ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 1922 ใครคือพี่สาม + ตอนที่ 1923 ความจริงกระจ่าง

บทที่ 1922 ใครคือพี่สาม + ตอนที่ 1923 ความจริงกระจ่าง

ตอนที่ 1922 ใครคือพี่สาม

เหยียนหมิงซุ่นใจกระตุก พี่สามหรือ?

“พี่สาวของคุณตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

พ่อมดยอดฝีมือถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่งก่อนทำหน้าเศร้าปนโกรธ “ตายแล้ว หลังพี่สามจากไปไม่กี่ปีพี่สาวผมก็ตายจากไปเพราะตรอมใจ”

เหยียนหมิงซุ่นไม่คิดว่าจะมีจุดจบเช่นนี้ เดิมทีเขาคิดจะตามหาพี่สาวของพ่อมดยอดฝีมือเพื่อให้เธอช่วยถอนพิษให้ แต่ตอนนี้หมดหวังแล้ว

“ความจริงต่อให้พี่สาวผมยังมีชีวิตอยู่เธอก็ถอนพิษบนตัวคุณไม่ได้หรอก ทันทีที่ถูกพิษกู่หักสวาทก็ไร้หนทางที่จะถอนได้ นี่แหละคือจุดร้ายกาจที่สุดของพิษกู่หักสวาท” พ่อมดใหญ่พูดเสียงเนิบนาบ

พี่สาวของเขาเป็นคนใจกล้าไม่ยอมใครและไม่อาจทนเห็นใครขัดใจได้ ถึงได้ทำพิษกู่หักสวาทใส่ชายที่ชื่อพี่สามคนนั้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

เดิมทีเธอคิดจะใช้วิธีนี้ผูกมัดชายผู้นี้ไว้ เพราะหากพี่สามใช้ชีวิตกับพี่สาวของเขา พิษกู่จะไม่เกิดฤทธิ์ร้ายแรงต่อร่างกายเขามาก แต่ถ้าจากไปเมื่อไรพิษกู่ชนิดนี้จะทรมานเขาทุกปีให้เจ็บปวดเจียนตาย

เหยียนหมิงซุ่นใจหล่นวูบพลางถามอีกครั้ง “ไม่มียาถอนพิษจริงเหรอ?”

พ่อมดยอดฝีมือพยักหน้า “ใช่ ไม่มียาถอนพิษ”

เขาลังเลไปชั่วขณะก่อนเอ่ยอีกครั้ง “แต่พิษของคุณต่างไปจากเดิมเพราะมันไม่ใช่พิษดั้งเดิมอย่างที่พี่สาวของผมเลี้ยงมา และเพราะพิษบนตัวผู้ชายคนนั้นผ่านมาหลายสิบปีแล้วจึงทำให้ฤทธิ์อ่อนลงไปส่วนหนึ่ง ฉะนั้นก็ใช่ว่าจะหาทางถอนพิษบนตัวคุณไม่ได้ซะทีเดียวหรอก”

“มีวิธีไหนเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถามด้วยความร้อนใจ

เขาไม่สนใจยาพิษบนตัวเขานักแต่เขาอยากหาทางถอนพิษให้เหมยเหมยเพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บปวดจากความคิดถึงอีก

พ่อมดยอดฝีมือเงียบไปพักใหญ่ถึงเอ่ยขึ้น “ถ้าคุณตามหาผู้ชายที่ชื่อพี่สามนั่นได้ ผมก็ช่วยถอนพิษให้คุณได้”

“งั้นคุณช่วยบอกลักษณะพิเศษของพี่สามนั่นมาหน่อยสิ ผมจะตามหาเขาอย่างสุดความสามารถเลย” เหยียนหมิงซุ่นกล่าว

พ่อมดยอดฝีมือส่ายหน้า “สามสิบปีก่อนผมยังเด็กเลยจำได้แค่ลาง ๆว่าพี่สามเป็นคนผิวขาวมากและผอมมาก เป็นคนเรียบร้อยสุขุม เป็นชาวฮั่นที่ปัจจุบันน่าจะอายุเกินห้าสิบปี ติดสำเนียงทางใต้”

เหยียนหมิงซุ่นมุ่นคิ้ว หากมีแค่ลักษณะพิเศษที่เลือนรางไม่กี่ข้อนี้ การคิดจะตามหาพี่สามท่ามกลางคนมากมายทั้งประเทศมันกว้างยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก

“พี่สามคนนี้มีลักษณะเฉพาะตัวอื่น ๆอีกไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถาม

พ่อมดยอดฝีมือครุ่นคิดก่อนตอบว่า “ลักษณะพิเศษอย่างอื่นผมนึกไม่ออก แต่มีอย่างหนึ่งที่ผมมั่นใจได้ว่าคุณกับพี่สามคนนี้จะต้องเคยรู้จักกันมาก่อน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถทำกู่ใส่คุณได้หรอก”

เขาพูดต่อ “การทำกู่ใส่มีวิธีมากมายหลายอย่างแต่วิธีที่ได้ผลมากที่สุดก็คืออาหาร ผมเดาว่าคุณน่าจะเคยทานอาหารที่พี่สามคนนี้ทำให้คุณ ฉะนั้นผมขอแนะนำให้คุณเริ่มตามหาจากคนที่คุณรู้จักก่อนแล้วกัน”

เหยียนหมิงซุ่นใจดิ่งวูบ เมื่อครู่นี้เองที่เขานึกถึงใครบางคนขึ้นมากะทันหัน

เพราะบรรดาเพื่อนของเขามีคนชื่อพี่สามอยู่คนหนึ่งพอดี!

