหญ่เมื่อไม่นานมานี้และเมื่อเสี่ยวหลาน ย้ายมาเป็นนายกเทศมนตรีเขาก็เริ่มคิดถึงการเลื่อนตำแหน่ง
เสี่ยวหลานหัวเราะและชี้ไปที่เขา “ คุณ…หยุดคิดที่จะวิ่งก่อนที่คุณจะเดินได้ หัวหน้าส่วน? คุณคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยหรอ? คุณเพิ่งเข้ารับราชการเพียงแค่ปีเดียว และคุณได้เป็นรองหัวหน้าส่วนและรองหัวหน้าสำนักงานด้านความมั่นคงสาธารณะแล้ว แต่คุณก็ยังไม่พอใจ? เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ และสำหรับฉัน คุณกำลังก้าวขึ้นตำแหน่งเร็วมาก หยุดคิดถึงการเลื่อนขั้นอยู่ตลอดเวลา”
ดงซูบินเลียริมฝีปากและถาม “ ผมยังขาดคุณสมบัติอะไรอีกในการเป็นหัวหน้าส่วน”
เสี่ยวหลานมองไปที่ดงซูบินและวางตะเกียบลง “ คุณยังขาดคุณสมบัติอีกมาก การไม่ทำตามคำสั่ง และไม่สนใจเหล่าคณะกรรมการพรรคและนั้นไม่ร่วมถึงที่คุณเคยทำให้เหล่าพวกผู้บริหารขุ่นเคืองแค่ระยะเวลาในการทำงานของคุณไม่เพียงพอ ข้าราชการที่เข้าร่วมเป็นเวลาหนึ่งปีจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร? อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้เกี่ยวกับขั้นตอนปกติของรัฐบาล การได้รับการเลื่อนตำแหน่งในสามปีถือว่าเร็วมากและการเลื่อนตำแหน่งรองหัวหน้าส่วนเมื่อหกเดือนที่แล้วถือเป็นกรณีพิเศษ ตอนนี้คุณยังคิดถึงหัวหน้าส่วนอยู่หรือเปล่า? คุณคิดว่านี่เป็น บริษัท ส่วนตัวของคุณอย่างงั้นหรอ”
ดงซูบินตอบอย่างละอายใจ “ผมเพียงแค่ขอให้.”
เสี่ยวหลานหัวเราะ “ ฉันรู้ว่าคุณทำอะไรมาบ้างตั้งแต่ย้ายมาที่นี่ คุณทำได้ดีและผลลัพธ์ของคุณเทียบเท่ากับที่คนอื่นทำในสองถึงสามปี ฉันต้องยอมรับว่าคุณมีความสามารถมาก แต่การได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าส่วนเป็นพิเศษสำหรับผลงานนี้ไม่เพียงพอ หากคุณต้องการให้ฉันเสนอชื่อคุณเพื่อเลื่อนตำแหน่งคุณต้องมีผลงานที่โดดเด่น ถ้าไม่ฉันจะดูไม่ดีกับฉันที่ทำให้คุณได้รับการเลื่อนตำแหน่ง คุณเคยพบข้าราชการคนไหนบ้างที่ได้รับการเลื่อนขั้นไปในตำแหน่งสูงในปีหนึ่ง”
ดงซูบิน เกาหัวของเขา “ ผมยังต้องทำผลงานให้มากขึ้นกว่านี้อีกใช่ไหม?”
เสี่ยวหลานพยักหน้า “ใช่. ในสถานการณ์ของคุณคุณต้องได้รับบุญชั้นสองหรือบุญชั้นหนึ่งเป็นอย่างน้อย แน่นอนแม้ว่าคุณจะได้รับความดีความชอบระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่จะได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการพรรค ตอนนี้เลขาธิการพรรคเซียงมีอำนาจมากกว่าฉันและคุณไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการเสนอชื่อหากคุณไม่มีผลงานที่โดดเด่น ฮิฮิ…เข้าใจไหม”
“ครับ. ผมจะทำงานให้หนักขึ้น”
เสี่ยวหลานตอบ “ เป็นเรื่องดีที่จะมีแรงจูงใจ แต่คุณต้องไม่โลภมากเกินไป”
ดงซูบินพยักหน้า “ได้. ผมจะจำเรื่องนี้ไว้”
ดงซูบินพูดแบบนี้ แต่ในใจเขาไม่คิดอย่างนั้น มันอาจจะยากสำหรับเขาที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าส่วน แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะล้มเหลวโดยไม่ต้องพยายาม? กลยุทธ์ทางการเมืองของดงซูบินนั้นยังถือว่าอ่อนหัด เสี่ยวหลานและไม่ได้คำนึงถึงสิ่งต่างๆมากมาย เมื่อเขาตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้วเขาจะไม่คิดถึงผลที่ตามมาและพยายามอย่างเต็มที่ นี่เป็นเหตุผลที่เขาได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าในสำนักงานกิจการทั่วไปและตำแหน่งรองหัวหน้าส่วนในปัจจุบัน
ดงซูบินมีความคิดของเขาเอง
ดงซูบินไม่สนใจว่าคณะกรรมการพรรคจะอนุมัติการเลื่อนตำแหน่งของเขาหรือไม่เพราะเป็นเรื่องเร็วที่จะคิดถึงเรื่องนี้ เขาต้องคิดว่าจะได้รับเครดิตเพิ่มอีกสักสองสามครั้งภายใต้เข็มขัดของเขา มันจะดีที่สุดถ้าเขาสามารถไขคดีอื่นได้เช่นคดีแหกคุกและมันจะดีกับประวัติการทำงานของเธอ ด้วยเครดิตอื่นเช่นนี้เขาสามารถได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลื่อนตำแหน่งและจะได้รับโอกาสเป็นหัวหน้าส่วน ถ้าไม่ถึงแม้ว่าเขาจะสนินสนมกับสมาชิกทั้งสิบคนจากคณะกรรมการพรรค แต่เขาก็จะไม่ได้รับคะแนนเสียงเนื่องจากอายุยืนยาว
หลังอาหารเช้า ดงซูบินตัดสินใจว่าเขาจะคิดหาวิธีเลื่อนตำแหน่ง
คะแนนและอำนาจทางการเมือง สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ดงซูบินต้องได้รับก่อนสิ้นปีนี้ เป้าหมายของเขาคือการได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลื่อนตำแหน่ง!
ดงซูบินไม่จำเป็นต้องดำรงตำแหน่งสำคัญเช่นรองผู้อำนวยการสำนักหรือหัวหน้าแผนกการเงิน ฯลฯ สิ่งที่สำคัญสำหรับเขาคือการเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่แผนก
ผล!
ผล!
ผล!
ด้วยเป้าหมายดงซูบินกลายเป็นผลักดันสำหรับตัวเขาเองและทำให้เขาต้องการกลับไปทำงานโดยเร็วที่สุด!