อีกอย่างเขาหวนนึกถึงคำพูดที่เฉินหมิงเคยพูดไว้ก่อนตาย

ระวัง…เสี่ยวเป่า…

หากเขาเดาไม่ผิดเฉินหมิงน่าจะรู้เรื่องที่เขาโดนพิษกู่และรู้สึกผิด เพราะงั้นก่อนตายถึงได้คิดจะเตือนเขาแต่กลับไม่ทันเสียแล้ว

เหยียนหมิงซุ่นเรียกลูกน้องแล้วออกคำสั่งให้ไปตามหารูปถ่ายในช่วงระยะนี้ของเฉินซานมา จะว่าไปก็แปลกที่ตามหารูปถ่ายของเฉินซานสมัยหนุ่ม ๆไม่เจอสักรูป รูปถ่ายของเขาล้วนเป็นรูปที่เพิ่งถ่ายไม่กี่ปีนี้ทั้งสิ้น ดูลึกลับเสียเหลือเกิน

พ่อมดยอดฝีมือหรี่ตามองรูปถ่ายของเฉินซานพลางทำหน้าลังเลไม่กล้าฟันธงนัก “มีรูปตอนหนุ่มไหม?”

เหยียนหมิงซุ่นให้ลูกน้องตามหารูปถ่ายของเฉินซานมามากกว่านี้แล้วให้พ่อมดยอดฝีมือดู “มีแค่รูปที่ถ่ายในช่วงระยะนี้เท่านั้น รบกวนช่วยดูเยอะ ๆทีแล้วกัน”

พ่อมดยอดฝีมือพยักหน้ารับก่อนจะไล่ดูรูปทีละใบ ๆอย่างตั้งอกตั้งใจ เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่าจนบรรยากาศเริ่มอึดอัดขึ้นมา ทันใดนั้นเองพ่อมดยอดฝีมือก็หยุดชะงักอยู่กับรูปถ่ายใบหนึ่งแล้วจับจ้องอยู่นาน

………………………

ตอนที่ 1923 ความจริงกระจ่าง

พ่อมดยอดฝีมือดึงรูปถ่ายในมือออกมาแล้วหยิบอีกรูปมาวางเรียงบนโต๊ะทั้งสองใบ เหยียนหมิงซุ่นเลื่อนหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆพบว่าสองรูปนั้นไม่ได้ถ่ายในเวลาเดียวกัน รูปหนึ่งเป็นรูปถ่ายเฉินซานที่เพิ่งถ่ายช่วงไม่นานมานี้ ส่วนอีกรูปเป็นรูปถ่ายเฉินซานราวหกเจ็ดปีก่อน

จะว่าไปแล้วหลายปีที่ผ่านมาได้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับตัวเฉินซานอย่างชัดเจน สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือรูปร่างอ้วนขึ้น เหยียนหมิงซุ่นจำได้ว่าตอนที่เขาเพิ่งรู้จักเฉินซานเขาตัวผอมแห้งราวไม้เสียบผี ไม่มีเนื้อหนังมังสาอะไรเลยซึ่งคาดว่าลมพัดทีคงล้มได้

หลายปีที่ผ่านมาเขาอ้วนขึ้นอย่างชัดเจน แม้จะเห็นว่ายังผอมอยู่บ้างแต่อย่างน้อยใบหน้าก็ดูอวบอิ่มกว่าเดิม ดูอ่อนเยาว์ลงและไม่ได้ดูผอมแห้งเหมือนในอดีต เหยียนหมิงซุ่นหลงคิดว่าเขาปล่อยตัวให้อ้วนขึ้นเพราะการงานที่ราบรื่น อีกอย่างเมื่อถึงวัยของมันผู้ชายจะอ้วนขึ้นเป็นเรื่องปกติ เขาจึงไม่ได้เก็บมาคิดมากแต่อย่างใด

แต่จากตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาอย่างที่เขาคิดเสียแล้ว!

“มีปัญหาอะไรเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสียงนิ่ง

พ่อมดใหญ่ชี้ไปที่รูปถ่ายช่วงนี้ของเฉินซานด้วยสีหน้าลังเลพร้อมกล่าว “รูปนี้ดูคล้ายผู้ชายที่พี่สาวผมชอบมากเลย น่าจะเป็นเขา”

“คุณมั่นใจไหม?” เหยียนหมิงซุ่นใจหล่นวูบ สิ่งที่เขาคาดเดาไว้ได้รับการยืนยันแล้วแต่เขากลับไม่รู้สึกดีใจสักนิด

เฉินหมิงตายไปแล้ว เดิมทีเขาคิดว่าเฉินซานจะเป็นคนที่สงบเสงี่ยมคนหนึ่ง แต่ดูจากตอนนี้สิ่งที่เขาคิดไว้คงสวยงามเกินไป

พ่อมดยอดฝีมือยังดูลังเลอยู่บ้างแต่หลังจากดูรูปถ่ายอีกหลายทีก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ เขาชี้ไปที่รูปสองใบแล้วเอ่ยขึ้น “ฉันจำหน้าตาของพี่สามคนนั้นได้ไม่ชัดเท่าไร แต่สิ่งที่ฉันจำได้ดีคือตรงข้อศอกฝั่งขวาของผู้ชายคนนั้นมีปานดำรูปร่างคล้ายเหรียญกษาปณ์และมีขนขึ้นรอบ ๆซึ่งเตะตามาก ตอนเด็กฉันยังรู้สึกแปลกใจว่าทำไมคนคนนี้ถึงได้มีขนขึ้นเหมือนลิง”

เหยียนหมิงซุ่นหยิบรูปถ่ายทั้งสองใบขึ้นมาดูก็พบว่าเฉินซานในรูปทั้งสองใบนั้นสวมเสื้อยืดแขนสั้นที่นาน ๆจะได้เห็นสักที เพราะปกติเฉินซานมักสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวไม่ว่าจะฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาวล้วนใส่แต่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวหรือสีเขียวเสมอ น้อยครั้งจะสวมเสื้อยืดแขนสั้นให้เห็น

รูปถ่ายสองใบนี้เป็นรูปที่ถ่ายตอนเฉินซานสวมเสื้อยืดแขนสั้นที่ใส่เพียงสองครั้งเท่านั้น เฉินซานในรูปกำลังกอดอก รูปหนึ่งนั่งอยู่อีกรูปหนึ่งยืนอมยิ้มน้อย ๆ แต่รูปที่เพิ่งถ่ายช่วงนี้ดูจะยิ้มได้มีความมั่นใจกว่ารูปเก่า

เหยียนหมิงซุ่นมองไปยังข้อศอกขวาของเฉินซานก็เห็นปานสีดำอย่างที่อีกฝ่ายว่าจริง ๆ ฝีมือช่างภาพไม่เลวเลยเพราะถ่ายเห็นปานสีดำได้ชัดเต็มสองตา แม้แต่ขนที่ขึ้นบนปานยังเห็นชัดเจน

“คุณดูขนพวกนี้สิ ยาวมากใช่ไหมล่ะ ตอนนั้นฉันเคยถามพี่สาวฉันด้วยว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงไม่ตัดขนทิ้ง พี่สาวฉันบอกว่าเธอก็เคยถามแต่ผู้ชายคนนี้บอกว่าตัดไม่ได้ เพราะมันจะตัดโชคของเขาไปด้วย”

พ่อมดยอดฝีมือถอนหายใจพลางทำหน้าเศร้าสลด พี่สาวที่น่าสงสารของเขาทิ้งคุณลุงคุณป้าของเขาไว้แล้วจากไปเพื่อคนทรยศแบบนี้ หากคนที่พี่สาวหลงรักเป็นลูกหลานในเผ่าตอนนี้คงมีความสุขมากไปแล้ว!

เหยียนหมิงซุ่นพอจะมั่นใจได้แล้วว่าเฉินซานก็คือผู้ชายที่พี่สาวของพ่อมดยอดฝีมือคนนี้หลงรัก บ้านเกิดของเฉินซานอยู่ไม่ห่างจากบ้านเกิดของคุณยายของเขา ฉะนั้นจึงมีประเพณีวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน ความเชื่อที่ว่าห้ามตัดขนที่ขึ้นตรงปานในอดีตคุณยายของเขาก็มักพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ฉะนั้นไม่แปลกใจเลยสักนิดหากเฉินซานจะว่าอย่างนั้น

เขาให้ลูกน้องพาพ่อมดยอดฝีมือไปพักผ่อนแล้วขังตัวเองไว้ในห้อง เขาอยากอยู่เงียบ ๆสักพัก

ตอนนี้เขาพอจะมั่นใจได้แล้วว่าคนที่ทำกู่ใส่เขาก็คือเฉินซาน แต่เขาก็สงสัยอีกว่าการตายของเฉินหมิงอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเฉินซานเช่นกัน

ประโยคที่เฉินหมิงทิ้งไว้ก่อนตาย ตอนนี้เขาพอจะเดาได้แล้วว่าหมายถึงอะไร

เฉินหมิงคิดจะบอกเขาว่าเขาโดนพิษกู่หักสวาททำให้ไม่สามารถมีลูกในอนาคตได้ เฉินหมิงจึงพูดไว้ก่อนตายว่าให้ระวังเสี่ยวเป่า เพียงแต่เขาโดนพิษร้ายแรงเกินไปจึงไม่ทันพูดจบดีก็เสียชีวิตไปเสียก่อน

…………………….

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท